แอร์เสียแล้วร้อนใจ อาจเสียเงินหลายพัน
ก่อนหน้านี้แชร์เรื่องการซ่อมเบรคไปแล้ว ไม่ได้แชร์ว่าซ่อมเบรคทำอะไรบ้าง แต่แชร์เรื่องของค่าใช้จ่ายและการซ่อมอย่างมีสติ ค่อยๆ คิดและพิจารณา ไม่หลงเชื่อไปกับคำแนะนำของช่างที่หวังจะเอาเงินจากลูกค้าลูกเดียว
นึกขึ้นมาได้ว่าก่อนหน้าที่จะซ่อมเบรค เมื่อหน้าร้อนปีที่แล้ว มีปัญหาเกี่ยวกับซ่อมแบบนี้เหมือนกัน แต่เป็นระบบแอร์ของรถ ที่ว่าเหมือนกันคือ ถ้าแอร์เสีย ใช้รถแบบร้อนๆ แล้วเกิดร้อนรน ร้อนใจ รีบซ่อมคงต้องจ่ายหลายพันเลยคราวนั้น
แต่จากการที่ตั้งสติได้ จากที่ต้องจ่ายหลายพัน กลายเป็นว่า เอาเข้าจริงจ่ายไปไม่กี่ร้อยแค่นั้นเอง มีความสุขไปตามระเบียบ
เหตุการณ์ที่ว่าก็คือ ระหว่างที่ขับรถอยู่ จู่ๆ ก็เกิดแอร์ไม่เย็นขึ้นเสียดื้อๆ ทีแรกก็คิดว่าแอร์ตันมั้ง รถอายุกว่า 8 ปีแล้ว ไม่เคยซ่อมไม่เคยล้างเลย คงเริ่มมีอาการแล้วล่ะ เดี๋ยวปิดแอร์สักเดี๋ยว เปิดกระจกขับไปก่อน แล้วเปิดแอร์อีกครั้งก็คงเย็นเหมือนเดิม แต่ที่ไหนได้ ขับจนถึงบ้านแอร์ก็ไม่เย็น
เอาล่ะสิ เริ่มพะว้าพะวง เพราะรู้สึกว่าจะต้องเสียตังอีกแล้ว แต่วันรุ่งขึ้นอยู่ๆ แอร์ก็เย็นขึ้นมาเป็นปกติ แอบดีใจแป๊บหนึ่ง แต่ก็ดีใจได้ไม่นาน เพราะคิดว่าลองมีอาการอยู่ๆ แอร์ก็ไม่เย็นขึ้นมาแบบนี้ อาการคงไม่ดีแน่ๆ ต้องมีอะไรผิดปกติสักอย่าง แล้วก็เป็นจริงอย่างที่คิด อยู่ๆ แอร์ก็ไม่เย็นขึ้นมาอีก
ลองไปถามร้านแอร์อยู่ 2 ร้าน เพื่อเช็คว่าช่างน่าจะวิเคราะห์ปัญหาว่าอย่างไร และค่าซ่อมจะอยู่ที่เท่าไร
ปรากฏว่าทั้ง 2 ร้านต่างก็บอกว่าอาการแบบนี้คอมแอร์น่าจะเสียแล้ว โดยที่ไม่ได้เช็คอะไรมาก ประมาณว่าอาศัยประสบการณ์อันช่ำชอง ร้านแรกบอกว่าเปลี่ยนคอมแอร์ใหม่ พร้อมเติมน้ำยาแอร์ใหม่ก็อยู่ประมาณ 3,500 - 4,000 บาท
ร้านที่สองตีราคามาว่า เปลี่ยนคอมแอร์ใหม่ เป็นคอมแอร์ญี่ปุ่นมือสอง หรือคอมแอร์ใหม่แต่เป็นของจีน พร้อมเติมน้ำยาแอร์ ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 2,500 - 3,000 บาท
ก็ไม่ได้เกี่ยวกับราคาค่าซ่อม ก็เข้าใจว่าถ้าต้องเปลี่ยนคอมแอร์จริงๆ เรตราคาก็จะอยู่ประมาณนั้น แล้วแต่ว่าจะใช้คอมแอร์แบบไหน ถ้าคอมแอร์เสียจริงๆ ก็ยินดีที่จะซ่อม แต่เอะใจว่า คอมแอร์เสียแน่เหรอ ด้วยเหตุผล 2 ประการคือ
