Group Blog
 
All blogs
 

ฉบับที่ 7 "กวาง" เด็กเลี้ยงแพะ




กลับมาอีกครั้งสำหรับ JML MAGAZINE ในฉบับนี้เราพูดถึงสาวเท่ห์เก๋ไก๋และก๋ากั่นของชาวห้อง 1 นับตั้งแต่เริ่มมีบทบาทในห้องขึ้นมา เธอผู้นี้สร้างความตื่นเต้น และสะดุดตา สะดุดใจ ให้กับ JML และผองเพื่อนเป็นอย่างมาก

เธอผู้นี้ คือ วารูณี ปืนฮวน หรือพี่กวางของใครหลายๆคน ภาพลักษณ์ภายนอกของเธอ ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความเท่ห์ซึ่งแผ่ส่องแสงเด่นชัดเป็นประกาย รวมถึงหลายๆเรื่อง ซึ่ง JML ได้เกาะติดสาวคนนี้มาระยะหนึ่ง จนเรียกได้ว่า ทั้งคมชัดและก็ลึก สมกับความเป็น JML MAGAZINE


ความเท่ห์ของพี่กวาง


ช่วงนี้การแต่งตัวของ "พี่กวาง" เจิดจ้าฉายประกายมากขึ้น ความแปลกตาได้เริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ "พี่กวาง" คนนี้นี่แหละเริ่มเข้าไปแสวงหาความรู้ในเมืองกรุงช่วงปิดเทอม มีหลายคนบอกมาว่า เป็นความรู้สึกที่แปลกตาอย่างยิ่ง เพราะแต่ก่อนเห็นแค่ชุดนักเรียนหรือไม่ก็เสื้อกางเกงธรรมดา แต่วันนี้ "พี่กวาง" แปลกไป ดูเท่ห์ มีเสน่ห์ ผูกมัดใจสาวน้อยสาวใหญ่เป็นอย่างยิ่ง จนถึงขนาดตั้งเป็นแฟนคลับเลยทีเดียว

มีเพื่อนฝ่ายชายหลายคนชักเริ่มสงสัยว่า "เอ๊ะ ใครมันเข้าสิงวารุณี ถึงได้แต่งตัวเท่ห์ถึงขนาดนี้" เพื่อนหลายคนถึงขนาดไม่พอใจและตัดขาดไม่ยอมเดินใกล้วารุณี เนื่องจากว่ากลัววารุณีจะเรียกคะแนนสาวๆที่มองอยู่โดยทั่วไป ซึ่งเรื่องนี้วารุณีต้องเคลียร์ข่าวด่วนนะคร้าบบบบบบ

"กวาง" เด็กเลี้ยงแพะ


ไม่รู้จะพูดอย่างไร แต่ทาง JML ขอยืนยันเลยว่า ข้อมูลที่เราจะพูดต่อไปนี้ แม้แต่แฟนคลับตัวจริงที่ไหนก็ไม่สามารถล่วงรู้ได้ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องลับที่วารุณีตั้งใจจะปิด แต่แล้วก็ปิดไม่อยู่ เมื่อ JML ตัดสินใจเดินทางไปเสาะหาข้อมูลแบบ Exclusive ถึงบ้านมอญของวารุณีที่จังหวัดราชบุรี นอกจากที่จะแปลกในเรื่องของบ้านที่มีธรรมเนียมประเพณีมอญที่เคร่งครัดแล้ว ที่แปลกกว่านั้น ทาง JML ก็ต้องตกใจ เมื่อพบกับสัตว์เลี้ยงที่ไม่ใช่หมู หมา กา ไก่ หรืออะไรทั้งสิ้น แต่เป็นสัตว์ใหญ่ที่ใครต่อใครต้องตะลึง เพราะสัตว์นั้นคือ แพะ นั่นเอง

แพะของกวางนั้น ไม่ใช่ว่ามีแค่ตัวเดียว แต่มีอีกเยอะแยะมากมาย ไม่ต่ำกว่า 10 ตัว เล็กบ้างใหญ่บ้าง ทาง JML ก็มีภาพมาฝาก โปรดติดตามที่ JML ได้เลย


JML SHOW



ในวันนั้น นอกจากทาง JML ไปถึงที่บ้านของกวางแล้ว ยังมีกลุ่มผู้รู้เพื่อไปทำรายงานวิชาการงาน และแล้วเราก็พบกับสิ่งที่กวางปิดบังไว้ตั้งนาน


เอาเป็นว่า JML MAGAZINE ฉบับนี้ขอจบแค่นี้ และขอบอกว่า นี่เป็นแค่ออร์เดิฟของช่วงปิดเทอมนี้เท่านั้น ยังมีเรื่องราวอีกมากมายและรับรองว่าสนุกสนานแน่นอน


บก.JML




 

Create Date : 05 ตุลาคม 2550    
Last Update : 5 ตุลาคม 2550 2:52:05 น.
Counter : 510 Pageviews.  

ฉบับที่ 6 สมชัยสุดสุด




สวัสดีครับ ชาว DSU 31 ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ JML MAGAZINE ฉบับที่ 6 คร้าบบบบบบบบบ


หลังจากที่เราถูก "คุณไสย" หรือ "มนต์ดำ" ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้กอง บก. ของเราท้อแท้ แต่เราก็ไม่ท้อถอยนะครับ แถมยังมีใจฮึดสู้ เพื่อที่จะให้ JML เล่มนี้ ออกสู่สายตาของเพื่อนๆให้จงได้



และผู้ที่เล่น "คุณไสย" กับเราในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา เค้าก็คือ ผู้ที่อยู่บนปกนิตยสารเล่มที่ 6 ของเรานั่นเอง ไม่ครับ ไม่ ไม่ใช่คุณบาบาร่าครับ แต่เค้าคือ อ.สมชัย กุลจนิรักษ์ ครูสอนฟิสิกส์ที่ไม่ธรรมดา จนถึงขั้นที่หลายคนบอกว่า "เพี้ยน" เลยทีเดียว



เนื่องจากฉบับนี้ เป็นที่น่าสนใจอย่างมากของชาว DSU 31 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชาวห้อง 1 ที่ไต่ถามกันมาเสมอ ว่าเมื่อไหร่จะออกซักที แถมด้วยการให้กำลังจอีกเล็กน้อย ทำให้ทีมงานของเรา มีกำลังใจขึ้นอีกเป็นกอง



