*** พื้นที่ส่วนตัวของ พันตำรวจเอก ดร. ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ รองผู้บังคับการกองคดีอาญา สำนักงานกฎหมายและคดี นี้ จัดทำขึ้นเพื่อยืนหยัดในหลักการที่ว่า คนเรานั้นจะมีความเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ได้ ก็ต่อเมื่อมีเสรีภาพในการแสดงความคิดโดยบริบูรณ์ และความเชื่อที่ว่าคนเราเกิดมาเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ไม่มีอำนาจใดจะพรากความเป็นมนุษย์ไปจากเราได้ ไม่ว่่าด้วยวิธีการใด ๆ และอำนาจผู้ใด ***
*** We hold these truths to be self-evident, that all men are created equal, that they are endowed by their Creator with certain unalienable rights, that among these are life, liberty and the pursuit of happiness. That to secure these rights, governments are instituted among men, deriving their just powers from the consent of the governed. That whenever any form of government becomes destructive to these ends, it is the right of the people to alter or to abolish it, and to institute new government, laying its foundation on such principles and organizing its powers in such form, as to them shall seem most likely to effect their safety and happiness. [Adopted in Congress 4 July 1776] ***
Group Blog
 
All Blogs
 

ไปเที่ยวอังกฤษ : Middle Temple & Palace of Westminster กันครับ


โรงอาหารใน Middle Temple ที่ฝึกอบรมนักกฎหมายของอังกฤษ


ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นึกศึกษาในหลักสูตร International Comparative Intellectual Property Law ที่ U of Oxford ได้มีโอกาสไปดูงาน และทัศนศึกษา สองสามแห่งคือ Middle Temple กับ Royal Court of Justice และ Palace of Westminster หรือ รัฐสภา ของอังกฤษครับ


ประตูทางเข้ายังอาหารและห้องทำงานอื่น ๆ ใน Middle Temple



พวกเราไปดูงานที่ Middle Temple มา เมื่อวันที่ ๒๗ ก.ค. ๕๐ ที่ผ่านมา สถานที่สำคัญอย่างไร ก็ไม่มีอะไรมาก ไม่ได้สวยงาม เลิศเลอ อะไรมากหรอครับ แต่ที่นี่มีโบสถ์ ที่เขาบอกว่า เป็นที่ซ่อนของจอกอันศักดิ์สิทธิ์ ของเยซู ซึ่งสร้างกันมาตั้งแต่ ต้น ค.ศ. ที่ ๑๐ มังครับ ภายในแปลกมาก ที่นั่งของคนมาโบสถ์ แบ่งเป็นสองฝาก หันหน้าเข้าหากัน ..... เขาว่า สร้างเป็นที่ระลึกของการต่อสู้ห้ำหั่นกันระหว่างชาวอังกฤษ เหนือใต้ในอดีต เพื่อเป็นสัญลักษณ์และบอกว่า สงครามไม่ดี


ลักษณะภายนอก โรงอาหาร Middle Temple
ได้รับการบูรณะหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง โดยสหรัฐฯ



ใกล้ ๆ กับ Middle Temple มีโรงอาหาร .... เอ่อ โรงอาหารนี้สำคัญนักครับ โดยเฉพาะนักกฎหมายของอังกฤษ ก่อนจะเป็นนักกฎหมายได้ จะต้องมานั่งกินอาหาร และเรียนรู้ประสบการณ์ จากผู้พิพากษา อาจารย์ทางกฎหมาย ทนายความ ฯลฯ จนครบ ๑๒ ครั้ง โดยจะจ่ายค่าอาหารไม่มากนัก ซึ่งประเพณีนี้ ยังใช้กันอยู่ถึงปัจจุบันนะครับ ๖๐๐ ปีแล้วมั๊งครับ ผมซัดไปเต็มคราบเลย เพราะว่ามันรวมอยู่ในค่าเรียนแล้ว ...


ด้านหน้า Royal Court of Justice



ในวันเดียวกัน บ่าย ๆ พวกเราไปดูงานที่ Royal Court of Justice ซึ่งเป็นศาลอุทธรณ์ แห่งอังกฤษครับ ลองมาจาก House of Lord สถานที่ใหญ่โตมาก เพราะมี ๘ แผนกศาล รวมอยู่ในที่ตั้งเดียวกัน และมีบัลลังก์ ๗๖ ห้อง เพื่อทำการไต่สวนและพิจารณา


