*** พื้นที่ส่วนตัวของ พันตำรวจเอก ดร. ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ รองผู้บังคับการกองคดีอาญา สำนักงานกฎหมายและคดี นี้ จัดทำขึ้นเพื่อยืนหยัดในหลักการที่ว่า คนเรานั้นจะมีความเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ได้ ก็ต่อเมื่อมีเสรีภาพในการแสดงความคิดโดยบริบูรณ์ และความเชื่อที่ว่าคนเราเกิดมาเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ไม่มีอำนาจใดจะพรากความเป็นมนุษย์ไปจากเราได้ ไม่ว่่าด้วยวิธีการใด ๆ และอำนาจผู้ใด ***
*** We hold these truths to be self-evident, that all men are created equal, that they are endowed by their Creator with certain unalienable rights, that among these are life, liberty and the pursuit of happiness. That to secure these rights, governments are instituted among men, deriving their just powers from the consent of the governed. That whenever any form of government becomes destructive to these ends, it is the right of the people to alter or to abolish it, and to institute new government, laying its foundation on such principles and organizing its powers in such form, as to them shall seem most likely to effect their safety and happiness. [Adopted in Congress 4 July 1776] ***
Group Blog
 
All Blogs
 
เมื่อครั้งไปภูเก็ต

ร้อน ๆ อย่างนี้ ผมนึกถึงปีที่แล้วที่ผมได้กลับไปเมืองไทยของเรา หลังจากที่ผม กลับมาจากแคลิฟอร์เนีย ก็มาพักผ่อนที่บลูมมิงตัน สักระยะหนึ่ง รอเอกสาร DS 2019 (สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางประเภท J-1) หรือ I-20 (สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางประเภท F-1) ผมก็กลับไปเที่ยวเมืองไทย เดือนเศษ ๆ ในระหว่างเดือน ก.ค.๔๗

หลังจากเยี่ยมเยียนบิดามารดา (หรือพ่อกับแม่นั่นแหละครับ) ญาติพี่น้อง ผู้บังคับบัญชา ลูกน้อง และเพื่อนฝูง โดยเฉพาะที่สำเร็จการศึกษามาจาก นิติฯ ภาคบัณฑิต มธ. ที่พวกเรามักจะไปเล่นแบดมินตัน ที่สนามกีฬา รัชดาภิเษก ถนนตลิ่งชัน ตั้งแต่ ปี ๔๐ ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน พวกเรายังทำกิจกรรมร่วมกันเสมอมา เล่นกีฬา ไปกินข้าวตามสถานที่ต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียง ไปปีนเขา ไปเช่าเต๊นท์นอนแบบโคตรลูกทุ่ง นำโดยพี่หน่อย พี่ฮิม พี่สุชายฯ ท่านบ๋อมฯ, แอ๊ด และอีกหลายท่าน ความจริง ผมแปลกใจไม่น้อย เพื่อนกลุ่มนี้ อายุต่างกันมาก ตั้งแต่ ๒๕ ขวบ ถึง เกือบ ๖๐ ขวบ กลายเป็นสนิทกันแบบเพื่อนตายไปเลย คงเป็นเพราะเราคบกันแบบจริงจัง ไม่มีผลประโยชน์อะไรที่แอบแฝง เลยคบกันได้สนิทสนม

ความจริง ภาคบัณฑิต รุ่นผม สนิทกันเกือบทุกคน และเป็นรุ่นที่จบ นบ. ใน ๓ ปี มากที่สุด คือ เกือบสองร้อยคน (ซึ่งปกติ จะจบไม่เกิน ๓๐ หรือ ๔๐ คน) เพราะพวกเราช่วยกันเรียนแบบสุด ๆ ทำเอกสาร จัดติว ฯลฯ ภาคบัณฑิต รุ่นผม จึงมีเกียรตินิยมหลายคนฯ และรักกันมากเป็นพิเศษฯ ไว้จะเล่าใหัฟังทีหลังครับ

