|
จอมโจรยูเจนิดิส (The Thief) (สนุกค่ะ)
รายละเอียด ---- จอมโจรยูเจนิดิส (The Thief) โดย: เมแกน วาเลน เทอร์เนอร์ / แปล ปัทมา อินทรรักขา สำนักพิมพ์: สำนักพิมพ์แพรวเยาวชน พิมพ์ครั้งที่: 1 หมวดหนังสือ: วรรณกรรมเยาวชน ราคา: 175 บาท ISBN: 9789747035292 ปก: อ่อน จำนวนหน้า: 230 หน้า รายละเอียด:
เจ็น เป็นหัวขโมยผู้เก่งกาจ สามารถขโมยได้ทุกอย่างยกเว้นขโมยตัวเองออกจากคุกใต้ดินในพระราชวังของกษัตริย์แห่งซูนิส เจ็นได้แต่รอวันตายจนกระทั่งซูนิสปล่อยเขาออกจากคุก โดยมีเงื่อนไขว่าเขาจะต้องขโมยของอย่างหนึ่งมาให้พระองค์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครขโมยได้มาก่อน นั่นคือของขวัญแห่งฮามิอาธิส ศิลาในตำนานที่เทพเจ้าสร้างขึ้นเพื่อมอบให้แก่ผู้ปกครองของเอ็ดดิส ผู้ที่ครอบครองหินนี้จะได้ครองบัลลังก์แห่งเมืองเอ็ดดิสโดยสมบูรณ์ เพื่อให้รอดพ้นจากการถูกประหารชีวิต เจ็นจึงต้องออกเดินทางไปกับราชครูส่วนพระองค์ของกษัตริย์ซูนิส สำหรับราชครูแล้ว เจ็นเป็นแค่เครื่องมือที่จะทำให้กษัตริย์ซูนิสได้ครอบครองอาณาจักรเอ็ดดิสเท่านั้น แต่เจ็นก็มีแผนของตัวเองซ่อนอยู่เช่นกัน
หนังสือในชุดจอมโจรยูเจนิดิส
จอมโจรยูเจนิดิส ราชินีแห่งแอตโทเลีย ราชันแห่งแอตโทเลีย ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ของอมรินทร์ค่ะ --------------------------------------------------------------------------
ลัดคิวค่ะ เพิ่งนั่งอ่านจบไปเมื่อคืนนี้เอง เล่มที่จบก่อนหน้านั้นยังไม่ได้เล่าถึงเลย ก็กระโดดมาเล่าเล่มนี้แล้ว
ช่วงแรกของเรื่องดำเนินเรื่องแบบค่อยเป็นค่อยไปค่ะ ค่อยเป็นค่อยไปมากกกจนจขบ.อ่านจบ 2 บทแล้วก็วางทิ้งไว้ร่วมเดือน จนเมื่อคืนนี้ถึงเพิ่งหยิบมาอ่านต่อ ใครที่ชอบหนังสือที่เดินเรื่องไว ๆ ขอแนะนำให้อ่านเรื่องนี้อย่างใจเย็นมาก ๆ หน่อยนะคะ ของดีมันซ่อนอยู่ตอนท้าย ๆ ค่ะ
จากเรื่องย่อก็ตามนั้นค่ะ (ข้างบน) ไม่เล่ามากกว่านี้แล้วเพราะเรื่องนี้หลัก ๆ ก็มีอยู่เท่านี้ค่ะในเล่ม 1 แต่ตอนที่อ่านใช้เวลานานอยู่ เพราะเรื่องนี้เต็มไปด้วยบทบรรยายค่ะ เป็นบทบรรยา+เล่าเรื่องจากความคิดของเจ็น หรือแบบมุมมองบุรุษที่ 1 นั่นเอง บทสนทนาน้อยมาก ทำให้ทั้งหน้าเต็มไปด้วยตัวหนังสือปริมาณมากทีเดียว แต่จขบ.กลับชอบนะ เพราะรู้สึกว่าช่วงนี้บริโภคหนังสือแบบเร็วเกินไปจนความสามารถในการเก็บรายละเอียดชักจะน้อยลงแล้ว เจอเรื่องที่ทำให้ตัวเองอ่านช้าลงได้เลยรู้สึกดีค่ะ