Royal Court of Justice



หลังจากดูงานเสร็จ ก็กลับไปที่จอดรถของเพื่อนชาวอเมริกันที่มาเรียนด้วยกัน ปรากฎว่า รถของแฟนเขา ถูกทุบกระจก ... มันน่าเจ็บใจ เสียตังค์ค่าจอด เกือบ ๓๐ ปอนด์ ไม่มีอะไรเลย ที่จะป้องกันได้ ดูเหมือนเขาจะไม่รับผิดในความเสียหายใด ๆ ด้วย แจ้งเขาก็มาดู แล้วบันทึกไว้เฉย ๆ (มั๊ง) ไม่รู้ว่าจะมีผลอะไรมั่ง แต่ผมเดาว่า ไม่มี แถมแจ้งตำรวจ ตำรวจก็ไม่มา .... ดูเหมือนว่าตำรวจอังกฤษเขาจัดลำดับความสำคัญเรื่องประเภทนี้ ไว้ในระดับศูนย์ (เลข ๐) นะครับ ถ้าได้เรียนรู้ การทำงานของตำรวจในหลาย ๆ ประเทศแล้วละก็ ..... จะรู้ว่า ตำรวจไทยน่ารักกว่า ตำรวจที่อื่นมาก ในหลาย ๆ เรื่องครับ ( ... ถ้าไม่นับเรื่อง ใต้โต๊ะทั้งหลายทั้งแหล่ ... )


ที่ทำงานรัฐสภา : Palace of Westminster



ในวันที่ ๓๐ ก.ค. ๕๐ ที่ผ่านมา พวกเราไปดูงานรัฐสภา ที่จริงจะว่าง่าย ๆ ตรง ๆ กันเลย ก็คือ รร. พานักเรียนไปเที่ยวชมรัฐสภานั่นแหละครับ อาคารที่ทำการนี้ แต่เดิม คือ Palace of Westminster ซึ่งมีความสำคัญในการพัฒนาประชาธิปไตยของอังกฤษ มาอย่างต่อเนื่องหลายร้อยปีเลยทีเดียวครับ เรียกได้ว่า เจริญรุ่งเรือง ยิ่งกว่าประเทศใด ๆ ในโลก ก็ว่าได้


ทางเข้ารัฐสภา ด้านขวาสุดคือ Victoria Tower


Palace of Westminster มีอายุเก่าแก่มา กว่า ๗๐๐ ปี ที่สถานที่แห่งนี้ ได้จุดประกายแนวคิดการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาของอังกฤษให้เจริญรุ่งเรืองมาถึงปัจจุบัน หากใครผ่านมาแถวนี้ ไม่ควรพลาดครับ สำหรับค่าเข้าชม ๑๐ ปอนด์ หากมาเป็นกลุ่ม แต่ถ้าไปดุ่ย ๆ ๑๒ ปอนด์ครับ มีไกด์บรรยายเรียบร้อย ฟังแล้ว สนุก น่าตื่นเต้นมากครับ ...


อาคารรัฐสภา และ รูปปั้น คอรมเวล ผู้พิทักษ์ครับ



มาพูดเรื่อง Palace of Westminster กันนิดนะครับ ... แต่เดิม เป็นพระราชวังของกษัตริย์อังกฤษ ที่มีความคิดก้าวไกล ได้เชิญเหล่านักปราชญ์ ฯลฯ มาแลกเปลี่ยนความคิด และระดมความเห็นในการพัฒนาประเทศชาติ ต่อมากษัตริย์ ได้ยกพระราชวังส่วนหนึ่ง ให้เหล่านักปราชญ์ไว้ถกเถียงกัน แม้พระราชวังเดิมจะถูกไฟไหม้ใหญ่เผาจนเกือบวอดไปหมด แต่ก็ได้รับการซ่อมแซมและสร้างขึ้นมาเพื่อสืบสานเจตนารมณ์เดิม ในการพัฒนาประชาธิปไตยแบบรัฐสภาของอังกฤษ ดังเช่นในอดีตจวบจบปัจจุบัน


ถ่ายภาพคู่กับตำรวจรัฐสภา หน้าหอฬิกาใหญ่



อาคารในปัจจุบันส่วนใหญ่ จึงเป็นอาคารใหม่ ที่สร้างใน ค.ศ. ที่ ๑๘ หลังจากที่ไฟไหม้ใหญ่ ส่วนอาคารเก่าที่สร้างมาตั้งแต่ยุคก่อนยุคกลาง คือ สร้างมาตั้งแต่ ค.ศ. ที่ ๑๐ ก็ยังอยู่บ้างครับ แต่อาคารใหม่ ๆนั้น สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ทำการของ House of Parliament โดยรวม ซึ่งจะประกอบด้วย House of Common และ House of Lords ครับ และยังมี Victoria Tower ที่ไว้เก็บหลักฐานที่เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ และเอกสารทางกฎหมาย ทั้งหมดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันครับ


ห้องประชุม House of Lord ด้านหลัง คือ บัลลังก์ของพระราชินี ที่จะเสด็จมาวันเปิดประชุมรัฐสภา (ถ่ายภาพมาจากเอกสาร)



