ชนะเสียที! ผีโชว์โหดถล่มคิวพีอาร์ยับเยิบ4-0

ชนะเสียที! ผีโชว์โหดถล่มคิวพีอาร์ยับเยิบ4-0

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2557

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-0 ควีนส์ปาร์ค

สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

 ผู้ตัดสิน : ฟิล ดาวด์

cth.sanook.com



ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2014-15 ประจำวันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2557 โดยเป็นเกมที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ระหว่างทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ "คิวพีอาร์" ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส

เริ่มเกมครึ่งแรก


ผ่านไปได้ 7 นาที เจ้าถิ่น แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสลุ้นก่อน จาก อันเดร เอร์เรร่า จ่ายบอลเข้ากลางให้ ฆวน มาต้า ได้ซัดด้วยขวา แต่บอลเหินข้ามคานไป

น.15 แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสอีกครั้ง  เมื่อ มาร์กอส โรโฮ โยนบอลจากริมเส้นมาหน้าประตู ฟาน เพอร์ซี่ เกี่ยวบอลลงได้ แต่ไปกั๊กจังหวะกับ เอร์เรร่า ทำให้เสียโอกาสยิง ก่อนถูกแนวรับ ควีนส์ปาร์ค สกัดทิ้งออกไป



และน.24 เจ้าถิ่น  แมนฯ ยูฯ ก็มาได้ประตูจนได้ จากฟรีคิกทางด้านขวา อังเคล ดิ มาเรีย เปิดไปหน้าประตู แต่ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายโหม่งไม่โดน  แต่ทำให้ โรเบิร์ต กรีน เสียจังหวะ ก่อนบอลกระดอนเข้าเสาไกล ทำให้ แมนฯยูฯ ออกนำ 1-0

น.30 อังเคล ดิ มาเรีย เปิดบอลจากริมสนามฝั่งซ้ายให้  โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ได้โหม่ง แต่บอลโด่งออกหลังไป

น.32  ควีนส์ปาร์ค  เกือบตีเสมอได้  เมื่อ ดาบิด เด เคอา ออกมาเตะบอลพลาด บอลมาตกที่ แมตต์ ฟิลลิปส์ ยิงสวนตรงกรอบ แต่ จอนนี่ อีแวนส์ ยังตามมาบล็อกได้ทัน



และนาทีที่36 "ปีศาจแดง" มาได้ประตูนำห่าง 2-0 จาก อังเคล ดิ มาเรีย พาบอลมาจากแดนตัวเอง ก่อนจ่ายให้ รูนี่ย์ ยิงติดแนวรับทีมเยือน แต่บอลกระเด้งกลับมาที่ รูนี่ย์ อีกครั้ง แต่เลือกจ่ายให้ อันเดร เอร์เรร่า วิ่งมาซัดเข้าไปตุงตาข่าย

ช่วงท้ายเกม  แมนฯ ยูฯ ขยับหนีห่างเป็น 3-0  จาก อันเดร เอร์เรร่า จ่ายให้ เวย์น รูนี่ย์ แต่งบอลหนึ่งจังหวะ ก่อนกดด้วยขวาเบียดเสาแรกเข้าไป และจบครึ่งแรกไปด้วสกอร์นี้

เริ่มเกมครึ่งหลัง

 มาได้ 3 นาที ทีมเยือน ควีนส์ปาร์ค ได้ลุ้นก่อน เมื่อ อาร์มองด์ ตราโอเร่ ลากบอลขึ้นมา ก่อนดีดเข้ากลางให้ ซานโดร ได้ซัดเน้นๆ  แต่ ดาบิด เด เคอา ยังเหนียวใช้ขาเซฟไว้ได้



น.58 อังเคล ดิ มาเรีย จ่ายบอลเรียดให้ ฆวน มาต้า วิ่งสอดมารับบอลในเขตโทษ ก่อนกดด้วยซ้ายเข้าไปตุงตาข่าย แมนฯ ยูไนเต็ด นำขาดเป็น 4-0