ชอบการเล่าตำนานในเรื่องค่ะ จขบ.เป็นโรคบ้าตำนานเทพมาตั้งแต่เด็กแล้ว มาเจอเรื่องนี้เข้าเลยลำเอียงเข้าข้างทันที
ตัวละครของเรื่องมีการซ่อนความเป็นมาของตัวเองไว้เยอะทีเดียว แต่จขบ.แอบไปอ่านสปอยล์มาแล้ว เลยทำให้ตอนอ่านจบไม่ได้รู้สึกอะไรเลย การดำเนินเรื่องไหลลื่นตลอดเรื่องค่ะ แต่เล่มนี้ยังไม่ค่อยมีลุ้นมากเท่าไหร่ ทำให้รู้สึกแค่อยากติดตามไปจนกว่าจะรู้ว่าในที่สุดแล้วเรื่องจะไปจบตรงไหนมากกว่า
สิ่งที่ทำให้ชอบ เป็นฉากหลัง+ปมขัดแย้งของสามแคว้นในเรื่อง คือ ซูนิส เอ็ดดิส และแอตโทเลียที่ให้อารมณ์การเมืองมาก ๆ ค่ะ นอกจากนั้นก็เป็นรายละเอียดที่ละเอียดมากจนดูเหมือนเป็นอีกโลกหนึ่งจริง ๆ กับความน่ารักของตัวละครค่ะ จขบ.ชอบเจ็นกับราชินีแห่งเอ็ดดิสน่ะ แต่เจ็นน่ะมันซ่อนคมค่ะ ซ่อนไว้ลึกมากจนกว่าจะแสดงฝีมือก็ปาเข้าไปเกือบจบเรื่องแน่ะ - -"
ก็คงได้อ่านเล่ม 2 เลยในคืนนี้ค่ะ ถ้าแผนการไม่ผิดพลาด ได้ยินว่าเล่ม 2 ยิ่งเข้มข้น จขบ.อ่านตัวอย่างหน้าแรกในเล่ม ก็สนใจแล้วค่ะ เพราะมันบรรยายถึงราชินีแห่งแอตโทเลีย จขบ.เป็นโรคแพ้พวกราชินีด้วยสิ
ขออภัยที่เล่าถึงน้อยไปหน่อย เพราะเล่มนี้ยังไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่น่ะค่ะ คงเพราะเล่มนี้เป็นวรรณกรรมที่ให้อารมณ์เยาวชนมั้ง เล่ม 2 +3 ได้ยินว่าจะมืดมนมากขึ้น จขบ.คงชอบอารมณ์นั้นมากกว่าค่ะ
Create Date : 27 พฤศจิกายน 2550 | | |
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2550 13:02:11 น. |
Counter : 2141 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
งาน Magezine & Book Fair ที่สยามพารากอน 22 พ.ย. 2550
งานนี้มีช่วง 21-25 พ.ย. นี้ค่ะ เป็นงานที่ตอนแรกจขบ. นึกว่าจะมีอะไรมากกว่านี้แต่ก็เหมือนออกแนวเป็นงานหนังสือเล็ก ๆ มากกว่าค่ะ ก็ส่วนใหญ่สนพ.ที่มาออกบูธจะเป็นนิตยสารค่ะ นอกนั้นก็มีสนพ.ใหญ่ อีกหลายสนพ.ที่ไปเปิดบูธหนังสือค่ะ
เท่าที่จำได้ก็ นิตยสารทุกแนว ตั้งแต่อสท. จนถึงรักลูก คลีโออะไรแบบนี้เลยค่ะ นิตยสารเด็กก็มี (จริง ๆ แล้วก็คงมีนิตยสารเกือบทุกหัว)
อะเดย์ (จขบ.สนใจมาก) อมรินทร์ อักษรโสภณ ศรีสยามการพิมพ์ สยามอินเตอร์ บุ๊คสไมล์ สถาพร ฟิสิกเซนเตอร์ come-on นานมี อิสระบุ๊คส์ บรรลือสาสน์ ร้านหนังสือเก่าแบบประเภทสะสมก็มีค่ะ สนพ.ที่กล่าวมานั่นก็เอานิตยสารในเครือไปออกบูธด้วยค่ะ(คิดว่าทุกหัวเลย)
มีอีกเยอะค่ะ แต่จำไม่ค่อยได้ เพราะเดินแบบเร่งด่วน งานจะมี 2 โซนติดกันนะคะ จัดที่รอยัลพารากอนฮอลล์ ชั้น 5 (คนน้อยมาก เดินสบาย)