ประเพณีที่สืบเนื่องกันมา คือ ในเดือนพฤศจิกายน ทุก ๆ ปีที่มีการเลือกตั้ง พระราชชินี หรือ กษัตริย์ อังกฤษ จะเสด็จมาประมาณเดือน พ.ย. ของปีนั้น เพื่อทำการอ่านสุนทรพจน์เปิดรัฐสภา ซึ่งกษัตริย์ หรือราชินี อังกฤษ ตั้งแต่ยุคหลังจาก คอมเวล ผู้พิทักษ์ ฝ่ายรัฐสภา เอาชนะอำนาจกษัตริย์ ชาร์ลที่ ๑ (ที่เป็นกษัตริย์อังกฤษองค์เดียว ที่ถูกตัดสินประหารชีวิต เพราะคบคิดกับต่างชาติ เอากำลังมาทำร้ายประชาชนชาวอังกฤษ) พระราชินี หรือ กษัตริย์ ก็ไม่เคยมีบทบาทใด ๆ ในการประชุมของรัฐสภา หรือ ฝ่ายบริหารเลย ... เพราะอังกฤษ ตะหนักแล้วว่า อำนาจที่ศักดิ์สิทธิ์เกินไปของสถาบันกษัตริย์ จะเป็นผลร้ายต่อกระบวนการพัฒนาประชาธิปไตย ... กษัตริย์ จึงควรอยู่ในสถานะที่ที่พึงเคารพ มากว่าจะถูกประณาม และท้ายที่สุดถูกขับพ้นจากการเป็นสถาบันอันศักดิ์สิทธิ์ จากการใช้อำนาจที่ไม่ควรจะเป็นครับ


ห้องประชุมสภาผู้แทน ทั้ง ๔๐๐ กว่าคน ซึ่งคับแคบมาก
แต่ยังคงเปิดให้ประชาชนเข้าฟัง และนายกฯ ต้องมาตอบ
คำถามด้วยตนเอง เดือนละ ๖ คำถาม ในที่ประชุม



จะว่าไป มีเรื่องอะไรที่น่าสนใจเยอะ ... แต่คงไม่สามารถถ่ายทอดได้หมดนะครับ .... แล้วพบกันใหม่ หลังสอบเสร็จนะครับ ซึ่งผมมีแผนจะไป สก๊อตแลนด์ สักสองสามวัน แล้วก็จะเตรียมตัวกลับสหรัฐฯ ในวันที่ ๑๕ ส.ค. ๕๐ ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นวันที่ผมอยู่อังกฤษ ฯ มาครบ ๒ เดือนพอดีครับ




อย่างไรก็ตาม ผมจะบอกว่า การที่ผมอยู่อังกฤษนานขนาดนี้ ผมไม่ได้ใช้เงินอะไรมากมาย เพราะ บ้านส่วนใหญ่ มีคนอุปถัมภ์ ไม่ต้องเสียค่าเช่า ซื้ออาหารสดมาทำกินเอง แถมยังพกพกข้าวกล่อง และน้ำเปล่าไปไหน ต่อไหนด้วย ตอนไปเที่ยว .... แทบจะไม่ได้ใช้เงินเลย ดังนั้น ตามที่ ดร. เสรีฯ กล่าวว่า การที่ หมวดเจี๊ยบ อยู่อังกฤษ นานถึง ๒๑ วัน ใช้เงินแค่ ๒ แสนนั้น เป็นไปไม่ได้ จึงเป็นเรื่องที่น่าคิด สำหรับผมอยู่ตั้ง ๒ เดือน ใช้เงินไม่ถึง ๒ แสนบาท ด้วยซ้ำไป ... .... หวังว่า ดร. เสรีฯ คงจะไม่สมคบกับ นสพ. ไร้คุณภาพ มากล่าวหาว่า ผมโกหก นะครับ




 

Create Date : 05 สิงหาคม 2550    
Last Update : 21 มิถุนายน 2553 7:56:46 น.
Counter : 2510 Pageviews.  

ไปเที่ยวเบลเยี่ยม : บรัสเซล กันครับ

สำหรับ Blog นี้ ไม่มีคำบรรยายในรายละเอียดนะครับ แต่เอาภาพตอนไปเมืองหลวงประเทศเบลเยี่ยม คือ กรุงบรัสเซล มาแสดงให้ดูครับ เมืองนี้ เล็ก ๆ เที่ยววันเดียวได้ครับ นั่งรถไปจากปารีส ฝรั่งเศส แค่ไม่ถึงสองชั่วโมงครับ เมืองนี้ มีรถไฟใต้ดิน รถราง และรถบัส บริการ ซื้อตั๋วแค่ ๔ ยูโร ใช้ได้ทั้งวัน และใช้ ๒ คนครับ ประเทศนี้ ยังมีกษัตริย์ เป็นประมุข ในลักษณะเป็นสัญลักษ์ทางการทูต และตัวแทนของประเทศ รวมถึง เป็นผู้ประกาศใช้กฎหมาย ของประเทศ ครับ ลองดูภาพเลยแล้วกันครับ




