ท่องเที่ยว ศิลปะและวัฒนธรรม ชีวิตต่างแดน
 
 

การเข้ารับประเมินผลด้านภาษาสำหรับผู้เข้ามาใหม่ Newcomer to Canada

การเข้ารับประเมินผลด้านภาษาสำหรับผู้เข้ามาใหม่ Newcomer to Canada

ก่อนอื่นเลยจะลงทะเบียนโดยตรงกับสถาบันการทดสอบ LanguageAssessment & Resource Centre หรือลงทะเบียนผ่านสถานศึกษาฯก็ได้

ลงทะเบียนเสร็จ ได้รับใบนัด วันเวลา เขาแนะนำให้ เราไปก่อนเวลาสัก 15 นาทีห้ามใส่น้ำหอม

สำหรับผมใช้เวลารอคิว 15 วันอันนี้น่าจะแล้วแต่พื้นที่มีผู้ใช้บริการมากน้อย

เวลาที่ใช้ในการประเมิน ผล 2.30-4.00 ชม.

ช่วงที่ผมไปประเมินฯ เกือบไปไม่ทัน(หลงทางครับ) ถึงพอดีตามเวลานัดครับ เข้าไปแจ้งชื่อเขาบอกให้นั่งรอเรียก มีคนรอเพื่อประเมินผลอยู่ด้วยกัน 6 คน มี คนน่าจะเป็นผู้อพยพจากตะวันออกกลางอีก 2 คนเป็นคนฟิลิปปิน แล้วก็จีน 1 ไทย 1

ถึงเวลาเรียกเข้าไปในห้อง เขาจะสอบถามข้อมูลประวัติการศึกษาของเราแล้วอธิบายการเข้ารับการทดสอบในครั้ง ซึ่งมีการเข้าห้องสอบจำนวน 3 ครั้ง

ครั้งที่ 1 เป็นการสอบ reading

จะมี 3 part สั้น-กลาง-ยาวอ่านแล้วตอบคำถาม  ให้เวลา 20 นาทีเสร็จแล้วออกจากห้องสอบมานั่งรอด้านหน้า

ครั้งที่ 2 เป็นการสอบ Writing

- เขียนตามข้อความที่เห็น

- เขียนตามคำสั่ง ให้ได้ 7 ข้อผมเลือกเอา first Entry to Canada เจออะไรบ้าง

- เขียนตามคำสั่งเป็นเรื่องราวให้ยึดตัวเองเป็นหลัก โดยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ ครูทีดีควรจะเป็นแบบดุร้ายหรือเป็นคนที่ใจดีให้ความช่วยเหลือนักเรียน ให้เขียน 1 หน้ากระดาษเวลา 30 นาที

ครั้งที่ 3 เป็นการ Listening/Speaking

พูดคุย ถามตอบเกี่ยวกับข้อมูลทั่วไปเกี่ยวส่วนตัวและเขาให้เปรียบเทียบระหว่างประเทศเรากับแคนาดา เล่าให้มากเท่าที่จะเล่าได้

ฟังจากเทป แล้วตอบคำถาม 3 ครั้ง (สั้น-กลาง-ยาว)เป็นเรื่องเกี่ยวการใช้ชีวิตในแคนาดา (ทำอะไร อยู่ที่ไหน อย่างไร เพราะอะไร)สุดท้ายฟังยาวไปหน่อย จำเรื่องได้ไม่หมดครับ.....(เป็นความจำสั้นบวกตื่นเต้น)

ผลการสอบปรากว่าได้ L=5 S=5 R=5 W=4 จะมีใบแจ้งผลให้เรา2 ใบ คือ

1.จดหมายส่งตัวให้เรานำไปที่โรงเรียนดยมีรายละเอียด ว่าต้องเข้าเรียน L/S ระดับ 6 และ R/W ห้เข้าเรียนในระดับ5

