• ผู้หญิงควรรู้
• หม้อรั่ว ครัวแตก -*-
• อยากจะเป็นสาว *-*
• ++** กรุสมบัติ **++
• *-*Guestbook*-*
• **Lyric**
• **Tag Blog**

*--* ..จัดอันดับน้ำหอมยอดนิยมที่หนุ่มๆชื่นชอบ.. *--* กลิ่นน้ำหอมที่ชายหนุ่มถูกใจมีอะไรบ้าง อิอิ อยากรู้หล่ะสิ สาวๆ คำตอบมันอยู่ที่นี้แล้วค่ะ เรารวบรวมแบรนด์ต่างๆไม่จำกัดประเภท มาดุกันสิว่ากลินไหนที่เค๊าชอบและถูกใจเป็นพิเศษ เช็คดู...เผื่อจะสมหวังดังใจ อิ อิ (สอบถามจากนุ่มๆ 100 คนค่ะ) ประเภท "ทำให้อยากกอดแบบไม่รู้ตัว" อันดับ 1 Angel Heart Raspberry Pink กลิ่นหอมหวานของราสเบอร์รี่เนี่ย ผู้ชายชอบมากๆ ผสมผสานกลิ่นหวานอมเปรี้ยว และ อ่อนโยนกำลังดี อันดับ 2 Jeanne Arthes sultane Fairy Rose กลิ่นหอมที่มีเอกลักษณ์ของแบลคเบอรรี่ และกุหลาบ อันดับ 3 Yves Saint Laurent baby dall เติมความหวานด้วยกลิ่นหอมสดชื่นของเกรฟฟรุต ประเภท "กลิ่นหอมเร้าใจ" อันดับ 1 Calvin klein eternity กลิ่นหอมลึกล้ำ และมีเสน่ห็ของผู้หญิงจะดึงดูดหนุ่มๆโดยไม่รุ้ตัว อันดับ 2 Gucci ENVY me กลิ่นหอมหวาน เย้ายวน ใช้แล้วต้องวางตัวเป็นสาวหรูซ้า นี่แหละกลิ่นหอมที่จะทำให้คุณเป็นสาวเพอร์เฟ็ค อันดับ 3 Live Jenifer Lopez Fragrance เป็นกลิ่นแบบ Juicy Sexy แบบที่เจโลใช้อยู่เป็นประจำ ประเภท "อยากให้ความสำคัญไปตลอดกาล" อันดับ 1 Chantal thomass ame coquine มีกลิ่นหอมเหมือนสบู่ แต่ถึงจะกลิ่นหอมใสๆ แต่แผงไปด้วยความ Sexy อันดับ 2 Samourai Woman one love ประทับใจกับความโรแมนติก น่ารัก หอมกลิ่นดอกไม้ ผสมกับกลิ่น Fruitiy สดใส อันดับ 3 Clean เก็บความหอมสดชื่นตอนอาบน้ำติดกาย ทำให้รู้สึกว่ามีแต่กลิ่นสบู่หอมกรุ่นติดตัว ว๊าว   Create Date : 25 พฤษภาคม 2549     Last Update : 25 พฤษภาคม 2549 3:11:25 น. Counter : 1597 Pageviews.   10 comment Share Tweet

ทิปสวยจาก Bobbi brown ข้อสังเกตจากเมกอัพอาร์สติกมืออาชีพของบ็อบบี้ บราวน์ พบว่า ผู้หญิงหลาย ๆ ท่านชอบใช้ลิปสติกอยู่สีเดียว สีเดิม ๆ ไม่กล้าลองสีสันใหม่ ๆ แม้ว่าจะเปลี่ยนโทนการแต่งหน้าของตาและแก้มไปตามสีเสื้อผ้าแล้วก็ตาม แต่คุณสาว ๆ ทราบหรือไม่ว่าการเปลี่ยนสีลิปสติกนั้น เป็นการเปลี่ยนภาพรวมของการแต่งหน้า รวมไปถึงบุคลิกได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายที่สุด นอกจากนั้นการเลือกสีลิปสติกในแต่ละวัน ยังเป็นการแสดงอารมณ์ที่เรารู้สึกในขณะนั้นด้วย ลองนึกถึงวันที่คุณอยากรู้สึกเป็นสาวใสไร้เดียงสา คุณก็อยากทาลิปกลอสใสสีชมพู ส่วนวันที่รู้สึกเข้มขรึมเป็นสาวมั่นก็อยากทาลิปสีแดงกล่ำอย่างสี Wine ดูสิคะ 9 Tips ที่จะแนะนำต่อไปนี้ จะทำให้คุณสาว ๆ มีริมฝีปากที่สวยสมบูรณ์แบบ ด้วยเกร็ดความรู้ที่ทีมช่างแต่งหน้า บ็อบบี้ บราวน์ นำมาฝากกันค่ะ เลือกสีโปรดที่เป็นตัวคุณ :: ผู้หญิงเราควรรู้จักวิธี การเลือกลิปสติกที่เป็นตัวคุณที่สุด ไว้อย่างน้อยหนึ่งแท่ง