วันนี้ (12 ส.ค.)สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่านว่า แผ่นดินไหวรุนแรง 2  ครั้งในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอิหร่าน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 180 ศพ และบาดเจ็บอีก 1,350 คน ผู้คนอีกจำนวนมากต้องอาศัยอยู่นอกเคหสถานยามค่ำคืน เพราะยังหวั่นว่าจะมีอาฟเตอร์ช็อกรุนแรงตามซ้ำมาอีก

สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า ตรวจวัดแผ่นดินไหวรุนแรงครั้งแรก เมื่อเวลา 16.53 น.ของวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับ 19.23 น.วันเดียวกันตามเวลาในประเทศไทย วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.4 ริคเตอร์ โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 9.9 กม. และ ห่าง 60 กม.ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองทาบริซ เมืองซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ 1.5 ล้านคน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิหร่าน ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งแรก อยู่ในเขตกึ่งกลางระหว่างเมืองอฮาร์ กับเมืองฮาริส 500 กม.ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเตหะราน

จากนั้นก็ยังมีแผ่นดินไหวครั้งที่สองในอีก 11 นาทีต่อมา วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.3 ริคเตอร์ โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 9.8 กม. และ ห่าง 48 กม.ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองทาบริซ

สถานีโทรทัศน์ของอิหร่าน รายงานว่า แผ่นดินไหวรุนแรงสร้างความเสียหายให้กับเมืองอฮาร์, ฮาริส และ วาร์ซากัน ในเขตจังหวัดอีสต์ อเซอร์ไบจัน มีอย่างน้อย 6 หมู่บ้านที่พังราบ และอีก 60 หมู่บ้านที่ได้รับความเสียหายร้อยละ 50-80 นอกจากนั้นก็ยังมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกอย่างน้อย 10 ครั้งในพื้นที่เดียวกันนี้ และยังรับรู้ได้ไกลใกล้กับทะเลแคสเปียน ทำเอาประชาชนแตกตื่น

นายคาห์ลิล ซาอี หัวหน้าคณะทำงานกู้วิกฤตท้องถิ่น ได้กล่าวขอร้องให้ชาวบ้านอยู่นอกเคหสถานไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย ดังนั้นจึงมีประชาชนออกมาอาศัยสวนสาธารณะ และ พื้นที่เปิดโล่ง เป็นที่อาศัยหลับนอนยามค่ำคืน เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากอาฟเตอร์ช็อก
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ของรัฐยังเกรงว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจจะปรับสูงขึ้น เพราะเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงพยายามค้นหาผู้คนที่ยังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังเข้าไปไม่ถึงอีกหลายจุดด้วยกัน

สำหรับอิหร่านนั้นเป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนรอยเลื่อนสำคัญ จึงเกิดแผ่นดินไหวขึ้นบ่อยครั้ง จนกล่าวได้ว่าเฉลี่ยแล้วจะเกิดแผ่นดินไหวได้ทุกวัน แม้บางครั้งอาจจะไม่รู้สึกได้เลยก็มี เช่น เมื่อปี 2546 เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 6.6 ริคเตอร์ ถล่มพื้นที่ของเมืองบาม ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 26,000 ศพ

//www.dailynews.co.th/world/148997