NHA TRANG (เวียดนามใต้) Vinpearl เกาะมหาสนุก
เมืองนี้เอ๋มีข้อมูลน้อยค่ะ เพื่อนบอกอยากมา แต่เค้าก็ไม่บอกนะ มีที่เที่ยวอะไรบ้าง เราก้อลุยกันเลยล่ะกันค่ะ ยา ตรัง เมืองแห่งชายทะเล• ยาตรัง ตั้งอยู่บริเวณชายทะเลทางด้าน ตะวันออกของที่ราบสูงภาคกลางโดยได้รับการตั้งขึ้นจากพระบรมราชโองการของ กษัตริย์ราชวงศ์เหวียน เมื่อปี พ.ศ. 2467 ปัจจุบันเป็นเมืองหลวงของจังหวัดแคงห์ฮวา (Khanh Hoa) ซึ่งชื่อเมืองนี้สันนิษฐานกันว่าน่ามาจากภาษาจาม Yakram แปลว่า แม่น้ำไม้ไผ่• ในปัจจุบันเมืองยาตรัง มีความเจริญเกิดขึ้นมากมาย ทั้งโรงแรมใหญ่ๆ รีสอร์ท ภัตตาคาร ร้านอาหาร ผับ เธค และทุกกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวเยอะทั้งกลางวันและกลางคืน บรรยากาศโดยทั่วไปริมชายหาดแห่งนี้ค่อนข้างสงบและอิสระกว่าที่อื่นๆ ในเวียดนาม และนอกเหนือจากการมาพักผ่อนแล้ว ที่นี่ยังมีท้องทะเลและเกาะอีกหลายแห่งให้ดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นกัน นักท่องเที่ยวสามารถซื้อแพ็กเก็จแบบวันเดย์ทัวร์ได้ปะค่ะ ตามเราไปเที่ยวกันดีกว่าค่ะ เช้าแล้ว มาถึง ยาตรัง (อ่านตามเว็บมา เรียกเป็นไทยกันหลายคำค่ะ ยาตรัง นาเตรือง นาจาง ญาจาง ทั้งหมดนี้ คือที่เดียวกันค่ะเราคนไทย เสียงอาจจะเพี้ยนไป แ้ล้วแต่บุคคลเนอะ)ออกจากหน้าบริษัท Sinh ประมาณ 20.45 น. มาถึงเมือง ยาตรัง ประมาณ ตีห้ากว่าๆ กว่าจะถึงท่ารถ ก็ประมาณ หกโมงกว่าๆ ได้ค่ะ บรรยากาศเช้าๆค่ะ เรียกมอเตอร์ไซด์ ไปส่งที่โรงแรมที่จองไว้จาก โฮจิมินห์ค่ะ ค่าที่พัำก 16 ดอล ค่ะ กว่าจะสื่อสารให้ถูกว่า ที่ไหน เล่นเอามึนค่ะ เอ๋อ่านออกเสียงว่า กั๊ดเติ่ง แต่ว่า ต้องออกเสียงขึ้นจมูก ลองทำเสียงแบบชาวเวียดนามบอกแล้วค่ะ ทำไม่ได้ ที่นี้ค่อนข้างบริการดีค่ะ เป็นกันเองมากๆ อาหารเช้าของเราค่ะ ขนมปังฝรั่งเศล กินยังไงก้อกินไม่หมดสักทีค่ะ มันแข็งเอามากๆ ราคา 10000 ด่อง ค่ะ แล้วก็ตัดสินใจไปเกาะมหาสนุกค่ะ ค่าบัตร 320,000 ด่องค่ะ ประมาณ 600 บาทเพื่อนบอกคุ้มมากเลย แต่ว่า สำหรับเอ๋ คนไม่ค่อยชอบพวกเครื่องเล่น คิดว่าแพงอ่ะ ไม่คุ้มตังเราเลยนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลไปค่ะ สูงลิบสารพัดเครื่องเล่นค่ะ โลกใต้น้ำ ชอบที่นี้ที่สุดเลย เพราะในนี้แอร์เย็นช่ำชอบที่อาบน้ำที่นี้จังเลย เป็นรูปต่างๆ ชอบตัวนี้ รูปตัวตลก น่ารักซะไม่มีชายหาดเล่นน้ำได้ค่ะ โอยคิดถึงกระบี่บ้านเราจังเลย สิ่งหนึ่งที่ประทับใจ นั้นคือ ลำโพงรูปหินค่ะ ตอนแรก เดินไปรอบๆเกาะ แล้วได้ยินเสียงเพลง คือรู้แหละ ว่าเค้าติดลำโพงไว้ แต่ไม่คิดว่า จะใส่ใจขนาดทำให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมได้ขนาดนี้ หิวแหละ ทานน้ำกันดีกว่าค่ะ เป็นเหมือนชาเขียวไข่มุกบ้านเรานะค่ะ บรรยากาศรอบๆค่ะ ค่ำแล้ว ไปเดินเล่นค่ะ หาอะไรทานกัน
โฮจิมินห์ ซิตี้ (เวียดนามใต้)
ช่วงสงกรานต์ ไปเที่ยวที่เวียดนามใต้มาค่ะ ไปกับเพื่อนหญิง อีกหนึ่งคนไป ห้าวัน สี่คืนค่ะ อย่าคิดว่าเอ๋เก่งนะค่ะ ภาษานะ ให้เพื่อนคุยค่ะ ตามมันอย่างเดียวปกติเป็นคนไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว ภาษาอื่นเนี้ย ยิ่งคิดไม่ออกหรอกค่ะ เช้าวันที่ 9 ตื่นตั้งแต่ตีห้าค่ะ ขนาดตื่นตีห้า ยังเกือบตกเครื่องค่ะ คือ ที่สนามบิน คิวตรวจหนังสือเดินทาง ยาวมากกก ขึ้นเครื่อง เวลา 7.10 ถึง สนามบินที่ โฮจิมินห์ เก้าโมงกว่าๆ ค่ะ มาดูรูปแรกกันค่ะ น่านฟ้าไซง่อน เค้าก้อห้ามเปิดอุปกรณ์อิเล็กโทนิคทุกชนิดอ่ะนะ แต่แบบว่า อยากถ่าย ถึงแม้กล้องเราจะหน้อมแน้บไปหน่อย ตรวจหนังสือเดินทางเสร็จก้อ ออกมาข้างหน้าสนามบินค่ะ ซ้ายขวา มีแท๊กซี่รอแล้วอีกเลนมีรถเมล์รออยู่ค่ะ แต่เต็มแล้ว ลืมถ่ายภาพมาค่ะ >_< เจอคนไทย (ได้เพื่อนใหม่ค่ะ ) พี่เปี๊ยกและน้องๆ เค้ามาเวียดนามเหมือนกัน ชวนไปถนนฟามงูหลาวค่ะ อ่ะ ไปค่ะ จะได้แชร์กัน จำค่าแท๊กซี่เป็นเงินด่องไม่ได้ค่ะไปกันหกคน หารแล้ว ตกคนละ 40 บาทค่ะ แป๊ปเดียวก้อถึงแล้วค่ะ เห็นรูปปั้นนี้ เราก็ใกล้ลงแล้วค่ะ ลงที่ถนนย่อยที่ชื่อ เดทาม ในฟามงูหลาว เรามาติดต่อเรื่องรถด้วยค่ะ คืนนี้เราจะไป NhaTrang กันค่ะ หิวแล้วค่ะ ไปเดินๆ หาอะไรทานก่อนค่ะ เดินไปแถวตลาดเบนถั่น นั้นนะแหละค่ะ ไม่รู้จะกินอะไร เฝอ แล้วกันค่ะ (กินมันทุกวันค่ะ ก๊วยเตี๋ยวเนี้ย) อาหาร+เป๊ปซี่กระป๋อง ตกคนละ 33,000 ด่องค่ะกินเสร็จ ก้อเดินเล่นหน้าตลาดค่ะ ร้านนี้ใจดีมากให้เราถ่ายภาพด้วย ต่อแล้วลดให้อีก แถมพูดไทยได้บางคำค่ะ เพื่อนซื้อกล่องรูปดอกไม้ นั้นนะค่ะ ภาพนี้ยังร้านเดิม แต่ภาพสุดท้าย ถ่ายในตลาดแล้วค่ะ ปะ เดินชมในตลาดกันค่ะ งานสี่เหลี่ยมสีแดงนั้น แพงมากค่ะถามแล้วตก 600 บาท ไม่ซื้อค่ะ ถามเฉยๆ ไม่สามารถ เดินชมตลาดต่อค่ะ • ตลาดบินถั่น (Ben Thanh Market)ตั้ง อยู่บนถนนเลเลย (Le Loi) ใกล้ๆ กับจัตุรัสโฮจิมินห์ ได้รับการก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2457 บนพื้นที่ประมาณ 1 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีหอนาฬิกาอยู่ด้านหน้าเป็นสัญลักษณ์ ตลาดแห่งนี้ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งจากคนพื้นเมืองและนักท่องเที่ยวต่าง ชาติ เพราะมีสินค้าจำหน่ายมากมายทั้งเสื้อผ้า กระเป๋าเดินทาง เป้ นาฬิกา ของที่ระลึก อาหาร เครื่องเทศ ไปจนถึงอาหารสด และดอกไม้ ราคาไม่แพง อ่ะ ได้เวลาทัวร์แล้วค่ะ เดินๆ ตามแผนที่ เอ่อ เดินจริงๆนะค่ะ ไม่อยากเหมา กลัวแพง ไม่อยากเช่ารถมอเตอร์ไซด์ด้วยค่ะ กลัวขับไม่ได้เดินๆ มา เราก็มาเจอ ศาลาว่าการเมืองค่ะ อ่ะ มองด้านขวา มีสวนหย่อมเล็กๆ อ้าว เราเจอลุงโฮแล้วค่ะ ปะๆ ถ่ายรูปกัน• จัตุรัสโฮจิมินห์ (Tran Nguyen Hai Statue)ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมือง โฮจิมินห์ จุดเริ่มต้นของการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองโฮจิมินห์ แนะนำให้มาเริ่มตรงใจกลางแห่งนี้ เพราะสามารถไปยังจุดอื่นๆ ได้ง่าย โดยจุดนี้จะมีรูปปั้นของอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ กับเด็กๆ ด้านหลังเป็นศาลาว่าการเมือง ซึ่งดูแปลกตาในสไตล์ฝรั่งเศส ถ้ามองจากตรงนี้สามารถมองให้เห็นถึงความจอแจของเมืองใหญ่ เพราะที่นี่นอกจากจะเป็นศูนย์กลางของเมืองแล้ว ยังเป็นศูนย์กลางของการค้าอีกด้วย คล้ายกับสีลมของเมืองไทย แต่รถไม่ติดเพราะที่เมืองนี้มีรถยนต์น้อย มีรถมอเตอร์ไซด์มากกว่า เวลาข้ามถนนต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ภาพลุงโฮ ชัดๆค่ะ เดินๆมา แวะห้างค่ะ จำชื่อห้างไม่ได้ค่ะ แล้วก็ไม่ได้ถ่ายภาพหน้าห้างด้วยเดินๆ เราก็มาเจอ Opera House ค่ะ ขวามือเป็น LOUIS VUITTON ค่ะ เดินถัดไปอีกนิด จะเจอที่แลกเงิน ได้อัตราแลกเปลี่ยนที่คุ้มมากค่ะ เพื่อนของเอ๋แลกมาจากสนามบิน 1 บาท : 540 ด่อง แต่ที่นี้ให้1 บาทต่อ 580 ด่องค่ะ ใครจะแลกเงิน อย่าลืมมาที่นี้นะค่ะ • โรงละคร (Opera House)ตั้งอยู่บนถนนเลเลย สร้างในปี พ.