*** พื้นที่ส่วนตัวของ พันตำรวจเอก ดร. ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ รองผู้บังคับการกองคดีอาญา สำนักงานกฎหมายและคดี นี้ จัดทำขึ้นเพื่อยืนหยัดในหลักการที่ว่า คนเรานั้นจะมีความเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ได้ ก็ต่อเมื่อมีเสรีภาพในการแสดงความคิดโดยบริบูรณ์ และความเชื่อที่ว่าคนเราเกิดมาเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ไม่มีอำนาจใดจะพรากความเป็นมนุษย์ไปจากเราได้ ไม่ว่่าด้วยวิธีการใด ๆ และอำนาจผู้ใด ***
*** We hold these truths to be self-evident, that all men are created equal, that they are endowed by their Creator with certain unalienable rights, that among these are life, liberty and the pursuit of happiness. That to secure these rights, governments are instituted among men, deriving their just powers from the consent of the governed. That whenever any form of government becomes destructive to these ends, it is the right of the people to alter or to abolish it, and to institute new government, laying its foundation on such principles and organizing its powers in such form, as to them shall seem most likely to effect their safety and happiness. [Adopted in Congress 4 July 1776] ***
Group Blog
 
All Blogs
 
ไปเที่ยวญี่ปุ่น : เหตุเกิด ณ Waseda Law School!

อันนี้ ก็เป็น blog เก่า ที่ผมเขียนไว้ใน Msn Space ตั้งแต่วันที่ ๒๙ มิ.ย. ๔๙ ครับ ตอนแรกก็ตั้งใจจะ มาเขียน bloggang นี่แหละครับ แต่ตอนนั้น เข้ามา bloggang ทีไร ก็จะมีปัญหา คนเยอะ ทุกที ระบบบอกว่า คนเยอะ ลองใหม่... อยู่แค่นั้น ... ไม่ไหว ๆ ๆ เอาละครับ ลองมาดูว่า ผมไปทำอะไรที่ Waseda Law School มหาวิทยาลัยเอกชน ของญี่ปุ่น ที่ดีที่สุด ในบรรดาเอกชนทั้งหมดครับ




วันนี้ (๒๙ มิ.ย. ๔๙) ผมมีนัดกับอาจารย์ที่ Waseda Law School สองท่าน คือ Professor Takuichi Kawakami อดีตพนักงานอัยการ กับ Professor Masaki Sasaki อดีตผู้พิพากษาศาลสูงสุดของโตเกียวครับ ผมก็ นัดพูดคุยเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมของญี่ปุ่นนั่นแหละครับ

อาจารย์ทั้งสองท่าน พูดภาษาอังกฤษได้ไม่ดีนัก จึงมีนักศึกษาปริญญาเอก ทางกฎหมาย สองคน มาช่วยเป็นล่ามแปลจากภาษาญี่ปุ่น มาเป็นภาษาอังกฤษ ให้ผมฟัง แล้วก็แปลคำถามจากภาษาอังกฤษ (แบบห่วย ๆ สำเนียงไทย ๆ ของผม) ไปเป็นภาษาญี่ปุ่น สลับไปสลับมา ทั้งวันครับ

ผมรู้สึกแปลกใจมาก ทำอาจารย์ทั้งสองท่าน จึงรู้รายละเอียดขั้นตอนปฏิบัติของตำรวจและอัยการ เกี่ยวกับการจับกุม สืบสวนสอบสวน และฟ้องร้องคดีต่อศาลลึกซึ้งนัก มาอ๋อ ก็ตอนที่รู้ว่า ท่านเคยปฏิบัติงานจริง ๆ มาก่อน แน่นอนครับ ท่านมีความคิดเห็นเช่นเดียวกับพนักงานอัยการ ศาล นักวิชาการทั่วไป

ท่านเห็นว่า ทนายความในคดีอาญา ไม่มีความจำเป็น ในกระบวนการสอบสวนปากคำของผู้ต้องหา หรือผู้ต้องสงสัยในประเทศญี่ปุ่นแต่ประการใด ซึ่งเรื่องนี้ ก็เป็นไปตาม Japanese community perspective ที่เห็นว่า ทนายความเป็นเรื่องที่ไร้ความจำเป็น เพราะตำรวจ อัยการ และศาล ก็สามารถปกป้องสิทธิของผู้ต้องหา หรือ จำเลยได้ดีอยู่แล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักกฎหมายของสหรัฐฯ ในเรื่อง Miranda Warning Rule ซึ่งก็คือ เหมือน ๆ กับ มาตรา ๘๓ และ มาตรา ๘๔ ของกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาของไทยนี้ ที่ให้มีทนายระหว่างการสอบสวนของตำรวจและอัยการ ก่อนฟ้องร้องต่อศาล จึงเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นในสังคมญี่ปุ่น แต่ประการใดครับ