กระดาษพร้อมบทความที่เกี่ยวข้องกับ "ครูสอนฟิสิกส์ที่ไม่ธรรมดา" ของเราได้หลั่งไหลเข้ากอง บก. โดยส่งมาที่ออฟฟิศของ JML อย่างท่วมท้น ถึงขนาดที่เราต้องเซ็นรับจดหมายกันมือหงิกมืองอ จนมีบางคนจะเป็นลมไปเลยทีเดียว และแต่ละบทความนั้น ก็มีเนื้อหาอันแสดงถึง "ความรักปานจะกลืนกิน" ที่ผู้เขียนส่งมาให้



จริงๆแล้ว เราได้คัดเลือกบทความที่เพื่อนๆส่งมาให้แล้วนะครับ แต่เนื่องจากมนต์ดำมันบังตา ทำให้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น คือ "ผมลืมเอาบทความออกมาจากใต้โต๊ะ" แต่ก็ยังดีนะครับ ที่ผมพอจะจำได้บ้าง


แต่ก่อนอื่น ผมก็ยังอยากให้เพื่อนๆดูรายการของทาง JML SHOW ก่อนนะครับ



Video: JML SHOW




เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับรายการของเรา ผมหวังว่าจะชอบนะครับ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า



กล่าวกันในภาพรวมของ รร เราก่อนนะครับ รร.สาธิต ม.ศิลปากร เป็นอีก รร.ที่เด็กชาวนครปฐมใฝ่ฝันว่า ซักวันจะได้สวมเครื่องแบบ แต่เมื่อเข้ามาแล้วจะรู้ว่า ความเละเทะ เหลวเป๋วเหมือนโจ๊กปั่น มันเป็นอย่างไร ทั้งระบบระเบียบวินัยที่อ่อนลงทุกวัน และที่สำคัญ ระบบการเรียนการสอน ที่นับวัน จะพังลงไปกับตา คล้ายน้ำแข็งขั้วโลกที่เผชิญกับภาวะโลกร้อนอยู่ในขณะนี้เนี่ยแหละครับ



และว่าด้วยวิชาทางด้านวิทยาศาสตร์ เด็กนักเรียนและครูหลายคนก็ต้องส่ายหน้า เมื่อพบกับความจริงที่เห็นและเป็นอยู่ เกี่ยวกับการเรียนการสอน ซึ่งต่างลงความเห็นว่า "มีครูดีๆอยู่ไม่กี่คน" เพื่อเป็นการพิสูจน์ทราบในเรื่องนี้ ทาง JML เดินทางไปพบกับเพื่อนๆชาวห้อง 5/1 ซึ่งต้องเผชิญวิบากกรรมกับสายวิทยาศาสตร์ถึง 3 ปีเต็มๆ ซึ่งต่างก็ให้ความเห็นเป็นอย่างเดียวกันทั้งสิ้น


JML :ก่อนที่เราจะพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ อยากทำข้อตกลงก่อน คือผมจะถาม 1 คำถาม อยากให้ทุกคนแสดงความเห็นทีละคนนะครับ เอาหล่ะ คุณคิดอย่างไรกับสายวิทยาศาสตร์
จอย :คือ มันต้องเป็นสายที่เราต้องเข้าใจถึงหลักการและเหตุผลค่ะ
ปูน :วิทยาศาสตร์ไม่ใช่เรื่องที่ต้องรู้ แต่ต้องเข้าใจ
บูม :วิทยาศาสตร์ไม่ใช่สุริยัน-จันทรา
ต็อบ :การเอาเรื่องจริงที่มีอยู่ในธรรมชาติ มาพูดกัน นี่แหละวิทยาศาสตร์
JML :ในฐานะที่พวกคุณอยู่สายวิทย์ ช่วยวิจารณ์ครูหน่อย เอาแบบตรงๆ ไม่ต้องกลัวตกนรก
จอย :หลายคน(ซึ่งน้อยมาก)ก็ดีค่ะ สอนเพื่อให้เข้าใจอย่างแท้จริง แต่อีกหลายคนก็ไม่ไหว
ปูน :หลายคนสอนไปโทรศัพท์เข้าไป บางคนนั่งสอนแล้วก็กินกาแฟ
บูม :อ่าน นสพ.ด้วย
ต็อบ :บางคนตอบคำถามเด็กไม่ได้
JML :คุณคิดว่าปัญหาอย่างงี้มันเกิดได้ยังไง
จอย :สงสัยเงินเดือนครูน้อยไปมั่ง
ปูน :เช้าชามเย็นชาม
บูม :จตุคามรามเทพครับ
ต็อบ :การไม่ใส่ใจ


จริงๆแล้วยังมีคำถามอีกหลายข้อนะครับที่ทาง JML ถาม แล้วเราก็ได้รับคำตอบที่น่าแปลกใจมากมาย เรามีข้อมูลว่า ครูบางคนไม่สอนเด็ก นั่งอยู่หน้าห้อง กินกาแฟ อ่าน นสพ. แล้วบอกเด็กว่าครูเข้าใจเธอ หรือขณะที่บางคนเป็นนักขายตรงระดับไดมอนด์ ที่มีแต่โทรศัพท์เข้าในชั่วโมงเรียน ทำไมไม่ออกไปทำธุรกิจให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยหล่ะครับ มานั่งสอนทำไมให้เปลืองเวลา และสุดท้ายก็คือการสอนที่ไม่รู้เรื่อง เด็กสอบตกยกห้องแล้วก็ไม่อธิบายใหม่ให้ฟังอีกครั้ง พวกนี้จะเรียกได้ว่าเช้าชามเย็นชามก็ไม่ผิด(แต่ก็ยังดีกว่าพวก "เช้าเย็น(กู)ไม่ได้ซักชาม"นิดนึง)


ทั้งๆที่มีอาจารย์อีกหลายคนที่น่าพูดถึงในลักษณะแบบนี้ แต่ทำไมผมถึงพูดถึง อ.สมชัย หล่ะ คำตอบนั้นมีให้เห็นครับ และผมจะชี้แจงทีละประเด็น



การสอนที่ไม่รู้เรื่อง


ลีลาการสอนของอาจารย์แต่ละคนก็แตกต่างกันไป ตามแนวทางของแต่ละคน แต่ลีลาการสอนของ อ.สมชัยคนนี้ ล้วนเป็นที่น่างงงวยพาพิศวง เหมือนเดินเข้าเขาวงกต บวกกับหน้าตาที่แปลกๆ ผมยุ่ง ลักษณะเหมือนไม่อาบน้ำของอาจารย์ ทำให้การเรียนฟิสิกส์ของเรานั้น คล้ายๆกับเดินไปในเขาวงกตที่มีสูตรฟิสิกส์แปะตามกำแพง เผลอๆก็จะมีหุ่นผีสิงโผล่มาให้สยองพองขนเล่นๆเป็นระยะๆ ถ้าใครไม่เชื่อ เราจะไปสอบถามกับผู้ที่ตั้งใจอยู่ในห้องตลอด และมีความรู้ด้านฟิสิกส์ที่พอจะเถียงอาจารย์ได้เป็นอย่างดี