อาคารนี้ ตั้งอยู่ที่บริเวณลานกว้าง หน้าพระราชวัง



โบสถ์รูปร่างหน้าตาแปลกดีครับ



ภาพนี้ ที่ชอบ ก็คนสองคน ยืนกอดกันอยู่แหละครับ



พระราชวังของกษัตริย์เบลเยี่ยมมังครับ
ที่เกิดเหตุ ตอนโดนขอทานใช้เท้าเขี่ยเรียกความสนใจ



อันนี้ ลานหน้า Atomium สัญลักษณ์ งาน World Fair ที่จัดที่นี่สัก สามสิบปีที่แล้วครับ



ประตูชัย ของเบลเยี่ยมครับ



อันนี้ พระราชวัง ที่ใช้ประทับ มังครับ



พิพิธภัณฑ์ รวบรวมพันธุ์ไม้ ครับ



ร้านช๊อกโกแลต ที่มีมากมาย นอกจากอร่อยแล้ว ยังสวยจนกินไม่ลงไปเลยละครับ



อันนี้ เขาว่า ลูบแล้วรวยครับ เห็นไหม ทองเหลืองลอกเลยครับ


รูปปั้นเด็กยืนฉี่ กับ อาคารในกลุ่มที่ทำงานของกษัตริย์เบลเยี่ยมครับ ได้ยินว่า รูปปั้นนี้ เคยถูกขโมยไปแล้ว เลยสร้างจำลองขึ้นมาครับ ปัจจุบัน ต้องติดกล้องบันทึกภาพไว้ด้วยครับ






ที่จริง ยังมีอีกหลายภาพที่สวยงามมาก ๆ โดยเฉพาะเป็นภาพที่ไม่มีคนเป็นตัวประกอบนะครับ เบลเยี่ยม เป็นแหล่งรวมของช๊อกโกแลต ที่อร่อยมาครับ ทดลองแล้ว ต้องยอมรับว่า อร่อยจริง ๆ แต่ว่าแพงมาก ๆ โดยเฉพาะเพิ่งทำสด ๆ ร้อน ๆ นี่ ๔ ลูกกลม ๆ เล็ก ๆ ๓ ยูโร ได้ครับ

ส่วนที่ว่าโดนขอทานใช้เท้าเขี่ย เพื่อขอตังค์ ก็เกิดเหตุหน้าที่ทำการของกษัตริย์ (พระราชวัง) ที่ผมนั่งอยู่นั่นแหละครับ .... เธอโหดร้ายจริง ๆ เลย ทำกับผมได้







 

Create Date : 29 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 21 มิถุนายน 2553 7:57:04 น.
Counter : 2042 Pageviews.  

เรื่องเล่าจากอังกฤษ : วันที่ ๒๗ ก.ค. ๕๐ ครับ ...


พรุ่งนี้ (๒๗ ก.ค. ๕๐) จะเป็นวันที่เรียนมาครบ ๑ สัปดาห์ที่ Oxford หากจะพูดถึง บรรยากาศการเรียนแล้ว ที่จริงสภาพการเรียน ก็เหมือนที่ รร. กม.ในสหรัฐฯ แต่ที่พิเศษ ก็คือ มีอาจารย์ จาก Oxford , Victoria, และ Illinois ร่วมกันสอน เหมือนเดิมครับ ชีวิตนักเรียนกฎหมาย อ่านไปล่วงหน้า เพื่อไป Discuss ในห้อง แต่วิธีการสอนในอังกฤษ ของอาจารย์ที่มาจากอังกฤษ และแคนนาดา ถ้าผมไม่ผิดนะครับ คือ ทางอังกฤษและแคนนาดา จะใช้วิธีการบรรยาย เสียเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ รร. กม.ในสหรัฐฯ จะเน้นการอภิปรายและถกเถียง โดยอาจารย์ ตั้งคำถาม หรือ ผู้เข้าชั้นเรียน ตั้งคำถาม ในห้อง จะช่วยกันตอบ แล้วแต่กรณีครับ

หาจะถามว่า ผมมาเรียนอะไรนะเหรอ .... ก็มีพวก International Comparative Intellectual Property and Internet Law กล่าวง่าย ๆ ก็คือ เรียนกฎหมายและแนวคิดทางกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาเปรียบเทียบของหลายประเทศ ประกอบด้วย สหรัฐฯ แคนนาดา ยุโรป และ อังกฤษ ยากใช้ได้เลยครับ

