สวัดดีครับ เพื่อนๆนักท่องเที่ยว วันนี้มาอัพเดทกันนิดเพราะพึ่งไปเที่ยวกลับมา ทั้งๆที่ช่วงนี้ฝนก็ตกพรำๆน้ำก็ท่วมเอาๆ แต่ก็ต้องทำใจกันอะนะครับ แต่สภาวะเช่นนี้สำหรับผู้ชื่นชอบการผจญภัย ก็ต้องลุยกันซักตั้ง

แต่จากประเด็นเดิมวันหยุดเสาร์อาทิตย์อย่างนี้จะไปไหนดีล่ะ เอาวะจากที่ได้ติดตาม ททท. มาเอาเป็นที่ปราจีนละกันง่ายใกล้สะดวกประหยัด ลุยกันเลยดีกว่า ก่อนอื่นก็จองที่พักก่อน เอ... โทรไปนู่นก็เต็ม นี่ก็เต็ม อ๊ะๆมีห้องว่างแล้วที่นี่เลย หินเพิงรีสอร์ท กับป้าฉลาดนี่แหละ

ออกเดินทางกันวันเสาร์เดือนตุลานัดกันที่ประจำที่อนุสาวรีย์ แวะรับเพื่อนนิดนึงที่มีนบุรีก่อนวิ่งตรงเข้าปราจีนกันเลย ในทริปนี้สมาชิกน้อยมากๆ เลยขนกันไปแค่รถคันเดียว กับจำนวนคนแค่ 5 คนประกอบด้วย เอลฟ์ (นักขับมือ 1 ฟอร์มูล่าวันที่ทำเอาเพื่อนๆผวา), เรา, กอล์ฟ (มือกล้อง) และอีก 2 สาวใหม่อย่าง เจิ้ล และแว๊กซ์ กว่าจะออกก็ปาเข้าไปเกือบ 9 โมงแล้ว ประกอบกับฝนที่ตกหนัก และน้ำที่ท่วมถนนนิดๆ ทำเอาเพื่อนเอลฟ์หัวเสียเล็กๆที่ต้องขับช้า 555 แต่ก็ไปถึงตัวเมืองปราจีนตอน 11 โมงแวะกินอะไรรองท้องก่อนเข้าที่พัก ที่พักที่นี่ออกจะเปลี่่ยวไปนิดแนะนำว่าควรจะมีเพื่อนผู้ชายไปด้วย แต่ลุงกับป้าแกนิสัยดีมากๆ (ถึงแม้ป้าแกจะหน้าดุนิดๆก็เถอะ) เอาล่ะเก็บของเสร็จก็เริ่มลุย (ถ่ายรูป) โดยช่างกอล์ฟ ก่อนจะทานข้าวกลางวันซึ่งหรูมากๆมีปลาตั้ง 2 ตัวแน่ะ แต่ก็เกลี้ยง จากนั้นหยิบอุปกรณ์ป้องกันภัย ได้แก่หมวก พาย เสื้อชูชีพ (หมดแล้ว) ก็ออกมุ่งหน้าไปที่แก่งหินเพิงกันเลยที่ ขญ.9 (อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่)