ปีที่แล้ว ผมไปเที่ยวที่ภูเก็ต ในช่วงเดือน ก.ค. ๔๗ ปีที่แล้ว ไปพักที่หาดป่าตอง ที่สวยงามมาก กับน้องฯ ที่เคารพรักของผม ไม่รู้ตอนนี้หาดป่าตอง เป็นไง เพราะโดนคลื่นยักษ์ถล่มเรียบราบคาบ ผมไปพักโรงแรม ประมาณว่าชื่อ โคโคนัท รีสอร์ท เดินมายังหาดป่าตองใน ๕ นาที ผมเที่ยวแบบยาจก คือ นั่งรถทัวร์ไปจากกรุงเทพฯ เริ่มจากขนส่งสายใต้ ที่แออัด และไม่มีที่จะนั่งรอฯ แถมระบบจัดรถ ให้ผู้โดยสารรับรู้ว่าต้องขึ้นรถคันไหน ก็ไม่ดีเอาเสียเลย เขารวมรถที่จะไปสุราษฎร์ธานี กับรถที่ไปอื่น เข้าด้วยกัน แล้วไม่บอกฯ ผมต้องเดินหาอยู่นาน ถามแล้วถามอีก กว่าจะได้ไป ขึ้นไปรออีกนาน เหมือนเดิมครั้ง ไม่เคยตรงต่อเวลา

มาถึงภูเก็ตตอนเช้าตรู่ มีสามล้อ รถสองแถว ฯลฯ มารุมเร้าขอให้เหมารถไปหาดป่าตอง ในราคา ๓๐๐ บาท แต่ท้ายที่สุดไม่ได้กินเงินผม เพราะผมไปต่อรถที่ท่ารถอีกแห่งที่เดินไกลออกไปสัก ๑๕ นาที ราคา ๒๐ บาทแทน เข้าที่พักแล้ว สิ่งที่คิดได้ คือ ไม่มีรถ เลยไปหาเช่ารถขับ ตั้งใจจะเอาแบบหรูที่สุด ก็ได้รถที่หรูสมใจมา เป็นยี่ห้อ ยามาฮ่า ถูกต้องครับ รถจักรยานยนต์ ราคาค่าเช่า วันละ ๑๕๐ บาท (มั๊ง) เช่าไป ๓ วัน ได้ลดราคาพิเศษ มีโปรชั่นด้วยแฮะ

ความจริง ไม่ใช่ะเช่าได้ง่าย ๆ นะครับ มอเตอร์ไซค์ เนี่ย ผมต้องง้อผู้ดูแล ได้โปรดเถอะ ให้ผมเช่าเถอะ ขอร้องละ..........ที่เช่ายาก ไม่ใช่เพราะเขากลัวว่าผมเป็นตำรวจแล้วจะไถเขาหรอกนะ...แต่เพราะ นายหัวของเขาสั่งห้ามมิให้ปล่อยให้คนไทย เช่ารถโดยเด็ดขาด....... โอ้โห .. มันเกิดอะไรขึ้น เขาจึงเล่าว่า ก็คนไทย เช่าแล้ว ลักรถเขาไปเลย บางที เอารถเขาข้ามฝั่งไปเกาะสมุย ฯ คนละฝั่งเลย ทำเขาลำบากต้องตามหากันวุ่นวาย ที่จริงเขายึดประจำตัวประชาชนไว้แล้ว แต่คนส่วนใหญ่ ไม่กลัว แจ้งหายแล้วทำใหม่ ก็ได้ (แต่จริง ๆ มันผิดแจ้งความเท็จ และอาจจะผิดฉ้อโกง หรือ ลักทรัพย์ ถ้ามีเจตนาจะเอาทรัพย์ไป ตั้งแต่ต้น) แต่เขาบอกว่ามันเสียเวลา แจ้งความไปก็ไม่ได้อะไรคุ้มค่า สู้ไม่ให้คนไทยเช่ารถเลยดีกว่า ตัดปัญหาโดยเด็ดขาด นี่แหละนะ คนไทยเรา ชอบทำอะไรแบบนี้ สุดท้าย แม้แต่ไทยด้วยกันก็ไม่ไว้ใจกัน ไม่ดีเลย