JML :ผมขอถามคุณในฐานะที่คุณเรียนฟิสิกส์มามาก คุณเคยเจอครูผู้สอนแบบนี้มั้ย
ต็อบ :ไม่เคยครับ
JML :ช่วยวิจารณ์หน่อยได้มั้ย ว่าการสอนของเค้าเป็นอย่างไร
ต็อบ :เค้าจะสอนไปเรื่อยๆครับ มีสคริปเป็นกระดาษ 1 แผ่น
JML :2 คาบ สอนได้ด้วยกระดาษ 1 แผ่นหรอ
ต็อบ :ครับ มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อใช่มั้ยครับ
JML :คือ ผมกำลังคิดว่า ในขณะที่อาจารย์หลายๆคนต้องเตรียมการสอนเป็นวันๆ ทำชีทหนาๆ แต่อาจารย์คนนี้ กลับมีสคริปสอนเพียงหน้าเดียวก็สามารถสุย เอ้ย สอนได้ถึง 2 คาบ
ต็อบ :คือ ถ้าสอนจริงๆมันไม่ถึงหรอกครับ แต่บังเอิญอาจารย์เค้าคงเป็นคนที่มีความรู้ในตัว อยู่ดีๆเค้าก็พูดเรื่องนั้นขึ้นมา เรื่องนี้ขึ้นมาเฉยเลย
JML :แล้วคุณพอจะตีได้มั้ยว่า ถ้าเค้าสอนอย่างเดียว เค้าจะใช้เวลาเท่าไหร่
ต็อบ :เต็มที่ครึ่ง ชม. ครับ
JML :ครับ ขอบคุณครับต็อบ
ต็อบ :ขอบคุณครับ


ลีลาการสอนของอาจารย์สมชัยคนนี้ เป็นที่หาตัวจับยากอย่างยิ่งครับ แต่ก็มีคนๆหนึ่งซึ่งเข้าใจการสอนของอาจารย์สมชัยตลอด เอ๊ะ ไม่ใช่แค่อาจารย์สมชัยซิครับ เค้าคนนั้นเข้าใจทุกเรื่อง เค้าพยักหน้าตลอด แต่เห็นสอบทีไรก็ตกทุกที เฮ้อออออ



การผูกขาดการสอน


เป็นเรื่องน่าเศร้าอย่างยิ่ง ที่บุรุษผู้นี้จะต้องสอนเรา 3 ปี นั่นหมายถึงม.ปลายทั้งหมด ช่วงเวลาที่เราต้องการความรู้เพื่อนำไปสอบแข่งขันเพื่อศึกษาต่อ ถ้าเราไม่รู้เรื่องอย่างงี้ มันต้องเป็นสิ่งที่แย่มากๆเลยนะครับ ถ้าเรายังจำได้ ไม่ใช่แค่เด็กนักเรียนเท่านั้นนะครับ ที่เล็งเห็นถึงเรื่องนี้ เมื่อม.4 เทอม 2 เคยมีอาจารย์ติดต่อมายังอาจารย์สมชัย เพื่อขอส่งนักศึกษามาทำหน้าที่ฝึกสอนในวิชาฟิสิกส์ แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ ผมยังจำได้เลยนะครับ ว่าอาจารย์คนนั้นเข้ามาบอกกับพวกเราว่า "เค้าขอสอนเอง" แล้วพวกเราคงจะพอจำได้ว่า พอได้ยินอย่างงี้ พวกเราทำหน้ากันยังไง


ฟิสิกส์ฉบับภาษาขอม


เรื่องเส้นสายลายมือก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เค้าผู้นี้สมควรอย่างยิ่งที่จะปรับปรุงได้แล้ว ผมยังจำได้ถึงตอนม.ต้น ที่สอบครั้งแรกกับเขา พวกเราลองมองย้อนไปซิครับ ครั้งแรกที่เราเห็นข้อสอบ เราถึงกับอึ้ง ไม่ใช่ว่ายากนะครับ แต่เราก็ต้องมานั่งแปลความจากตัวอักษรอีก สงสัยว่าอาจารย์จะหวังดี อยากให้เราเก่งทั้งฟิสิกส์ และประวัติศาสตร์ แม้ว่าจะมีการร้องขอจากนักเรียน ว่า ขอเถอะ ช่วยพิมพ์หน่อยได้มั้ย ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง คำพูดนั้นกลายเป็นสายลม ที่เข้าหูซ้าย ทะลุหูขวาของชายผู้ไม่อาบน้ำมาสอนคนนี้ไปอย่างไม่ระคาย ความคงเส้นคงวาของเค้าไม่เปลี่ยนแปลง ถึงแม้ว่าวันนี้ พวกเราจะชินกับลายมือของเค้าเรียบร้อย แต่ก็ยังมีเสียงเรียกที่ไม่ได้ยินแว่วมาว่า "ช่วยพิมพ์หน่อยได้ม้ายยยยยยยยย"



อาชีพ"เสริม"ของอาจารย์


ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เงินเดือนของอาจารย์ รร.สาธิตมันเท่าไหร่ แต่ที่รู้ๆก็คือ เกือบทุกคนมีอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขายตรง หรือบางคนมีธุรกิจร้อยล้าน พันล้าน อะไรก็ตาม ผมคิดว่าไม่ผิดหรอกครับ แต่อย่าทำตอนคาบเรียนได้มั้ย

จะว่าไป อ.สมชัยสุดที่รักของพวกเราก็มีอาชีพเสริมเหมือนกัน แต่จะเรียกว่าอาชีพเสริมทีเดียวก็ไม่ได้ เพราะว่าไม่ได้มีรายได้จากเรื่องนี้ ใครเป็นเวรเรียกแถวตอนเช้า ถ้ากล้าๆหน่อยลองตะโกนถามผ่านไมโครโฟนซิครับ ผมอยากรู้นักว่า จะมีนักเรียนคนไหนไม่รู้บ้างว่า อ.สมชัย มีอาชีพเสริมคือ "การดูดวง"


คุณตุ้ยเคยมีประสบการณ์ตรงในเรื่องนี้ครับ อ.สมชัยบอกว่า "เธอน่ะกลัวเมีย" หรือมะเหมี่ยวซึ่งอาจารย์ก็ดูดวงให้ว่า "เธอน่าจะเรียนนิเทศนะ"

ผมก็ไม่รู้ข้อมูลอื่นนะครับ อ๋อ เค้าบอกว่า พวกข้างหลังจะเป็นดาราหนิ แหม อาจารย์ไม่ต้องชมผมว่าหล่อก็ได้ครับ


