ณ ตอนนี้ (2)

กริ๊ง..กริ๊ง กริ๊ง เสียงเรียกของโทรศัพท์ดังขึ้นในห้องของพฤษภา ซึ่งเธอนั้นได้อาศัยอยู่ในคอนโดเล็กๆแห่งหนึ่งใกล้ๆกับมหาวิทยาลัย เสียงที่มาตามสายนั้นคือ ผู้ชายคนหนึ่งที่เธอเองนั้นรู้จักแต่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาเลย นั่นคือ นายเหล็ก นั่นเอง


"หวัดดี..เราเองนะที่เรียนสถิติ เป็นเพื่อนของเจไง" อ๋อ จำได้ล่ะ+++ เหล็กนะหรอ มีอะไรหรือเปล่า??ถึงได้โทรมา เราจะโทรมาถามเรื่องเรียนนะเพราะเราเรียนไม่เข้าใจ ข้อนี้ทำอย่างไรหรอ... นั่นเป็นครั้งแรกของเขาและเธอที่เรียกว่ารักแรกโทร(ไม่ใช่)รักแรกพบอย่างที่ใครๆเขาพูดกัน


หลังจากนั้นพฤษภาและนายเหล็กต่างก็เจอกันมากขึ้นจากในห้องเรียน เจเป็นเพื่อนของพฤษภานายคนนี้มีนิสัยที่พฤษภาเองก็ไม่ชอบเอามากๆเลยก็คือ พูดแบบนอนสต็อป หรือพูดไม่มีหยุดนั่นเอง


ด้วยความรำคาญของเธอจึงทำให้ไม่ค่อยอยากจะทักทายเจเท่าไรนัก เพราะแค่ทักว่าเฮ้ย..หวัดดีเท่านั้นแหละคุณเอ๋ย!!!นายเจจะพูดต่อจนอดคิดไม่ได้ว่า..พลาดอีกแล้วเราไม่น่าไปทักมันเลย แต่ก็อีกนั่นแหละเจอเพื่อนแล้วไม่ทักเดี๋ยวก็จะหาว่าสวยแล้วหยิ่งอีก ไม่ทราบว่าด้วยธรรมดาของผู้ชายในโลกส่วนใหญ่หรือเปล่า? ที่ชอบนั่งเรียนข้างหลังห้อง พูดว่านั่งเรียนไม่ได้ซิ เพราะปกติที่นั่งไม่เคยจะได้เรียน บ้างก็คุยโทรศัพท์ วาดรูป ส่งโน๊ตจีบสาว หรือนอนหลับไปเลยก็มี

เหล็กกับเจก็มีนิสัยเฉกเช่นเดียวกัน ซึ่งผิดกับพฤษภาและเพื่อนๆพอได้เวลาเรียนก็จะรีบวิ่งกรูกันเข้าไปตีตั๋วหน้าสุด เอาให้เห็นอาจารย์แบบประจันหน้า
พูดทีน้ำลายกระเด็นใส่สมุดกันเลยทีเดียว ไม่ใช่ว่าเป็นเด็กเก่งหรือฉลาดมากหรอกค่ะแต่เพียงว่าอยากแสดงให้อาจารย์เห็นว่าเราตั้งใจเรียน หากผิดพลาดตอนสอบขึ้นมาอาจารย์จะได้มีคะแนนให้สงสารให้บ้าง วิชานี้ก็เช่นกัน พฤษภารีบจองที่นั่งด้านหน้าอีกตามเคย ส่วนเหล็กกับเจได้นั่ง(หลัง)สุดกู่เลย แต่ด้วยแม่เหล็กที่มีพลังมหาศาลได้ดูดให้นาย 2 คนนี้มานั่งหลังพฤษภาได้โดยไม่มีเหตุผล


ร้านกาแฟอุ่นๆแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่พบปะของนักเจรจา นักธุรกิจ และไม่เว้นแม้แต่เหล็กที่เลือกเอาร้านกาแฟร้านนี้เป็นที่นัดพบระหว่างเขาและพฤษภาเช่นกัน กาแฟร้อนเป็นสิ่งที่โปรดปรานมากที่สุดในชีวิตของเหล็กเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะตื่นนอน ก่อนนอน เป็นต้องมีกาแฟข้างกายเสมอ ผิดกับพฤษภาที่เจ้าหล่อนเองไม่เคยโปรดปรานกาแฟชนิดใดๆทั้งสิ้น ร้านกาแฟต่างๆจึงไม่เคยได้รับใช้เธอเลยสักครั้ง แต่มีเพียงร้านกาแฟอุ่นๆแห่งนี้เท่านั้นที่ทำให้พฤษภาเดินเข้าร้านได้ แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดคิดว่ามีกาแฟอันหอมกรุ่นหรอกนะ "โอ๊ตมีล" ต่างหากหล่ะที่ทำให้พฤษภาอยากมาทุกๆวันที่คิดถึงเหล็ก โอ๊ตมิลเป็นขนมคุ้กกี้ที่โปรดปรานมากที่สุดของพฤษภา มากกว่ากลิ่นกาแฟหอมๆที่เย้ายวนจมูกของหล่อนเสียอีก