ลิปสีนี้ จะเป็นสีที่ช่วยชีวิตคุณได้เสมอ สามารถทาเดี่ยว ๆ บนหน้าเปลือย ๆ ได้แม้ไม่มีกระจกให้ส่อง แล้วเนรมิตความมีชีวิตชีวาให้กับคุณได้ทันที เป็นลิปสีที่คุณควรมีติดกระเป๋าถือไว้ตลอดเวลา ทาแล้วสอดคล้องกับทุกโอกาส ไม่ว่าการไปงานกลางคืน หรือวันเสาร์อาทิตย์ ที่คุณไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ ลิปสีนี้เวลาเลือกให้ดูสีผิวพรรณเป็นหลัก ตามด้วยสีของริมฝีปากตามธรรมชาติ รวมทั้งเสื้อผ้า และบุคลิกคุณด้วย เช่นถ้าคุณเป็นคนผิวขาวชมพู ริมฝีปากสีชมพู ก็ควรเลือกสีลิปในโทนชมพูที่ตรงกับสีปากของคุณ ถ้าคุณเป็นคนผิวคล้ำ แต่ออกดำแดง ก็ลองเป็นสีแดงส้มก็ได้ ที่สำคัญต้องไปลองให้เห็นจริงก่อนตัดสินใจซื้อ ช่างแต่งหน้าผู้เชี่ยวชาญก็จะช่วยให้คำแนะนำคุณได้ค่ะ วิธีเลือกให้เหมาะสมก็คือ สีปากควรอยู่ในโทนเดียวกับสีแก้ม แก้มโทนชมพู สามารถเลือกลิปสีต่อไปนี้ Wine, Plum Berry, Rose Berry ส่วนแก้มโทนส้ม ให้เลือกลิปสีส้มน้ำตาล เช่น Mango, Salmon, Biege เปลี่ยน look ง่าย ๆ เพียงสีลิปที่เปลี่ยนไป :: บางครั้งหลังเลิกงาน คุณก็ได้รับบัตรเชิญไปงานสังสรรค์ ที่คุณไม่ได้เตรียมตัวมาล่วงหน้า จะกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านรึ ก็เวลาไม่อำนวย ทางที่ดีคุณควรมีลิปสติกสีโทนเดิม กับที่คุณทาไว้เมื่อกลางวันแต่เข้มขึ้น เช่นหากปกติใช้สี Nude อยู่เป็นประจำ ก็ลองเติมสี Plum Berry สำหรับไปงานกลางคืน จากเดิมที่คุณดูเป็นสาวมั่นทำงาน ก็เปลี่ยนไปเป็นสาวเซ็กซี่ยามราตรีได้ไม่ยากเลย Texture ที่แตกต่าง :: สังเกตไหมว่า ลิปสติกสีเดียวกันแท้ ๆ แต่กลับมีผิวสัมผัสที่แตกต่าง ซึ่งลักษณะการใช้และผลที่ได้ก็ต่างกันด้วย Lip Color - คือลิปเนื้อครีม เนื้อสีเข้มข้นมีความทึบแสง เนื้อแมท สามารถใช้ได้แทบทุกโอกาส จะเหมาะมากถ้าคุณทาตาแบบแวววาวเนื้อมุก Lip Shimmer - คือลิปที่มีส่วนผสมของความระยิบระยับเนื้อมุก เหมาะสำหรับวันที่คุณแต่งดวงตาแบบแมท จำไว้ว่าถ้ารักจะทาชิมเมอร์แล้ว ขอให้เลือกเพียงสิ่งใดสิ่งหนึ่งบนใบหน้าที่ส่งประกายระยิบ อย่าให้แข่งกันเด่นจนเป็นกากเพชรโรยกลีบกระทง Lip Gloss - เป็นลิปชนิดเหลว เนื้อโปร่งแสง อาจมีแบบเพิ่มประกายมุก หรือไม่มีก็ได้ จะทาบนปากได้โดยตรงหรือทาทับลิปสีอื่นก็ได้ เพื่อเพิ่มความแวววาวดูริมฝีปากอวบอิ่มมีมิติ Lip Tint - เป็นลิปชนิดเหลวคล้าย ๆ ลิปกลอสแต่ความหนืดจะน้อยกว่า ใช้แตะริมฝีปากพอให้เห็นสีบาง ๆ และยังเห็นพื้นผิวของริมฝีปากอยู่ จึงดูเหมือนเป็นสีสดใสของปากอย่างเป็นธรรมชาติจริง ๆ การใช้แปรง :: ทำไมหนอ ต้องมีแปรงทาปากทั้ง ๆ ที่ทาถูกับแท่งก็ง่ายดี คำตอบอยู่ที่นี่ ... แปรงหรือพู่กันทาปากนั้น มีประโยชน์ทำให้ตัดเส้นขอบปากได้คม ชัดเจน สามารถควบคุมปริมาณเนื้อลิปสติกได้แม่นยำ ไม่หนาเขรอะ หรือบางเกินไป ช่วยให้ทาได้เรียบสนิท ลงแทรกในร่องเล็ก ๆ ของผิวริมฝีปากได้ดี