2.ใบประเมินผลของเรา เราสามารถเก็บไว้

ผมนำไปยื่นที่ศูนย์วัฒนธรรม ( Multicultural council center (MCC) เขามีห้องเรียนว่าง L/S 6 ซึ่งเรียนตอนบ่าย ส่วน R/W 5 จะต้องรอคิว watch list

ผมเลยได้เรียนที่ห้องสูงสุดไปก่อนสำหรับการฟังและพูด เพราะห้องนี้เรียนL/S 6,7,8 เรียนด้วยกัน เสียเวลาตอนเช้าไปเปล่าๆ

ระดับของภาษาจะเป็นของ Canadian Language Benchmark (CLB)

เรียกสั้นๆว่า CLB level 6,7…




 

Create Date : 03 มกราคม 2559   
Last Update : 3 มกราคม 2559 9:27:38 น.   
Counter : 649 Pageviews.  


การขอ SIN Card and Health Card ที่ประเทศ Canada

SIN Card and Health Card

หลังจากเดินทางถึงแคนาดา 2 วัน พักพอหายจาก Jet lag เดินทางไปที่ Government Service เพื่อขอทำ SINCard and Health Card ในเวลาเดียวกัน แต่ปราฏว่า SIN Card ไม่สามารถที่จะทำที่สาขานี้ได้ ต้องไปทำที่ City Hall + Health Card จะต้องมี 3list ตามนี้ 3list

ส่วนของผมยังขาด list ที่ 2 ครับ ต้องมี Bank statement /driver licensee/photo card ผมได้เปิดบัญชีกับธนาคารฯก่อนที่จะไปgovernment office แล้วจะกลับไปขอ bankstatement เขา bankก็จัดการให้เสร็จสัพ นำใบ bank statement กลับมายื่นอีกที่ปรากฎว่า เขาไม่เอา bank statement จะต้องมีจัดส่งจากธนาคาร ไม่ใช่เอาเอกสารยื่นกับมือ ต้องกลับไปที่แบงก์อีกครั้งเพื่อให้เขาจัดส่งเอกสารให่ทางไปรษณีย์ ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 10วัน(ไปรษณีย์แคนาดา delivery ใช้เวลานานมากถ้าบ้านเราไม่เกิน 3วัน) วันนี้ยุงทั้งหมดวัน ตอนนบ่ายก็ไปยื่นเรื่องขอทำ SINCardที่ City Hallซึ่งอยู่ในตัวเมืองไม่ไกลจากที่พักเท่าไรครับ ที่นี่ต้องหยอดเหรียญสำหรับที่จอดรถ 2$ เป็นเวลาช่วงบ่าย ไม่ค่อยมีคนรอคิวใช้บริการมากนัก government service ที่ city hall จะมี help desk 2 คน มีโต๊ะ คอมพิวเตอร์ สำหรับ selfservice สามารถค้นหาและพิมพ์เอกสารเองได้ และมีช่องเป็น ล๊อกๆ สำหรับจนท.ไว้ให้บริการน่าจะประมาณ 20 ช่อง และห้องๆ อีกเห็นมีคนเข้าไปข้างใน พร้อม จนท.อาจจะเป็นการคุยการยาว และเป็นส่วนตัว ประมาณนั้นมั้ง... ครับ

สำหรับผมยื่น นั่งเก้าอี้ยังไม่อุ่นเลยครับ มีจนท.เรียกชื่อให้ไปใช้บริการที่ช่อง2 สอบถาม ข้อมูล ชื่อพ่อ ชื่อแม่ ที่ อยู่เบอร์โทรศัพท์ แล้วให้เรา อ่านรายละเอียดในกระดาษ เสร็จแล้ว เขาก็ยื่นกระดาษา 1 แผน่นให้เราซึ่งเป็นเลข SIN ของเราให้รอบัตรจะส่งให้ตามที่อยู่ ที่หลังในเวลาประมาณ 10-20 วันทำการ .....เสร็จการทำ SIN Card ไม่ยากเลยครับ

