สวัสดีครับเพื่อนๆทุกคน บังเอิญทริปนี้เกิดจากการเห็นแก่ของถูกในเว็ป Booking.com ทำให้ได้จองโรงแรม AKA รีสอร์ทในราคา 3100 บาทรวมอาหารเช้า แต่ต้องไปวันอาทิตย์กลับวันจันทร์เลยทำให้ไม่สามารถหาสมาชิกไปด้วยได้ เลยต้องเป็นทริปลุยเดี่ยวที่ออกจะเหงาๆซักหน่อยกับบรรยากาศครึ้มๆของหน้าฝน แต่โชคยังดีที่ไปคราวนี้แทบจะไม่เจอฝนเลย
มาเริ่มต้นออกเดินทางเลยดีกว่าครับ เืนื่่องจากไม่รีบร้อนเพราะไปคนเดียวเลยออกจากบ้านซะสายเลยประมาณ 11 โมง ขับรถเข้าเส้นพระราม 2 เช่นเดียวกับตอนไปอัมพวาเลยไปเข้าเพชรบุรี แต่เราไม่ได้เข้าชะอำใช้เส้นทางวิ่งไปทางปราณบุรี ไปจนถึงวงเวียนทางแยกไปวัดห้วยมงคลให้เลี้ยวซ้ายวิ่งไปทางหัวหิน ขับไปไม่นานก็จะเห็นทางเข้าไปรีสอร์ท
ด้านหน้าทางเข้าจะเป็นชุมชนขับเข้าไปผ่านโครงการหม่อนไหมในพระราชดำริ ส่วนด้านในจะเป็นไร่แล้วไปโผล่อีกชุมชนนึง ตรงไปนิดเดียวแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าอีกชุมชนนึงไม่ไกล ก็จะถึงที่พักของเราแล้วครับ AKA รีสอร์ท
ที่จอดรถอาจจะคับแคบไปซักนิดเพราะขนาดเราไปในวันที่คนน้อย ที่จอดรถยังเต็มเลยครับ หลังจอดรถแล้วเราก็เข้าไปเช็คอินได้เวลคัมดริ๊งเป็นน้ำตะไคร้มากับขนมหวาน 3 ชิ้นได้แก่ เค้กช็อคโกแลต มาสเมลโลมะพร้าว และคุกกี้ บริเิวณด้านนอกจะตกแต่งแบบเรียบๆเน้นธรรมชาติ สีขาวของตัวอาคาร สีน้ำตาลอ่อนของหลังคาที่ลักษณะเหมือนฟาง สีเขียวของต้นไม้และน้ำ มีสระว่ายน้ำกลางแจ้งที่คิดว่าคงไม่มีใครมาเล่นเพราะที่นี่มีสระว่ายน้ำส่วนตัวทุกห้องอยู่แล้ว มีส่วนของห้องอาหารที่ไว้ทานอาหารเช้า และส่วนของบาร์ หลังนั่งรอไม่นานก็นั่งรถกอล์ฟไปที่ห้องกัน
ตอนที่เราไปถึงเป็นเวลาบ่าย 2 โมงแล้ว ห้องที่เราพักเป็นห้องพูลวิลล่าธรรมดาสุด หมายเลขห้องคือ 150 หลังจากเก็บของเรียบร้อยเราตัดสินใจไปหาข้าวกินดีกว่าเพราะไม่ได้กินมาตั้งแต่เช้า เราใช้วิธีเดินออกมาที่ที่จอดรถเพื่อจะได้ดูการจัดตกแต่งภายในรีสอร์ท รีสอร์ทจะถูกจัดแต่งเป็นหลังๆมีความเป็นส่วนตัวสูง มีต้นไม้จำนวนมากช่วยบดบังทัศนียภาพระหว่างห้องพักแต่ละห้อง กำแพงตกแต่งด้วยต้นไม้เขียวๆ ทางเดินอาจดูซับซ้อนเป็นเขาวงกตเพราะลักษณะภายนอกที่เหมือนๆกัน เจ้าหน้าที่จึงบอกก่อนเช็คอินว่าให้เรียกรถกอล์ฟได้ตลอด 24 ชั่วโมง
หลังเดินหลงๆซักพักก็เดินหาทางออกจนเจอ ออกมาจะเจอทางเดินไม้ที่ 2 ข้างทางเป็นน้ำมีต้นไม้น้ำสีเขียวๆเต็มเลย มีส่วนของสปาอยู่ใกล้ทางออกด้วยแต่ผมไม่ได้ใช้บริการ จนกระทั่งเดินมาถึงล็อบบี้ด้านหน้าซึ่งอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่