และยังเป็นการรักษาความสะอาดของแท่งลิปสติกให้ยืดอายุการใช้งานได้ดีขึ้น ไม่เสียเร็ว รู้อย่างนี้แล้วก็ควรหาแปรงทาลิปดี ๆ ไว้ใช้สักอัน.. การใช้ดินสอเขียนขอบปาก :: Lip Liner หรือดินสอเขียนขอบปาก ก็มีประโยชน์ให้คุณ สามารถปรับรูปร่างของริมฝีปากได้เล็กน้อย แต่อย่ามากไปจนผิดธรรมชาติ เช่นคนที่ริมฝีปากบาง ก็สามารถเขียนขอบให้เกินปากจริงได้เล็กน้อย ก็จะดูริมฝีปากอวบอิ่มขึ้น ดินสอเขียนขอบปากนั้น ถ้าเขียนก่อนที่จะลงสีลิปสติกตรงกลาง ก็จะติดทนนาน แต่มีข้อเสียคือดูแข็งกระด้างไม่เป็นธรรมชาติ บางท่านจึงนิยมระบายสีปากให้ทั่วก่อน แล้วจึงเขียนเส้นทีหลัง นอกจากจะดูกลมกลืนเป็นธรรมชาติแล้ว ยังช่วยเป็นการเขียนที่ง่ายมากด้วย เพราะเราจะรู้ว่าควรเขียนลงไปตรงไหน ต่างจากการเขียนขอบก่อนระบายซึ่งถ้าไม่ชำนาญจริง ๆ ก็จะหาแนวเส้นที่เหมาะสมไม่เจอ ลิปกลอส :: มีประโยชน์คือช่วยเพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก กลบริ้วรอยร่องปาก ถ้าเลือกสีอ่อน ๆ เช่น White ก็สามารถทาทับลิปสติกลดความจัดจ้านของสีได้ ในทางกลับกัน ถ้าเลือกสีสดใสอย่าง Tangerine ทาทับลงไปก็ทำให้ลิปสีเดิมดูสดใสขึ้น ลิปสีที่ไม่กล้าใช้ :: บางทีซื้อมาตอนทาลองที่หน้าร้านก็สวยดี แต่พอซื้อกลับมาบ้านกลับทำใจทาออกนอกบ้านไม่ได้ คุณเคยมีประสบการณ์แบบนี้กับลิปสติกหรือเปล่า วิธีแก้ปัญหาก็คือ ลองทาผสมกับสีอื่น ๆ ที่มีอยู่ หรือทาทับด้วยลิปกลอสก็ทำให้สีลิปสติกที่จัดจ้านดูอ่อนลง ใช้งานได้จริงมากขึ้น ดื่มน้ำอย่างไร ลิปสติกไม่เลอะปากแก้ว ? เสียความมั่นใจแค่ไหนถ้าเวลาจิบกาแฟในห้องประชุมแล้ว คุณก็ทำขอบแก้วเลอะเทอะเป็นสีแดงไปหมด วิธีป้องกันก็คือ ควรทาลิปเนื้อแมท ไม่ทากลอสเยอะไป ก่อนจิบน้ำหรือกาแฟแก้วแรกให้แตะริมฝีปากด้วยน้ำก่อน พอริมฝีปากเปียกนิด ๆ ความชุ่มชื้นจะเป็นตัวยึดให้เนื้อลิปสติกติดแนบกับผิวริมฝีปากดีขึ้น ไม่หลุดติดไปกับแก้วง่าย ๆ ลองดูว่าได้ผลไหม แล้วอย่าลืมบอกต่อค่ะ ...   Create Date : 23 พฤษภาคม 2549     Last Update : 23 พฤษภาคม 2549 21:55:20 น. Counter : 714 Pageviews.   2 comment Share Tweet

**เทคนิคผมสวย สูตรโบราณ!!** หลักการความสวยของผมและผิวก็คือจะต้องรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และมีจิตใจที่เบิกบานแจ่มใส สุขภาพที่ดีก็จะเปล่งประกายออกมาทางผิวที่เนียเกลี้ยงเกลา และผมที่เป็นประกายเงางาม สระล้างและบำรุง วิธีการทำความสะอาดและบำรุงเส้นผมที่มีมานานกว่าร้อยปีที่เป็นที่รู้จักกันดี คือการใช้น้ำมันคาเมลเลีย (Camellia) สาหร่าย ไข่ รำข้าว เป็นต้น โดยากรนำขิงหรือน้ำส้มสายชูจากข้าวมาเป็นส่วนผสมในการสระล้างผม จากนั้นจัดแต่งทรงผมด้วยน้ำมันหอมและขี้ผึ้งหอม หรือน้ำคั้นจากพืชพรรณธรรมชาติ และบางครั้งอาจอบผมให้มีกลิ่นหอมจรุงใจด้วย ดูๆแล้วแต่เดิมนั้นผู้หญิงคงต้องมีเวลามากพอสมควรในการดูแลบำรุงผมด้วยตนเอง