นอกจากการดูดวงให้บุคคลใกล้ตัวแล้ว บุคคลระดับชาติ อาจารย์ผู้นี้ก็เคยดูดวงมาแล้ว เคยมีคนถามว่า "ใครจะเป็นนายกคนต่อไป" เค้าก็ตอบว่า "บรรหาร" คราวนี้ก็ต้องให้เวลาอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าตัดสินแล้วแหละครับ ว่า คราวนี้จะแม่นรึเปล่า


การดูดวงในปัจจุบัน ถ้าจะให้แม่นจริงๆ มันต้องใช้หลักการคำนวณชั้นสูงนะครับ คอมพิวเตอร์เป็นตัวช่วยที่ดีครับ ผมจำไม่ได้ว่ามีคนถามเรื่องอะไร แต่มีอยู่วันหนึ่ง ผมได้ยินเต็ม 2 รูหูเลยครับ ว่า "อาจารย์จะเอาคอมพิวเตอร์มา" ผมก็คิดว่า เอาแล้วเว้ย กูได้ทำข้อสอบฟิสิกส์ที่มันออกมาโดยการพิมพ์แล้ว แต่ไม่ครับ เมื่อได้ยินประโยคถัดไป "เอามาดู จะได้แม่นๆ" ออกข้อสอบฟิสิกส์ มันต้องแม่นๆหรอครับ ไม่น่าจะเกี่ยวหรอกครับ แล้วมันจะมีอะไร นอกจาก "ดูดวง"



ไม่ขอให้เปลี่ยนอาจารย์ เพราะอีกคนก็ "ห่วย"


"เรียนเพื่อรู้" คุณจำได้มั้ยครับว่าได้ยินประโยคนี้จากไหน ม.3 ใช่มั้ยครับ มีอาจารย์คนหนึ่งมาสอนฟิสิกส์เรื่อง เลนส์ พูดประโยคนี้เป็นประโยคแรก ในขณะที่หลังห้องมีเด็กนรกคนหนึ่งกำลังเล่นอะไรบ้าๆบอๆ เด็กคนนี้ที่พ่อมันตั้งแนวทางการดำเนินชีวิตแบบ "ไอน์สไตน์" ให้ไงครับ วันๆไม่เรียนหนังสือ มากับพ่อ ไม่รู้คิดว่าตัวเองใหญ่หรือไง อาจารย์คนนี้วันๆไม่ได้สอนอะไร ยิ่งการให้เกรดแล้วยิ่งน่าฉงน บางคนทำได้แต่ให้ 2 บางคนทำได้มั่งไม่ได้มั่งให้ 3.5 จนทำให้บางคนมองว่า การปาเป้าให้เกรดโดยไอ้เด็กเปรต เป็นสิ่งเดียวที่จะตัดสินได้ การล็อบบี้เด็กจึงเกิดขึ้น บางคนก็แกล้งทำเข้าไปเล่นด้วย บางคนหมั่นไส้หาทางกลั่นแกล้งมัน ซึ่งเป็นเรื่องที่สนุกมาก นี่หรือคือครูฟิสิกส์




เอาหล่ะครับ ผมคิดว่ามันสมควรแก่เวลาแล้ว ที่จะปิดเล่มซักที จริงๆแล้วยังมีอะไรอีกมากมายที่ยังไม่ได้พูดถึงนะครับ เอาไว้ครั้งหน้าล่ะกันครับ สวัสดีครับ




 

Create Date : 14 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 14 กรกฎาคม 2550 21:11:52 น.
Counter : 393 Pageviews.  

ฉบับที่ 5 "โว้น" He is a superstar in 5/1




มาแล้วครับ JML MAGAZINE ฉบับที่5 ฉบับนี้เป็นเรื่องราวของคนดังในห้องสนธยาอย่าง ม.5/1 คนๆนี้เป็นถึงชายหนุ่มที่สุดฮอต เพื่อนๆรักเขาเป็นอย่างมาก ทั้งเพื่อนชายและหญิงต่างก็มีความสุขเมื่ออยู่กับเขานะครับ เค้าคนนั้นมีชื่อตามที่เพื่อนตั้งให้ว่า "โว้น" นั่นเองครับ



ในฉบับนี้อย่าเรียกว่าผม "แฉ" โว้นเลยครับ โว้นและผมก็รู้จักกันเป็นอย่างดี แต่อยากให้เรียกว่า "เล่าสู่กันฟัง" มากกว่า


แต่ก่อนอื่น ผมอยากให้เพื่อนๆ ดูคลิปของ JML SHOW ก่อนนะครับ เป็นรายการที่ดำเนินรายการโดยผมเองครับ เป็นเรื่องของ "โว้น" ที่จะต้องใส่หมวกว่ายน้ำ เท่ห์มากครับ ซึ่งผมก็ตั้งชื่อว่า "โว้นโชว์เถิก" เป็นรายการที่น่าติดตามนะครับ ถึงแม้จะมืดๆซักหน่อยก็ตาม





เมื่อคุณดูจบแล้วก็มานั่งอ่านกันต่อครับ ภายในรายการ JML SHOW ในครั้งนี้นะครับ ผมได้แฉ เอ้ย เล่าถึง คลิป "โว้นโชว์เถิก" ซึ่งเป็นเรื่องเฮฮามากเลยครับ และเพราะคลิปนี้เนี่ยแหละครับ ที่ทำให้ผมได้มีแรงบันดาลใจ ในการนิตยสารเล่มนี้ขึ้นมา ทีนี้ ผมอยากให้ท่านผู้อ่าน อ่านเรื่องราวของโว้น ดังนี้ครับ



โว้น เซียนแบด



ใช่มั้ยครับ คุณณัฐวิทย์เป็นนักแบดมินตันระดับเซียนคนหนึ่งเลยครับ เรียกได้ว่า เค้าผู้นี้สร้างสีสันให้กับคาบวิชาพลศึกษา รวมถึงตอนเที่ยงๆ ที่เราเล่นแบดกันด้วยนะครับ และผมก็มีรูปภาพ เป็นหลักฐาน ว่า โว้น เล่นแบดได้อย่างเซียนครับ























