*** พื้นที่ส่วนตัวของ พันตำรวจเอก ดร. ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ รองผู้บังคับการกองคดีอาญา สำนักงานกฎหมายและคดี นี้ จัดทำขึ้นเพื่อยืนหยัดในหลักการที่ว่า คนเรานั้นจะมีความเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ได้ ก็ต่อเมื่อมีเสรีภาพในการแสดงความคิดโดยบริบูรณ์ และความเชื่อที่ว่าคนเราเกิดมาเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ไม่มีอำนาจใดจะพรากความเป็นมนุษย์ไปจากเราได้ ไม่ว่่าด้วยวิธีการใด ๆ และอำนาจผู้ใด ***
*** We hold these truths to be self-evident, that all men are created equal, that they are endowed by their Creator with certain unalienable rights, that among these are life, liberty and the pursuit of happiness. That to secure these rights, governments are instituted among men, deriving their just powers from the consent of the governed. That whenever any form of government becomes destructive to these ends, it is the right of the people to alter or to abolish it, and to institute new government, laying its foundation on such principles and organizing its powers in such form, as to them shall seem most likely to effect their safety and happiness. [Adopted in Congress 4 July 1776] ***
Group Blog
 
All Blogs
 
สั่งฟ้องคนดัง หมิ่นในหลวง

อัยการสั่งฟ้องสนธิ-บก.คม ชัด ลึก ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์แล้ว ส่งสำนวนฟ้อง 20 แฟ้ม หนา 5,600 หน้า พยาน 400 ปาก ขึ้นสู่ศาลแล้ว





นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้ง นสพ.ผู้จัดการ และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมด้วยนายขจรศักดิ์ เบ็ญชัย ทนายความของนายเฉลียว คงตุก บก.นสพ. คม ชัด ลึก เดินทางเข้าพบพนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 เพื่อฟังคำสั่งคดี ที่นายสนธิ และนายเฉลียว ตกเป็นผู้ต้องหาในความผิดฐานดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ พร้อมแจ้งให้อัยการทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสองติดภารกิจ ไม่สามารถมาด้วยตัวเองได้ พนักงานอัยการจึงแจ้งให้ทราบว่า จากการพิจารณาสำนวนฟ้องของพนักงานสอบสวนกองปราบปราม จำนวน 20 แฟ้ม ความหนากว่า 5,600 หน้า และพยาน 400 ปากแล้ว คณะทำงานจึงมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา ตามพนักงานสอบสวน พร้อมแจ้งให้ทนายความนำผู้ต้องหามาศาลในวันที่ 5 ก.ย.นี้ เนื่องจากอัยการจะนำสำนวนยื่นฟ้องต่อศาล เพื่อตกเป็นจำเลย

นายสุวัตร กล่าวว่า ในวันที่อัยการยื่นฟ้องต่อศาล (5 ก.ย.49) จะใช้หลักทรัพย์คือ บัตรประกันอิสรภาพ มูลค่า 250,000 บาท ยื่นขอประกันตัวนายสนธิ ส่วนนายเฉลียว จะใช้หนังสือรับรองจากสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ซึ่งให้มีมูลค่า 10 เท่าของเงินเดือน

ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า ลูกความของตนไม่มีเจตนาดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ตามที่ถูกกล่าวหา และพร้อมสู้คดีในชั้นศาล

คดีนี้เกิดขึ้นจากการให้สัมภาษณ์ของนายสนธิ เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2549 และมีการตีพิมพ์ใน นสพ. คม ชัด ลึก วันรุ่งขึ้น (24 มี.ค.) นำไปสู่การแจ้งความเพื่อดำเนินคดี เนื่องจากเห็นว่าคำให้สัมภาษณ์ของผู้ต้องหา เข้าข่ายดูหมิ่นพระมหากษัตริย์

Source: //webboard.mthai.com/5/2006-09-01/263978.html


Create Date : 20 ตุลาคม 2549
Last Update : 18 มิถุนายน 2553 13:22:31 น. 4 comments
Counter : 1416 Pageviews.

 
โดนซะบ้างก็ดีเหมือนกัน
จะได้หยุดซะที


โดย: ซีบวก วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:17:38:04 น.  

 
เอาข่าวมาบันทึกไว้ ถึงความอัปยศของหลักกฎหมายไทย




ถอนฟ้องคดี “สนธิ” หมิ่นเบื้องสูง-สั่งไม่ฟ้อง “พันธมิตร” ไล่ทักษิณ โดย ผู้จัดการออนไลน์ 3 พฤศจิกายน 2549 15:42 น.