น.65 "ปีศาจแดง" ครองเกมมากกว่าและเกือบได้ประตูเพิ่ม เมื่อ อังเคล ดิ มาเรีย ดีดบอลข้ามแนวรับ ทีมเยือน ให้ อาร์วีพี วิ่งมายิงแต่บอลไปตรงตัว โรเบิร์ต กรีน

น.71 ยังคงเป็นเจ้าถิ่น ที่มีลุ้นต่อเนื่อง  โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เปิดบอลไปหน้าประตู บอลโค้งไปชนคานกะเด้งออกมา เกือบเป็นประตูที่5 ให้ทัพ"ปีศาจแดง"อีก

น.77 ทีมเยือน มีลุ้นทำประตู จากการส่งบอลคืนหลังพลาดของแนวรับเจ้าถิ่น  บอลมาเข้าทาง เอดูอาร์โด วาร์กัส ก่อนแตะหลบ ไทเลอร์ แบล็คเค็ตต์ หลุดเข้าไปในเขตโทษ แต่ยิงได้ไม่ดีบอลหลุดเสาสองออกไป

น.84 ดาลี่ย์ บลินด์ ลองส่องไกล โรเบิร์ต กรีน ปัดได้ แต่ไม่พ้นอันตราย ราดาเมล ฟัลเกา วิ่งมาซ้ำ แต่ถูก โรเบิร์ต กรีน  ใช้ขาเซฟไว้ได้อีกครั้ง

ช่วงท้ายเกมไม่มีประตูเพิ่มเติม ทำให้ จบ90นาที เจ้าถิ่น แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านถล่ม ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ไปแบบสบายๆ 4-0 ถือเป็นการคว้าชัยชนะนัดแรกในลีกของฤดูกาลนี้

รายชื่อ11ผู้เล่นแรกที่ลงสนามของทั้งสองทีม


แมนฯ ยูไนเต็ด (ระะบบ 4-4-2) : ดาบิด เด เคอา , ราฟาเอล,ไทเลอร์ แบล็คเค็ตต์, จอนนี่ อีแวนส์, มาร์กอส โรโฮ,อันเดร เอร์เรร่า,ดาลี่ย์ บลินด์, อังเคล ดิ มาเรีย,ฆวน มาต้า,เวย์น รูนี่ย์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

ควีนส์ปาร์ค (ระบบ 4-4-1-1) : โรเบิร์ต กรีน,เมาริซิโอ อิสล่า, สตีเว่น คอลเกอร์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, คลิ้นท์ ฮิลล์ ,ซานโดร,นิโก้ ครานชาร์,แมตต์ ฟิลลิปส์, จูเนียร์ ฮอยเล็ตต์ , ลีรอย เฟอร์, ชาร์ลี ออสติน

 

 

ประมวลภาพ ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-0 ควีนส์ปาร์ค

 




Create Date : 15 กันยายน 2557
Last Update : 15 กันยายน 2557 3:59:46 น.
Counter : 1109 Pageviews.

0 comment
มูรินโญ่ ชูคอสต้าดาวยิงเจ๋งสุดในโลก

มูรินโญ่ ชูคอสต้าดาวยิงเจ๋งสุดในโลก

ชั่วโมงนี้ต้องยอม...! "เฮียมู" เชิดชู คอสต้า ชี้เหมาะสมกับคำว่าดาวยิงที่ดีที่สุดของโลก ณ เวลานี้ หลังซัดไปแล้ว 7 ลูกใน 4 เกม ทั้งที่เพิ่งมาค้าแข้งลีก "ผู้ดี"

โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมฝีปากกล้าของสโมสร เชลซี ทีมจ่าฝูงของศึก พรีเมียร์ ลีก ออกมาให้สัมภาษณ์หลังจบเกมที่ทัพ "สิงห์บลูส์" เปิดบ้านเอาชนะ สวอนซี ซิตี้ 4-2 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ยอมรับพอใจกับผลงานแม้ไม่ปลื้มกับฟอร์มครึ่งแรก พร้อมเชิดชู ดีเอโก้ คอสต้า ศูนย์หน้าป้ายแดง คู่ควรกับคำว่าดาวยิงที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้

"มู" กล่าวว่า "ผมไม่ค่อยพอใจผลงานครึ่งแรกนัก เรากดดันคู่แข่งไม่ได้ แถมปล่อยให้นักเตะ สวอนซี มีพื้นที่เล่นกันมากเกินไป ทำให้ช่วงครึ่งหลังเราต้องปรับแผน และเริ่มกดดันไล่บี้พวกเขา ทำให้พวกเขาไม่มีพื้นที่ ไม่มีเวลาที่จะเล่น เราเริ่มครองเกมและเปิดเกมบุกใส่พวกเขาจนยิงได้ถึง 4 ประตู และมีโอกาสอีกเพียบที่จะเป็น 5 เป็น 6 ลูก แต่ สวอนซี ในวันนี้แสดงให้เห็นแล้วว่าทำไมพวกเขาถึงรั้งอันดับหัวแถวของลีก ก่อนบุกมาเยือนพวกเรา"

นอกจากนี้ มูรินโญ่ ยังพูดถึง คอสต้า ดาวเตะขวัญใจในถิ่น "สแตมฟอร์ด บริดจ์" คนใหม่ว่า "เขาเป็นนักเตะสุดพิเศษ เขาถือเป็นหนึ่งในศูนย์หน้าที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้ เราเป็นทีมที่เน้นเกมบุก เป็นทีมที่สร้างโอกาสยิงได้มากมาย ทำให้กองหน้ามีโอกาสยิงมากขึ้น 7 ประตูที่ คอสต้า ยิงได้โดยไม่มีลูกจุดโทษมาเกี่ยวข้องเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์มากๆ แม้ใครหลายคนจะคาดมาก่อนว่าเขาไม่น่าจะเจอปัญหากับการปรับตัวใน พรีเมียร์ แต่ 7 ประตูใน 4 เกม ถือเป็นสถิติที่ยอดเยี่ยมมากๆ"



Create Date : 14 กันยายน 2557
Last Update : 14 กันยายน 2557 21:17:09 น.
Counter : 476 Pageviews.

0 comment
ร็อดเจอร์ส เซ็งหงส์หอกทื่อทำพ่ายวิลล่าคารัง

ร็อดเจอร์ส เซ็งหงส์หอกทื่อทำพ่ายวิลล่าคารัง

ลับคมหน่อย....! "บี-ร็อด" ผิดหวัง "หงส์แดง" มาพังคาบ้านต่อ "สิงห์ผงาด" 0-1 ติงลูกทีมเล่นเกมรุกแบบไร้มิติ พร้อมชมคู่แข่งเกมรับเหนียวจริง

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล สโมสรขวัญใจมหาชนแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมายอมรับว่ารู้สึกผิดหวังกับผลงานของลูกทีม แนวเฉพาะแนวรุกที่หาโอกาสเจาะตาข่ายคู่ต่อสู้แทบไม่ได้ในเกมที่ทัพ "หงส์แดง" พ่ายคารัง แอนฟิลด์ ต่อ แอสตัน วิลล่า 0-1 เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา พร้อมกับยกเครดิตให้กับทัพ "สิงห์ผงาด" ที่เล่นเกมรับกันได้อย่างเหนียวแน่นในเกมนี้