ร้านนี้จึงกลายเป็นร้านหนึ่งของทั้งคู่ที่ใช้ถ่ายทอดความรู้สึกของตนเองออกมาให้อีกฝ่ายรับรู้ นอกจากการเข้าร้านกาแฟตามประสาหนุ่มสาวที่จีบกันใหม่ๆ แล้วจะมีอะไรอีกหากไม่ใช่การดินเนอร์อันสุดหรูอลังการงานสร้างอย่างเจ๊ไก่เขา เหล็ก หนุ่มอารมณ์ศิลปินอย่างเขาจัดแจงเตรียมการจองอาหารมื้อค่ำสุดหรูสำหรับเขาและพฤษภาไว้อย่างเรียบร้อยที่ร้านอาหารอิตาลี แถวสุขุมวิท

เหล็กเป็นคนที่ขับรถไม่เป็นแต่มีรถ พฤษภาขับรถเป็น มีรถ แต่ไม่ใช้รถ ทั้งคู่เลยมีคนขับรถ(ไม่)ส่วนตัวและมีรถ(ไม่)ส่วนตัวไว้เรียกใช้ได้ตลอดเส้นทางนั่นก็คือ แท็กซี่ ทุกครั้งที่เรียกใช้รถแท็กซี่
เหล็กจะเป็นฝ่ายให้พฤษภาเข้าไปนั่นก่อนและเขาจะนั่งติดริมประตู แต่พฤษภากลับไม่ชอบการกระทำอย่างนี้ยิ่งนัก เธอเองชอบนั่งริมประตูและให้เหล็กขึ้นก่อน หน้าที่นี้เลยกลับกันให้พฤษภาเป็นคนเปิดประตูและเชิญเหล็กขึ้นรถก่อนแทน แต่ก็มีปัญหาทุกที "เธอขึ้นก่อน...เธอนั่นแหละขึ้นก่อน..ไม่เอาเธอขี้นก่อน...เธอนั่นแหละขึ้นก่อน" คนขับแท็กซี่มักจะชอบเหลียวหลังมาด้วยความสงสัยว่า สรุปจะขึ้นหรือไม่ขึ้น???

แต่สุดท้ายเหล็กก็จะยอมขึ้นก่อนแต่ไม่ทุกครั้งไปหรอก..บางครั้งเหล็กไม่ยอมพฤษภาก็ยอมแทน หรือบางครั้งหากมีปัญหามากนักเถียงกันไม่จบก็ให้เหล็กนั่งหน้าพฤษภาก็นั่งหลังต่างฝ่ายก็ต่างนั่งติดริมประตู(win-win) (ณ ตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมต้องนั่งริมประตู คงเป็นสันชาตญาณของผู้หญิงที่คอยปกป้องตนเองพอยามเกิดเหตุการณ์คับขันจะได้เปิดประตูหนีทัน) ไปเท่านั้นก็จะได้ไม่มีเรื่อง

และอีกอย่างเหล็กชอบก่อเรื่องนั่นก็คือ ชอบสั่งให้คนขับทำโน่นทำนี่ เช่น พี่ช่วยเบาแอร์หน่อย เลี้ยวตรงนี้นะไม่ไปทางโน้น ขับช้าๆหน่อยพี่ และอีกหลายๆอย่าง หรือหากบางครั้งพูดแล้วคนขับรถไม่ทำให้เหล็กจะให้จอดและลงทันที นี่แหละคือสิ่งที่พฤษภากลัวทุกครั้งกับการนั่งรถแท็กซี่กับเหล็ก ซึ่งเธอเองนิสัยต่างกับเหล็กโดยสิ้นเชิงแค่เพียงว่า "พี่ไปที่...." เท่านั้นจบไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีกมากมายเพราะกลัวคนขับขึ้นสมองเลยทีเดียวที่เป็นอย่างนี้เนื่องจาก

ตอนนั้นเป็นช่วงกลางคืนหลังจากเสร็จธุระเธอได้นั่งรถแท็กซี่มากับเพื่อนโดยที่เธอไม่รู้ตัวเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น หลังจากที่เธอได้เรียกรถแท็กซี่คันนั้นแล้ว เธอก็ได้โทรศัพท์ไปหาเพื่อนเพื่อที่บอกว่าตอนนี้เธอกำลังกลับบ้านแล้ว แต่ผ่านไปได้ 2 นาที

คนขับแท็กซี่ก็จอดรถอย่างกระทันหันและหันมาตะคอกเธอว่า "คุยซะให้พอ..คุยเสร็จแล้วบอก ไม่มีสมาธิขับรถ..." พฤษภานิ่งไปชั่วขณะและลดโทรศัพท์ลงจากหูด้วยความตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากที่เธอวางสายคนขับก็กระชากรถขับออกไปด้วยความรวดเร็ว