ผมกับอาจารย์ทั้งสองท่าน สนทนากันตั้งแต่ ๑๐ โมงเช้า ยันเที่ยง ท่านอาจารย์ที่เป็นผู้พิพากษาเก่า ก็พาไปเลี้ยงข้าว แล้วพาไปท่องเที่ยวแคมปัส พาไปดูศาลจำลอง แล้วก็พูดคุยกันต่ออีกประมาณ ๓ ชั่วโมง จากนั้น ก็พาแนะนำสถานที่ต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัย Waseda อีกพักใหญ่ ไม่น่าเชื่อครับ ท่านให้ความเมตตา กรุณา มุทิตา แก่ผมอย่างมากจริง ๆ

จะไปว่าแล้ว มหาวิทยาลัยวาเซดะนี่ หรูหรามาก ๆ เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก อย่าง Law School นี่ ก็ผลิต Doctor ทางกฎหมาย ปีละ ร้อยคนเศษ อาคาร Law School เป็นอาคารใหม่ล่าสุด มีสองตึกคู่ขนาดกัน สูง ๑๑ ชั้น ใหญ่โตมาก ๆ ในห้องพักอาจารย์ ก็มีโต๊ะประชุมพร้อมเพียงเลย สามารถให้นักศึกษาหรืออาจารย์เข้าไปปรึกษาหารือได้ มีห้องสมุดและห้องค้นคว้าในการทำวิจัยส่วนตัวของนักเรียนทุกระดับ ตั้งแต่ ป. ตรี ป.โท และ ป. เอก มีโรงอาหารในอาคารของ Law School ห้องคอมพิวเตอร์ Moot Court Room หรือ ห้องศาลจำลอง ฯลฯ อย่างเพียบพร้อม ทันสมัย เหมือนโรงแรมชั้น ๑ ระดับ ๕ ดาว อย่างไรอย่างนั้นครับ

อย่างที่ว่าไปแล้วครับ ในช่วงบ่าย ท่านอาจารย์ที่เป็นผู้พิพากษาเก่า ก็ชวนไปพูดคุยเรื่องกระบวนการยุติธรรมของญี่ปุ่นต่อ ท่านเล่าว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานเป็นศาลมา ๓๐ ปี ไม่เคยพบว่าอัยการถูกกล่าวหาว่ารับสินบน และมีเพียง ๑ คดีที่ตำรวจ ถูกกล่าวหาว่ารับสินบน โดยรับของกำนัล เพื่อให้ภรรยาผู้ต้องหา ได้เข้าเยี่ยมผู้ต้องหานอกเวลาได้ แค่นั้น .... มันยอดมากเลยครับ

ท่านกล่าวว่า ในความเห็นส่วนตัวของท่านนั้น เป็นเพราะคนญี่ปุ่น มีความภาคภูมิใจในตัวเองสูง โดยเฉพาะนักกฎหมาย ได้รับการสั่งสอนมาอย่างดีและเข้มข้น ทำให้รักษาเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ของตนเองอย่างดีเยี่ยมครับ และที่สำคัญ เงินเดือนของพวกเขาก็สูงพอที่จะอยู่อย่างมีเกียรติ ทั้งตำรวจ อัยการ และศาล โดยไม่ต้องหวังพึ่งพาเงินทองจากแหล่งชั่วร้ายอื่น ๆ





กว่าจะคุยเสร็จ ก็ประมาณบ่ายสี่โมงแล้วละ กลับมาพักผ่อน แล้วก็ลงทุนไปกินซูชิ แบบที่อาหารมันวิ่งไปตามราง แล้ว ให้เราเลือกหยิบได้ตามใจนะครับ ราคาก็คิดตามที่เรากินไปครับ มื้อนี้ ใกล้กลับเมืองไทยแล้ว ผมกินไป ราคาพันสามร้อยเยน (กินเยอะไปนิดครับ)




จากนั้น ผมก็เดินเล่นแถว ๆ Ikebukuro ที่นี่ เป็นแหล่งชอบปิ้งอีกแห่งหนึ่งครับ ใกล้ ๆ กับสถานทีที่จะต่อรถไปเที่ยว Hagone ที่ผมเคยเล่าให้ฟังไปแล้ว มาที่นี่ผมเสียตังค์ไปหลายเลยครับ ประมาณ ๖,๕๐๐ เยน (๒,๒๐๐ บาท) ในการซื้อเสื้อผ้า ผมว่าเสื้อยืดที่นี่ใส่สบายจริง ๆ เนื้อผ้าดี เลยกะซื้อเอาไปใส่ที่เมืองไทย กับอเมริกาต่อไปครับ

จากนั้น กลับมาพักผ่อน แล้วก็ติดตามข่าวการเมืองนิดหน่อย .... ผมก็ได้แต่พูดกับตัวเองว่า "เมื่อไหร่ ประชาชนจะสั่งสอนพรรคการเมืองที่ชั่วร้ายให้หมดไปเสียที ...." แล้วจะอัพเดทต่อไปครับผม




Create Date : 03 เมษายน 2550
Last Update : 23 ธันวาคม 2554 16:39:22 น. 11 comments
Counter : 923 Pageviews.