ในภาพ"โว้น"ได้ใช้ไม้แบดมินตันยี่ห้อ SCUD ซึ่งปัจจุบันได้เลิกผลิต และไม่มีใช้แล้วนะครับ ในคอร์ดครั้งนั้น คู่ตีนั่นก็คือบอลนั่นเองนะครับ ความเป็นเซียนของโว้นนั้นได้เริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อ "โว้น" ตีแข่งกับอ.นพดล แล้วโชว์ฟอร์มสุดยอด ถึงขนาดไล่บี้กันทีเดียว และทาง JML ได้นัดสัมภาษณ์กับคุณบอล ผู้ที่เป็นคู่ตีแบดหลังห้องของเค้าอีกคนหนึ่งนะครับ ทางเราจะถามคุณบอลในเรื่องลีลาการเล่นของเค้าครับ
JML :สวัสดีครับ บอล
บอล :ครับๆสวัสดีครับ
JML :วันนี้เราจะมาสัมภาษณ์คุณในเรื่องของการเล่นแบดมินตันของคุณ "โว้น" ครับ
บอล :คืออย่างงี้ครับ คุณโว้นเค้ามีทักษะทางข้อมือครับ คุณลองสังเกตดูว่า คุณโว้นเค้าจะเล่นเก่งไม่กี่อย่าง อย่างเช่น เปตองหรือแม้แต่แบดมินตัน ล้วนแล้วแต่เป็นกีฦาที่ต้องใช้ข้อมือทั้งสิ้นครับ
JML :ในฐานะที่คุณเป็นคู่ตีของคุณโว้นคนหนึ่ง คุณช่วยบอกซิครับ ว่าทำไมเค้าถึงเล่นแบดมินตันได้เก่งขนาดนั้น
บอล :คุณโว้นเค้ามีข้อมือการตีที่สามารถเคลื่อนที่ได้ หรือตามภาษาเขาเรียกว่า Motion Tween นะครับ คนไทยเนี่ยจะมีลักษณะข้อมืออย่างนี้เนี่ยประมาณ 12 เปอร์เซนต์
JML :เอ่อ...คือ
บอล :แล้วคุณโว้นเนี่ยนะครับ มีข้อดีกว่าคนอื่นคือมีเส้นเลือดฝอยบริเวณนิ้วกลางด้านขวาใหญ่กว่าคนอื่น ทำให้วงสวิงการตีจะดีกว่าคนอื่น
JML :เออ พอแล้วครับ
บอล :นอกจากนี้คุณโว้นยังมีกล้ามเนื้อขาพิเศษ ประกอบกับการที่คุณโว้นได้สิทธิพิเศษในวัดไร่ขิง ทำให้ได้รับการสนับสนุน
JML :เออ พอเถอะครับ เอาอย่างงี้ครับ คุณโว้นเก่งได้ยังไง
บอล :ผมขอสรุปง่ายๆสั้นๆครับ ที่คุณโว้นเก่งแบดมินตันอย่างงี้ ก็เป็นเพราะ "บารมีจตุคามรุ่นวัดไร่ขิง" ฟันธงครับ



โว้น He is a superstar in 5/1


ในเรื่องความเป็น Superstar เนี่ยนะครับ เราต้องยอมรับเค้าเลยว่า เค้าผู้นี้เป็น Superstar จริงๆ และคุณเรืองวิทย์ หนุนสุข เป็นผู้ที่เห็นแววของคุณโว้นคนแรก ทาง JML ก็ได้ไปพูดคุยกับเค้าเช่นกันครับ
JML :คุณเรืองเห็นแววคุณโว้นได้อย่างไรครับ
เรือง :ผมสังเกตถึงความเป็น "โว้น" ครับ
JML :ความเป็น "โว้น" คืออะไร
เรือง :คือการที่เขามีความพร้อมที่จะเป็นบุคคลสาธารณะ
JML :คุณยังบอกอีกว่าหน้าตาของเค้านั่นยังละม้ายคล้าย "เรน"
เรือง :ใช่ครับ จริงๆนะ คุณลองสังเกตดูสิ ว่าเค้าหน้าเหมือนกันแค่ไหน
JML :เป็นเพราะช่วงนี้เทรนด์เกาหลีรึเปล่า
เรือง :ไม่นะ อย่างคุณจอมพล บก.นิตยสารคุณก็มีความละม้ายคล้ายคุณปลื้มเหมือนกันนะ
JML :ห๊าส์ ถ้าคุณจอมพลรู้เค้าคงตกเก้าอี้
เรือง :555555555ๆ คุณโว้นยังมีความเท่ห์ส่วนตัวอีกนะครับ ไม่ว่าจะเป็นการพูด การเดิน ล้วนแล้วแต่แสดงความเป็น Superstar ทั้งสิ้น
JML :เอาหล่ะครับ ขอบคุณคุณเรืองครับ
เรือง :ขอบคุณครับ
ความเป็น โว้น เนี่ยแหละครับ ที่ทำให้เขากลายเป็น Superstar และมีคนรักมากมาย แปลกกับคนๆหนึ่ง ที่เราขอเรียกว่า "ไอ้แว่นเหลี่ยม" ซึ่งเมื่อเราพูดถึงชื่อเค้าแล้ว ก็จะมีแต่คนร้องยี้ ซึ่งไว้ผมค่อยพูดวันหลังล่ะกันนะครับ



เอาหละครับ ฉบับนี้ผมสมองตื้อสุดสุด นึกเรื่องราวของ "โว้น" ได้แค่นี้ ก็ถือเป็นโชคดีของ "โว้น" ไปแล้วกัน สวัสดีครับ




 

Create Date : 01 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 1 กรกฎาคม 2550 1:11:26 น.
Counter : 351 Pageviews.  

ฉบับที่ 4 รวมรูป "รับน้อง"




วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 22 มิ.ย.50 วันนี้รู้ผลประธานนักเรียนนะครับ แต่เมื่อวาน(21 มิ.ย.) เป็นวันรับน้องที่สุดแสนสนุกสนาน(เฉพาะพวกเรา) เอาหล่ะครับ ไม่อยากพูดอะไรมาก อยากให้ไปดูรูปเลยดีกว่า

****ถ้ารูปไม่ขึ้น เขียนบอกด้วย



เพื่อนเฮงซวย นึกว่าหล่อกันมั้ง ยิ่งไอ้ตัวทำมือเนี่ย โต๊ะน่าหายจริงๆ




จ้อยไม่ยิงว่ะ....แม่....ง




น้องมาแว้ว แต่ยังไม่รู้จะทำอะไรดี




เฮ้อ...แต่ละคน





มันส์...สุดสุด




ตีกลองอย่างกะผู้ชาย




เออ...ถ่ายรูปกัน อั๊วะเป็นช่างกล้องตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ




ไอ้ตัวกร่าง




อยากรู้จริงๆ ว่าใครมันคิดเกมนี้ว่ะ




ไอ้กร่างอีกตัว




มันมันส์หรือมันเมาว่ะเนี่ย




ใครก็ได้ช่วยอธิบายภาพนี้หน่อย




น้องจตุคาม




มันจะโดนไอ้ลอยแด๊กซ์ไม่ว่ะเนี่ย




ผูกข้อมือ สร้างมิตรภาพ




กล้องกรูถ่ายรูปไอ้แอมติดด้วยหรอว่ะเนี่ย ระวังโดนขโมยโต๊ะนะมรึง




เถิกทั้งสายรหัส...ฟันธง




ไอ้ธิวมันอยากกินไอ้เบิร์ดหรือไอ้โว้นว่ะเนี่ย




รร้านนนนนนนน.....ลั่นนนนนน





เอาแก๊ปพวกนี้ไปปฏิวัติดีมะ




สนุกกันใหญ่




น่ารักกันทั้งน้านนนนน (ยกเว้นไอ้ตัวกลางอ่ะ)




มิกซ์...สุดสุด




ไอ้พวกกั๊กจำไว้ ถ้าไม่มีกรู เมิงก็ไม่รู้จักเค้า แล้วยังมีหน้ามาด่าว่าหยองอีก มันหยามสุดสุด คิดแล้วขึ้น(หมายถึงอารมณ์โกรธนะ)




แฟนใครว่ะ ช่วยเอาไปเก็บที




ดีใจอย่างกะไทยได้ถ้วยบอลโลก




เมิงไม่วาดรูปไปเลยหล่ะ




คู่แท้...กลางชายป่า




วิ ถามเมิงตรงๆ เมิงตีกลองเป็นมั้ย ถ้าไม่เป็นก็ออกมา เมิงดูหน้าคนอื่นซิ แต่ละคน บูดๆเบี้ยวจะเป็นมดเขียว V3 อยู่แล้ว



ต่อไปจะเป็นการโหวตสาวสวยแห่งงานรับน้อง ประจำปี 2550 มีผู้เข้าร่วมประกวด 4 ท่าน ดังต่อไปนี้




ผู้เข้าประกวดหมายเลข 1 นางสาวอุ้ม ที่มาพร้อมกับท่าทางหลับตาที่สุดแสนเย้ายวน




ผู้เข้าประกวดหมายเลข 2 นางสาววิ ด้วยดีกรีนางงามทานาคาจากพม่า บวกกับอิทฤทธิ์มนต์ดำจากพระเถรคันฉ่อง อาจทำให้เธอก้าวสู่ตำแหน่งในครั้งนี้อย่างพิกล




ผู้เข้าตะกวด เอ้ย ประกวด เอ้ย ตะกวด เอ้ยถูกแล้ว เอ้ย ยังผิดอยู่ เอ้ย ผู้เข้าประกวดหมายเลข 3 นางสาวกวาง กับลีลาเลียนเสียงตดอันคมคาย อาจทำให้ชนะใจกรรมการได้อย่างไม่ยากนัก




ผู้เข้าประกวดหมายเลข 4 นางสาวมะแม ที่ไม่มีท่าทางอะไรมากมาย ยกเว้นผมยุ่งๆของเธอ ที่มีแต่คนอ้างว่าเป็นแฟชั่น



และผลรางวัลได้อยู่บนมือผมแล้วครับ ผู้ชนะเลิศในการแข่งขันครั้งนี้คือ ผู้เข้าประกวดหมายเลข...................4 ครับ




ไม่ต้องคิดมากเลยครับ ให้หลับตาตัดสินก็ได้ครับ ก็มันขาดลอยอ่ะครับบบบบ(แต่ขนแขนเยอะสุดสุด)




และนี่คือกองกำลังปฏิวัติของเรา โปรดอ่านอีกครั้งหนึ่ง




ไอ้เด็กเปรตตตตตตตตตตต




แล้วคนที่เหม็นก็เป็นกรู




รูปรวมตอนเอ๋อครับ




รวมสุดท้ายยยยยย




โอย โพสจนเมื่อยเลยครับฉบับนี้ แต่เอาหล่ะสนุกสนานครับ หวังว่าคงจะชอบ ฉบับหน้าถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด คงจะเป็นปกเดี่ยวแล้วแหละครับ เรียกได้ว่า ฉบับนี้พิเศษจริงๆ ไอ้เราก็บ้าโพสนะครับ เมื่อยไปข้างเลยจริงๆ อยากหาคนมานวดให้ เฮ้อ ไปดีกว่า บายครับ




 

Create Date : 23 มิถุนายน 2550    
Last Update : 23 มิถุนายน 2550 1:27:47 น.
Counter : 263 Pageviews.  

ฉบับที่ 3 ปรากฏการณ์ "โน้ต"



ฉบับที่ 3 ออกหลังจากคดียุบพรรค 1 อาทิตย์ และหลังการสอบชีววิทยาเรื่องโพรทิสตาเพียง 2 วัน ภายใต้เสียงโอดครวญของผองเพื่อน ว่า ทำไมข้อสอบมันไม่เห็นจะตรงกับชีท(เลยว่ะ)



ในอนาคต ยังมีการสอบอีกมากมายหลายคณานับ ไม่ว่าจะเป็นเคมี หรือชีววิทยาที่ยังมีค้างอยู่อีกหลายเรื่อง เฮ้อ เปิดเทอมยังไม่ถึงเดือน ก็มีสอบแล้วนะครับ


การสอบของห้อง 1 กลายเป็นเรื่องธรรมชาติที่จะต้องเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป วิธีการสอบของแต่ละคนก็จะแตกต่างกัน อย่างผมหรือหลายๆคนใช้วิธี"จดย่อ" หรือ"อ่านหลายๆรอบ" ซึ่งเป็นวิธีทางวิชาการที่ใช้ได้ผลไม่น้อย


แต่อีกหลายๆคนก็ใช้วิธีไสยศาสตร์ มนต์ดำ พูดสั้นๆง่ายๆว่า เล่นของ ซึ่งน้อยคนนักที่จะใช้ แต่คนที่ใช้แล้วได้ผลอยู่บ้าง ไม่ใช่ใครอื่น เค้าคือ "โน้ต" เพื่อนของพวกเรานั่นเอง


กว่าจะเป็น "โน้ต"


โน้ต หรือ รชาวุฒิ แวงสูงเนิน ต้นตระกูลเป็นคนโคราช นามสกุลของเค้า เป็น 1 ในนามสกุลดั้งเดิมของเมืองย่าโม เรียกได้ว่า แค่เห็นนามสกุล ก็สามารถรู้พื้นเพได้เลยทีเดียว


โน้ต เข้ามายังสาธิตตั้งแต่ ม.1 โดยเพื่อนสนิทของเค้าตั้งแต่เริ่มขึ้นมัธยมคนแรกๆและยังคบหากันอยู่ถึงปัจจุบันก็คือ "ธิว"