ซึ่งต่างไปจากผู้หญิงในยุคปัจจุบันที่มีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเส้นผมและบำรุงผมสูตรสำเร็จ และหากคุณชอบดูแลผมสไตล์ธรรมชาติแต่ไม่มีเวลา ลองมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมสกัดมาจากธรรมชาติ เช่น เดอะ บอดี้ ช็อป หรือ ~H2O อาหารที่ถูกหลักอนามัย เส้นผมจะนุ่มสลวยดุจใยไหมก็ขึ้นอยู่กับอาหารที่คุณรับประทาน อาหารที่ช่วยให้มีผมสวยอย่างใจคือ ข้าวไม่ขัดสี ปลา ไข่ สาหร่าย ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง และธัญพืชต่างๆ ซึ่งเป็นอาหารที่มีวิตามินบีค่อนข้างสูง อุดมด้วยโปรตีน วิตามิน และเกลือแร่ต่างๆที่จำเป็นแก่ผมสวย เช่น กำมะถัน เหล็ก สังกะสี การสระผมสไตล์เอเชียตะวันออก 1. ก่อนการอาบน้ำ ให้ใช้น้ำอุ่นๆชะโลมผมให้เปียก แล้วจึงใช้ยาสระผมด้วยการขยี้ให้เป็นฟองก่อน 2. นวดหนังศรีษะให้ทั่วเป็นเวลา 5 นาที 3. การทำความสะอาดเส้นผมให้ทั่วถึงและช่วยให้เส้นผมนุ่มสลวยคือการใช้ฟองแชมพูทำความสะอาดเส้นผมให้ทั่วศรีษะอย่างอ่อนโยน การล้าง ก้มศรีษะลงแล้วชะล้างแชมพูออกด้วยน้ำอุ่นผสมน้ำเย็นจนแน่ใจว่าชะล้างแชมพูออกหมด สูตรแชมพูสระผมญี่ปุ่น แชมพูสาหร่าย สำหรับทำความสะอาดเส้นผมช่วยให้เส้นผมสลวยเป็นประกายและดูหนา สูตร สาหร่ายบดแห้ง 1 ช้อนชา ผสมกับน้ำ 180 มิลลิกรัม คนให้เข้ากันจนเป็นครีมข้น ทำให้ผมเปียกชุ่ม จากนั้นนำครีมสาหร่ายที่เตรียมไว้ลูบเส้นผมและหนังศรีษะแล้วนวดให้ทั่ว สุดท้ายล้างออก ข้อแนะนำ หากหมักทิ้งไว้นานประมาณ 20 นาที จะเป็นอาหารบำรุงเลี้ยงเส้นผมได้ด้วย แชมพูรำข้าว เป็นสูตรธรรมชาติอีกอย่างหนึ่งประเภท Two-in-one ช่วยทำความสะอาดเส้นผมและช่วยให้เส้นผมเปล่งประกายเงางาม สูตร รำข้าวหนึ่งกำมือใส่ในถุงผ้าฝ้าย แล้วแช่ในน้ำอุ่นให้อ่อนนุ่ม จากนั้นนำมานวดเส้นผมและหนังศรีษะ ข้อสำคัญต้องให้ถุงผ้าฝ้ายเปียกชื้นอยู่เสมอ สุดท้ายล้างอกด้วยน้ำค่ะ   Create Date : 23 พฤษภาคม 2549     Last Update : 23 พฤษภาคม 2549 21:07:28 น. Counter : 401 Pageviews.   1 comment Share Tweet

พรมน้ำหอม...อย่างถูกวิธี สาวๆชอบน้ำหอมกลิ่นไหนกันค่ะ ส่วนตัวอ๊อบแอ๊บนั้นชอบ Lancome Miracle so magic ที่สุดเลยค่ะ กลิ่นไม่หวานเกินไป และไม่เปรี้ยวมากไป เคล็ดลับในการพรมน้ำหอมอย่างถูกวิธีก็ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มความมั่นใจให้แก่ตัวคุณได้อย่างดีทีเดียว เคล็ดลับในการพรมน้ำหอมนั้น คุณสามารถใส่น้ำหอมได้หลายแบบ ถ้าคุณต้องการพรมน้ำหอมให้มีกลิ่นบาง ๆ ดูสบาย ๆ ก็สามารถทาโลชั่นหรือครีมทาผิวของ กลิ่นน้ำหอมที่คุณชื่นชอบ แต่ถ้าต้องการกลิ่นที่ติดทนนาน ก็ควรที่จะใช้ โอ เดอ เพอร์ฟูม หลังจากทาครีมทาผิวแล้ว จุดสำคัญสำหรับการพรมน้ำหอมคือ บริเวณลำคอ แขน และด้านหลังหัวเข่า กลิ่นหอมมักจะลอยตัวขึ้นด้านบน ดังนั้นการพรมน้ำหอมที่ด้านหลังหัวเข่า