 
เบื่อการเมืองไทยครับ
อยู่จีนนานๆ ผมชักชอบคอมซะแล้ว คอรัปชั่นประหารสถานเดียว


โดย: ตี๋น้อย (Zantha ) วันที่: 3 เมษายน 2550 เวลา:14:39:29 น.  

 
มาลงชื่อไว้ก่อนค่ะ
พรุ่งนี้ค่ำๆมาอ่านต่อ

ตาสองข้างปิดเกือบสนิทเเล้วค่ะ


โดย: EliiCA IP: 76.204.181.185 วันที่: 3 เมษายน 2550 เวลา:16:44:55 น.  

 
คุณลักษณะทางนิสัยและพฤติกรรมของประชากรในแต่ละประเทศ
ก็มีส่วนอย่างสำคัญเหมือนกันเนาะ
ต่อการออกกฏหมายและบังคับใช้กฏหมายรวมถึงประสิทธิผลของกฏหมายต่างๆ ทุกระดับ


โดย: Commencer วันที่: 3 เมษายน 2550 เวลา:19:34:30 น.  

 
"ท่านกล่าวว่า ในความเห็นส่วนตัวของท่านั้น เป็นเพราะคนญี่ปุ่น มีความภาคภูมิใจในตัวเองสูง โดยเฉพาะนักกฎหมาย ได้รับการสั่งสอนมาอย่างดีและเข้มข้น ทำให้รักษาเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ของตนเองอย่างดีเยี่ยมครับ และที่สำคัญ เงินเดือนของพวกเขาก็สูงพอที่จะอยู่อย่างมีเกียรติ ทั้งตำรวจ อัยการ และศาล โดยไม่ต้องหวังพึ่งพาเงินทองจากแหล่งชั่วร้ายอื่น ๆ"

So true....



โดย: Rive Gauche วันที่: 3 เมษายน 2550 เวลา:20:03:14 น.  

 
ผมว่าญี่ปุ่น...เอ่อ...ไม่ค่อยดีนักนะคับ...พรรคการเมืองเค้าก็วุ่นๆเหมือนกัน...ผมว่าคนเค้าเก็บกดกว่าพวกบ้านเรานะ...
ส่วนเรื่องที่คุณPol_USพูดถึง...โอเคคับยอมรับว่าเค้าดีอย่างนั้นจริงๆ


โดย: Kurt Narris วันที่: 3 เมษายน 2550 เวลา:20:47:41 น.  

 
ผมชอบประเทศญี่ปุ่น หลายอย่างเลยนะครับ โดยเฉพาะที่ตรงใจมาก ก็คือ เรื่องความขยันขันแข็ง ความอดทน และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของคนในประเทศนี้

คนที่นี่ขยันมาก ทำงานกันยันเที่ยงคืน คือ เรื่องปกติของเขา แล้วไอ้วัฒนธรรม แบบไทย ๆ ที่ผู้ใหญ่ ทำอย่างไรก็ได้ จะไปทำงานกี่โมงก็ได้ จะกลับกี่โมง ก็ได้ ฯลฯ เหล่านี้ ผมไม่เคยได้ยินใดประเทศนี้ครับ ผมชอบครับ ผมว่า คนที่เป็นผู้บังคับบัญชา ต้องเป็นตัวอย่างที่ดี ถ้าตัวเองทำตัว ไม่ได้เรื่อง จะไปเคร่งครัดกับลูกน้องได้อย่างไร มันไม่ละอายใจกันบ้างหรือ

แต่คนญี่ปุ่น เครียดไปนิด .... ซึ่งผมก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่อยากให้คนไทย เครียดแบบชาวญี่ปุ่น สัก ๓๐ เปอร์เซ็นต์ ก็พอครับ ระดับผู้หลักผู้ใหญ่ของเขา ก็ทำงาน แต่เช้า ยันค่ำเช่นกัน และทำงานกันเกือบ ๗ วันต่อสัปดาห์เลย .... ชอบ ๆ ครับ ถ้าคนไทยทำได้สัก ๓๐ เปอร์เซ็นต์นี่ ผมว่า ประเทศไทยก้าวหน้าไปกว่านี้ ร้อยเท่าแล้วละครับ

ปล. ผม จะไปโคโลราโด้หลายวันนะครับ .... อาจจะไม่ได้เข้ามาดู แล้วจะเอาภาพสวย ๆ มาลงให้ดูครับ รัฐนี้ เป็นรัฐที่ผมอยากไปมาหลายปี เพิ่งมีโอกาสครับ



โดย: POL_US (POL_US ) วันที่: 4 เมษายน 2550 เวลา:4:14:24 น.  