สิ่งที่เรียน เปิดโลกทัศน์ของผมดีนะครับ เพราะสิ่งที่ผมเรียนมาในสหรัฐฯ ตลอดระยะเวลา ๔ ปีที่ผ่านมา ก็จะเป็นแนวกฎหมายมหาชน ที่เน้นทางด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญ และกฎหมายปกครองของสหรัฐ กับ กฎหมายกฎหมาย อาญา รวมถึง กฎหมายว่าด้วยอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และ กฎหมายวิพิจารณาอาญา ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับสิ่งที่ผมกำลังค้นหาอยู่ในทางด้านการวิจัย

จากสิ่งที่ผมได้ศึกษามาทั้งจากประเทศไทย และศึกษาด้วยตนเอง ในด้านทางกฎหมายมหาชนและกฎหมายปกครองของประเทศต่าง ๆ ผมว่า แนวคิดเรื่องนี้ของสหรัฐฯ นี่ก้าวหน้าไม่แพ้ และดูเหมือนจะก้าวหน้ากว่าทางยุโรป เสียด้วยซ้ำครับ แต่เนื่องจากมีครูบาอาจารย์ ที่สำเร็จการศึกษาระดับสูงสุดทางกฎหมายจากสหรัฐฯ ค่อนข้างน้อยมาก ๆ และน้อยมาก ๆ เมื่อเทียบกับทางเยอรมันและฝรั่งเศส ทำให้นักศึกษากฎหมายและประชาชนทั่วไปเข้าใจว่า กฎหมายในทางมหาชนและปกครองของสหรัฐฯ ไม่ทันสมัยเท่าของฝรั่งเศส และเยอรมัน ซึ่งไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อยครับ

ระหว่างที่ผมเรียนในสหรัฐฯ นั้น ทางผู้บังคับบัญชา และผู้มีความรู้ทั้งหลาย ก็แนะนำว่าควรจะเรียนให้กว้าง ๆ ด้วย ผมก็ว่าดี เลยไปเรียนพวก International Law, Contract Law, European Union Law, Torts Law และ Property Law ซึ่งผมก็ลงทะเบียนเรียนไป แม้จะกระทบต่อเวลาทำการศึกษาวิจัยพอสมควร ก็ด้วยเหตุที่ เกรงว่า ตอนที่กลับไปทำงาน จะมีความเข้าใจว่า เป็น ดร. ต้องรู้ทุกอย่าง เลยพยายามเรียนมันไป เท่าที่จะทำได้ ซึ่งความคิดนี้ ผิดมาก เพราะเป็น ดร. ก็น่าจะรู้ลึกเพียงอย่างเดียว ในเรื่องที่ตนทำวิจัยเท่านั้นเอง ครับ




สุดท้ายครับ เอาเป็นว่า พรุ่งนี้เป็นวันที่ ๒๗ ก.ค. ๕๐ นะครับ ...............สำคัญอย่างไร .... ไม่มีครับ รู้แต่พรุ่งนี้ เป็นวันที่ รร. พาไปดูงาน ที่ รัฐสภา สภาศาลสูงของอังกฤษ และ พิพิธภัณฑ์ในลอนดอนครับ หลังจากดูงานเสร็จ ผมก็จะต้องนั่งรถกลับมา อ่านหนังสือต่อ เพราะ บรรยากาศไม่มัน เนื่องจาก มีเอกสารที่ต้องเตรียมตัวก่อนไปเรียนเยอะมากครับ เดี๋ยวสอบตก แย่เลย




ปล. เมือง Oxford น้ำนองเลยครับ ตอนนี้ น้ำท่วมหลายจุดในเมือง และ น้ำเอ่อล้นตลิ่งของถนนบางสายในมหาวิทยาลัยครับ แต่ที่ตั้งมหาวิทยาลัยเอง เข้าใจว่า อยู่ในที่สูงกว่า และมีระบบระบายน้ำที่ดี ทำให้น้ำไม่ท่วมในส่วนของมหาวิทยาลัยครับ




 

Create Date : 27 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 21 มิถุนายน 2553 7:57:22 น.
Counter : 1236 Pageviews.  