ศ. 2402 เพื่อใช้แสดงอุปรากร แต่ได้ถูกใช้ให้เป็นสำนักงานใหญ่ของสภาแห่งชาติเวียตนามใต้ แต่ทุกวันนี้ก็ใช้งานเหมือนเดิม ทุกๆ สัปดาห์จะมีการแสดงแตกต่างกันออกไป ช่วงเวลากลางคืนชาวเวียตนามยังมีความเคลื่อนไหวอย่างร่าเริงด้วย โดยเฉพาะบริเวณลานน้ำพุ ที่จะมีชาวเวียตนามและชาวต่างชาติมานั่งพักผ่อนกันทุกคืน และสุดลานน้ำพุมองออกไปจะเป็นที่ตั้งของโรงละคร ที่ชาวเวียตนามออกเสียงว่าโรงละครยาฮดแถงห์โฝ (Nha hat Thanh Pho) ซึ่งหันหน้าออกถนนดงเค่ย ระหว่างโรงแรมคาราเวลล์และโรงแรมคอนติเนนตัล หันหน้าเข้า Opera House ซ้ายมือเป็น โรงแรมอย่างสวยค่ะ อ่ะ มองไป นั้นไง ห้าง ParkSon เราจะไปทานอาหารบุฟเฟต์ที่นี้ หมายมั่นปั้นมือแล้ว แต่ก็แห้วค่ะ เพราะกะไว้กินวันสุดท้าย แต่ปรากฎว่าไม่ได้อยู่จนถึงเวลาที่ร้านเปิดค่ะ ปะ เดินกันต่อค่ะ แล้วเราก้อเจอ ไปรษณีย์กลาง กับโบสถ์ค่ะ • โบสถ์นอร์ทเธอดาม (Notre Dame Cathedral)ตั้งอยู่บริเวณกลางเมือง บนถนน Han Thuyen ได้รับการก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2420 ใช้ระยะเวลาการสร้าง 6 ปี โบสถ์นี้ไม่มีการประดับด้วยกระจกสีเหมือนโบสถ์คริสต์ที่อื่น เพราะได้รับความเสียหายจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สำหรับโบสถ์แห่งนี้ได้รับการยกย่องว่ามีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งใน เวียตนาม โดยในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากมาย ลักษณะของตัวโบสถ์เป็นรูปแบบของสมัยอาณานิคม มีหอคอยคู่สี่เหลี่ยมอยู่ด้านบนสูง 40 เมตร เป็นเอกลักษณ์ที่งดงามของโบสถ์แห่งนี้ ด้านหน้าโบสถ์มีรูปปั้นขนาดใหญ่สีขาวเด่นเป็นสง่าของพระแม่มารี นักท่องเที่ยวนิยมเข้ามาชมกันมาก เพราะเป็นเสมือนสัญลักษณ์ร่วม อันหมายถึงการเข้ามาของตะวันตก และเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของโฮจิมินห์• ไปรษณีย์กลางโฮจิมินห์ (Main Post Office)ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองโฮ จิมินห์ ใกล้กับโบสถ์นอร์ทเธอดาม ได้รับการก่อสร้างขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2439 เสร็จในปี พ.