 
มาตอบคำถามคุณพอลค่ะ เชิญที่นี่เลยค่ะ คล้ายๆกันนะ

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=rivegauche&month=09-2006&date=13&group=12&gblog=19

แล้วไปโคโลราโด้จะได้เจอคุณ A.T. หรือเปล่าคะเนี่ย

แวะมาบอกด้วยว่าดิฉันอยากให้ตำรวจบ้านเราเป็นเหมือนคุณจังเลยค่ะ โดยเฉพาะคนที่ยศสูงๆ คิดได้ครึ่งนึงของคุณก็คงจะดี ภูมิใจนะคะที่ได้รู้จักคุณ


โดย: Rive Gauche วันที่: 4 เมษายน 2550 เวลา:6:43:42 น.  

 
ชื่นชมอัยการและตำรวจญี่ปุ่น ที่ไม่มีเรื่องใต้โต๊ะ

อยากให้เมืองไทยยุติธรรมเท่าเทียมกันแบบนี้ ผิดก็ว่ากันตามผิด


โดย: yyswim วันที่: 4 เมษายน 2550 เวลา:11:10:42 น.  

 


กว่าเมืองไทยจะเป็นระบบนี้แบบญี่ปุ่นได้ คงอีกนานค่ะ


โดย: Htervo วันที่: 4 เมษายน 2550 เวลา:19:32:42 น.  

 
จะไปโคโลราโดหรือครับ

ตอนผมเรียนโท ผมเรียนที่ Univ of Colorado at Boulder ครับ เป็นช่วงหนึ่งของชีวิตที่ประทับใจมากเลยทีเดียว ชอบวิธีการเรียนการสอนของฝรั่ง ชอบที่เห็นคนส่วนใหญ่รู้จักหน้าที่ของตัวเองและรับผิดชอบต่อคนอื่นๆ ในสังคม ชอบความสะดวกสบายของชีวิต ชอบที่เมือง Boulder ที่อยู่นั้นสงบเพราะเป็นเมืองมหาวิทยาลัยกับเมืองที่อยู่อาศัย อากาศก็ดี ผู้คนก็อัธยาศัยดี ยิ้มและทักทายคนที่เดินสวนกันบนถนนทั้งๆ ที่ไม่รู้จักกัน ฯลฯ

รัฐนี้มีที่เที่ยวที่เป็นภูเขาเยอะแยะเลยครับ ทั้งแบบที่มีป่าเขียวๆ แบบแคนยอน แบบเอาไว้เล่นสกี

ตอนเรียนจบแล้ว ก่อนกลับเมืองไทย ผมเช่ารถขับเที่ยวคนเดียวรอบรัฐอยู่สามสี่วัน มีความสุขจริงๆ

ขอให้มีความสุขกับการเที่ยวที่โคโลราโดนะครับ


โดย: คนทับแก้ว วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:10:57:53 น.  

 


มารอชมภาพสวยที่ โคโลราโด เลยค่ะ


โดย: Htervo วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:16:03:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

POL_US
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 82 คน [?]




คลิ๊ก เพื่อ Update blog พ.ต.อ.ดร. ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ ได้ที่นี่
https://www.jurisprudence.bloggang.com






รู้จักผู้เขียน : About Me.

"เสรีภาพดุจดังอากาศ แม้มองไม่เห็น แต่ก็ขาดไม่ได้ "










University of Illinois

22 Nobel Prize & 19 Pulitzer Prize & More than 80 National Academy of Sciences (NAS) members







***คำขวัญ : พ่อแม่หวังพึ่งพาเจ้า

ครูเล่าหวังเจ้าสร้างชื่อ

ชาติหวังกำลังฝีมือ

เจ้าคือความหวังทั้งมวล



*** ความสุข จะเป็นจริงได้ เมื่อมีการแบ่งปัน :

Happiness is only real when shared!














ANTI-COUP FOREVER: THE END CANNOT JUSTIFY THE MEANS!






Online Users


Locations of visitors to this page
New Comments
Friends' blogs
[Add POL_US's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.