เรื่องเล่าจากอังกฤษ : ชีวิตนักเรียนเริ่มต้นที่ Oxford อีกครั้ง

ผมเดินทางมาถึง Oxford ตั้งแต่วันที่ ๒๒ ก.ค. ๕๐ ช่วงเย็น ๆ แล้ว มาถึงก็เข้าบ้านพัก ดูที่ดูทาง เข้าห้องพัก แล้วก็เตรียมอาหารเกาหลี รับประทานครับ ..... ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ก็บะหมี่เกาหลี (หรือญี่ปุ่นไม่ทราบ) ที่ อ. พรเทพ ที่ผมเช่าบ้านต่อท่านเก็บไว้ให้ ... ก็สบายท้องไป ๑ มื้อครับ




ว่าจริง มา Oxford นี่สบายมาก ๆ แค่นั่งรถบัสปรับอากาศจาก Victoria station ที่มีรถ Oxfordtube จอดรับผู้โดยสาร สนราคา หากเป็น นร. คิดราคาไปกลับในวันเดียวกัน ก็ ๑๑ ปอนด์ แต่ถ้าไม่อาจกลับในวันเดียว ก็คิด ๑๓ ปอนด์ ส่วนถ้าไม่ใช่นักเรียน ก็จะประมาณ ๒๐ กว่าปอนด์มังครับ

ระหว่างนั่งรถบัส ก็นอนหลับ ๆ ตื่น ๆ เพราะสาวชาวยุโรปตะวันออก สองคน เธอทำเหมือนรถบัสเป็นของเธอ นั่งอยู่ด้านหน้าสุด แต่ก็คุยดังลั่น มาถึงแถวหลังสุดได้เหมือนกัน

ระหว่างทางก็นั่งไป แล้วก็คิดว่า วันที่ ๒๓ ก.ค. ๕๐ จะต้องไปที่ทำการของมหาวิทยาลัย St. Peter College - U of OXFORD แต่เช้าตรู่ เพราะยังไม่รู้ตาราง และ ไม่ได้รับเอกสารเลย สำหรับการเรียนใน Session II ( เพราะผมไม่ได้ลงทะเบียน Session I เพราะมันแพงเกินไป เอิ๊กเอิ๊ก ) จากทางผู้ประสานงานเลย ... กังวลเล็กน้อยครับ

มาถึงปากทางเข้าบ้าน ก็ลงเดินหา จำได้เพียงลาง ๆ ว่าอยู่แถวนี้ ... พอเจอบ้านเลขที่ ๑๐ ก็ลองไขดู เพราะมีกุญแจห้องพัก ที่ อ. พรเทพฯ ท่านเตรียมไว้ให้แล้ว ใช่ครับ .. ไม่ผิดบุกรุกบ้านใคร .... พอเข้ามาได้ก็นั่งพักผ่อนสักพัก ก็ไปทำมาหากิน เอ้ย ทำอาหารกินครับ ... อาหารเกาหลีเชียวละครับ ... มันคือ บะหมีสำเร็จรูปครับ

ต้องขอบคุณ อ. พรเทพฯ ท่านก็เก็บอาหารไว้หลายอย่าง ตั้งแต่กุนเชียง กะปิ น้ำปลา ข้าวสาร อาหารแห้ง อาหารไทย ญี่ปุ่น เกาหลี (บะหมีสำเร็จรูปนั่นแหละครับ) เอาไว้หลายอย่าง ไม่งั้นวันอาทิตย์ ซึ่งร้านค้าจะปิดเร็วมาก ... ผมคงต้องกินอาหารว่าง คือ อากาศแทนแล้วละครับ

การที่ อ. พรเทพฯ เตรียมอาหารแห้งไว้ให้ ... มันเป็นผลดี่ต่อผมมาก ... ... แต่บังเอิญว่า ของบางอย่างนี่ โดยเฉพาะกุนเชียง ที่ผมเล็งไว้ตั้งแต่ อ.พรเทพฯ แจ้งทางจดหมายไว้แล้ว .... ฝรั่งเจ้าบ้าน ไม่ได้สื่อสารกับ อ.พรเทพฯ ไว้อย่างเข้าใจตรงกัน ..... มันนึกว่าเป็นไส้กรอกที่เสียแล้ว ฝรั่งมันโยนทิ้งเสียเกลี้ยง ... เวรกรรม .... พอถามมัน .... มันก็ทำหน้าตาย แล้วบอกว่า มันไม่รู้ ... มันทิ้งไปแล้ว ....

หลังจากได้ยิน ... แล้วผมก็คิดในใจ "กูจะต่อยกับฝรั่งนี่ไหมวะเนี่ย ....ของกินดี ๆ ราคาแพง มึงไม่รู้จัก แล้วโยนทิ้ง ....มันน่านัก " .... พูดเล่นครับ ไม่ได้คิดอย่างนั้น ผมมันคงรักสงบ ....