จะส่งผลให้เกิดความหอมทั่วเรือนร่างได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้การฉีดน้ำหอมไปในอากาศด้านหน้าและเดินผ่านละอองน้ำหอมก็จะทำให้ละอองน้ำหอมติดอยู่บนเส้นผมของคุณอีกด้วย ส่วนระยะห่างในการฉีดน้ำหอมตามจุดสำคัญต่าง ๆ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น ควรจะฉีดน้ำหอมให้ห่างจากตัวคุณประมาณ 6 นิ้ว การเติมน้ำหอมในระหว่างวันนั้นขึ้นอยู่กับความเข้มข้นและลักษณะของน้ำหอมแต่ละชนิด น้ำหอมที่สกัดมาจากพรรณไม้ตะวันออก ดังเช่นกลิ่นโอเรียนทอลและวูดดี้ มักจะติดทนนานกว่ากลิ่นที่สกัดมาจากดอกไม้หรือผลไม้ น้ำหอมประเภท โอ เดอ เพอร์ฟูม ก็มักจะมีกลิ่นหอม เข้มข้นกว่าโคโลญจน์ เป็นต้น ตามปกติแล้วกลิ่นของน้ำหอมจะติดทนนานประมาณ 4-6 ชั่วโมง หลังจากนั้นคุณก็จะสามารถพรมน้ำหอมได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม คุณไม่ควรที่จะฉีดน้ำหอมมากเกินไป เพราะกลิ่นจะฉุนจัดและไม่สร้างความประทับใจให้กับคนรอบข้างเอาเสียเลย หากคุณต้องการกลิ่นหอมแบบติดลึก แต่บางเบา ควรจะทาโลชั่นหรือครีมบำรุงผิวของกลิ่นน้ำหอมนั้นก่อนและจึงตามด้วยการพรมน้ำหอม ซึ่งสามารถทำให้กลิ่นหอมติดทนนาน และเป็นที่ประทับใจสำหรับตัวคุณและคนรอบข้างด้วย การลองกลิ่นน้ำหอมก่อนเลือกซื้อนั้น คุณไม่ควรลองกลิ่นน้ำหอมเกิน 3 ครั้งติดต่อกัน เพราะจะทำให้จมูกของคุณสับสนและแยกแยะกลิ่นไม่ชัดเจน และไม่ทราบกลิ่นที่แท้จริงของน้ำหอมที่คุณลอง แต่ถ้าจำเป็นต้องลองหลายกลิ่นจริง ๆ คุณสามารถหยุดการทดลองสักพักหนึ่ง โดยการออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ในบริเวณอื่นที่ไม่มีกลิ่นน้ำหอม แล้วค่อยกลับมาลองกลิ่นใหม่ ที่สำคัญก่อนลองน้ำหอมกลิ่นใหม่ ต้องให้แน่ใจเสียก่อนว่าไม่มีน้ำหอมหรือครีมทาผิวอื่น ๆ ติดตัวทั้งสิ้น เพราะจะทำให้ได้กลิ่นแท้จริง ของน้ำหอมที่ลอง อายุของน้ำหอมขึ้นอยู่กับประเภทของน้ำหอมนั้น ๆ น้ำหอมแต่ละกลิ่นก็จะมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกัน วิธีที่ดีที่สุดที่ทำให้น้ำหอมสามารถใช้ได้นานที่สุด คือหลีกเลี่ยง แสงแดดและความร้อน เคล็ดลับเหล่านี้สามารถช่วยเพิ่มเสน่ห์จากการพรมน้ำหอมในกลิ่นที่คุณชื่นชอบได้มากทีเดียวค่ะ   Create Date : 23 พฤษภาคม 2549     Last Update : 23 พฤษภาคม 2549 4:44:16 น. Counter : 508 Pageviews.   7 comment Share Tweet

เล็บ สาวๆไม่ควรมองข้ามนะค่ะ หนุ่มๆ มักจะชอบมองมือของสาวๆนะค่ะ เพราะฉะนั้นไม่ควรมองข้ามเลยหล่ะค่ะ มาเริ่มดูแลกันเลยดีกว่าค่ะ ครบเครื่องเรื่องดูแลเล็บ เล็บเป็นอวัยวะเล็กๆที่สำคัญ ที่สามารถบ่งบอกสุขภาพ และบุคลิกภาพได้ การดูแลเล็บอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธีจึงช่วยให้เล็บเสื่อมสภาพช้าลง ลดปัญหาและการเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ รอบรู้เรื่องดูแลเล็บ การล้างทำความสะอาดเล็บ ควรล้างมือและเล็บด้วยน้ำสบู่อุ่นๆ ใช้แปรงนุ่มๆ ขัดตามซอกเล็บเบาๆ และล้างออกด้วยน้ำสะอาด ชโลมด้วยครีมบำรุง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับมือและเล็บ การตัดเล็บมือที่ถูกต้อง ควรตัดให้มีความโค้งมนไปตามนิ้วมือ ส่วนเล็บเท้านั้น พยายามตัดให้เป็นเส้นตรงมากที่สุดเพื่อลดการสะสมของความสกปรกตามซอกเล็บและโอกาสเกิดเล็บขบ ไม่ควรตัดสั้นจนชิดเนื้อมากเกินไป และไม่ควรใช้วัสดุใดๆ แงะงัดขอบเล็บ จมูกเล็บ เพราะอาจเกิดบาดแผลและการอักเสบได้ เวลาที่เหมาะสมที่สุดในการตัดเล็บ คือหลังจากอาบน้ำ หรือล้างจาน เพราะเล็บจะมีความอ่อนนุ่ม ทำให้ง่ายต่อการตัดแต่ง แต่ถ้าหากไม่รอหลังอาบน้ำให้แช่เล็บในน้ำอุ่น สัก 5 นาทีก่อนตัดเล็บ ตะไบเล็บให้สวย ถ้าหากใช้ตะไบเล็บที่ทำจากเหล็ก ควรตะไบเล็บไปในทิศทางเดียว ไม่ควรถูกลับไปกลับมา เพราะจะทำให้เล็บเป็นเสี้ยนคมหรือฉีก แต่ถ้าใช้ตะไบเล็บที่ทำจากเซรามิคสามารถตะไบสวนทางกันได้ นอกจากนี้ การตะไบเล็บควรตะไบจากขอบเล็บเข้าหาปลายเล็บเสมอ การขูดผิวเล็บเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวทำให้เล็บเงางามขึ้น ผิวเล็บเรียบ และดูมีสุขภาพดีขึ้น โดยใช้อุปกรณ์ขูดลอกหน้าเล็บ ดันจากปลายเล็บเข้าหาโคนเล็บ หลังจากนั้น ใช้แผ่นขัดเล็บ ซึ่งคล้ายกระดาษทราย ขัดหน้าเล็บเบา เพื่อให้ผิวหน้าเล็บเรียบสม่ำเสมอ แล้วใช้แผ่นขัดทำความสะอาดเล็บ ถูเบาๆ เพื่อให้ฝุ่นและเศษเล็บที่มองไม่เห็นหลุดออกไป จากนั้นใช้แผ่นขัดเงาซึ่งมีเจลาตินเคลือบอยู่ ขัดถูบนหน้าเล็บเบาๆ ก็จะได้เล็บที่เงางามดูมีสุขภาพดี การขัดเงาเล็บแต่ละครั้งจะอยู่ได้ประมาณ 2 สัปดาห์ สีที่ใช้ในการทาเล็บ ควรเป็นสีทาเล็บที่มีคุณภาพ และช่วยถนอมเล็บด้วย ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ทาเล็บชนิดแห้งเร็วที่มีส่วนผสมของ อะซิโตน (acetone) เพราะจะดึงความชุ่มชื้นไปจากเล็บของเรา ทำให้เล็บแห้งและลอกหลุดได้ง่าย ก่อนทาเล็บทุกครั้ง ควรใช้น้ำยาเคลือบเล็บชนิดใสทาก่อนที่จะลงสี จะช่วยไม่ให้เล็บเสียความชุ่มชื่น และลดการสัมผัสกับสีทาเล็บโดยตรง ซึ่งอาจทำให้เล็บเหลืองได้ง่าย หลังจากนั้นเคลือบทับด้วยน้ำยาชนิดใสอีกครั้ง ก็จะช่วยให้สีทาเล็บติดทนนานยิ่งขึ้น การเปลี่ยนสีเล็บบ่อยๆ มากกว่าหนึ่งครั้งต่อ สัปดาห์ ทำให้เราต้องล้างเล็บมากขึ้น และน้ำยาล้างทำความสะอาดเล็บนี่เองจะเป็นตัวกัดหน้าเล็บของเราให้กร่อน เป็นหลุมเป็นขุยได้เหมือนกัน นอกจากนี้ควรมีเวลาให้เล็บได้ว่างเว้นจากการทาสี เพราะนอกจากเล็บจะได้พักหรือฟื้นสภาพที่เสียไปแล้ว ยังเป็นโอกาสให้เราได้สังเกตความผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเล็บอีกด้วย การต่อเล็บ หรือการตกแต่งประดับเล็บนั้น ควรทำโดยผู้ที่มีความรู้ความชำนาญ และต้องใช้อุปกรณ์ที่สะอาด และมีคุณภาพ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดการแพ้หรือการสะสมของเชื้อโรค