อีกหนึ่งค่ำคืนแห่งความผูกพัน
หลังจากวันจบการศึกษา
ถึงแม้เราจะไปกินข้าวกันกับเพื่อนในห้องแล้ว ไปคาราโอเกะกันแล้ว ไปรำลึกความหลังกันที่สวนสาธารณะที่เราเคยไปซ้อมละครกันก็แล้ว แถมวันรุ่งขึ้นก็ไปเที่ยวเล่นกันจนเย็นย่ำแล้ว แต่ในเย็นของสองวันถัดมา ก็มีโทรศัพท์มาถึงเราอีก
"ตืด ตาดึ๊ด ติ๊ดตือ..." "โมชิโมชิ (ฮัลโหลนั่นแหละ)" "นี่นากาซากินะ หญิงว่างวันไหน" "ว่างวันนี้แหละ" "เฮ้ย วันนี้ชั้นไม่ว่างเว้ย" "งั้นพรุ่งนี้อ่ะ" "พรุ่งนี้เราก็ว่าง เดี๋ยวไปนอนที่บ้านนะ" "เออ"
เที่ยงวันรุ่งขึ้น "อ๊อออดดดด" "ชินตะ นากาซากิ รายงานตัวคับผ้มมม ... มาแล้วจ้า" "พวกแกซื้อไรกันมามากมายอ่ะเนี่ย กินกันสามคนเนี่ยนะ" "เดี๋ยววันนี้ชินตะจะแสดงฝีมือให้ดู รับรองอร่อยแน่ๆ " "เฮ้ย แล้วเหล้าอีก ซื้อมากินถึงปีหน้าเลยรึไงเนี่ย" "ก็วันนี้มีกุ้งกะหอยอบเนยใช่ม่ะ ก็ต้องใช้เหล้าญี่ปุ่นไง แล้วก็ต้องกินกะไวน์ขาวถึงจะอร่อย" "ส่วนเมนูของหวานวันนี้ก็เป็นกล้วยราดชอกโกแลตอุ่น บรั่นดีก็ขาดไม่ได้อยู่แล้วใช่ม่ะ" "แล้วคอกเทล วอดก้า ไฮเนเก้น กะอะซะฮิพรีเมี่ยมนี่เอามาใส่อาหารประเภทไหนวะแก.."
หลังจากฟาดราเมงเป็นอาหารกลางวันกันจนอิ่มอื้อ เพื่อนผู้น่ารักทั้งสองก็เริ่มเปิดกระป๋องคอกเทลกระดกกันอึ้กๆ ตามด้วยไวน์กลิ่นซากุระที่เป็นของสำหรับฤดูใบไม้ผลิแบบนี้เท่านั้น ว่างๆ มือเราก็คุ้ยๆ ไปในถุงพลาสติก เจอหน่อไม้กับเครื่องปรุงอีกหลายอย่างถึงเริ่มเอะใจ
"เออ เราลืมบอกไรไปอ่ะ ถ้าบอกตอนนี้จะด่าเราม่ะแก แต่ก่อนจะบอกถามไรก่อนล่ะกัน ไอ้หน่อไม้เนี่ยเอามาทำทะเคะโนะโกะโกะฮัง (ข้าวอบหน่อไม้) ใช่ม่ะ" "ก็แหงสิ หุงข้าวธรรมดามันจะไปหนุกไร แล้วจะบอกไรเหรอ" "เอ่ออ ข้าวสารหมดว่ะ" "เวรรร แล้วทำไมไม่บอกวะ" "อยู่ได้ไงเนี่ย ข้าวสารหมด" "ก็ขี้เกียจไปซื้ออ่ะ อีกเดือนก็จะย้ายแล้ว"
"เอาไงดีหว่า ชินตะไปซื้อดิ๊" "ไม่เอา เมาแล้วววว" "เมาบ้าไรแก ไอ้ขี้เกียจ" "เออ โทรชวนยูจะไม๊ แล้วให้เอาข้าวสารมาด้วย" "กู้ดไอเดียมากๆ เพื่อนเอ๊ย"
"โมชิโมชิ ยูจะเหรอ ตอนนี้พวกเรากำลังดื่มกันอยู่บ้านหญิงอ่ะ มาด้วยกันเปล่า" "ไรอ่าาา ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้อ่ะ" "เออ งั้นรีบมาๆ เอาข้าวสารมาด้วยสามกระป๋องนะ" "ได้ค้าบบบ"
"เฮ้ย ไหนๆ แล้ว ชวนท่านโอซะกะมาด้วยม่ะ" "เอาดิๆ โทรเลยๆ "
"โหล โอซะกะ ทำไรอยู่" "นอนอยู่ มีไรเหรอ" "ตอนนี้อยู่ดื่มบ้านหญิงอ่ะ เดี๋ยวยูจะก็จะมาด้วย มาด้วยกันม่ะ" "ห่ะ... ดื่มกันตั้งแต่กลางวันเนี่ยนะ" "เออ มาเปล่าๆ เดี๋ยวชินตะทำกับข้าวเย็นด้วย" "เออๆ ไปก็ไป"
"เยสสสสสส" "ทำไมใจง่ายจังวะไอ้สองคนนี้" "ลองโทรหาคิโนะบิด้วยม่ะ" "คิโนะชิตะจะมาเร้อ บ้านไกลน่ะ"
"โหลลล คิโนะชิตะ มาเที่ยวบ้านหญิงไม๊" "ไปคับ!!"