เมื่อออกจากรีสอร์ทก็มุ่งหน้ากลับทางเดิมแต่ให้มุ่งหน้าไปทางเมืองหัวหิน ร้านที่เราตั้งใจจะไปก็คือร้านน้องเปิ้ล ที่อยู่ตรงข้ามโรงเรียนหัวหินพอดี หาไม่ยากครับ เข้าไปถึงร้านก็สั่งเมนูแนะนำของร้าน สำหรับจานแรกก็คือ กระดูกอ่อนคั่วข่า สำหรับคนฟันไม่ดีไม่ควรสั่งครับ แต่เนื้อกรุบๆกับข่าและใบมะกรูดทอดช่วยเพิ่มความหอมและเปรี้ยวนิดๆกินกับข้าวอร่อยมาก จานที่สองเป็นไฮไลท์ที่อยากมากินครับ กุ้งชาววัง กุ้งตัวใหญ่ผัดกับซอสกะทิ รสหวานมันอร่อยมากครับ (พูดแล้วยังอยากกลับไปกินอีก) จานสุดท้ายเป็นต้มยำน้ำข้นทะเล ช่วยทำให้คล่องคอขึ้น ในต้มยำใส่ของทะเลมากมาย หอยเชลล์ประมาณ 10 ตัว ปลาหมึก กุ้งตัวใหญ่ ปลา กินคุ้มมากๆครับ กับข้าวเยอะไปหน่อยมาคนเดียวก็ต้องลุยให้หมดครับ แหะๆๆๆ หมดไปกับมื้อนี้ 500 ครับ ถ้ามาอีกคนคงจ่ายเพิ่มไม่เยอะครับ เสียดายของเลยจัดเรียบครับ (ถือว่า 2 มื้อรวมกัน)
หลังจากอิ่มแล้วก็กลับโรงแรม ทีนี้ก็มาสำรวจห้องพักกันบ้าง ประตูทางเข้าเป็นประตูไม้บานใหญ่มีที่ล็อคเป็นไม้ใช้ขัดดาล บนพื้นจะทำเป็นเหมือนบ่อปลาดูน่ารักดี แต่กลางคืนเหมือนที่เพาะพันธุ์ยุง ทำให้ยุงค่อนข้างเยอะ ด้านในมีแยกเป็น 2 ห้อง ห้องนึงสำหรับไว้ใช้ทำสปา อีกห้องจะเป็นห้องพักที่มีห้องรับแขกและห้องนอนรวมกัน ด้านหลังเป็นห้องน้ำ มีฝักบัวเอาท์ดอร์ และอ่างน้ำทำจากปูนสีดำเวลาเปิดน้ำจะไหลออกมาดูเท่ห์ดี (ฝังก๊อกในช่องปูน) ด้านนอกก็จะเป็นสระว่ายน้ำส่วนตัวที่กว้างและลึก น้ำสูงประมาณอกดังนั้นถ้าพาเด็กๆไปต้องดูแลเป็นพิเศษครับ สำหรับดาดฟ้าจัดเป็นที่นอนมีพัดลมติดเพดานไว้นอนอ่านหนังสือเพลินๆ วิวไม่ค่อยสวยเท่าไหร่แต่พัดลมแรงดี
จากนั้นเราก็นั่งๆนอนๆ ดูทีีวี เล่นน้ำ พักผ่อนให้คุ้มกับค่าห้อง เสียดายกลางคืนยุงเยอะไปหน่อย ดังนั้นเวลาฟ้าเริ่มมืดควรจะปิดประตูทุกบานให้สนิท เตียงก็นุ่มมาก โซฟาก็มีหมอนหลายใบ นอนสบายจนเช้า
วันถัดมาก็ตื่นมาเล่นน้ำสั่งลา เก็บกระเป๋า แล้วออกไปกินอาหารเช้าพร้อมเช็คเอาท์เลยเพราะไม่อยากย้อนไปย้อนมา อาหารเช้าก็เป็นบุฟเฟ่ต์ทั่วๆไปรสชาติใช้ได้ เมื่ออิ่มแล้วก็เดินทางไปวัดห้วยมงคลที่เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อทวดองค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แล้วไปต่อที่ซานโตรินี่ สวยมากๆเหมาะกับการถ่ายรูปจริงๆเสียดายที่ไม่มีนางแบบไปด้วย เสร็จแล้วก็ขับรถตรงกลับบ้านเป็นอนจบทริปนี้ครับ ไว้มีโปรแล้วจะไปอีกครับ ชอบจริงๆ ขอบคุณเพื่อนๆที่ตามมาชมครับ ไปชมรูปกันเลย