ได้รถมอเตอร์ไซต์แล้ว ก็ไปเสียจนทั่วเกาะ ก็ว่าได้ ไปเจอตำรวจแถวอนุสาวรีย์ ๒ หญิงแกร่งของเมืองถลางด้วย กลุ่มตำรวจท่านเคร่งครัดต่อหน้าที่ดี ตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งสำคัญมาก เพราะถ้าไม่มีใบอนุญาตขับขี่แล้วเกิดอุบัติเ ประกันภัยสำหรับบุคคลที่สาม ไม่จ่ายแม้แต่บาทเดียว ต้องขอบคุณ ฯพณฯ ท่านน้องชายที่เคารพของผม ท่านกรุณาขับรถมอร์เตอร์ไซด์ ให้กระผมนั่งตลอดทาง เหอ เหอ ผมขับไม่เป็นครับ

ตอนขากลับมาจากหาดป่าตอง เข้าตัวเมืองนี่สุด ๆ ครับ มันมีกลุ่มคนเป็นสิบ วิ่งตามถนนสองแถวที่ผมนั่งมาฯ งงสุด ๆ ไอ้คนพวกนี้จะมาทำอะไรพวกเราฟะ วิ่งตามเป็นกิโล ๆ จนถึงท่ารถ มารู้ทีหลังพวกนี้ คือ คนขับรถสามล้อ ท่านมาตื๊อให้พวกเรานั่งรถโดยสารของท่าน ท่านจะพาไปดูให้ทั่วเมือง ในราคา เพียง ๑๐ บาท งงเลย ทำไมมันถูกฟะ.............เลยถามตรง ๆ ทำไม ถูก ผมอยากไปแค่สองที่ เท่านั้น ไม่ไปตามห้างฯ เบื่อแล้ว ในที่สุดคนขับรถ ก็ต้องร้องขอให้เราช่วยไปหน่อยฯ เพราะเขาจะได้ค่าพาลูกค้าไปชม เครื่องเพชรฯ จากทางร้านครั้งละ ๕๐ บาท เหอ เหอ แหม มันผิดจุดแล้วละครับ ผมเนี่ยเหรอจะซื้อเครื่องเพชรฯ พาผมไป ก็ได้แค่ดู แล้วก็เดินออกมาเท่านั้นแหละ เหลือไว้แต่ความทรงจำที่สวยงามของเครื่องเพชร เหล่านั้นฯ

ผลจากการไปเที่ยวภูเก็ต ได้อะไรหลายอย่าง แต่อย่างหนึ่งที่ได้แน่ ๆ คือ กลับมาจากภูเก็ตแล้ว เป็น “อ้วน ดำ, อ้วน ดำ, อ้วน ดำ” ไปเลยครับ


Create Date : 12 มิถุนายน 2548
Last Update : 21 มิถุนายน 2553 8:20:35 น. 22 comments
Counter : 793 Pageviews.

 
55555555555555

ที่จริงแล้วรู้สึกสนุกสนานไปกับคำบอกเล่าของคุณตำรวจนะ

แต่ที่ขำเนี่ย ตรง อ้วนดำ อ้วนดำ อ้วนดำ นี่แหละ

เห็นภาพชัดเลย นึกถึง แจ็คในเรื่องแฟนฉันด้วย

เราว่า คุณเนี่ย เป็นแจ๊คตอนเด็กๆ แน่เลย

ตอนนี้โตแล้ว กลับตัวกลับใจไม่เกเร ไม่แกล้งเพื่อนแล้ว

เลยมาเป็นตำรวจใช่มั๊ยล่า ฮ่า


โดย: จตุพร (พฤษภาคม 2510 ) วันที่: 12 มิถุนายน 2548 เวลา:2:22:34 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะ..


๒๕ ขวบ ถึง เกือบ ๖๐ ขวบ กลายเป็นสนิทกันแบบเพื่อนตายไปเลย .....น่ารักมากค่ะ....

เป็นพลเมืองดีหลงมาค่ะ....


โดย: ป่ามืด วันที่: 12 มิถุนายน 2548 เวลา:4:36:07 น.  

 
^______^ เป็นเพื่อนกันไม่จำกัดวัยจริงๆค่ะ


โดย: KoPoK วันที่: 12 มิถุนายน 2548 เวลา:4:38:19 น.  

 

สนุกดีค่า ว่าแต่เพื่อนกันเนี่ย
อายุไม่สำคัญจริงๆค่ะ


โดย: prncess วันที่: 12 มิถุนายน 2548 เวลา:6:20:25 น.  

