อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมายอมรับว่าลูกทีมของตัวเองต้องเจองานหนักสุด ๆ กว่าจะคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครองด้วยการเอาชนะ ฮัลล์ ซิตี 3-2 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ หลังเสมอกัน 2-2 ในเวลา 90 นาที ในเกมรอบชิงชนะเลิศที่สนามเวมบลีย์ ในกรุงลอนดอน เมื่อวันเสาร์ที่ 17 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการพา "ปืนใหญ่" คว้าแชมป์รายการสำคัญเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปีอีกด้วย
เกมนี้ ฮัลล์ ออกสตาร์ตได้ดี และขึ้นนำก่อนถึง 2-0 จาก เจมส์ เชสเตอร์ ในนาทีที่ 4 และ เคอร์ติส เดวีส์ ในนาทีที่ 8 แต่ "ปืนใหญ่" มายิงคืน 2 ประตูรวดจากฟรีคิกของ ซานติ กาซอร์ลา ในนาทีที่ 17 และ โลร็องต์ กอสเซียลนี ในนาทีที่ 71 ก่อนที่ อารอน แรมซีย์ จะมาซัดประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษ นาทีที่ 109 ช่วยให้ อาร์เซนอล คว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ ซึ่ง เวนเกอร์ ยอมรับว่าลูกทีมของตนหืดจับสุด ๆ กว่าจะปราบ ฮัลล์ ซิตี ลงได้
"มันเป็นเกมที่สำคัญ และเราก็เกร็งอย่างเห็นได้ชัดในช่วงต้นเกม แต่เราก็กลับมาสู่เกมได้อย่างยอดเยี่ยม โดยรวมแล้ว สปิริตและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน รวมถึงศักยภาพของเรา ทำให้เราคว้าถ้วยใบนี้มาครองได้ ทั้งที่ตกเป็นรองก่อนในช่วงแรก แต่นั่นก็เป็นเพราะ ฮัลล์ เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมด้วย ซึ่งต้องชมเชย สตีฟ บรูซ ผู้จัดการทีมของพวกเขาที่ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม การคว้าแชมป์ครั้งนี้เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับทีม และมันจะเป็นจุดเปลี่ยนที่จะทำให้เราก้าวต่อไป นอกจากนั้นมันจะทำให้เรายกความกดดันที่แบกมานานออกไปได้สำเร็จอีกด้วย"
ขณะเดียวกัน เวนเกอร์ ยังยืนยันอีกด้วยว่าเขาจะต่อสัญญาคุมทีมในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ต่อไป หลังจากสัญญาฉบับเดมหมดลงหลังจบฤดูกาลนี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้เจ้าตัวจะปฏิเสธที่จะเจรจาเรื่องการต่อสัญญาฉบับใหม่กับสโมสรมาตลอดในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาก็ตาม โดยเมื่อถูกถามว่าจะอยู่กับทีมต่อไปหรือไม่ นายใหญ่ "เดอะ กันเนอร์ส" ตอบว่า "แน่นอน ผมจะอยู่กับทีมต่อไป"
ขอบคุณข้อมูลจากเดลินิวส์ภาพจาก google