บูธที่สนใจเป็นพิเศษในช่วงนี้คือ abook หรือ aday นั่นเองค่ะ ที่สนใจเพราะเมื่ออาทิตย์ที่แล้วพึ่งไปค้นพบหนังสือเล่มหนึ่งของสนพ. นี้ที่ทำให้จขบ.กรี๊ดสุดขีด นั่นก็คือ Beanspout and Firehead in the Infinite Madness ค่ะ เห็นชื่ออินเตอร์แต่จริงๆ แล้วเป็นสัญชาติไทยแท้ค่ะ ผู้เขียนคือ คุณทรงศีล ทิวสมบุญ แค่จขบ.เปิดอ่านในเล่มไปนิดเดียวก็ทนไม่ไหว ต้องซื้อกลับไปอ่านแล้ว (อย่าเข้าร้านหนังสือเวลาว่าง ๆ นะคะ อันตราย) แล้วทีนี้เมื่อเห็นผลงานเล่มต่อ ๆ มาของคุณทรงศีลก็แย่สิคะ เสียเงินซื้อทันทีแน่นอน ก็พบว่ามี 2 เล่มค่ะที่เล็งอยู่ก็คือ Imporvise และ Nine Lives ค่ะ (แล้ววันหลังคงได้กล่าวถึงในบล็อกอีก)
มาถึงโปรโมชันพิเศษบ้าง ก็อมรินทร์จะมีโปรฯเหมือนในงานหนังสือที่ผ่านมาเปี๊ยบ คือ ซื้อครบ 400 บาท ได้จับคูปองส่วนลด 800 บาท ได้หนังสือฟรีที่ร่วมรายการ 1 เล่ม มากกว่านั้นรู้สึกจะแถมกระเป๋าลาก
มติชน ก็มีหนังสือที่ใหม่พอควร พึ่งออกไม่เกิน 2-3 ปี เล่มบางหน่อย ราคาไม่เกิน 200 มาลดเหลือ 100 บาททุกเล่มค่ะ อย่างเช่น รวมเรื่องสั้น วรรณกกรมแปล จำชื่อเรื่องไม่ค่อยได้ เจ้าสาวจอมเวทย์ อันนี้จำแม่นเพราะเคยซื้อไปก่อนหน้านี้แล้ว ซื้อครบ 5 เล่มแถมถุงผ้าใบเล็ก สีสวยดี
บุ๊คสไมล์ ก็มีซื้อครบ 100 จับรางวัลมีสิทธิได้บัตรของขวัญ 100 บาท แต่ถ้าซื้อครบ 500 บาทก็ไม่ต้องจับ จะได้เลย และแถมหนังสืออีก 1 เล่ม หนังสือส่วนใหญ่ของบูธนี้จะเป็นหนังสือเซตแรก ๆ ของแจ่มใสค่ะ
ต่อมา อันนี้น่าสนใจมากค่ะ คือสถาพร ขนเซต Princess ชุดดั้งเดิม ตั้งแต่เรื่องแรก ๆ ที่ออก ที่เป็นปกสไตล์ตัวการ์ตูนแบบเหมือนจริงน่ะค่ะ มาลดเหลือ 30 บาท สำหรับเล่มบาง 50 บาทสำหรับเล่มหนาที่ราคาปกเกิน 180 บาท จขบ.ก็กรี๊ดสิคะ เพราะแถบจะไม่เคยซื้อหนังสือเซตนี้เลย แต่เล็งว่าอยากได้ ๆ มานานแล้ว สภาพก็ค่อนข้างดีด้วย จขบ.เลยซื้อในขั้นเบื้องต้นมา 5 เล่ม หมดไปแค่ 190 บาทเท่านั้น คือ
1. รักสุดท้ายที่ปลายขบวน 2. สารานุกรมรักฉบับปีศาจ 3. แอบรักออนไลน์ 4.กอดหัวใจให้อุ่นรัก 5. คืนจันทร์ทอใจ
ใครสนใจก็แวะไปได้ที่สยามพารากอนค่ะ ถึงวันที่ 25 คือ วันอาทิตย์นี้ค่ะ
Create Date : 23 พฤศจิกายน 2550 | | |
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2550 12:47:29 น. |
Counter : 780 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
Dragon Delivery 2 "กี๊ซซ..ก๊าซซ" (สำเนียงมังกรแปลว่า กรี๊ด..กร๊าด.)