Health Card รอเอกสารทางไปรษณีย์จากธนาคารฯ 10 วันแป้ะ ที่นี่เอกสารเรามีครบหมดแล้วพร้อมที่จะไปดำเนินการได้แล้ว วันนี้คนไม่เย่อะ มีคนราคิวอยู่ 3 คน ก็จะมีเอกสาร 4อย่าง คือ

1. แบบฟอร์มกรอกเรียบร้อยแล้ว เขาให้มาตอนครั้งแรกที่ไปติดต่อ

2. พาสปอร์ต

3 .bankstatement พร้อมซอง

4. ใบ landing

เคสของผม จนท.อาจจะไม่มีประสบการณ์ในด้านนี้ต้องให้ Supervisorอีก 2 คนคอยประกบ +สอบถามข้อมูลเพิ่มจากข้อมูลที่เรากรอกในฟอร์ม....แต่มีคำถามหนึงผม งง..มากไม่ได้ชินคำศัพท์ Are you organ donation?......อะไรหว่าฉันยังไม่เคยได้สัมผัสกับเครื่องเล่น ออแกนเลย..เลยขอให้เขาอธิบายอีกครั้งคำถามนี้เราไม่เคลียร์ เลยบางอ้อ แล้วเราไม่เคยบริจาคอวัยวะ..ครับ NO ครับ

กรอกลายมือชื่อ...ถ่ายรูป เป็นอันแล้วเสร็จใช้เวลาประมาณ 30 นาที พิเศษนานกว่าช่องอื่นๆ

เขาจะให้เอกสารรับคืน Bank statement, Landing doc, PP และใบเอกสารยื่นยัน ต้องรอ 90 วัน หลังจากลงทะเบียน health card จะมีผลใช้ได้ เขานัดให้ไปที่ สนง.อีกครั้งเพื่อที่เอาใบแทน Health card ก่อน วันที่ 9/9/2015..จบ

****ครั้งต่อไป จะบอกเล่าเรื่อง Driver license ครับ***




 

Create Date : 07 กรกฎาคม 2558   
Last Update : 7 กรกฎาคม 2558 10:11:44 น.   
Counter : 622 Pageviews.  


การเดินทางที่ยาวนานบนเครื่องบิน

วันที่ 6 มิถุนายน 2558

ตื่นแต่เช้าตรู เพื่อเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิเวลาตี 4 ถึงหน้าก็มีแทกซี๊มาพอดี
ค่าแท็กซี๊หมดไป 130 บาท ถึงสนามบิน 4.30 น เคาเตอร TG เคาเตอร์ J เขายังไม่ทำงานน่ะครับ จนกว่าจะถึง 5.00 น ขณะก็มีลูกค้ารอเข้าแถวอยู่ประมาณ 20 คน 
ถึงเวลา 5.00 น ก็มีพนักงานเคาเตอร์มาให้บริการ 2 คน ไม่มีคนให้คำแนะนำด้านหน้าตอนเข้าแถวเลย ทำให้แถวยาวทะลุออกไปข้างนอก เพราะเขาไม่ได้เปิดเชื่อกงูเลื่อยเพื่อคนเข้าแถวตามเชื่อก
ได้สอบถาม จนท เคาเตอร์เขาบอกว่า เนียะเขามาให้บริการก่อนเวลาแล้วน่ะ และก็มีแค่ 2 คนเท่านั้นในรอบเช้ามืดนี้  เวรกรรม....ถ้าคนเย่อะ ตกเครื่องทำไงเนี๊ยะ 
   เครื่องออกเวลา 7.35 น. เพื่อเดินทางไปนาริตะ A380 คนเย่อะน่ะครับเพราะเครื่องใหญ่ ใช้เวลาในการบิน 6 ชม ตอนเช็คอิน ไม่สามารถเลือกที่นั่งทั้งสองสายการบินเลยได้เพราะต้องการนั่งแถวทางเดินเพื่อจะได้ลุกเดินไปเข้าห้องน้ำได้สบาย หรือลุกเดินตอนเมื่อยๆ ...คงมีคนเช็คอินออนไลน์เย่อะไว้แล้ว ไม่มีที่ว่างสำหรับเรา 
    ถึงนาริตะ ตามเวลา 15.45 น ต้อง transit ที่สนามบินนาริตะ เดินไปตามทางเดินออกจากงวงช้างถึงตัวอาคารผู้โดยสารไม่ไกลครับ จะมีป้ายบอก international connection อ่านตามจอสกรีน ผ่าน Japanese security อีกครั้ง ต้องแสดง Boarding pass ถอนรองเท้าและ เข็มขัด แยกสมบัติลงตะกร้า ที่นี่เขามีทำระเบียบดีครับ ขนของให้เราเป็นคนๆ ไม่ปล่อยคนออกมาพร้อมกันแล้วหยิบกระเป๋าสำภาระเอง เหมือนบ้านเรา 
เดินลงบันไดไปก็จะเจอเคาเตอร์ของแอร์แคนาดาเลย เข้าไปหาเลยครับ ขอเปลี่ยนที่นั่งปรากฎว่า ไม่มีที่นั่งริมทางเดินแล้ว
ต้องยอมรับครับ เที่ยวบินสายการบินนี้ที่ไปโตรอนโต คนเต็มทุกที่นั่งทั้งขาไปและขากลับ
AC 001 Dreamliner ใช้เวลาเดินทาง 12.30 ชม. ครับ แต่ครั้งนี้ออกเดินทางล่าช้าไป 1.20 ชม ตามเวลาปกติจะต้องออกเดินทาง 17.00 น เป็น 18.20 น ทำให้ถึงที่หมายปลายทางช้าด้วย แต่ตอนอยู่บนเครื่องเขาบอกว่าจะพยายามสปีดให้ทันตามเวลาที่กำหนด  แต่สภาพอากาศไม่อำนวยเลยต้องล่าช้า
ขาไปเดินทางกับ TG ที่นั่งสบายโซนตรงกลางแถวที่ 37 สามารถเยีอดขาได้ วางแขนในช่องที่นั่งได้เพราะที่นั่งกว้าง ส่วนทัวร์ไทยเย่อะครับการบริการดีมีนั่งสือพิมพ์ให้อ่าน การบริการของพนักงานดีมาก อาหารเสริฟ 2 ครั้ง เป็นอาหารหลัก 1 ครั้ง เบาๆ 1 ครั้ง เครื่องดืมหลายรอบ หรือตลอดเวลาเรียก 
AC บริการช้ามากขึ้นบิน 1 ชม แล้วยังไม่ได้เสริฟอาหารเลย หิวๆๆ ครับ แถม ear phone ก็ไม่ได้ว่างไว้เพื่อให้เราใช้ได้เลย กว่าจะแจกก็บินแล้วครึ่งชั่วโมง ตอนแจกต้องถามความต้องการก่อนน่ะ ว่าจะเอาไหม  (ต้องเอาอยู่แล้ว ไม่ได้พกไปด้วยนี้) ได้ที่นั่งริมหน้าต่างแถว 22 กลางๆ ลำตรงปีกพอดี ก็ถือว่าเป็นที่มั่นคงปลอดภัยที่สุด แต่เก้ากี้นั่งแคบ ถ้าคนอ้วนจะนั่งไม่ได้น่ะ อาหารเสริฟ 3 รอบ อาหาร หลัก 2 รอบ อาหารเบาๆ 1 รอบ นอนไม่ค่อยหลับครับ เพราะคนข้างๆ เขาดืมไวน์ทั้งคืน (โชคดร้ายได้นั่งใกล้คนแบบนี้) คุณผู้หญิงชาวโบลิเวีย 2คน แต่ย้ายถินฐานไปอยู่ที่อเมริกา พักผ่อนไปเที่ยวจีนและญี่ปุ่น 1 เดือน ทำงานเป็น Health care และ Reception นอนไม่หลับก็ดูหนังไป ตาแฉะเลยครับ  นั่งทางไกลที่แคบยืดขาไม่ได้สะดวก ทำให้ปวดกล้ามเนื่อขาครับ แต่ไม่ได้เป็นตะคริวน่ะครับ แต่ถ้าได้นั่งแถวทางเดินโซนตรงกลางจะดีกว่า