วันรุ่งขึ้น ตั้งนาฬิกาปลุกตื่นเช้าตรู่ ..... เพิ่งรู้ว่า ในบ้านพัก มี นร. กฎหมายจากสหรัฐฯ มาเรียนในโปรแกรมเดียวกับผมด้วย .... สบายไปละ ฟังไม่ทันจะได้ถามเขา .... ( พูดอย่างไม่อายหรอกครับ ผมยังมีปัญหาเรื่องฟังบ้างพอสมควร) .... เรียนไปเรียนมา มีอาจารย์ จาก UIUC มาสอนที่นี่หลายคนเหมือนกันครับ




ตอนเย็นก็ไปกินอาหารที่ทาง College จัดให้ทุกวันจันทร์ ที่ค่อนข้างทางการ มีผมสะเหร่อ แต่งกายคล้ายสุภาพ เสื้อเชิ้ตแขนยาว แต่ไม่มีเนคไท และไม่มีเสื้อสูตร ... คนอื่นแต่งกันเลิศมากครับ .... ไอ้ผมไม่รู้ว่าจะต้องแต่งหล่อ ไม่ได้เตรียมชุดสากล มาเสียด้วย ... เวรกรรมจริง ๆ แต่ก็ช่างมัน ร่วมงาน จิบแชมเปญจ์ จิบไวน์ ฟังบรรยายโดยนายธนาคารเจ้าของธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตรา ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ของอังกฤษ เสร็จก็กินอาหารแบบฝรั่ง .... ผมก็มอง ๆ ว่า มันกินกันยังไง .... แล้วก็ทำตามนั่นแหละ เสร็จก็สามทุ่มได้ .... กลับบ้านมาอ่านหนังสือ เตรียมเรียนวันรุ่งขึ้นครับ




บรรยากาศอย่างนี้ มันคุ้น ๆ อีกแล้วครับ ... ชีวิตนักเรียน กฎหมายเริ่มต้นใหม่อีกแล้ว ครานี้ ต้องอ่านหนังสือเตรียมไปเรียน วันละเกือบ ๑๐๐ หน้า เพราะมันเป็นหลักสูตรเร่งรัด แค่ประมาณ ๓ สัปดาห์ครับ ... ผมเพิ่งอ่านเสร็จตอนตีสองนิด ๆ ... เลยมาบ่นให้ฟังครับ .... ราตรีสวัสดิ์ครับทุกท่าน




 

Create Date : 24 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 21 มิถุนายน 2553 7:58:14 น.
Counter : 996 Pageviews.  

เรื่องเล่าจากอังกฤษ : กลับไปเป็นเด็กวัดที่สันติวนาราม Northfleet, Kent, UK


สภาพวัดสันติวนาราม ที่ดัดแปลงมาจากที่เก็บกระดูกนักรบโบราณของฝรั่ง


ช่วงวันที่ ๑๗ ถึง ๒๐ ก.ค. ๕๐ ที่ผ่านมา ได้ไปเป็นเด็กวัด (ผู้ใหญ่วัด หรือ คนแก่วัด) ที่วัด สันติวนาราม Northfleet, Kent ประเทศอังกฤษ มา วัดนี้เป็นวัดใหม่ ที่ขาดแคลนอะไรมาก ๆ เป็นวัดสายธรรมยุต ที่ผมเคยบวช ในสายเดียวกันนี้ เมื่อ ๑๕ ปีก่อนด้วย


สภาพห้องจำวัดของพระภิกษุ ที่กำลังปรับปรุงโดยพระภิกษุ
และพี่หมู กับญาติโยม เขต Gravesend & Northfleet


หลวงพี่เล่าว่า วัดนี้ เกิดขึ้นจากการอุปถัมภ์ของ Mayor ชาวอังกฤษ ที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ได้นิมนต์ พระท่านจากสหรัฐฯ มาจำพรรษา และเผยแผ่ศาสนาที่นี่ Mayor จึงได้จัดการหาที่เช่าวัด จากสถานที่แห่งนี้ ซึ่งเคยเป็นสุสานเก็บกระดูกนักรบโบราณ จำนวนมาก ด้วยราคาค่าเช่าปีละ ๓,๐๐๐ ปอนด์ โดยไม่มีอะไรเลย น้ำไฟ ฯลฯ ต้องมาจัดหาเพิ่มเติมกันเอง


สภาพบ้านเมืองใกล้ ๆ วัด ที่เป็นแหล่งของบ้านคนจน ที่รัฐสนับสนุนเงินสร้างให้ มีเด็ก ๆ เอาหินมากว้างกระจกแตกเป็นประจำ



พระสองรูปใช้เวลา ๖ เดือน หยิบหาเศษไม้จากถังขยะ ที่ชาวบ้านเขาทิ้งแล้วมาจัดสร้างวัดภายใน ... ต่อมา พี่หมู (เชาวลิต) ได้มาเห็นสภาพวัด ที่มันยังคล้ายกับที่เก็บกระดูกนักรบโบราณ ฯ จึงได้ลงทุน ลงแรง จ้างลูกน้องมาช่วยกันตกแต่งทำให้พระท่านอยู่ได้ เผยแผ่ศาสนาได้