คณะทำงานอัยการมีมติถอนฟ้อง “สนธิ-บก.คมชัดลึก” คดีถูกกล่าวหาหมิ่นเบื้องสูง และสั่งไม่ฟ้องคดีพันธมิตรฯชุมชุมขับไล่ทักษิณ อ้างเหตุสนองเจตจำนงของรัฐบาล ที่ต้องการความสมานฉันท์ ปรองดอง ของประชาชน ทุกหมู่เหล่า

วันนี้ (3 พ.ย.) นายอรรคพล ใหญ่สว่าง ผู้ตรวจราชการสำนักงานอัยการสูงสุด และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงว่า ตามที่อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายเฉลียว คงตุก บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, ความผิดตาม พ.ร.บ.การพิมพ์ พ.ศ.2484 มาตรา 4 และ 48 และคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ต.ค.2519 ข้อ 1 ต่อศาลอาญาไปเมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา และขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล

อย่างไรก็ตาม ภายหลังคณะทำงานอัยการพิจารณาแล้ว มีความเห็นว่า การดำเนินคดีต่อไป อาจมีประชาชนบางฝ่ายเห็นด้วย และบางฝ่ายอาจไม่เห็นด้วย อาจก่อให้เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชน โดยทั่วไป ซึ่งอาจถึงขั้นรุนแรงได้ อาจก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย และมีผลกระทบต่อความปลอดภัยต่อความมั่นคงของชาติได้ ประกอบกับสถานการณ์ และภาวะบ้านเมืองในขณะนี้ ต้องการให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าสมานฉันท์ เพื่อให้เศรษฐกิจที่หยุดชะงักที่ผ่านมา ได้ขับเคลื่อนต่อไปได้โดยเร็ว และเพื่อให้สถานการณ์การเมืองที่ตึงเครียด คลี่คลายไปในทางที่ดี ซึ่งตรงกับเจตจำนงของรัฐบาล ที่ต้องการความสมานฉันท์ ปรองดอง ของประชาชน ทุกหมู่เหล่า จึงมีความเห็นว่า การดำเนินคดี กับ นายสนธิ และนายเฉลียว ในคดีดังกล่าว จะไม่เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะ

ดังนั้น นายพชร ยุติธรรมดำรง อัยการสูงสุด พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์ของสังคม และเพื่อให้สถานการณ์บ้านเมือง กลับเข้าสู่ภาวะปกติ จึงอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.พนักงานอัยการ พ.ศ.2498 มาตรา 12 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม.16 และระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด ว่าด้วยการดำเนินคดีอาญา ของพนักงานอัยการ พ.ศ 2457 ข้อ 78 และ 128 จึงมีคำสั่ง เมื่อวันนี้ (3 พ.ย.) ให้ถอนฟ้อง นายสนธิ และนายเฉลียว ในคดีดังกล่าว โดยอัยการจะขออนุญาตต่อศาลอาญา เพื่อถอนฟ้องคดีดังกล่าวในวันจันทร์ที่ 6 พ.ย.นี้

นอกจากนั้น ในส่วนคดีที่ นายสนธิ และพวก ถูกดำเนินคดีในฐานความผิด 5 ข้อกล่าวหา กรณีชุมนุมขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาสั่งคดีของอัยการและยังไม่มีความเห็นสั่งคดี พนักงานอัยการก็จะดำเนินการไปในทิศทางเดียวกัน คือ สั่งไม่ฟ้องคดีต่อไป

สำหรับคดีที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดย พล.ต.ต.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ รอง ผบช.น.ในขณะนั้น อาสาเป็นผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมศักดิ์ โกศัยสุข พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งถือเป็นผู้ต้องหาชุดแรก

ต่อมาได้มีความพยายามที่จะดำเนินคดีกับแนวรวมพันธมิตรฯต่ออีก ประกอบด้วย นายวุฒิพงษ์ เพรียบจริยวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการสถาบันสหสวรรษ นายสำราญ รอดเพชร โฆษกเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งขณะนี้ เป็นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีต ส.ว.กทม.เป็นผู้ต้องหาชุดที่ 2 และ 3 โดยพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง รวม 5 ข้อหา ประกอบด้วย ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หรือติชมโดยสุจริตเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลโดยใช้กำลังข่มขืนใจ เพื่อทำให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปโดยกำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก โดยเป็นหัวหน้าสั่งการ, ร่วมกันเดินแถวเดินเป็นขบวนแห่ หรือเป็นขบวนใดๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร โดยไม่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าพนักงานจราจร, ร่วมกันวาง ตั้ง ยื่น หรือแขวน สิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือกระทำโดยประการใดๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจรโดยไม่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่จราจร และร่วมการตั้งวางสิ่งใดบนถนนหรือในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าพนักงาน