ขากลับ AC โชคดีครับได้นั่งตรงโซนกลางริมทางเดิน สบายหน่อยครับ คนข้างๆ เป็นชาวญี่ปุ่น พอได้หลับบ้าง หลับๆ ตื่นๆ อาหารเสริ 1 หลัก 1 snack 1 ครั้ง 
TG ได้นั่งตรงกลางใกล้หน้าต่าง แถวที่ 21 ส่วนมากคนไทย ก็สบายๆ การริการดีมากเสริฟเครื่องดื่มหลายรอบ อาหารหลัก 1 ครั้ง อิ่มมากอาหรเย่อะ ของว่างเป็น ice scream ขากลับหลับตลอดกับ TG ครับ สงสัยจะเหนือยมาก ได้ดูหนังแค่เรื่องเดียวน่ะ ก่อนที่เขาจะเสริฟอาหารหลัก
สรุป การเดินทางครั้งนี้ต้องอยู่บนเครื่องทั้งหมด 19 ชม แวะเปลี่ยนเครื่องอีก 1 ชม กว่าๆ ไม่มีปัญหาอุปสรรค์ใดๆ เดินทางด้วยความปลอดภัย

#######




 

Create Date : 30 มิถุนายน 2558   
Last Update : 30 มิถุนายน 2558 22:03:12 น.   
Counter : 309 Pageviews.  


การแลนดิ่งในประเทศแคนาดา

วันที่ 06-06-2015  

ถึงโตรอนโต เวลา 17.00 เดินตามเขาไปเรื่อยๆ จนถึง Customs จะมี 2 ช่อง ให้เดินเข้าคือสำหรับชาวแคนาดาและอเมริกา กับ ช่องสำหรับ Visitor ให้เดินเข้าไปช่อง Visitor เลยครับ  ช่วงนั้นคนไม่เย่อะรอไม่นาน
Customs เขาจะตรวจสอบเบื้องต้นตาม Customs card ที่เขาแจกบนเครื่อง (เขียนให้เรียบร้อยนะครับ) และก็จะมีคำถามทวงตามในใบนั้น และตามด้วยคำถามยอดฮิตๆ มาจากถิ่นที่มี อีโบล่าไหม ได้เดินทางไปแถวๆ อัฟริกาไหม มีไข้ไอไหม เสร็จแล้วก็เดินไปด้านหลังช่อง customs ไปทางขวามือ จะมีโต๊ะ จนท.เก็บใบ customs card สำหรับ Visitor ทั่วไปเลี้ยวซ้าย ส่วนผมจะต้องเดินตรงในห้อง NEW Comer รอคิวเรียก 
    ขณะที่ผมไปไม่มีคนรอคิวในแถวเลย มีจนท.ให้บริการ New comer อยู่ 3 ช่อง ส่วนช่องอื่นๆ ว่าง 2 ช่องที่มี จนท ประจำอยู่แต่ไม่มีผู้ใช้บริการ ผมเลยเดินเข้าไปสอบถามเขาว่าใช้บริการช่องนี้ได้ไหม  
    โดนเลยครับ เขาบอกให้รอเรียกก่อน ไม่ได้อ่านป้ายหรือ......หน้าแตกเลย อิอิอิ เห็นป้ายอยู่แต่มีช่องเคาเตอร์ว่างๆๆ นี่ เลยเดินเข้ามาสอบถามเลย  ต้องกลับมารอเรียกก่อนครับ แต่ไม่ได้ไปช่องที่ไปสอบถามมาน่ะ...จนท.เป็นผู้หญิง  Friendly มาก เขาสอบถามตามที่เวป cic เขาแนะนำครับ ผมเตรียมคำตอบไว้แล้วสบายเลยครับ  จนท.ผู้หญิงใจดีมาก ยังพาผมไปที่ห้อง Government service ที่ห้องถัดไป ซึ่งเป็นวันเสาร์และก็เย็นแล้ว จนท.กลับบ้านไปแล้ว เขาก็เลยแนะนำให้ผมไปติดต่อกับ Gov.Service ที่อยู่ใกล้ๆ บ้านเราแทน ในเรื่องเกี่ยวกับ SIN CARD และ Health card. (ถ้าวันธรรมดาคงมี จนท.ให้บริการ one stop service ที่นี้เลย)
ถัดไปจะมี จนท.ตรวจสอบ ตอนออกจากห้อง CIC อีกครั้ง ก่อนที่จะลงไปรับกระเป๋า (ซึ่งอยู่คนละชั้น) 
    รับกระเป๋าเรียบร้อยก็ต้องผ่าน Customs อีกครั้ง สำหรับคนที่ปกติ ยื่น Customs card ก็เดินผ่านออกจากสนามบินได้เลย สำหรับผม NEW COMER จะต้องเข้าห้องถัดไปด้านขวามือ รอคิวสัก 10 นาที ก็มี จนท.เรียกเขาไป เราก็ยื่นเอกสาร B4 และ B4A ตามที่เตรียมไว้ครับ เขาอ่านรายการของผมเสร็จแล้ว ก็ไม่ได้เปิดกระเป๋าตรวจแต่อย่างใด....สงสัยไม่มีของต้องห้าม และจัดทำใบ B4A ที่จะนำสิ่งของมาในครั้งหน้าให้ เป็นใบสี่เขียวๆ ว่าครั้งหน้าต้องนำใบนี้มาแสดงด้วย
จบกระบวนการ แลนดิ่งของผมครับ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 30 นาที