หากชื่นชอบการต่อเล็บและตกแต่งเล็บด้วยเครื่องประดับ ต้องหมั่นสังเกตดูว่า เล็บเกิดมีจุดดำ หรือเปลี่ยนสี หรือผิดรูปหรือเปล่า รับมือปัญหากวนใจเรื่องเล็บ หนังกำพร้ารอบๆ เล็บ หนังรอบๆ เล็บที่ฉีก หรือด้าน แช่มือในน้ำอุ่นสักครู่แล้วชโลมด้วยวาสลีนหรือโลชั่น ใช้เครื่องมือสำหรับดันหนังที่มีลักษณะป้าน หรือใช้ขอบผ้าเช็ดตัวนุ่มๆ ดันหนังส่วนเกินออกไปรอบๆ หลังจากนั้นใช้กรรไกรสำหรับตัดหนังตัดเล็มหนังส่วนเกินออกระวังการตัดลึกจนเกินไป เพราะอาจเป็นทางเปิดให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายและเกิดการอักเสบได้ เมื่อเกิดเล็บขบไม่ควรนำของแหลมคม ไปแงะบริเวณที่เกิดอาการ หมั่นรักษาความสะอาด อาจใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ เช็ดรอบๆ และอาจใช้สำลีสะอาดชิ้นเล็กๆ ไปดันไว้ระหว่างเล็บกับผิวหนังเพื่อไม่ให้เล็บนั้นทิ่มเข้าไปในเนื้อจนเกิดแผล แต่ถ้าหากเกิดการบวมและมีหนองมาก ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการเจาะระบายหนองออก เมื่อหายจากเล็บขบแล้ว หันมาเลือกรองเท้าที่สวมใส่สบายและตัดเล็บให้ถูกวิธีด้วยนะคะ ถ้าเล็บเหลืองจากการทาสีเล็บ รักษาได้โดยลูกมะนาวผ่าครึ่งมาถูบนเล็บที่เหลืองบ่อยๆ แล้วชโลมด้วยครีมบำรุง อีกวิธีหนึ่งให้นำน้ำอุ่นผสมน้ำมะขามเปียกพอประมาณ มาแช่เล็บมือเล็บเท้าสักสิบนาทีแล้วล้างออก วิธีสุดท้าย ใช้สำลีชุบน้ำส้มสายชูที่หมักจากแอปเปิ้ล มาวางแปะไว้บนผิวเล็บ สักหนึ่งนาที ก็จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องเล็บเหลืองได้ เลือกใช้อุปกรณ์เกี่ยวกับเล็บให้เป็น 1. กรรไกรตัดเล็บ หรือมีดตัดเล็บ แบ่งเป็นสามประเภทใหญ่ๆ คือ - แบบคลิปเปอร์ คืออุปกรณ์ตัดเล็บที่เราคุ้นเคยกันดีที่สุด และใช้บ่อยที่สุด ความโค้งของปากตัดมีน้อย เหมาะสำหรับการตัดเล็บให้สั้น ไม่เหมาะสำหรับการแต่งเล็บที่มีความยาว หลังการตัดจะก่อให้เกิดความคมของเล็บทำให้ต้องตะไบซ้ำ - แบบคีม เหมาะหรับการตัดเล็บที่มีความแข็งมาก และปลายแหลมของคีมช่วยให้การตัดเข้าซอกเข้ามุมทำได้ง่าย และต้องตะไบตามเช่นกัน อายุการใช้งานจะนานกว่า และเมื่อหมดคมก็สามารถนำไปลับคมกลับมาใช้อีกได้ - แบบกรรไกร ปลายกรรไกรจะโค้งเล็กน้อย เหมาะสำหรับการตัดแต่งเล็บให้เป็นรูปทรงต่างๆ เพื่อความงามมากที่สุด เพราะไม่ก่อให้เกิดเสี้ยนเล็บไม่ต้องตะไบตาม ไม่เหมาะสำหรับการตัดเล็บแข็ง และสามารถลับคมได้เมื่อคมหมดไป 2. อุปกรณ์สำหรับตัดหนัง มีสองประเภท คือ - แบบคีม เหมาะกับการตัดหนังตามซอกเล็บมากกว่า เพราะจะง่ายต่อการใช้งาน - แบบกรรไกร ใช้เล็มหนังที่ไม่อยู่ตามซอกเล็บ และการใช้งานกรรไกรตัดหนังนั้น ต้องให้ปลายกรรไกรด้านโค้งหันออกจากหนังที่ตัดเสมอ 3. ตะไบเล็บ มีให้เลือก 2 แบบคือ - แบบโลหะ ข้อดีคือราคาถูกกว่าแต่อายุการใช้งานสั้น หาซื้อง่ายและใช้กันทั่วไป