 
ยังไม่เคยไปภูเก็ตเลยค่ะ ทางใต้นี่ลงไปหยุดอยู่แค่พังงา
มีคนเล่าเรื่องไม่ดีของภูเก็ตเอาไว้เยอะ แต่ก็ตั้งใจไว้ว่ายังไงก็ต้องลองไปเที่ยวดูสักที


โดย: rebel วันที่: 12 มิถุนายน 2548 เวลา:6:26:17 น.  

 
สวัสดีค่ะ

ไปทะเลทีไร ดำ กลับมาทุกที

และอาการคัน เป็นผื่น เป็นของแถมด้วยค่ะ



โดย: รักดี วันที่: 12 มิถุนายน 2548 เวลา:8:49:24 น.  

 
เคยไปเมื่อนานมากแล้วครับ ตอนเด็กๆ
เป็นทริปแห่งความทรงจำ เพราะผมบ่นเรื่องนาฬิกาเสียตลอดทาง 555
อยากกลับไปอีกเหมือนกัน คิดถึงทะเลครับ
เดือนหน้ามีรับน้องที่ระยอง แต่ห้ามลงเล่นน้ำอีก
เดินชายหาดอย่างเดียวก็ได้ เฮ้อ..


โดย: Mint@da{-"-} วันที่: 12 มิถุนายน 2548 เวลา:8:58:11 น.  

 
ภูเก็ตไม่เคยไปครับ
นิติฯ ภาคบัณฑิตเคยไปลงไว้สองเทอม แต่นั่งรถไปกลับ รังสิต สนามหลวงไม่ไหวเลยเลิกเรียนไปซะงั้น


โดย: ultraman seven วันที่: 12 มิถุนายน 2548 เวลา:9:02:30 น.  

 
เคยเช่าที ขี่รถมันชนถังขยะตรงทรายหาดกระจาย ดีที่เป็นชายหาด ถ้าเป็นถนน ผมคงสาหัส

แต่เที่ยวแบบลุยเดี่ยวนี่น่าสนุกดีครับ เป็นตำรวจเที่ยวสบายดีจริงๆ เป็นใบผ่านทาง


โดย: noom_no1 วันที่: 12 มิถุนายน 2548 เวลา:10:59:25 น.  

 
เกิดมายังไม่เคยไปภูเก็ตเลยครับ เหอๆ
ได้ไปแต่พัทยาทุกที


โดย: zmen วันที่: 12 มิถุนายน 2548 เวลา:12:34:38 น.  

 
เข้ามาแอบอิจฉา ไม่เคยเที่ยภูเก็ตเลย
ไปทำธุระเสร็จก็กลับทุกที

ผมชอบทะเลมาก
ความฝันของผมคือได้ล่องเรือไปที่ไหนก็ได้ไกลๆ
อยากอยู่กลางทะเลนานๆ
จนบางทีอยากจะหนีจากหน้าที่ไปล่องเรือให้หนำใจ
แต่ก็จนใจจนตังส์ครับ อิอิ


โดย: มังกรสยาม วันที่: 12 มิถุนายน 2548 เวลา:13:39:40 น.  

 

*****สวัสดีตอนเช้าของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า****






นั่งมองฝนหลั่งรินนอกหน้าต่างในยามนี้

ใจลอยร่องไปถึงใครคนหนึ่งอยู่แดนไกล

...เทอจะเป็นอย่างไรบางหนอในตอนนี้...

สุข ...สบายดี..หรือเปล่าช่วยบอกที่

คนทางนี้เฝ้าห่วงใยและอาทร


...ปล. อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะจ้า......มีความสุขมากๆๆนะจ้า ...



โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 12 มิถุนายน 2548 เวลา:13:55:57 น.  

 
ผมยังไม่เคยไปภูเก็ตมาก่อนเลยสักที


โดย: แจ้น IP: 202.133.163.23 วันที่: 12 มิถุนายน 2548 เวลา:14:45:18 น.  