นายใหญ่ชาวไอร์แลนด์เหนือ กล่าวถึงรูปเกมของทัพ "หงส์แดง" ในเกมล่าสุดที่แพ้คาบ้านต่อ แอสตัน วิลล่า ว่า "เรากดดันคู่ต่อสู้และผ่านบอลกันช้าเกินไป แถมยังเสียประตูแรกทำให้เราเล่นกันยาก มันคือวันที่น่าผิดหวัง แต่ก็ต้องชื่นชม วิลล่า ที่ป้องกันได้อย่างยอดเยี่ยม แต่เราก็เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานเล็กน้อย เราได้แต่ครองบอล แต่ไม่มีโอกาสลุ้นทำประตูเลย"

ทั้งนี้ "หงส์แดง" ยังมีแต้มหยุดอยู่ที่ 6 แต้มเท่าเดิมจากการลงสนาม 4 เกม รั้งอยู่ในอันดับที่ 7 ของตาราง ในขณะที่ แอสตัน วิลล่า มีเพิ่มเป็น 10 แต้มขยับขึ้นไปอยู่ในอันดับ 2 ของตารางคะแนน




Create Date : 14 กันยายน 2557
Last Update : 14 กันยายน 2557 20:58:45 น.
Counter : 467 Pageviews.

0 comment
หงส์สุดเซ็ง! สิงห์ผงาดบุกเชือดคาถิ่น1-0

หงส์สุดเซ็ง! สิงห์ผงาดบุกเชือดคาถิ่น1-0

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 13 กันยายน 2557

ลิเวอร์พูล 0-1 แอสตัน วิลล่า

สนาม : แอนฟิลด์

 ผู้ตัดสิน : ลี เมสัน

cth.sanook.com

 

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2014-15 ประจำวันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม 2557 โดยเป็นเกมที่สนามแอนฟิลด์ ระหว่างทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลล่า

เริ่มเกมครึ่งแรก

ได้ 3 นาที เจ้าบ้าน ลิเวอร์พูล มีจังหวะลุ้นก่อน จาก อัลเบร์โต้ โมเรโน่ เปิดบอลจากด้านซ้ายเข้าเขตโทษมาถึง ลาซาร์ มาร์โควิช ได้วอลเล่ย์ด้วยขวา แต่บอลเหินข้ามคานออกไป

น.7 ฆาเบียร์ มานกีโย่ โยนบอลจากริมเส้นด้านขวาให้ มาร์โควิช ขึ้นโขกในเขตโทษ แต่หลุดเสาสองออกไปนิดเดียว


และ 2นาที ต่อมา  แฟนทีมเยือน แอสตัน วิลล่า ก็ได้เฮก่อน จากลูกเตะมุม ฟิลิปป์ เซนเดอรอส ขึ้นโขกไปติด กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ พวกเดียวกัน ก่อน อักบอนลาฮอร์ จะหวดด้วยขวาเข้าไปตุงตาข่าย ทำให้  แอสตัน วิลล่า บุกนำ  ลิเวอร์พูล 1-0

น.12 ทีมเยือน เกือบได้ลูกที่2 จากลูกฟรีคิกเข้าไปหน้าประตูลิเวอร์พูล ก่อนเป็น ฟิลิปป์ เซนเดอรอส ที่ได้โหม่งคนเดียวโล่งๆ แต่บอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

น.32  ลิเวอร์พูล มีโอกาสลุ้นทำประตู เมื่อ มาริโอ บาโลเตลลี่ ยกบอลให้ อัลเบร์โต้ โมเรโน่ ที่วิ่งสอดขึ้นมารับบอล ก่อนหลุดเข้าไปในเขตโทษ แต่กำลังง้างเท้า  ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

2นาทีถัดมา เจ้าถิ่นได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะสับไกในเขตโทษของ ลาซาร์ มาร์โควิช  แต่ไปติดบล็อก ฟิลิปป์ เซนเดอรอส ตามมาช่วยใว้ได้ทัน