เริ่มต้นเราต้องเดินขึ้นไปที่ต้นน้ำราวๆ 2.5 กม. ซึ่งแรกๆก็เวิร์คอะแต่เดินไปได้แว๊บเดียวฝนก็เทลงมาหนักมากๆ ดีนะที่ป้าแกให้ถุงกันน้ำมาไม่งั้นกล้องผมพังแน่ๆ ก่อนจะเดินถึงแก่งก็ ครึ่ง-หนึ่งชั่วโมงกว่าๆ จากนั้นเราก็ตัดสินใจลุยกันเลย ทั้งๆที่ฝนลงนั่นแหละ (ถ้าน้ำไม่แรงก็ไม่หนุกดิเนอะ) พอเริ่มลุยก็เป็นเรื่อง ที่แก่งแรกคือแก่งหินเพิงซึ่งเป็นไฮไลท์ของทริปนี้ น้ำไหลแรงมากเรือไม่สามารถควบคุมได้ อาจเนื่องจากคนจำนวนน้อยด้วยมั๊ง เรือเลยลอยไปเร็วมากกระแทกแก่งซะโครมเบอเริ่มดีที่เรือไม่จม แต่นายท้ายตกน้ำ 555 แล้ว security ที่ไว้ใจได้ก็โดดลงเรือมาช่วยเป็นนายท้ายแทน(ในตอนแรกในใจคิดว่าเค้าเปลี่ยน job กันอะเปล่าหว่า มันหมดเวลาทำงานหรืออย่างไร) หลังจากผ่านแก่งแรกมาได้ก็วนเรือออกไปรับนายท้ายที่ตกเรือไป เราจึงมาถึงบางอ้อกันว่า อ้อ! ที่แท้มันก็ตกเรือน่ะเอง อันนี้ไม่รู้ว่าเป็นกรณีแรกรึเปล่าที่นายท้ายตกเรือ แต่ก็อย่างว่ามันก็ยังเซฟตี้อยู่ดี

ก่อนจะผ่านแก่งต่างๆ ได้แก่ แก่งหนามล้อม, แก่งวังบอน, แก่งลูกเสือ, แก่งวังไทร และสิ้นสุดที่แก่งงูเห่า โดยมีอยู่บางแก่งถ้าบังคับพลาดก็เข้าริมตลิ่งที่มีกิ่งไม้เต็มไปหมด ต้องก้มหลบแทบไม่ทัน แถมมีผึ้งบินว่อนอีกต่างหาก (ฝึกเอาตัวรอดไปด้วย) และมีที่นึงที่เค้าให้เราได้ลอยตัวไปตามน้ำ โอว...สุดยอดหนุกมากๆปล่อยตัวไหลไปกับสายน้ำซึ่งแรงจนควบคุมทิศทางได้ยากขนาดเราว่ายน้ำเป็นนะ แต่ถ้าว่ายไม่เป็นก็ไม่เป็นไรหรอกก็มีชูชีพอยู่ แค่พยายามอย่าไปชิดริมตลิ่งก็พอ ในที่สุดก็มาถึงจุดสิ้นสุดการล่องแก่ง ถ้าคนมาเช้าเย็นกลับก็จบแค่นั้น แต่เราสามารถพายเรือยางพร้อมชมวิวธรรมชาติไปต่อจนถึงที่พักโดยใช้เวลาอีกราวๆหนึ่งชั่วโมง หลังเรากลับเข้าที่พักก็ไปอาบน้ำกินข้าว แล้วก็งีบหลับไปเพราะความเหนื่อย

วันต่อมาเราก็เคลียร์ค่าใช้จ่าย ก่อนจะแวะไปตลาดโรงเกลือช้อปปิ้งซักหน่อยแล้วค่อยมุ่งตรงกลับกรุงเทพ ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้าน สรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้ก็ไม่เกิน 1,800 บาท ถ้าอยากได้เบอร์ป้าแกก็เอาไปเลยครับ 089-8288127 ไว้ติดต่อแก คงต้องเป็นปีหน้าแล้วล่ะ เพราะน้ำมันน้อยในช่วงเดือนพ.ย.น่ะ ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ

แต่พอเจอแก่งมหาโหดเข้าไป หน้าเป็นแบบนี้อะ (กรุณาสังเกตุหน้าแต่ละคนให้ดี )

และแล้วก็เป็นไททานิค เรือหายไปทั้งลำเลยจ้า มาดูกี่ทีก็อดใจหายไม่ได้

รอดแล้วเจ้าค่า เหมือนเกิดใหม่ 55555

อีกรอบยังไหว สู้ตายครับ ฮี่ๆๆๆๆ

แต่มันหายเพราะเธอคนนี้ขอรับ

Create Date : 15 สิงหาคม 2550
Last Update : 1 กรกฎาคม 2555 3:00:20 น.		5 comments
Counter : 417 Pageviews.
Share Tweet