งานอดิเรกในตอนนี้ของโน้ต คือการอยู่กับการ์ดการ์ตูนราคาสูง ดูยาก เล่นยาก ซึ่งมีชื่อว่า Summunner(ซัมมันเนอร์) ถึงแม้ว่าการ์ดเหล่านี้จะมีราคาแพงเหลือหลาย แต่เค้าก็ยังขวนขวายที่จะเล่น โดยมีเพื่อนคู่ขาในการเล่นการ์ด 2 คน นั่นก็คือ "บูม" และ "เกล้า"


โน้ตเป็นที่รักของเพื่อนๆ เสมออย่างไม่เคยเปลี่ยนแปลง ด้วยความที่มีหัวใจนักกีฬา ทำให้เขาสนใจที่จะเล่นฟุตบอล ถึงแม้เขาจะไม่เก่งในตอนแรกๆ แต่ปัจจุบัน ฝีเท้าของโน้ต ก็ไม่ต่างอะไรกับนักเตะชื่อดังระดับโลก(จำไม่ได้ว่าชื่ออะไร เพราะ "กั๊ดไม่เล่นกีฬา")


แฉกลโกง "โน้ต" กับเกมการ์ดสุดแพง



เมื่อทีมงานของ JML MAGAZINE ตรวจสอบกระเป๋าเรียนของโน้ต นอกจากจะมีกล่องดินสอ และหนังสือน้อยเล่มแล้ว ยังพบกล่องการ์ด ซัมมันเนอร์ ที่ภายในบรรจุการ์ดการ์ตูนกว่า 50 แผ่น ซึ่งบางแผ่นก็มีราคาแสนแพง ถึงหลักพันก็มี
จากการสืบทราบและตรวจสอบพฤติกรรมแล้ว "โน้ต" จะใช้เวลาว่างส่วนใหญ่ เล่นการ์ดเหล่านี้ กับบูมและเกล้า
ทั้งตอนก่อนเข้าแถว คาบฟิสิกส์ หรือแม้แต่ตอนเย็นหลังเลิกเรียน แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ การเล่นการ์ดระหว่างโน้ต กับ บูมและเกล้า ผู้แพ้ส่วนใหญ่จะหนีไม่พ้น "โน้ต" เขาจึงถูกตราหน้าว่า NOOB ตลอดเวลา และนี่คือส่วนสำคัญ ที่ทำให้เกิดชนวนการโกงในครั้งนี้


เช้าวันที่ 5 มิ.ย. เกิดเหตุการณ์ที่เป็นที่น่าอับอายอย่างยิ่ง เมื่อ"โน้ต" ถูกจับได้ว่า "โกงการ์ด" ด้วยวิธีสกปรก ที่เรียกภาษาชาวบ้านๆว่า "หน้าด้าน" นั่นก็คือ ปริ้นท์ใบดีๆมาแปะหน้าการ์ดห่วยๆนั่นเอง

โดยขบวนการเปิดโปงทุจริตในการเล่นการ์ด (ขป.ทก.) ที่นำโดยนายณัฏฐ์ พวดรักษา ได้รับแจ้งว่า "โน้ต" แอบโกงการ์ดด้วยวิธีที่ได้กล่าวข้างต้นจากบูมและเกล้า

เมื่อ ขป.ทก. ตรวจสอบ พบพิรุทอย่างชัดเจน คือ การ์ดบางใบมีลักษณะจางผิดปกติ บางใบยับ บางใบไม่พอดีกับซอง หลังจากตรวจสอบ พบว่า หลายใบถูกปลอมแปลงโดยการนำกระดาษมาแปะไว้ที่การ์ด เป็นผลให้ผู้แข่งขันทั้งสองคนที่เหลือเสียหายอย่างรุนแรง ไม่สมควรนำไปเป็นเยี่ยงอย่าง และถือเป็นกรณีศึกษาที่สำคัญ ถึงแม้คู่กรณีทั้งสอง จะถอนแจ้งความต่อ ขป.ทก.แล้วก็ตาม


จาก Solution ถึง Musu



เป็นที่น่าสังเกตอย่างยิ่ง เมื่อผลการเรียนของโน้ต ค่อยๆเพิ่มสูงขึ้นในช่วง ม.4 ที่ผ่านมา และในการสอบทุกครั้ง โน้ต ก็สามารถทำคะแนนได้อย่างดีเยี่ยมไม่แพ้ใคร ทำให้หลายคนสงสัยว่า "โน้ตมีวิธีอย่างไร" ในขณะที่"โน้ต" ไม่เคยปริปากบอกเพื่อนแม้แต่ครั้งเดียว

บทสัมภาษณ์ของโน้ต ช่วงวันที่ 27 พ.ค.

JML :"ช่วงนี้ โน้ตเก่งขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย"
โน้ต :"มันก็....บางช่วง"
JML :"ถามจริง มีวิธีการยังไง พอจะบอกได้มั้ย"
โน้ต :"เออ...ไม่ได้"
JML :"นิดเดียวก็ไม่ได้"
โน้ต :"ไม่ได้ คุณ...ต้อง..หาวิธีเอง."
JML :"นิดนึงไง เดี๋ยวหาต่อเอง"
โน้ต :"มันง่ายที่จะถาม แต่มันยากที่จะตอบ"

เมื่อโน้ตจบคำถามด้วยคำคมแบบนี้ ทาง JML ก็ไม่รู้จะถามต่อว่าอย่างไร จึงขอลาโน้ตกลับออฟฟิศด้วยความสงสัย

แต่แล้วเมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 4 ที่ผ่านมา โน้ต ได้หลุดปากพูดคำสำคัญคำหนึ่ง ซึ่งพูดในคาบคณิตศาสตร์ คนรอบข้างบอกกับทาง JML ว่า "โน้ตพูดคำนี้ตอนที่ทำเลขไม่ได้" คำนั้นก็คือคำว่า "Solution"


หลังจากที่โน้ตเอื้อนเอ่ยคำว่า "Solution" เพื่อนๆทั้งห้องถึงกับตกตะลึง และมีเสียงฮือฮาเกิดขึ้น หลายเสียงตามหา Dict เพื่อหาความหมายของคำนี้ ในขณะที่หลายเสียง ตามตีความว่า โน้ตเอ่ยคำนี้ทำไม และเพื่ออะไร