ช่วงท้ายเกม ลิเวอร์พูลบุกหนัก ได้ลุ้นจาก อดัม ลัลลาน่า มีจังหวะกดด้วยซ้าย ระยะ 25 หลา บอลพุ่งหลุดเสาสองออกไป และอีกครั้งเป็น มาริโอ บาโลเตลลี่ ที่ลากบอลจากริมเส้นด้านซ้าย ตัดเข้ากลางแล้วซัดด้วยขวา บอลแฉลบแนวรับ ทีมเยือนเกือบเปลี่ยนทางเข้าประตู และทำให้จบเกมครึ่งแรก ทีมเยือน วิลล่า บุกนำ ลิเวอร์พูล อยู่ 1-0

เริ่มเกมครึ่งหลัง

ผ่านไป 6 นาที เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล เปิดเกมรุกทันที เมื่อ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เปิดลูกเตะมุมให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน  ขึ้นโขกแต่บอลหลุดกรอบออกไป

น.63 อลัน ฮัตตัน ได้รับใบเหลือง เมื่อไปเสียบ ราฮีม สเตอร์ลิง ที่เพิ่งลงสนามได้ไม่นาน จนตัวลอย

น.80 "หงส์แดง" เกือบได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะ ฟิลิปเป้ คูปเป้ คูตินโญ่ เลี้ยงหลบ แนวรับ วิลล่า ก่อนซัดด้วยขวา บอลพุ่งชนเสาเต็มๆ บอลกระดอนมาเข้าทาง ราฮีม สเตอร์ลิง ตามซ้ำอีกครั้ง แต่ดันไปติด จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ทีมเดียวกันเสียอีก

ช่วงทดเวลาที่เหลือ ทั้งสองทีมไม่สามารถ ทำประตูเพิ่มเติมกันได้ ทำให้จบเกม 90 นาที  แอสตัน วิลล่า บุกมาเฉือนชนะ ลิเวอร์พูล ไปได้ 1-0 เก็บสามแต้มสำคัญ


รายชื่อ11ผู้เล่นแรกของทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล (ระบบ 4-3-3) : ซิมง มิโญเลต์ - ฆาเบียร์ มานกีโย่, เดยัน ลอฟเรน, มามาดู ซาโก้, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ฟิลิปเป้คูตินโญ่ - อดัม ลัลลาน่า , มาริโอ บาโลเตลลี่, ลาซาร์ มาร์โควิช

แอสตัน วิลล่า (ระบบ 4-4-2) : แบร็ด กูซาน - อลัน ฮัตตัน, ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, นาธาน เบเกอร์, อาลี ซิสโซโก้ - คีแรน ริชาร์ดสัน, แอชลี่ย์ เวสต์วู้ด, ฟาเบียน เดลฟ์,ทอม เคลฟเวอร์รี่ - อันเดรียส ไวมันน์, กาเบรียล อักบอนลาฮอร์

 

ประมวลภาพฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลิเวอร์พูล 0-1 แอสตัน วิลล่า

 




Create Date : 14 กันยายน 2557
Last Update : 14 กันยายน 2557 4:16:34 น.
Counter : 715 Pageviews.

0 comment
คอสต้าแฮตทริก! สิงห์ตะปปหงส์ขาวนิ่ม4-2

คอสต้าแฮตทริก! สิงห์ตะปปหงส์ขาวนิ่ม4-2

"สิงห์บลูส์" ทำแฟนๆ ลุ้นก่อน หลังถูก "หงส์ขาว" ออกนำจาก "เจที" ทำเข้าประตูตัวเอง แต่สุดท้าย คอสต้า ซัดคืนสามลูกรวดพาทีมขยี้สบาย 4-2 ส่งทีมขึ้นรั้งจ่าฝูงของลีกเดี่ยวๆ เรียบร้อย

การแข่งขันพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2014-2015 เจ้าบ้าน "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับการมาเยือนของ "หงส์ขาว" สวอนซี ซิตี้