ด้วยประการฉะนี้ หกชีวิตก็มารวมตัวกันในอพาร์ตเมนท์ห้องแคบๆ ของเรา เรา เจ้าของบ้านสถานที่จัดปาร์ตี้แบบกะทันหัน นากาซากิ คู่หูจอมเผด็จการประจำห้องเรา งานละคร แข่งคอรัส มันเหมาหมด ชินตะ เด็กชายนิสัยแอบแบ๊ว หัวหน้าคลับแจ๊สแต่ชอบเล่นตุ๊กตาม้าก ยูจะ เด็กตัวเล็ก แก้มยุ้ย ใจดี เป็นที่รักของเพื่อนๆ ทุกคน โอซะกะ เด็กคลับบาสจอมเก๊กจอมกวนอันดับหนึ่ง คิโนะชิตะ พระเอกละครห้องเรา หน้าตาน่ารักและบ้าไม่เป็นรองใคร
แล้วทั้งหกก็นั่งอืดท่ามกลางกองโปเตโต้ฟราย ชอกโกแลต ไก่ย่าง แฮมสด แล้วก็แอบเปิ้ลเขียว ส่วนเหล้านั่นนอกจากเจ้าตัวตั้งตัวตีสองคนแล้ว ก็ไม่มีใครกินกันเท่าไหร่ ยูจะเจอวอดก้าเข้าไปสองอึกก็จอดสนิท คิโนะบิก็มัวแต่เม้าธ์จนลืมเหล้าไปเลย เจ้าของบ้านอย่างเรากินเยอะไม่ได้เพราะต้องดูแลเพื่อน (จริงๆ กลัวจะคันเพราะแพ้แอลกอฮอล์) ส่วนจอมกวนโอซะกะไม่เคยกินเหล้ามาก่อนก็บ่นว่ารสชาติห่วยแตกเลยไม่ยอมแตะอีก
ดูวิดีโอ ดูรูปถ่าย ดู yearbook ของชีวิตมอปลาย เล่าเรื่องเก่าซ้ำไปซ้ำมา ทั้งๆ ที่ทุกคนก็รู้ดีกันอยู่แล้ว หัวเราะจนเหนื่อยกับมุขควายๆ และภาพตลกๆ ในวันเก่าๆ
พอพวกเรามารวมตัวกันแบบนี้ ... มาหัวเราะด้วยกันแบบนี้ ก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเรากำลังจะจบจากชีวิตมอปลาย จากโรงเรียนของเราแล้ว...
ตกดึก พวกเราก็เดินออกจากบ้าน มุ่งหน้าไปยังแนวต้นไม้รกครึ้มที่ทอดยาวริมถนน ลัดเลาะไปตามทางเดินของสวนสาธารณะเล็กๆ หลบไฟตามระเบียงของอาคาร ค่อยๆ หย่อนตัวจากกำแพง ทีละคน ทีละคน แล้วเราก็ออกวิ่ง...
วิ่งไปสู่สนามกว้างในพื้นที่ของโรงเรียนของพวกเรา ยามดึกแบบนี้ ทุกอย่างเงียบสงัด มีเพียงแสงไฟจากตู้กดน้ำสลัวราง
แต่แม้ว่าจะมืดขนาดนั้น เราก็ยังเห็นรอยยิ้มสดใสบนใบหน้ากันและกัน แล้วเราต่างก็ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาแล้วออกวิ่งพร้อมกันอีกครั้งจนหัวใจเต้นแรง...
กลับมาบ้าน
หอบผ้าห่มกันคนละผืน แล้วก็มาล้อมวงกันใต้โคมไฟสีส้ม มือเล็กๆ ของยูจะสับไพ่อย่างว่องไว เราเริ่มเล่นไพ่กันแบบขำๆ สำหรับที่นี่ ไพ่ไม่ได้เป็นสิ่งผิดกฎหมาย ตราบใดที่ไม่ได้พนัน กลับกัน ... ไพ่เป็นเพียงเกมที่ช่วยให้เราคุยกันสนุกได้มากขึ้น
เพราะขณะที่กำลังจ่ายไพ่จั่วไพ่กันนั้น เราก็มักจะลืมตัว หลุดปากเล่าเรื่องอะไรที่อยู่ในใจออกมาง่ายๆ ทีเดียว
ค่ำคืนนั้นจึงกลายเป็นมหกรรมการเปิดเผยความลับของกันและกัน แกล้มกับเรื่องราวสนุกสนานที่นึกได้ ก็ขุดขึ้นมาเล่ากัน ขำกันไปอีก
ถึงเราจะไม่ได้พูดถึงความฝัน พูดถึงความผูกพันกันอย่างซาบซึ้งเหมือนในละคร แม้บรรยากาศหลังจากการจบการศึกษาแล้ว ก็ยังเป็นความสนุกสนานเหมือนเคย
แต่เราก็รู้อยู่ข้างในลึกๆ ว่า... ถ้าช่วงเวลาแบบนี้จบลง เราจะคิดถึงกันมากแค่ไหน
และเราก็สัญญากันในใจว่า เราจะกลับมาเจอกันแบบนี้อีก..แน่ๆ
Create Date : 09 มีนาคม 2551 | | |
Last Update : 9 มีนาคม 2551 21:23:47 น. |
Counter : 291 Pageviews. |
| |
|
|
|