ร้าน Sukhothai ของพี่หมู และพี่จิตร อดีตเด็กวัดในเมืองไทย
ปัจจุบันประสบความสำเร็จในการเป็นธุรกิจร้านอาหารไทย ในอังกฤษ
ผู้สนับสนุนทั้งกำลังเงิน กำลังแรงแก่วัดไทยหลายที่และวัดแห่งนี้ครับ



ผมได้มาอยู่ในวัดนี้ ตอนที่ อะไรต่อมิอะไร มันดีขึ้นแล้ว ห้องพักผมเกิดจากน้ำพักน้ำแรงพระสองรูป และ ญาติโยม ... เป็นชั้นเกือบใต้ดิน ... แต่วัดนี้ ไม่ค่อยมีที่ระบายอากาศ ซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์เดิม คือ เก็บกระดูก ไม่ได้ให้คนอยู่นะครับ ....


ตลาดในเมือง Gravesend ใน Kent ที่เล็ก สงบ และสวยงาม



ระหว่างไปอยู่พระท่านก็สอนหลายอย่าง เรื่องการภาวนาและการพิจารณาให้เห็นสัตย์จริง และการนำธรรม มาใช้ในชีวิตประจำวัน ธรรม เป็นสิ่งที่ควบคู่กับ ธรรมชาติ การเป็นมนุษย์ หากเรียน ธรรม มากมาย แต่ใช้ไม่ได้จริง ก็ไม่เข้าที พระท่านว่า คนเราต้องเรียนรู้จิตใจตัวเอง รู้จักความพอดี และที่สำคัญที่สุด คือ ปฎิบัติ (เจริญภาวนา) ให้ทราบและมีสติสัมปชัญญะตลอดเวลา .....



หอนาฬิกา สร้างเป็นที่ระลึกแก่ Queen และ บุคคลสำคัญของอังกฤษ ที่ เมือง Gravesend ครับ


ผมมาเขียนนี่ เพื่อใครผ่านไปผ่านมา จะมาแวะพำนักใจ หาที่สงบ และรู้จักการเสียสละในการบริจาค ....ช่วยเหลืองานพระฯ ฟังธรรม สนทนากับพระ... ฯลฯ ในช่วงที่เข้าพัก ชำระ จิตใจ เพื่อฝึกการให้ ..... และที่สำคัญที่สุด คือ ช่วยกันสืบทอดพระศาสนาด้วย ก็จะดีไม่น้อยครับ


สภาพภายในร้าน สุโขทัยของ ผู้สนับสนุนวัดสันติวนาราม มาโดยตลอด



คนที่อยู่อังกฤษ ก็นั่งรถไฟสาย Southeast จาก London มาลง Northfleet วัดกับสถานีรถไฟ ติดกันเลยครับ .... แล้วหากอยากไปเที่ยวเมืองเก่า ๆ ก็ไปเที่ยวใน Gravesend กับไปกินอาหารไทยที่ ร้าน Sukhothai ของพี่หมู ในตลาดที่น่ารัก ๆ ของ Gravesend ก็ได้ หรือจะไปเที่ยวห้างสรรถสินค้า Bluewater ที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ ก็ไม่เสียหายอะไรครับ หรือ หากมาเที่ยวห้างฯ แล้วก็แวะมาสนทนาธรรมกับพระท่านก็ ไม่ผิดกติกาเช่นกันครับ



สุดท้ายขอร่วมแสดงความยินดีกับ น้องปรางค์ บุตรีของพี่หมู และ พี่จิตร
ที่ประสบความสำเร็จการศึกษา จาก U of B' Ham ด้วยคะแนนเกียรติยม ทางเศรษฐศาสตร์ ครับ




 

Create Date : 23 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 21 มิถุนายน 2553 7:58:33 น.
Counter : 3549 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

POL_US
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 82 คน [?]




คลิ๊ก เพื่อ Update blog พ.ต.อ.ดร. ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ ได้ที่นี่
https://www.jurisprudence.bloggang.com






รู้จักผู้เขียน : About Me.

"เสรีภาพดุจดังอากาศ แม้มองไม่เห็น แต่ก็ขาดไม่ได้ "










University of Illinois

22 Nobel Prize & 19 Pulitzer Prize & More than 80 National Academy of Sciences (NAS) members







***คำขวัญ : พ่อแม่หวังพึ่งพาเจ้า

ครูเล่าหวังเจ้าสร้างชื่อ

ชาติหวังกำลังฝีมือ

เจ้าคือความหวังทั้งมวล



*** ความสุข จะเป็นจริงได้ เมื่อมีการแบ่งปัน :

Happiness is only real when shared!














ANTI-COUP FOREVER: THE END CANNOT JUSTIFY THE MEANS!






Online Users


Locations of visitors to this page
New Comments
Friends' blogs
[Add POL_US's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.