จริง ๆ แล้วว่าจะรีวิวมาราธอนต่อจากบล็อกที่แล้ว แต่หลังจากที่อ่านเล่มนี้จบแล้วมันทนไม่ไหว ก็เลยมาแรงแซงทางโค้งลัดคิวให้เล่มนี้ ซึ่งเป็นแฟนตาซีที่จขบ.รักยิ่งก่อนค่ะ
ผู้แต่ง : พัณณิดา ภูมิวัฒน์ สำนักพิมพ์ : สถาพร ราคา : 140 บาท
รายละเอียดจากเว็บสนพ.: เด็กหนุ่มผู้ที่ได้รับร้านขนส่งมังกรเป็นมรดกจะทำฉันใด เมื่อต้องกอบกู้กิจการและหนี้สินสองล้านแปดแสน แถมยังถูกคนปองร้ายหมายขวัญ
งานนี้มังกรสามตัวกับผู้ช่วยหนึ่งคนคงไม่เพียงพอที่จะช่วยเขาได้...
จขบ.ฝอยเอง------------------------------------------------------------
เรื่องย่อจากเว็บช่างย่อจริง ๆ - -" เอาเป็นว่าเล่าเองดีกว่าค่ะ ใครที่เคยอ่านเล่ม 1 มาแล้วคงพอทราบภูมิหลังของเรื่องนะคะ
เรื่องนี้มันเริ่มจากที่โซลโท เอชาน หนุ่มชาวนาคนหนึ่งเกิดถูกหวยได้มรดกจากลุงที่ไม่เคยรู้จักหน้าค่าตา เป็นร้านมังกรเล็ก ๆ 1 ร้าน พร้อมด้วยมังกรที่ดูธรรมดาแต่ไม่ยักกะธรรมดา 3 ตัว แถมผู้ช่วยซึ่งก็เป็นตาลุงธรรมดาที่ดูไม่น่าจะธรรมดาอีกเช่นกัน 1 คน
จริง ๆ แล้วตัวโซลโทเองก็เป็นคนที่ธรรมดาที่สุดเท่าที่จะพบได้ในนิยายแฟนตาซีแล้ว ยกเว้นความถึกเกินคน(ไปมาก) และอะไรที่ธรรมดาสุดขีดจนมันไม่ธรรมดาไปแล้ว แต่ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ยังคิดว่าตัวเขานั้นเป็นคนที่ธรรมดาที่สุดในร้าน (แต่คนอ่านเช่นจขบ. คิดว่าไม่...)