โดยหลังสำนวนคดีถึงอัยการได้มีการรวมสำนวนเป็นคดีเดียวกัน และอัยการนัดฟังคำสั่งคดีในวันที่ 14 พ.ย.นี้ เวลา 10.00 น.จนกระทั่งวันนี้ อัยการสูงสุด ได้มีความเห็น ว่าสั่งไม่ฟ้องคดีดังกล่าว เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม นอกจากนั้น พล.ต.ต.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ยังได้แจ้งความดำเนินคดีกับ แนวร่วมพันธมิตรฯ ซึ่งประกอบด้วย นายสุริยะใส กตะศิลา, นายการุณ ใสงาม, นางสาวรสนา โตสิตระกูล, นายเพียร ยงหนู, นายสุวิทย์ วัดหนู, นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์, นายอวยชัย วะทา และนายศิริชัย ไม้งาม ในข้อหาเดียวกัน แต่ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด ยึดอารยะขัดขืน ไม่ขอเข้ามอบตัว และขอปฏิเสธคดี โดยหลังจาก พนักงานสอบสวน ยื่นขออนุมัติหมายจับจากศาล ศาลไม่อนุมัติ และขณะนี้ คดีอยู่ระหว่างการสอบสวนของ กองปราบปราม


Source: //www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?
NewsID=9490000136278



โดย: POL_US วันที่: 4 พฤศจิกายน 2549 เวลา:0:10:12 น.  

 
เก็บเอาไว้ในลึกสุดใจครับ ...... ผมว่า ชื่อ อัยการที่สั่งไม่ฟ้อง ครั้งนี้ คุ้น ๆ กับ คนที่สั่งไม่ฟ้อง นายแพทย์วิสุทธิ์ ที่ฆ่าเมียตัวเอง นะครับ .... ต้องตรวจสอบอีกที .....




อัยการสั่งไม่ฟ้อง “สนธิ” พร้อม 15 แกนนำพันมิตรฯ กรณีถูกกล่าวหาจัดม็อบล้มล้างการปกครอง อัยการระบุชัดจัดชุมนุมโดยสงบตามรัฐธรรมนูญ เป็นสิทธิโดยชอบของประชาชน

วันนี้ (1 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นายเสริมเกียรติ วรดิษฐ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา และคณะทำงานอัยการ ร่วมกันแถลงข่าวอัยการสั่งไม่ฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล และ 5 แกนนำม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มอดีตสมาชิกวุฒิสภา นำโดยนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย นายศิริชัย ไม้งาม เลขาธิการสหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจ กับพวกรวม 16 คนในความผิดฐาน ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปโดยใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนและความวุ่นวาย กระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน และร่วมกันบุกรุกเวลากลางคืน และทำให้เสียทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.116, 215 และ 216 พ.ร.บ.จราจร พ.ศ.2522, พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความสงบเรียบร้อย พ.ศ.2535 และ พ.ร.บ.การใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ.2493 รวม 6 ข้อหา

จากกรณีที่นายสนธิกับ พวกรวมกันจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรครั้งที่ 14 ที่สวนลุมพินีและได้ชักชวนผู้ร่วมชุมนุมให้ร่วมเดินทางไปที่หน้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และในช่วงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ – 30 มีนาคม 2549 ที่นายสนธิได้ร่วมกับกลุ่มองค์กรต่างๆ 27 องค์กรจัดตั้งเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชุมนุม และเดินขบวนขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณตามสถานที่ต่างๆ เช่น ลานพระบรมรูปทรงม้า สนามหลวง อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย ห้างสรรพสินพารากอน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หน้าอาคารศรีจุลทรัพย์