 
เคยไปเที่ยวภูเก็ตตั้งแต่สมัยยังสาวๆ
ขอบอกว่า เป็นจังหวัดที่สวยมาก คือเป็นคนที่ชอบเที่ยวภูเขา มากกว่า ทะเล แต่พอไปภูเก็ต ก็เจอทั้งหาดทรายสีขาว และ ภูเขาสีเขียวสวยไปในเวลาเดียวกัน
ตอนนั้นที่ไป จำได้ว่าก็เช่ามอเตอร์ไซค์เหมือนกัน ขับขึ้นเขา ลงเขา กันเพลินไปเลย
ตอนที่ได้รู้ข่าวสึนามึ ก็แทบไม่อยากเชื่อว่าจะเกิดขึ้นกับเมืองไทย กลัวว่าภูเก็ตจะไม่สวยเหมือนเดิม ตอนนี้เป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ เพราะยังไม่เคยเห็นรูปหลังจากนั้นเลย
ป.ล จำได้ว่าตอนไหนที่ไปทาซันบล็อคทั้งตัว กลับมากรุงเทพเลยไม่มีใครล้อว่า อ้วนดำ อ้วนดำ เพราะปรกติ ก็อ้วนและดำเป็นทุนเดิมอยู่แล้วค่า


โดย: missmeka วันที่: 12 มิถุนายน 2548 เวลา:14:56:37 น.  

 
คิดถึงภูเก็ตเหมือนกันค่ะ แต่ว่าตอนนี้คงต้องพักเรื่องเที่ยวไปก่อน
กิจกรรมที่มหาลัยมีเยอะมาก


โดย: hypnotizer วันที่: 12 มิถุนายน 2548 เวลา:16:28:59 น.  

 


พี่เรียนภาคบัณฑิตมธ...เราเรียนภาคปกติค่ะ จบนานแล้ว
แต่คิดว่าน่าจะเป็นรุ่นน้องนะคะ



โดย: keyzer วันที่: 12 มิถุนายน 2548 เวลา:18:34:53 น.  

 
ทำให้นึกถึงสมัยก่อนที่ไปเที่ยวดีเชียวคะ บรรยายได้ดี เรื่องมอร์เตอไซค์นี่เกิดขึ้นจริงๆ เหมือนกันต้องให้เพื่อนเช่าเขาไม่อยากให้คนไทยเช่า เฮ้อ...


โดย: marinesnow วันที่: 12 มิถุนายน 2548 เวลา:21:31:15 น.  

 
เกิดมาเคยไปแค่ครั้งเดียวเอง

ประทับใจมากๆ

อยากไปอีกจังเร้ยยยยย.....


โดย: รู้สึกแปลก วันที่: 12 มิถุนายน 2548 เวลา:23:07:50 น.  

 
ขอบกราบขอบพระคุณ บรรดา พ่อแม่ พี่น้อง ที่เคารพรักทุกท่านฯ (เหมือน สส. ยังครับ) ที่แวะเข้ามาเยี่ยมเยียน ว่าจริง บล๊อกผม เพิ่งโพสต์ มา ๑ เดือน กะ ๒ วัน นึกไม่ถึง ว่าจะมีเพื่อน ๆ กรุณาเข้ามาอ่านกันเยอะหนาแน่นขนาดนี้ ขอบคุณจริง ๆ ครับ

ผมไปเที่ยวภูเก็ตครั้งเดียวแหละครับ ตอนแรกอยากไปล่องเกาะ ดูประการังมาก ๆ ๆ แต่โทรศัพท์หาพี่ ตำรวจน้ำ ไม่ได้เลย ฝากข้อความไว้ประมาณ ๑๐๐ ครั้งเศษ พี่แกไม่เคยโทรกลับ เฮ้อ.......แล้วแกจะบอกผมทำไมไม่ทราบว่า ไปภูเก็ตเมื่อไหร่ให้บอก.ฯ หรือ พี่แกหมายถึง ถ้าไปให้บอก จะได้ไม่อยู่ ก็ไม่ทราบเหมือนกัน .........ที่จริง ผมไม่ได้คิดอะไรมากหรอก เพราะธรรมดานะครับ คนที่ไม่มีความทุกข์ ก็ไม่ค่อยจะโทรศัพท์ หรือติดต่อเรา เป็นธรรมดาของมนุษย์ ไม่มีอะไรก็ไม่โทรศัพท์หาฯ ต้องทำใจให้จงหนักครับ พี่ตำรวจน้ำ กับผม เรียนโรงเรียนสารวัตร (สถาบันพัฒนาข้าราชการตำรวจ) ด้วยกัน เลยรู้จักกัน ไปถึงภูเก็ตที่พี่เขาทำงานอยู่ ก็อยากจะพบปะ จะได้ดริ้งค์ กันซะหน่อย เหอ เหอ แต่ไม่ทราบว่าทำไม พี่เขารังเกียจผมนัก เหอ เหอ (ทุเรชั่น ตัวเองครับ)