ทาง JML ไดไปหาความหมายของคำว่า Solution ในทันที ซึ่งก็มีความหมายว่า คำไขหรือการแก้ปัญหา และขณะนั้น เรื่องที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อมีผู้ลึกลับเข้าขอพบ บก.ของ JML ในทันที และนี่คือคำพูดส่วนหนึ่งของ บก.JML
บก.JML :"มีคนชุดดำ แว่นดำ หมวกดำคนหนึ่งเดินทางมาขอพบผมที่ JML OFFICE ช่วงนั้นผมกำลังนั่งจิบกาแฟดูผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทอยู่ที่ริมหน้าต่าง ผมสังเกตได้อย่างชัดเจน ว่าท้องฟ้าบริเวณออฟฟิศมันมืดมัวผิดปกติ ทันใดนั้นเอง เลขาส่วนตัวของผมโทรจากหน้าห้อง ว่ามีคนมาขอพบผม"
นักข่าว :"คุณเปิดรับชายลึกลับเข้ามาโดยทันทีเลยหรอค่ะ"
บก.JML :"ไม่ครับ ไม่ ผมก็ต้องถามเลขาผมก่อนสิครับ ว่าเค้ามาพบผมเรื่องอะไร แต่เลขาก็บอกว่า เค้าไม่ยอมบอก แต่ยืนกรานว่าจะพบผมให้ได้"
นักข่าว :"ชายชุดดำคนนั้นมีลักษณะเป็นอย่างไร"
บก.JML :"เสื้อดำ หมวกดำ แว่นดำเลยครับ แต่ดูแล้วหุ่นอ้วนๆ คล้ายเสี่ยครับ"
นักข่าว :"แล้วเค้าพูดอะไรกับคุณบ้างค่ะ"
บก.JML :"เค้ามาถึง เค้าก็บอกผมทันที ว่าเค้ารู้ว่า Solution คืออะไร ผมถามเค้าว่า ขอผมนำคนที่ทำเรื่องนี้มานั่งด้วยได้มั้ย เค้าก็ห้ามผมทันที เค้าบอกว่า ผมบอกแค่คุณ คุณห้ามไปบอกใครเด็ดขาด เพราะมันจะเป็นอันตรายทั้งต่อคุณและผม ผมตอบตกลง แล้วเค้าก็เล่าให้ฟัง"
นักข่าว :"พอจะเปรยๆได้มั้ยค่ะว่า Solution คืออะไรกันแน่"
บก.JML :"ผมบอกได้แค่ว่า เป็นโรงเรียน อยู่ในเมืองนครปฐม แค่นี้เท่านั้นครับ"
นักข่าว :"งั้นรบกวนแค่นี้ค่ะ ขอบคุณค่ะ"


ในขณะที่ Solution เป็นคำยอดฮิตในปัจจุบัน แต่ก็ยังเป็นที่น่าสงสัยและเป็นเรื่องถกเถียงกันในหมู่สภาข้าวเย็น และสภาม้าหินว่า"ทำไม โน้ตต้องพูดคำนี้ออกมา"

และแล้ว คำพูดของโน้ต ก็ไดสร้างปรากฏการณ์ขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อโน้ตพูดคำว่า Musu ออกมาเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ยิ่งทำให้เป็น Talk of the Town มากยิ่งขึ้น ว่าคำนี้ คืออะไร

ทาง JML MAGAZINE มีโอกาสได้พบปะกับทีมวิจัยหลังห้อง ซึ่งประกอบด้วย ณัฏฐ์ จ้อย ต้อบ และอู๋ โดยเรื่องนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะนักวิจัย 2 ท่านแรก นั่นก็คือ ณัฏฐ์และจ้อย

ณัฏฐ์ :"คำว่า Musu ผมยังไม่สามารถหาความหมายของมันได้เลยครับ"
จ้อย :"คือ เราต้องเข้าใจก่อนว่า โน้ตมีลักษณะยังไง ซึ่งตอนนี้เรายังไม่สามารถเข้าถึงได้แม้แต่ตัวของเค้า"
JML :"องค์ประกอบของคำว่า Musu มันสามารถบอกอะไรเราได้มั้ย"
ณัฏฐ์ :"เรื่องนี้ต้องถามจ้อยครับ"
จ้อย :"สังเกตดูแล้วเนี่ย การใช้ตัวยูเป็นสระคงจะหนีไม่พ้นภาษาอียิปต์อ่ะครับ"
JML :"เห็นคุณณัฏฐ์บอกกับผมว่า การออกเสียงคำนี้ก็สำคัญ"
ณัฏฐ์ :"แน่นอนครับ คำนี้ถ้าอ่านไม่เหมือนต้นแบบ จะทำให้ความหมายเปลี่ยนได้ เช่น มู-สู กับ มู-สู้ ความหมายก็ไม่เหมือนกันแล้วนะครับ"
จ้อย :"จากหลักการนี้ ทำให้ผมเบนเข็มจากภาษาอียิปต์แล้วหล่ะครับ มันน่าจะไปทางโคมันยองมากกว่า ถ้าคุณณัฏฐ์บอกผมแต่แรกผมคงสรุปได้ไปแล้วแหละครับ ไม่ต้องมานั่งวิเคราะห์เน่าๆอย่างนี้หรอก"
JML :"ใจเย็นๆครับ"
ณัฏฐ์ :"ก็เพราะคุณมันกากไงครับ"
จ้อย :"เมิงมันโง่ ไอ้ณัฏฐ์"
JML :"ผมว่าเราค่อยพูดจะดีกว่ามั้ยครับ"
ณัฏฐ์ :"พูดดีไม่ได้หรอกครับ คนแบบนี้"
จ้อย :"เมิงว่าไงนะ ไอ้เกี๋ยน"
JML :"งั้นผมลานะครับ"

เฮ้อ การไปคุยกับกลุ่มวิจัยหลังห้องไม่ได้ช่วยเลยครับ ทาง JML จึงต้องสืบค้นเองและสามารถสรุปได้ว่า Musu เป็นภาษาโคมันยองที่ได้รับอิทธิพลจาอียิปต์โบราณเมื่อก่อนคริสตศักราช 1000 ปี Musu เป็นคำย่อจาก Musumulupoo และยังมีคำลูกคู่ไว้คอยสรรเสริญ นั่นก็คือคำว่า Wattamire Wattamiree นั่นเอง


สุดท้ายผมก็ยังอยากให้จับตาดู "โน้ต" ให้ดีๆครับ ผมยังไม่ฟันธงนะครับ ว่าเค้าพูดเพื่ออะไร เพื่อเสริมคะแนนรึเปล่าก็ไม่รู้ เอาเป็นว่า ตัดสินใจกันเอาเองล่ะกันครับ




 

Create Date : 09 มิถุนายน 2550    
Last Update : 9 มิถุนายน 2550 2:14:46 น.
Counter : 277 Pageviews.  

1  2  

scud
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add scud's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.