นายเสริมเกียรติ กล่าวว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล มีความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องทั้ง 16 คน รวม 6 ข้อหา แต่เมื่อคณะทำงานอัยการพิจารณา สำนวนพยานหลักฐานแล้วข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าการกระทำของผู้ต้องหาและผู้ร่วมชุมนุม เป็นการชุมนุมสาธารณะของประชาชนหลากหลายอาชีพ ทั้งอดีต ส.ส., ส.ว., ข้าราชการ นักวิชาการ อาจารย์ นักศึกษา และประชาชนเพื่อเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณลาออกจากตำแหน่งเนื่องจากไม่เห็นด้วยกับนโยบายและการบริหารราชการ รวมทั้งในเรื่องจริยธรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งการชุมนุมนั้นเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชน ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 ม.39 และ 44 โดยไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีการใช้กำลังรุนแรงหรือมีอาวุธแต่อย่างใด คงมีแต่เพียงการพูดปราศรัยวิพากษ์วิจารณ์ด้วยถ้อยคำที่รุนแรงหรือไม่สมควร อีกทั้งตามรายงานสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ปรากฏว่าแม้มีการชุมนุมบนถนนและเคลื่อนย้ายการชุมนุมไปตามสถานที่สาธารณะจะทำให้เกิดผลกระทบด้านการจราจร แต่สถานการณ์โดยทั่วไปก็ยังเป็นปกติ

อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา กล่าวว่า จากข้อเท็จจริงดังกล่าวคณะทำงานอัยการเห็น ว่าการชุมนุมจัดขึ้นโดยสงบ และปราศจากอาวุธโดยการชุมนุมนั้นได้รับรองและคุ้มครองสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ม.44 ดังนั้นการกระทำของผู้ต้องหาทั้ง 16 คน จึงยังไม่เข้าองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.215 และ 216 ส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรฯ พ.ร.บ.รักษาความสะอาด และ พ.ร.บ.ควบคุ้มการใช้เครื่องขยายเสียงฯ คณะทำ งานอัยการเห็นว่าการชุมนุมในที่สาธารณะทั้งในอดีตและปัจจุบัน ผู้ชุมนุมจำเป็น ต้องใช้เครื่องขายเสียงเพื่อสื่อสารทำความเข้าใจและควบคุมการชุมนุม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ และในปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายเฉพาะที่เป็นการจำกัดเสรีภาพการชุมนุมในที่สาธารณะ

ดังนั้น อัยการจึงเห็นว่าจึงไม่ควรนำ พ.ร.บ.ดังกล่าวซึ่งเป็นกฎหมายทั่วไปมาใช้บังคับกับการชุมนุมสาธารณะที่จัดขึ้นโดยสงบ และปราศจากอาวุธ เพราะจะเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ จากข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย อัยการจึงเห็นว่าการกระทำของผู้ต้องหาทั้ง 16 คนไม่เป็นความผิด จึงสั่งไม่ฟ้องทุกข้อกล่าวหา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขั้นตอนต่อไปอัยการจะส่งสำนวนคดีพร้อมความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พิจารณาเพื่อทำความเห็น ซึ่งหาก ผบ.ตร.เห็นชอบกับคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการถือว่าคดียุติเด็ดขาด แต่หาก ผบ.ตร.มีความเห็นแย้งก็ต้องส่งสำนวนให้ นายพชร ยุติธรรมดำรง อัยการสูงสุดชี้ขาดว่าจะมีคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง ตามขั้นตอนกฎหมาย ป.อาญา ม.145



โดย: POL_US IP: 130.126.87.9 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:23:18:30 น.  

 
เชิญชวนปวงชนชาวไทยทำความดีเพื่อถวายแด่พ่อหลวงของเรา


โดย: fluky IP: 118.173.248.179 วันที่: 3 สิงหาคม 2552 เวลา:9:04:30 น.  

POL_US
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 82 คน [?]




คลิ๊ก เพื่อ Update blog พ.ต.อ.ดร. ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ ได้ที่นี่
https://www.jurisprudence.bloggang.com






รู้จักผู้เขียน : About Me.

"เสรีภาพดุจดังอากาศ แม้มองไม่เห็น แต่ก็ขาดไม่ได้ "










University of Illinois

22 Nobel Prize & 19 Pulitzer Prize & More than 80 National Academy of Sciences (NAS) members







***คำขวัญ : พ่อแม่หวังพึ่งพาเจ้า

ครูเล่าหวังเจ้าสร้างชื่อ

ชาติหวังกำลังฝีมือ

เจ้าคือความหวังทั้งมวล



*** ความสุข จะเป็นจริงได้ เมื่อมีการแบ่งปัน :

Happiness is only real when shared!














ANTI-COUP FOREVER: THE END CANNOT JUSTIFY THE MEANS!






Online Users


Locations of visitors to this page
New Comments
Friends' blogs
[Add POL_US's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.