ศ. 2444 มีการออกแบบและก่อสร้างในสไตล์ฝรั่งเศสและได้รับการออกแบบตกแต่งอย่างงดงาม ด้วยกระจกสี เป็นไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเวียตนาม มีความโอ่โถงและอ่อนช้อยทว่ามั่นคง จนทำให้นักออกแบบมากมายต้องมาศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการออกแบบตกแต่งอาคาร แห่งนี้ ภายในตัวอาคารมีการระดับภาพแผนที่ทางทะเลโบราณ และภาพของอดีตผู้นำประเทศโฮจิมินห์ มีการบริการทั้งการส่งจดหมาย แสตมป์เพื่อการสะสม โปสการ์ด โทรศัพท์ระหว่างประเทศในอัตราค่าบริการมาตรฐาน เดินไปอีกนิดเดียว เจอห้างค่ะ แวะห้างไดม่อนอีกค่ะ คราวนี้ ทานพิซซ่าค่ะ แพ็คเก็จสุดคุ้ม 39,000 ด่องพอแดดร่ม ลมตก ที่โบสถ์นอร์ทเธอดาม มีคนมาถ่ายภาพแต่งงาน หลายคู่เลยค่ะ อ่ะ และแล้วเราก็ได้เห็นเทคนิค ถ่ายภาพ ผ้าคลุมผมเจ้าสาวแบบพริ้วสวย มีผู้ช่วยตากล้อง คอยจัดผ้าให้ปลิวสวยอยู่ค่ะ พอได้เวลาแชะ ผุ้ช่วย ก็ไปหลบที่หลังเจ้าสาว อิอิ น่ารักดีค่ะ เดินกลับไปที่พักแล้วค่ะ ขากลับเนี้ย เพื่อนเดินเรื่อยเปื่อยมากๆ เราก้อไปถึงสุดที่ ริมแม่น้ำค่ะ มีรูปปั้นจีนอ่ะ ถ่ายภาพ แล้วก้อเดินย้อนมาทาง Opera House อีกค่ะ ค่ำแล้วหว่า หมดวันแล้วค่ะ ยังมีอีกหลายที่ในเมืองนี้ที่เรายังไม่ได้ไปค่ะ แล้วเราก็ขึ้นรถนอน เพื่อไป NHA TRANG กันค่ะ ค่ารถนอนนี้ ตกคนละ 160,000 ด่องค่ะ ตกคนละ เกือบสามร้อยบาทนะค่ะ ปล. ข้อมูลบางอย่าง เก็บมาจากหลายๆเว็บนะค่ะ ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ให้เครดิตค่ะ คือ เก็บใส่ MS WORD ไม่ได้เก็บแหล่งที่มาเลยค่ะ
ทริปภูเก็ต เกาะพีพีค่ะ (12/8/2009)
เช้ามาถ่ายบรรยากาศในโรงแรมสักนิดค่ะ ปกติไม่ค่อยได้ชื่นชมเท่าไรค่ะ โรงแรมมีไว้นอนอย่างเดียวค่ะเวลานอกนั้นเดินทางค่ะ อ่ะ มีสระว่ายน้ำด้วย ค่าห้องวันนี้รวมอาหารเช้าด้วยค่ะ มาดูอาหารกัน 555 เพิ่งจะได้มีรูปอาหารเนี้ย เรามาตั้งแต่ 6.15 เค้ายังไม่เปิดค่ะ เปิด 6.30 วันนี้เราไปเรือใหญ่ค่ะ ใหญ่จริงๆ เห็นข้างเรือระบุว่า บรรจุได้จำนวน 319 คน เดินกันให้ว่อนเลยค่ะ มึนกันไปเลย นั่งเรือไปพอประมาณ น่าจะ ชั่วโมงนึงได้ค่ะ นั่งหลับอยู่ ไม่รู้เวลาค่ะ อิอิ มาถึง พีพีเรย์แล้วค่ะ แต่เค้าไม่ได้ให้เราแวะ ได้แต่ถ่ายภาพค่ะ บอกเล่าให้ฟัง อ่าวโน้นอ่าวนี้ แล้วเราก็มาถึง พีพีดอนค่ะ แต่เราจะไปดำน้ำกันก่อน ยังไม่แวะที่เกาะค่ะ บังเอิญดำน้ำอยู่ภาพเลยไม่ค่อยมีค่ะ มาถึงเกาะพีพีแล้วค่ะ แต่เวลาของเราหมดไปกับการดำน้ำแล้วค่ะ อาหารก้อลืมถ่ายภาพอีกแล้วค่ะ มีอาหารให้ทานด้วย ผลไม้เช่นเดิม แตงโมกับสัปปะรด ทานเสร็จแล้ว ไปถ่ายภาพบรรยากาศด้านหลังเกาะค่ะ บรรยากาศท่าเรือที่เกาะพีพีค่ะ หมดทริปของวันนี้ที่ได้เสียตังซื้อแล้วค่ะ แล้วเพื่อนก็มารับไปดูพระอาทิตย์ตก ที่แหลมพรหมเทพค่ะ ผู้คนเยอะเหมือนกัน ดูๆแล้วไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมีแต่ คนท้องถิ่นค่ะ แต่มีเมฆทำให้เราไม่เห็นพระอาทิตย์กลมๆ จรดขอบน้ำค่ะ แต่ก็ยังสวยอยู่ค่ะ เพื่อนพาไปทานอาหารที่ร้านกันเอง 1 ค่ะ เค้าบอกว่าเป็นแรกของภูเก็ตเลยก็ว่าได้ อาหารอร่อยค่ะ ขอเบือทอดอีกค่ะ มีดนตรีฟังด้วยค่ะ หมดทริปการท่องเที่ยว สามวัน สามจังหวัดแล้วคร่า
ทริปพังงา เกาะเจมส์บอนด์ เขาพิงกัน เขาตะปู (11/8/2009)
วันนี้เดินทางด้วยเรือใหญ่ ตอนคุยบอกเรือใหญ่นะค่ะ แต่มันใหญ่กว่าเรือสปีดโบ๊ท นั้นเอง มาถึงท่าเรือ ผู้คนเยอะแยะ ฝรั่งมากมาย โอ๊ะ จะมีคนไทยไหมเนี้ย ถามไกด์ ไกด์บอก เค้าเนี้ยคนไทย อ่ะ ไม่น่าถามเลยเรา ดูวิวไปเรื่อยค่ะภาพแรกถ่ายก่อนขึ้นเรือค่ะ ที่ท่าเทียบเรืออ่าวปอ อีกภาพคือเรือที่เรานั่งโดยสารไปค่ะ น่าจะนั่งได้ไม่เกิน 100 คน ผู้โดยสารวันนั้น ประมาณ 40 กว่าคนค่ะ นั่งเรือเป็นชั่วโมงๆ เซ็งมากเลย หันซ้ายหันขวามีเหยี่ยวทะเลด้วย แต่ว่า เพื่อนถ่ายได้ไกลมาก มองให้เป็นเหยี่ยวทะเลนะค่ะ อะ ไกด์บอก ข้างหน้านั้นคือเกาะเจมส์บอนด์ ว้าวเราจะได้เห็นแล้วสิ ต้องต่อหางยาวเพื่อไปขึ้นเกาะค่ะ เิดินไปก็เจอ อ่ะ เขาพิงกัน นั้นเอง หันขวา เขาตะปู อ่ะอ้าว ทริปนี้ เรามาสามชื่อในโบรชัวร์ ในทีเดียวกันนี้เอง เกาะเจมส์บอนด์ เขาตะปู เขาพิงกัน เดินเล่นถ่ายรูปพักสักก็ได้เวลาเดินทางต่อค่ะ แล้วก็ได้เวลาแวะให้ว่ายน้ำค่ะ แต่ว่าจุดนี้ มีเศษไม้ เศษใบไม้ลอยอยู่นะ ไม่เหมือนของทริปที่กระบี่เลย น้ำใสแจ๋ว อ่ะๆ วันนี้ไม่ว่ายล่ะ เค้าไม่มีดำน้ำ นั่งดูคนอื่นเค้าค่ะ ตั้งใจจะถ่ายตอนเค้ากระโดดจากเรือลงน้ำ ถ่ายไม่ทันสักทีค่ะ ได้แต่ภาพตอนลงน้ำแล้ว เดินทางต่อค่ะ ไปพายเรือแคนู(แบบเรือสีชมพูนั้นนะค่ะ) ชมเกาะห้องค่ะ ก็พายเรือรอบๆ เกาะห้องนี้ค่ะ พี่คนพายก้อพาชี้ดูโน้นดูนี้ หินนี้รูปปลา หินนี้ รูปลิง ไปเรื่อยค่ะ เพลินกับบรรยากาศ ภาพเลยน้อยไปนิดนึงค่ะ หมดทริปวันนี้แล้วค่ะ ไปป่าตองกันต่อ ตลาดป่าตองตอนกลางคืน คล้ายพัทยาเลยค่ะ มีเต้นๆ ด้วย
ทริปกระบี่ ทะเลแหวก (10/8/2009)
วันนี้ซื้อทริปวันเดย์ทริป4เกาะที่กระบี่ไว้ค่ะ หรือ ทริป ทะเลแหวก วันนี้ ไปด้วยเรือเร็วค่ะ ภาพถ่ายวิวสองข้างทาง ระหว่างอยู่บนเรือค่ะสักพักเราก็มาถึงเกาะทับค่ะ เพื่อชมทะเลแหวก บังเอิญฝนจะตกค่ะไม่ค่อยแหวกค่ะวันนี้ ด้านขวา คือเรือแบบที่เรานั่งมากันค่ะเพื่อนบอกว่ามาคราวนี้เค้าคงได้แฟนแน่นอน เพราะเค้าตามหาหัวใจจนเจอค่ะ อิอิอิ บังเอิญมีหินก้อนนึง มาโดนเท้าเค้าค่ะ เลยหยิบขึ้นมาดู โอ๊ะ หินรูปหัวใจ ชมบรรยากาศ ด้านซ้าย ด้านขวาค่ะ แล้วเรือก้อวนไปด้านหน้า เพื่อชมเกาะไก่ ด้านล่างเป็นรูปปลาเสือค่ะ และแล้วก็ถึงเวลาดำน้ำตื้นคร่า ปลาเสือเต็มเลย เย้ๆ ดำน้ำ พักเที่ยงที่เกาะปอดะ ค่ะ แจกข้าวกล่องทานกันคนละกล่องผลไม้ตามฤดูก็คือ แตงโมกับสัปปะรด รู้สึก สามวันก็ทานอยู่สองอย่างนี้ค่ะแวะที่สุดท้ายของทริปแล้วค่ะ ที่นั้นก็คือ อ่าวไร่เลย์ นักท่องเที่ยวมักจะมาปีนเขาที่นี้กันค่ะ ได้ยินว่าเป็นทริปก็มี ครึ่งวัน 1000 บาท ที่อ่าวไร่เลย์จะมีถ้ำพระนาง อยู่ ค่ะ แต่ไม่กล้าถ่ายภาพมาค่ะ กลัวหลอน ชมบรรยากาศดีกว่าเนอะ (นับวันนี้วันแีรกเนอะ เมื่อวานไม่ได้เที่ยวนิ)หมดทริปของวันแรกแล้วค่ะวันนี้สนุกมากเลย ได้เวลาเดินทางไป บขส กระบี่ ติดรถของทัวร์ไป ไปอาบน้ำที่ท่าเรือของทัวร์เค้าอีกตะหาก อิอิอิ เดินทางไปภูเก็ตค่ะ เพื่อนมารับไปทานข้าวที่แหลมหินซีฟู๊ด ขออภัย เรื่องกินทีไร กินก่อนคิดจะถ่ายภาพ ทุกทีเลยคร่า่ หม่ำหมดค่อยนึกออก มีอาหารที่ไม่เคยทาน นั้นคือ เบือทอด อร่อยมากๆ เลย
เพลินกับบรรยากาศ ภาพเลยน้อยไปนิดนึงค่ะ 
ขออภัย เรื่องกินทีไร กินก่อนคิดจะถ่ายภาพ ทุกทีเลยคร่า่ หม่ำหมดค่อยนึกออก มีอาหารที่ไม่เคยทาน นั้นคือ เบือทอด อร่อยมากๆ เลย 
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