ผมอยากทราบเหมือนกันนะว่า ภูเก็ต หลังคลื่นยักษ์ เป็นอย่างไร อยากไปอีกรอบ แต่ผมชอบสมุยฯ มากกว่าครับ ผมไปมา ๒ รอบแล้ว ชอบหลายอย่างที่สมุย โดยเฉพาะ “หินตา หินยาย” เพราะมันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ชื่อมันก็บอกนะครับ หินตา หินยาย คือ หิน ....แต่หิน ธรรมชาติ สร้างให้มีรูปร่างหน้าตา คล้าย “โยนี “กับ “ศิวลึงค์” เหอ เหอ ไม่น่าเชื่อจริง ๆ เขาเล่าว่า มันมาจากตำนานแห่งความรัก ที่ชายจะมาสู่ขอหญิงสาว แต่เกิดพายุ ทำให้เรือล่ม กลางทะเลฯ จึงขอให้ตนเองมีรูปร่างเป็นหิน....เพื่อให้สาวเจ้ารู้ว่า ไม่ได้ผิดคำมั่นสัญญา .....สาวเจ้าพอรู้เช่นนั้น ก็เลยขอให้ตัวเอง เป็นหินเหมือนกัน กลายร่างเป็น “โยนีศิลา” คู่กับ “ศิวะลึงค์” อยู่จนถึงปัจจุบัน เหอ เหอ

ถ้าจริงละก็ ............สุดยอดครับ ว่าง ๆ ไปเที่ยวเมืองไทยนะครับ ผมรับรองว่า ทะเล เมืองไทย เราสวยที่สุดแล้วครับ ที่ไหนก็สู้ไม่ได้หรอก




โดย: POL_US วันที่: 13 มิถุนายน 2548 เวลา:1:21:52 น.  

 
หินตาหินยาย



เพื่อน คงเดาถูกว่า อันไหน ของตา อันไหน ของยาย ครับ เหอ เหอ


โดย: POL_US วันที่: 13 มิถุนายน 2548 เวลา:4:38:04 น.  

 
เดาไม่ออกจริงๆเลยค่ะ ว่าอันไหนเป็นอันไหน





โดย: missmeka วันที่: 13 มิถุนายน 2548 เวลา:9:03:07 น.  

 
ถ้าพี่มาภูเก็ตคราวหน้า อยากให้แฟนของหนูได้ต้อนรับบ้างจังค่ะ เค้าน่าจะได้รับความรู้ดีๆ จากพี่เยอะเลยค่ะ

คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล ใช่ปะคะ


โดย: paninee (paninee ) วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:22:18:52 น.  

POL_US
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 82 คน [?]




คลิ๊ก เพื่อ Update blog พ.ต.อ.ดร. ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ ได้ที่นี่
https://www.jurisprudence.bloggang.com






รู้จักผู้เขียน : About Me.

"เสรีภาพดุจดังอากาศ แม้มองไม่เห็น แต่ก็ขาดไม่ได้ "










University of Illinois

22 Nobel Prize & 19 Pulitzer Prize & More than 80 National Academy of Sciences (NAS) members







***คำขวัญ : พ่อแม่หวังพึ่งพาเจ้า

ครูเล่าหวังเจ้าสร้างชื่อ

ชาติหวังกำลังฝีมือ

เจ้าคือความหวังทั้งมวล



*** ความสุข จะเป็นจริงได้ เมื่อมีการแบ่งปัน :

Happiness is only real when shared!














ANTI-COUP FOREVER: THE END CANNOT JUSTIFY THE MEANS!






Online Users


Locations of visitors to this page
New Comments
Friends' blogs
[Add POL_US's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.