เสียขวัญกันหรือเปล่า...?

เสียขวัญกันหรือเปล่า...?

บรรดาทีมจากพรีเมียร์ ลีก ออกสตาร์ตนัดแรกในถ้วยใหญ่ของยุโรปแบบไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ค่อนข้างกระท่อนกระแท่นกันถ้วนหน้า

ลิเวอร์พูลเหนื่อยแบบขาดใจในบ้านตัวเองกว่าจะเก็บ 3 แต้มล้ำค่าได้ต้องใช้ช่วงเวลาทดเจ็บมารักษาหน้า ในขณะที่เชลซีได้เพียงแค่แบ่งแต้ม แม้ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรมากมาย แต่ถ้วยยุโรปเกมในบ้านเพื่อความชัวร์ต้อง 3 แต้มเอาไว้ก่อน

อาร์เซนอลกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงกับไม่มีแต้มติดมือ 2 ทีมดังจากพรีเมียร์ ออกนอกบ้านไปเสียท่าให้กับยอดทีมของบุนเดสลีกาอย่างดอร์ทมุนด์และบาเยิร์น มิวนิค

หายนะกันหรือเปล่า ไม่ถึงขนาดนั้นแน่นอน ดูกนด้วยความเป็นธรรมมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว อาร์เซนอลไปเยือนดอร์ทมุนด์ได้สักแต้มก็พอใจแล้ว แต่ถึงขั้นแพ้มันก็อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปเยือนบาเยิร์น มิวนิค ได้สักแต้มก็โอเคเช่นกัน ทว่ากลับบ้านมือเปล่าก็อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง

ลิเวอร์พูลควรจะดูสบายๆมากกว่าใครเกือบเอาตัวไม่รอด ดูจากฟอร์มก็ไม่ถึงกับเซอร์ไพรส์ ผลงานของเชลซีน่าเสียดายหน่อย ฟอร์มกำลังแรงความมั่นใจกำลังสุดขีด เล่นในบ้านคาดหวังกันเต็มที่

ไม่ง่ายอยู่แล้วกับการเจอทีมยักษ์ใหญ่ของบุนเดสลีกา อาร์เซนอลสร้างโอกาสส่องประตูดอร์ทมุนด์ได้น้อยมาก ยิงเข้ากรอบแค่ครั้งเดียว

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่แตกต่างเท่าไหร่ในเรื่องนี้ สร้างโอกาสในการยิงเข้ากรอบแค่ 2 ครั้ง แต่รูปเกมของเรือใบอาจจะดูมั่นคงกว่าอาร์เซนอล

ประสบการณ์จากด้านลบ ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นสามารถเป็นบทเรียนที่ดีได้ และการพัฒนาตัวเองจะเกิดขึ้น อาร์เซนอลเสียประตูในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรกเป็นจุดเปลี่ยนของเกมไปเลย เรือใบสีฟ้าเสียประตูนาทีสุดท้ายหมดโอกาสที่จะกลับตัวกลับใจได้อีก

เรื่องราวแบบนี้ถ้าเรียนรู้และเป็นประสบการณ์ที่ได้รับการพัฒนามันสามารถยกระดับตัวเองได้ มองไปที่ประเด็นของแมนเชสเตอร์ ซิตี้

ไม่สามารถที่จะชะลอการพัฒนาตัวเองในถ้วยยุโรปได้ 3-4 ปีที่ผ่านมาได้รับรู้กันแล้วว่าในถ้วยนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายและประสบการณ์คือเรื่องใหญ่

ซิตี้มีเกมที่แพ้ในถ้วยนี้มากมายอย่างยิ่ง รวมเกมที่เพิ่งพ่ายให้กับเสือใต้น่าจะมีเกมที่แพ้มากกว่าเกมที่ชนะ แน่นอนว่าเรือใบมีนักเตะทีมชาติต่างๆมากมายซึ่งทีมใหญ่ทีมอื่นมีเหมือนกัน

แต่ประเด็นที่แตกต่างก็คือมีนักเตะเรือใบน้อยมากที่เล่นในถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีกในรอบลึกๆประเภทรอบรองชนะเลิศหรือนัดชิงชนะเลิศ

ในหลายช่วงเวลา หลายสถานการณ์หลังจากผ่านเรื่องราวนั้นไป บ่อยครั้งมากที่เรามักจะพูดถึงประสบการณ์ จะว่าไปแล้วมันเกี่ยวข้องจริงๆ

สถานการณ์ที่กดดันสุดๆ ช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับสิ่งที่ต้องใช้ความนิ่ง มีสมาธิเข้าช่วย ประสบการณ์ของทีม ประสบการณ์นักเตะแต่ละคนมีผลจริงๆ

อีกประเด็นหนึ่งซึ่งตอกย้ำและยืนยันกันอีกครั้งมาตรฐานของทีมขากบุนเดสลีกาไม่ธรรมดา ยกระดับขึ้นเรื่อยๆนอกจากบาเยิร์น มิวนิคกับดอร์ทมุนด์ ที่เหลือชื่ออาจจะไม่ถึงกับหวือหวา ทว่ามาตรฐานอยู่ในขั้นดีทั้งนั้น

ในระดับทีมชาติ เยอรมัน มาตรฐานสูงมากๆ ซึ่งรากฐานก็มาจากการจัดการระดับสโมสร อย่าว่าแต่ระดับสโมสรต้องมองมาตรฐานและรากฐานของทีมจากบุนเดสลีกาเลย ระดับชาติก็ยังต้องดูเป็นตัวอย่าง

แวงซ็องต์ กอมปานี กัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่าเรือใบพร้อมที่จะไปให้ถึงการรับถ้วยแชมป์ ทว่าทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบ

การพ่ายให้กับบาเยิร์น มิวนิค บ่งบอกว่าทุกอย่างของเรือใบยังไม่ถึงระดับนั้น อย่างไรก็ตามเป็นเพียงแค่เกมนัดแรกยังมีเรื่องราว รวมทั้งเกมที่จะทำให้ผ่านอุปสรรคเข้าไปสู่รอบน็อกเอาท์อีกเยอะ

เพียงแต่ทุกทีมต่างมองเห็นข้อด้อยของตัวเอง ซึ่งต้องแก้ไขกันไป แต่ละก้าวแต่ละนัดสามารถเรียนรู้และยกระดับตัวเองได้เสมอ ใครจะทำได้ดีกว่ากันเท่านั้นเอง




Create Date : 20 กันยายน 2557
Last Update : 20 กันยายน 2557 3:46:56 น.
Counter : 418 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Junso69
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



โย่วๆ NEW!!!
All Blog