ร้านมังกรเอชานอยู่ในเมืองซีเล ซึ่งในซีเลมีร้านมังกร 2 ร้าน คือร้านมังกรเฮเบล เป็นร้านใหญ่มีชื่อเสียง ซึ่งอยู่ทางเหนือ คนทั่วไปจึงเรียกว่าร้านมังกรเหนือ แต่ร้านเอชาน เป็นร้านเล็กที่อยู่ทางใต้จึงถูกเรียกว่าร้านมังกรใต้
หลังจากที่ได้เริ่มธุรกิจร้านมังกรเล็ก ๆ แห่งเมืองซีเลเต็มตัว ตั้งแต่ยังงง ๆ ว่าจะกลับไปทำนาต่อเหมือนเดิมดีไหม จนมาถึงการตัดสินใจมุ่งมั่นที่จะทำร้านต่อไปหลังจากที่ได้รู้ว่าได้มรดกที่เป็นหนี้สินมาด้วย จนกระทั่งได้ทำความรู้จักกับร้านมังกรและมังกรของตัวเองเป็นอย่างดี และได้สอบผ่านการเป็นคนส่งของด้วยการใช้มังกรในที่สุด
รวมทั้งได้รู้จักใครหลายคนที่เข้ามาในชีวิตอย่าง เรนา หรือเอนาเร เฮเบล หลานสาวเจ้าของร้านมังกรเฮเบล เทย์ เฮเบล หลานชายร้านมังกรที่ไพล่ไปเป็นพ่อมดสอบตกที่ไม่ยอมเรียนจบซักที และท่านทาร์น เฮเบล ท่านตาพลังเพลิงของสองคนแรกที่กล่าวถึง
จนกระทั่งในเล่ม 2 นี้ โซลโทก็ได้เริ่มทำธุรกิจร้านมังกรอย่างจริงจังแล้วค่ะ โปรดระวังต่อจากนี้มีสปอยล์นะคะ
ในเล่ม 2 นี้โซลโทได้เริ่มวางแผนพัฒนาธุรกิจอย่างจริงจัง หลังจากที่ได้ยินมาว่ามีผู้ปล่อยข่าวลือว่าเขาได้ใบอนุญาตขี่มังกรมาโดยไม่ถูกต้อง และเขาก็ยังไม่มีลูกค้าเป็นของตัวเองสักที จนแม้แต่โซลโทที่เป็นตัวละครที่กระปรี้กระปรี้เปร่า+มองโลกในแง่ดีสุด ๆ ก็ยังเริ่มหงอยจนได้ ความผิดหวังจนทำให้โซลโทรู้สึกว่าต้องลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง (ในระหว่างนี้ลุงเจวาน ผู้ช่วยก็ไม่อยู่ให้ปรึกษา) จนในที่สุดโซลโทก็หันหน้าไปปรึกษาเทย์ (- -") ทั้ง ๆ ที่ก็รู้สรรพคุณของเทย์ดีว่ามัน...ขนาดไหน จากประสบการณ์ที่ถูกแกล้งมาไม่เบาแล้ว
เทย์มีคำแนะนำพิเศษค่ะ (เป็นคำแนะนำที่เป็นพื้นฐานของหลักการตลาดมาก ๆ เลยค่ะ) เล่นเอาฮือฮาไปทั่วเลย
ใน case ที่ 1 นี่เองที่ทำให้เป็นที่มาของ case ที่ 2 เมื่อโซลโทบังเกิดแนวคิดกลยุทธ์ใหม่ของวงการมังกรขนส่งได้ แต่ก็ทำให้ทั้งต้องเผชิญกับสถานการณ์ยุ่งยากอยู่นานพอสมควร และได้พบตัวละครใหม่ที่พึ่งปรากฏตัวในเล่มนี้ค่ะ
เธอเป็นคุณหนูที่ชวนหลอนจริง ๆ เพราะถึงจะแต่งตัวหวานแหววแต่ก็เล่นทรงดำตลอดเวลา - - แถมมีของเล่นที่ติดสมัยเด็กเป็นตุ๊กตาไม่มีหัวอีก (หลอนกว่าน้องเน่าของใครหลายคนเยอะ) พอได้รู้ว่าเทย์มันเคยถูกสาปเป็นกิ้งกือด้วย แทนที่จะสงสาร จขบ.กลับหัวเราะ ด้วยความรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังสมน้ำหน้ามันอยู่อย่างไรชอบกล
ความรู้สึกหลังจากที่ได้อ่าน -------------------------------------------------------