เริ่มเกมได้ 11 นาที แฟนๆ ในสแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้องช็อกเมื่อทีมเสียประตูให้คู่แข่งไปก่อน จากจังหวะที่ นีล เทย์เลอร์ เปิดเรียดจากฝั่งซ้ายไปหน้าประตู แต่เป็น จอห์น เทอร์รี่ ที่วิ่งมาแหย่ขาเพื่อจะสกัดแต่กลายเป็นโดนไม่ดีลูกพุ่งเข้าประตูตัวเองไปในที่สุด "สวอนซี" ขึ้นนำ 1-0

ผ่านมาถึงนาทีที่ 26 จอร์ดี้ อามัต มารับใบเหลืองเป็นคนแรกของเกม หลังเจ้าตัวเข้าไปดักเตะใส่เข่าของ เอแด็น อาซาร์ แบบน่าเกลียด

น.32 ใบเหลืองที่สองของเกมตามมาเพิ่ม คราวนี้เป็น จอนโจ เชลวี่ย์ ที่ไปกระแทกใส่ อาซาร์ จากทางด้านหลัง

ท้ายครึ่งแรกแฟนๆ "สิงห์บลูส์" ก็ได้ดีใจกันเสียที เมื่อทีมทำประตูคืนจนได้จากลูกเตะมุม เชส ฟาเบรกาส โยนไปที่หน้าประตู และเป็น ดิเอโก้ คอสต้า วิ่งสอดมาโหม่งจ่อๆ บอลลอยตกพื้นกระดอนหนีมือ ลูคัส ฟาเบียนสกี้ เข้าไปให้ทีมตีเสมอสำเร็จเป็น 1-1 และหมดเวลาไปด้วยสกอร์นี้

กลับมาช่วงครึ่งหลัง เชลซี เปลี่ยนตัวคนแรกถอด อังเดร ชูร์เล่ ออกไป แล้วให้ รามิเรส ลงสนามแทน ส่วน "สวอนซี" ตัดสินใจส่ง เฟเดริโก้ เฟอร์นานเดซ ลงมาเล่นเกมรับแทน จอร์ดี้ อามัต ที่สุ่มเสี่ยงต่อการโดนไล่ออก

น.56 เชลซี มาได้ประตูขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะการต่อบอลหลายจังหวะ เริ่มจาก เอแด็น อาซาร์ ที่ครองบอลในเขตโทษ จัดการตอกส้นมาให้ ฟาเบรกาส ที่วิ่งเติมเข้าช่วย ก่อนที่เป็นดาวเตะสแปนิชจะตบเข้ากลางให้ ดิเอโก้ คอสต้า ที่รออยู่จัดการซัดด้วยซ้ายจ่อๆ เข้าไปได้สำเร็จ พร้อมกับเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้

น.65 "สวอนซี" เปลี่ยนตัวเพิ่ม เอา เจฟเฟอร์สัน มอนเตโร่ ลงสนามมาแทน เวย์น เราท์เล็ดจ์

ผ่านมาถึงนาทีที่ 67 เจ้าถิ่นยังได้เฮต่อเนื่อง คราวนี้ รามิเรส จ่ายทะลุแนวรับ "หงส์ขาว" ที่วิ่งมาเข้ามาหา ก่อนที่จะเป็น คอสต้า ที่โฉบมาซัดด้วยซ้ายแบบไม่จับเข้าไปอย่างเฉียบขาดให้ทีมหนีห่าง 3-1 พร้อมกับเป็นแฮตทริคแรกของเจ้าตัวในเกมนี้และสีเสื้อของ เชลซี อีกด้วย

น.72 เชลซี จัดการส่ง โลอิก เรมี่ กองหน้าคนใหม่ของทีมลงมาประเดิมสนามเป็นนัดแรก โดยถอดเอา ดิเอโก้ คอสต้า ผู้ทำสามประตูในเกมนี้ออกไปพัก