 

Create Date : 30 มิถุนายน 2558   
Last Update : 30 มิถุนายน 2558 20:19:46 น.   
Counter : 592 Pageviews.  


Hualien-Taroko National Park

 Juifen@ 6.00 ป้ายรถเมล์ที่หน้าสถานีตำรวจ มี 2นักเรียนรอ ด้วยอุ่นใจหน่อยมีเพื่อนรอรถเมล์

 เช่นกัน ขาลงแค่ 10 นาทีถึงป้ายลงไปสถานีรถไฟแล้ว มาถึงเร็วไปหน่อย เลยต้องเดินโต้เต่แถวสถานีและแล้วขบวน ที่ 404 Shulin→Taitung (7.11 -9.21)2h10m ราคา 364$ แต่เราจ่ายไป 335$ ลดมากกว่า 5% ถ้าเราแน่ใจในตารางการเดินทาง จองผ่านเน็ต ช่วยประหยัดได้เย่อะน่ะครับ


ruifang
สถานีรถไฟจาก Ruifang to Hualien..... 
ontheway
ระหว่างทางไปฮัวเหลี่ยง

9.21 ถึงฮัวเหลี่ยง แป๊ะ...จะไปทางโรงแรมแต่ออกผิดทาง ทำให้เสียเวลา ถามกับ จนท.รถไฟว่าจะให้ออกทางไหน เขาไปข้างหน้า...พอออกไปแล้วมันไม่ใช่ เราพลาดไปหน่อย Google มาแล้วแต่ไม่รู้ว่าทางไหนหน้า-หลังสถานี เลยไปสอบถามกับบริษัททัวร์ในสถานี ขอความช่วยเหลือ เขาให้เขา จนท.รถไฟเดินข้ามไปอีกฟ้ากหนึ่งถึงได้เจอ โรงแรม Conner House เช็คอินเรียบร้อย จ่ายตั้งเสร็จ ฝากกระเป๋าไวที่ lobby.....
cornerHouse
conner House สะอาดดีครับ มีรถจักรยานให้ปั่นฟรีรอบเมือง....

มีบริษัททัวร์ที่อยู่ด้านหลัง สถานีรถไฟ เขาแนะนำให้ซื้อ half day tour Taroko National park ใน ราคา 700$ สนใจ เลยซื้อ รถจะมารับ 11 โมง ตกลงซื้อจ่ายเงินเรียบร้อย ระหว่างที่รอรถก็ซื้ออาหารทานที่7-11หมดไป 90 (อาหาร+น้ำ 1ขวด) อีก 15 นาทีก็กลับไปที่ บริษัททัวร์ เขาแจ้งว่า ยกเลิก เพราะคนน้อยไม่สามารถ half day tour ได้..เงิบแล้วงานเข้า...ทัวร์เขาแนะนำให้อยู่ต่อหนึ่งวัน เพื่อซื้อทัวร์เต็มวันของวันรุ่งขึ้น เราไม่สามารถ Flexible ได้ คงไม่ได้ ยังไงก็ต้องไป ทาโรโกะให้ได้วันนี้ ทัวร์เขาไม่แนะนำให้ขับมอเตอร์ไซด์ สำหรับชาวต่างชาติ เนื่องจากหลงทาง....เราไม่มีใบขับขี่สากลด้วย เลยเอา scooter นี้แหล่ะ ดีน่ะครับที่ไต้หวันมีเลนจักรยานและมอเตอรไซด์ที่ชัดเจน เวลาขับรู้สึกปลอดภัย..แต่ก็ยังกล้าๆ กลัวๆ อยู่น่ะครับ จอดถามทางเขาตลอด แวะ 7-11 ตลอด เพื่อถามทาง ก็ถึงโดยปลอดภัย ทีนี้ต้องระวังเวลาขับในหุบเขา

สนุกดีครับบรรยายกาศใน ทาโระโกะ

temple

way

spanish
เขื่อนสเปนนีส

Motor

พาหนะที่ใช้ในการเดินทางครับ
swallow

swallow1

swallow2

swallow4

tannel

bridge

eyeview

redBridge
ขากลับ แบตเตอรีหมดระหว่างทาง แต่มันเหลือ 2ขีด ทำไมดับไปเลย แว่ะร้านขายของฝาก ขอความช่วยเหลือโทรให้ บริษัททัวร์ให้เขาให้ความช่วยเหลือเราเป็นอย่างดี...โชคดีที่เจ้เขาพูดภาษาอังกฤษได้ นั่งรอบริษัทเอาแบตเตอรีมาเปลี่ยนให้ 30 นาทีกลับถึงบริษัททัวร์ คืนมอเตอรไซด์ อาบน้ำเสร็จไป ฮัวเหลี่ยงไนท์มาร์เก็ตขอโครตแพง แต่ก็ลองจนได้ให้เขาเข้าแถวคิวยาว น่าจะมหัศจจรย์ ข้าวโพดปิ้ง ให้สมุนไพร 5อย่าง 80$ แม่เจ้าไม่เคยกินฟักละขนาดนี้มาก่อนเลยน่ะอิอิอิแต่ก็อร่อยของเขาจริงๆ เขาเรียกว่าเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า...ปิ้งย่างอีก เห็ด (20) เบก๊อนพันอะไรสักอย่าง (35)อะไรคล้ายๆ กับkebab( 45) ตบท้าย หมี่ผัดทะเล 80 ไม่อร่อยน่ะ.....

food




 

Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2558   
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2558 21:13:16 น.   
Counter : 1113 Pageviews.  


1  2  3  

kaeprakhon
 
Location :
Windsor, Ontario Canada

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ศิลปะ วัฒนาธรรมที่แตกต่าง,การเข้าใจบุคคล, รักธรรมชาติ, ผจญไร้พรมแดน
[Add kaeprakhon's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com