ที่ร่ายมายืดยาวนั่นยังไม่พอค่ะ ยังไม่ได้ครึ่งนึงของอารมณ์กรี๊ดกร๊าดที่ได้ตอนที่อ่านจบเล่มเลย แน่นอนว่าอ่านรวดเดียวจบค่ะ อาการที่เกิดขึ้นทันทีหลังจากอ่านจบคือ อยากจะกลายร่าง ฟาดหัวฟาดหางแล้วร้องเป็นสำเนียงมังกร ..... กี๊ซซซ.... ก๊าซซซซ.... (กรี๊ด.. กร๊าด..) ......กี๊ซซซซ....กี๊ซซซ ...... (เล่ม 3... เค้าจาเอาเล่ม 3)
น่ารัก รัฟน่ารักที่สุด ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ารัฟจะเป็นมังกรที่ใจดีแบบนี้ (เพ้อ (อ้างอิงจาก case ที่ 3))
กระโดดข้ามไปหน่อย เอาตั้งแต่ตอนแรก ๆ ดีกว่า เล่ม 2 นี้ยังคงเต็มไปด้วยความฮาตามสไตล์มังกรขนส่งที่ดูเหมือนล้อเลียนเทพนิยาย+แฟนตาซีสไตล์ผู้กล้าไว้เช่นเคย เรื่องราวของเล่มนี้เริ่มด้วยการพัฒนาธุรกิจและการพัฒนาตัวเองของตัวโซลโทเองด้วย และยังการถูกปองร้ายของโซลโทที่เริ่มเปิดเผยว่าแท้จริงแล้ว ขณะนี้โซลโทกำลังตกอยู่ในอันตราย (อ้างอิงจากปกหลัง) แต่อ่านไปไม่รู้จะเป็นห่วงดีรึเปล่า เพราะโซลโทมันแข็งแรงผิดมนุษย์จนชวนอึ้ง และทำให้ต้องลุ้นระทึก (555) ว่าใครกันที่คิดร้ายต่อโซลโท
การเปิดตัวตัวละครใหม่ที่แปลกใช่ย่อย แถมบทสุดท้ายด้วยการทำให้แฟน ๆ ลุ้น+อยากรู้กันสุดขีดด้วยค่ะ เล่นเอาจขบ.จะคลั่งตายด้วยความอยากอ่านต่อ
เล่มนี้เริ่มมีสรรพสัตว์โผล่มาให้ได้เห็นมากขึ้นค่ะ ชอบ ๆ ได้เห็นสัตว์ประหลาดในแง่มุมที่น่ารัก และลุ้นไปกับโซลโท ท่านเจ้าของร้านมังกร ที่มีอาชีพเสริมเป็นการปลูกผักสวนครัวเหมือนเคยว่าเมื่อไรจะใช้หนี้ได้ 555
อ่านไปแล้วก็ชวนให้รู้สึกว่าเราต้องพัฒนาตัวเอง+มองโลกในแง่ดีได้สักครึ่งหนึ่งของโซลค่ะ (แต่ก็สงสัยเหมือนกันว่ามันมองโลกในแง่ดีหรือว่ามันซื่อจัดกันแน่)
เสียดายอยู่อย่างเดียวเองค่ะว่าเล่มนี้บางไปหน่อยค่ะ (เนื่องจากผู้เขียนติดภารกิจ) (จขบ. ลำเอียงเข้าข้างเล่มนี้เห็น ๆ )
สรุป ---
กี๊ซซซซซซซซซ (สำเนียงมังกรถอดความได้ว่า...เล่ม 3 ....)
หนืดดดดดดดดด (สำเนียงสไลม์ถอดความได้ว่า...เล่ม 3 ....)
มี่...................(สำเนียงกิลช์ถอดความได้ว่า...เล่ม 3 ....)
มี้ .................(สำเนียงหนูมี้ถอดความได้ว่า...เล่ม 3 ....)
จิ๊บ ............... (สำเนียงค็อคคาทริสถอดความได้ว่า... เล่ม 3 ....)
อยากอ่านเล่ม 3 แล้วล่ะค่ะ
Create Date : 19 พฤศจิกายน 2550 | | |
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2550 12:28:12 น. |
Counter : 1265 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|