น.76 ทีมเยือนก้เกมหนสุดท้ายส่ง วิลฟรีด โบนี่ ลงสนามมาลุ้นทำประตูให้ทีม โดยถอดเอา บาเฟติมบี้ โกมิส ที่เกมนี้ไม่ค่อยมีโอกาสเท่าที่ควรออกไป

แฟนๆ "สิงห์บลูส์" ยังคงได้สะใจไม่เลิก คราวนี้นาทีที่ 81 อาซาร์ ครองบอลหนีการแย่งของคู่แข่ง ก่อนจ่ายมาให้ ออสการ์ แล้วไหลมาต่อให้ โลอิก เรมี่ ที่เพิ่งเปลี่ยนลงมา ได้โอกาสตวัดด้วยขวา บอลกลิ้งหนีมือ ฟาเบียนสกี้ เข้าไป เชลซี หนีห่าง 4-1 พร้อมกับเป็นลูกแรกของดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศสกับต้นสังกัดอีกด้วย

พอยิงได้ เชลซี ถอด อาซาร์ ออกไปพักเป็นคนสุดท้าย แล้วให้ โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ ได้โอกาสลงสนามบ้าง

แต่ "สอวนซี" ไม่ยอมและมาได้ประตูไล่ตาม 2-4 ในนาทีที่ 86 จากจังหวะที่ จอนโจ เชลวี่ย์ ได้โอกาสกระชากหลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ ธีโบต์ กูรก์ตัวส์ ก่อนที่จะได้ซัดผ่านตัวนายทวารเจ้าถิ่นเข้าไปแบบง่ายๆ ในท้ายที่สุ

ช่วงท้ายเกมไม่มีประตูเพิ่ม หมดเวลา เชลซี เปิดบ้านเอาชนะ สวอนซี ซิตี้ 4-2 ส่งผลให้ทีมเก็บเพิ่มเป็น 12 คะแนน ขึ้นไปรั้งอันดับ 1 ของตารางได้สำเร็จด้วยชัยชนะ 4 นัดรวด ส่วน "หงส์ขาว" ถือเป็นความพ่ายแพ้วันนี้ถือเป็นนัดแรกของฤดูกาล แต่ทีมยังรั้งอันดับสองของลีกต่อไปอย่างเหนียวแน่น
รายชื่อผู้เล่น เชลซี (4-2-3-1) :
ธีโบต์ กูรก์ตัวส์ - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า - เชส ฟาเบรกาส, เนมันย่า มาติช - อังเดร ชูร์เล่ (รามิเรส น.46), ออสการ์, เอแด็น อาซาร์ (โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ น.82) - ดิเอโก้ คอสต้า (โลอิก เรมี่ น.72)
ผู้เล่นสำรอง
ปีเตอร์ เช็ก - เฟลิเป้ หลุยส์ - เคิร์ท ซูม่า - วิลเลี่ยน

รายชื่อผู้เล่น สวอนซี ซิตี้ (4-2-3-1) :
ลูคัส ฟาเบียนสกี้ - อังเคล รานเกล, จอร์ดี้ อามัต (เฟเดริโก้ เฟอร์นานเดซ น.46), แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์, นีล เทย์เลอร์ - จอนโจ เชลวี่ย์, คี ซุง-ยอง - นาธาน ดายเยอร์, กิลฟี่ ซิกูร์ดสัน, เวย์น เราท์เล็ดจ์ (เจฟเฟอร์สัน มอนเตโร่ น.65) - บาเฟติมบี้ โกมิส (วิลฟรีด โบนี่ น.76)
ผู้เล่นสำรอง
เกฮาร์ด เทรมเมล - ดไวท์ เทียนเดลลี่ - โทมัส คาร์โรลล์ - มาร์วิน เอ็มเนส

ผู้ตัดสิน : เควิน เฟรนด์



Create Date : 14 กันยายน 2557
Last Update : 14 กันยายน 2557 4:15:41 น.
Counter : 678 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  

Junso69
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



โย่วๆ NEW!!!
All Blog