-> รู้สึกว่าช่างทั้ง 2 ร้านสรุปสาเหตุง่ายไปหน่อย ไม่ชงไม่เช็คอะไรให้เลย
-> ตอนที่แอร์เย็นและไม่เย็นอยู่ 2-3 ครั้ง เย็นๆ หายๆ สังเกตุอาการแล้วรู้สึกว่าคอมก็ทำงานปกตินะ เพราะถ้าคอมแอร์เสีย คงไม่กลับมาทำงานได้อีก และจากที่แอร์ไม่เย็น และจังหวะที่แอร์กลับมาเย็น จะได้ยินเสียงตัดการทำงานของเครื่องยนต์ เป็นจังหวะการตัด-ต่อการทำงานของคอมแอร์ ถ้าให้สันนิษฐานเอง คิดว่าน่าจะเป็นที่คลัทช์คอมแอร์เสียมากกว่า โดยช่วงที่แอร์ไม่ทำงานหรือไม่เย็น อาจจะเป็นเพราะคลัทช์คอมแอร์ไม่จับหรือไม่ทำงาน
ถ้าเป็นคลัทช์คอมแอร์เสียอย่างที่คิด และถ้าเจอช่างที่มีจรรยาบรรณหน่อย จะต้องเช็คและซ่อมเฉพาะจุดให้ได้ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนคอมแอร์ทั้งลูก
ตัดสินใจไปร้านแอร์อีกร้าน เป็นร้านที่สามแล้ว เข้าไปรู้สึกว่าโชคดี (อีกแล้ว) ดูลักษณะท่าทาง การพูดคุย การแนะนำ และการวิเคราะห์ปัญหาของช่างแล้วโอเคเลย
ช่างบอกว่า ไม่คลัทช์คอมแอร์ก็คอมแอร์เลย ต้องลองถอดคลัชท์หน้าคอมแอร์มาเช็คก่อน ถ้าคลัทช์คอมแอร์เสียก็เปลี่ยนเฉพาะคลัทช์ได้ แต่ถ้าคลัทช์คอมแอร์ปกติ ก็เป็นเพราะคอมแอร์แล้วล่ะ
ได้ยินอย่างนั้น ถ้าสุดท้ายถ้าจะต้องเปลี่ยนคอมแอร์ทั้งลูก ก็ไม่คิดอะไรมากแล้วล่ะ เตรียมใจ เตรียมตังค์ไว้แล้ว
ช่างไปถอดคลัทช์หน้าคอมอยู่สักครู่หนึ่ง แล้วก็เอามาเช็คให้ดูอยู่ตรงหน้า บอกว่าคลัทช์คอมแอร์เสีย
ค่าเปลี่ยนคลัทช์คอมแอร์ครั้งนั้นถ้าจำไม่ผิด จ่ายไป 600 บาท ค่าเติมน้ำยาแอร์อีก 400 บาท ขับรถกลับบ้านสบายใจ สบายกระเป๋า (อีกแล้ว)
เรื่องการเปลี่ยนคอมแอร์นี่ผมเห็นมาหลายครั้งแล้ว ถ้ากับคนใกล้ตัวเห็นมา 3 คนแล้ว ที่เอารถไปเช็ค กับศูนย์บริการเองเสียด้วย ช่างบอกให้เปลี่ยนคอมแอร์ สุดท้ายคอมแอร์ยังดีอยู่เลย เสียเงินฟรี พอเจอปัญหาเรื่องแอร์ไม่เย็นกับตัวเอง ก็เลยต้องเช็คดีๆ หน่อย
ถ้าตั้งแต่ที่แอร์ไม่เย็นตอนแรก แล้วร้อนใจ เพราะอากาศร้อน แล้วรีบเอารถไปซ่อม คงเสียเงิน 4-5 พันโดยไม่ใช่เหตุไปแล้ว
Create Date : 28 พฤษภาคม 2557 |
Last Update : 31 พฤษภาคม 2557 15:22:30 น. |
|
7 comments
|
Counter : 18643 Pageviews. |
|
|