เพื่อนเธอนั้นเห็นว่าสถานการณ์เริ่มไม่ค่อยดีเลยตัดสินใจบอกให้เขาจอด แก..คิดว่าเขาจะจอดมั๊ย ??? พฤษภาเริ่มใจคอไม่ค่อยดีจับมือเพื่อนไว้แน่น แต่นับเป็นโชคดีของพฤษภาที่คนขับยอมจอดรถให้เธอกับเพื่อนลงแถมไม่เอาเงินอีกต่างหาก แต่เธอก็ได้จ่ายไปทั้งๆที่เขาไม่เอา

นี่แหละ...เลยกลายเป็นความกลัวติดตัวกับคนขับรถ(ไม่)ส่วนตัวไปตลอดชีวิต ไม่กล้าบอกกล่าวทั้งที่แอร์รถเย็นเฉียบ ไม่กล้าที่จะพูดว่าให้ผ่อนคันเร่งลงหน่อยค่ะทั้งที่ขับรถปาดซ้ายปาดขวาไปมา แต่สิ่งที่พฤษภากลัวและไม่กล้ากลับมาเป็นเหล็กเสียเอง...

เมื่อถึงร้านอาหารอิตาลีอันเลิศหรูสเต็กเนื้ออันเลิศรสถูกนำมาตั้งไว้ข้างหน้าพร้อมกับไวด์ราวกับว่าเป็นองค์หญิงกับเจ้าชายน้อย
วันนั้นเหล็กและพฤษภาก็เลยกลายเป็นองค์หญิงกับเจ้าชายน้อยไปโดยปริยาย อาหารมื้อนี้คงเป็นมื้ออาหารที่แปลกตามากที่สุดในสายตาของเขาและเธอ ต่างคนต่างอิ่มเอิบไปด้วยความรัก บรรยากาศที่เงียบสงบ มองดูใบไม้พัดปลิวริมหน้าต่าง ต่างคนต่างมองจ้องตาและยิ้มให้กัน หลังจากที่ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่ชวนหลงใหลแล้ว ก็ต้องกลับบ้านแล้วล่ะสิเรา...

เหล็กเรียกพนักงานให้เช็คบิล ทั้งหมดประมาณ สามพันกว่าบาท ต่างคนต่างมองหน้าซึ่งกันและกันเพราะไม่รู้ว่าใครจะจ่ายดี หากเป็นผู้หญิงก็คิดว่าผู้ชายต้องเป็นคนจ่ายซิ

หรือไม่อย่างนั้นก็ใช้ทฤษฎีประหยัดก็คือหาร 2 แต่กับเหล็กพฤษภาต้องจ่ายเงินทุกบาททุกสตางค์ไม่มีหาร ไม่มีคืน เหล็กได้ทิ้งท้ายไว้อีกว่าเธอเลี้ยงเราล่ะกัน อ้าว..ไหนว่าหาร้านอาหารได้และจะพาเรามาทาน
แต่ทำไมสุดท้ายต้องเป็นเราจ่าย พฤษภารำพึงในใจ แต่ไม่เป็นไรแค่นี้เองอย่าไปเอาเปรียบใครอย่าไปทานของใครฟรี เราต้องหยิ่งในศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิง เพราะไม่มีใครบัญญัติไว้ว่าไปทานข้าวกับผู้ชาย แล้วผู้ชายจะต้องเป็นคนจ่ายเท่านั้น จริงมั๊ย??


หลังจากนั้นเรื่องราวของเจ้าหล่อนกับนายเหล็กจะเป็นอย่างไร..ติดตามได้ในตอนต่อไป ขอย้ำว่า "ไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมดแต่ก็ไม่ใช่เรื่องโกหกทั้งเพ"


Create Date : 10 เมษายน 2551
Last Update : 25 เมษายน 2551 13:54:04 น. 3 comments
Counter : 347 Pageviews.

 
ตัวหนังสือติดกันไปหมดอ่านยากจังค่ะจากหน้าจอ แต่ก็อ่านนะคะ แล้วจะมาอ่านต่อค่ะ ตอนนี้ขอหายหัวไปอ่านเพชรพระอุมาก่อนค่ะ

อ้อ สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะ


โดย: Chulapinan วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:16:53:24 น.  

 
แก้ไขตัวหนังสือให้แล้วค่ะ


โดย: อุณหภูมิ วันที่: 25 เมษายน 2551 เวลา:14:48:13 น.  

 
ขอบคุณค่ะ อ่านง่ายขึ้นเลย อย่ามาอัพช้านะคะเดี๋ยวลืม


โดย: Chulapinan วันที่: 4 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:14:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

อุณหภูมิ
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add อุณหภูมิ's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com