การตะไบด้วยตะไบโลหะนั้นต้องตะไบไปในทิศทางเดียว ไม่เช่นนั้นเล็บจะเกิดเสี้ยนคม - แบบเซรามิค มีราคาแพงกว่า อายุการใช้งานยาวกว่า และสามารถตะไบเล็บสวนทางกลับไปมาได้ แต่ต้องใช้อย่างระวังไม่ให้หล่นบ่อยๆ เพราะจะแตกเสียหาย 4. อุปกรณ์แคะเล็บ (nail cleaner) มีลักษณะปลายแหลมแต่ไม่คม และมีความโค้งเป็นหลังเต่าใช้สำหรับแคะสิ่งสกปรกออกจากใต้เล็บ หรือซอกเล็บ นอกจากนี้ยังใช้ดันหนังรอบเล็บได้ด้วย 5. อุปกรณ์สำหรับขูดผิวเล็บ (nail scraper) มีลักษณะแบน และปลายมน ไว้สำหรับขูดเบาๆ บนหน้าเล็บ เพื่อทำความสะอาด กำจัดขี้ไคลเล็บ และช่วยให้ผิวเล็บเรียบขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการผลัดเซลล์ผิวหน้าเล็บอีกด้วย 6. nail knife เป็นอุปกรณ์ที่มีปลายเหมือนมีดขนาดเล็กมีสองแบบ - แบบมีดทั่วไป ไว้สำหรับกรีดตัดหนังส่วนเกินที่อยู่ติดกับเนื้อเล็บ แต่ความคมของมีดนี้ไม่สามารถก่อให้เกิดบาดแผลในระหว่างการใช้งานได้ - แบบที่สอง เป็นรูปตัววีคว่ำ ความคมจะอยู่ขอบด้านในของตัววี ไว้สำหรับตัดขูดหนังข้างเล็บ โดยให้มุมของตัววีแนบไปกับขอบเล็บดันจากโคนเล็บออกไปหาปลายเล็บเบา ห้ามสวนทางเป็นอันขาดเพราะจะทำให้เกิดแผลปากฉลามขึ้นได้ 7. แผ่นขัดเงาเล็บ ในหนึ่งแผ่นจะมีสามส่วน คือ ส่วนขัดหยาบ ทำให้ผิวหน้าเล็บเรียบสม่ำเสมอ ส่วนที่สองใช้ขัดเพื่อปัดเศษสิ่งสกปรกออกจากเล็บ ส่วนที่สามคือส่วนที่ใช้ขัดเงาเล็บ ส่วนนี้จะมีเจลาตินเคลือบอยู่ เมื่อถูเบาๆ บนเล็บจะทำให้เจลาตินนั้นเคลือบผิวหน้าเล็บให้เงางาม หลังใช้งานอุปกรณ์เกี่ยวกับเล็บแล้วอย่าลืมทำความสะอาดทุกครั้งนะคะ อุปกรณ์ที่เป็นโลหะ ก็ล้างทำความสะอาดด้วยน้ำสบู่ เช็ดและผึ่งให้แห้ง ถ้ามีข้อต่อก็หยอดน้ำมันเสียหน่อย กันฝืดและกันสนิม นอกจากนี้ควรรับประทานอาหารที่บำรุงเล็บอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอาหารที่มีโปรตีน วิตามิน ธาตุเหล็กและสังกะสีมาก เช่น เนื้อแดง อาหารทะเล ผักใบเขียว ผลไม้ มันฝรั่ง และถั่วเมล็ดแห้ง และที่สำคัญขาดไม่ได้ก็คือ น้ำสะอาดนั่นเองค่ะ เพราะน้ำทำให้เซลล์ผิวหนังชุ่มชื้น เพียงเท่านี้เล็บแสนงามก็จะอยู่กับเราไปอีกนานค่ะ   Create Date : 23 พฤษภาคม 2549     Last Update : 23 พฤษภาคม 2549 4:30:49 น. Counter : 548 Pageviews.   4 comment Share Tweet

• CaFe NEs
• รำเพย
• ป้ามด
• Jeban
• เทเลทับขี้
• หนุ่ม No.7
• BloodyHell
• สมันน้อย เบอร์ 14
• แมวเหมียวพุงกาง
• Mrs.Wright
• จ้อย..ยย
• Invisible Guy
• ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน
• เดอะ กั้ง
• ds30482
• n_nicky
• vodca
• RubisMonaco
• MakeUpGuru83
• คุณเทอร์
• Phychexxx
• kurapik
• ลักกี้
• Accountant_Girl
• ดอกแก้วสีขาว
• nong_htm64
• dryice
• คุณหนูพีพี
• mrsdevil
• แป้งเปียกรสแซ่บ
• Webmaster - BlogGang

• หลังไมค์ถึงอ๊อบแอ๊บค่ะ
• BlogGang.com