เวลาเป็นเงินเป็นทอง แต่เวลาที่ใช้อ่านหนังสือสามารถให้สิ่งที่มีค่ากว่าเงินทองแก่เราได้
Group Blog
 
All Blogs
 

จอมโจรยูเจนิดิส (The Thief) (สนุกค่ะ)



รายละเอียด ---- จอมโจรยูเจนิดิส (The Thief)
โดย: เมแกน วาเลน เทอร์เนอร์ / แปล ปัทมา อินทรรักขา
สำนักพิมพ์: สำนักพิมพ์แพรวเยาวชน
พิมพ์ครั้งที่: 1 หมวดหนังสือ: วรรณกรรมเยาวชน
ราคา: 175 บาท ISBN: 9789747035292
ปก: อ่อน จำนวนหน้า: 230 หน้า
รายละเอียด:

เจ็น เป็นหัวขโมยผู้เก่งกาจ สามารถขโมยได้ทุกอย่างยกเว้นขโมยตัวเองออกจากคุกใต้ดินในพระราชวังของกษัตริย์แห่งซูนิส เจ็นได้แต่รอวันตายจนกระทั่งซูนิสปล่อยเขาออกจากคุก โดยมีเงื่อนไขว่าเขาจะต้องขโมยของอย่างหนึ่งมาให้พระองค์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครขโมยได้มาก่อน นั่นคือของขวัญแห่งฮามิอาธิส ศิลาในตำนานที่เทพเจ้าสร้างขึ้นเพื่อมอบให้แก่ผู้ปกครองของเอ็ดดิส ผู้ที่ครอบครองหินนี้จะได้ครองบัลลังก์แห่งเมืองเอ็ดดิสโดยสมบูรณ์ เพื่อให้รอดพ้นจากการถูกประหารชีวิต เจ็นจึงต้องออกเดินทางไปกับราชครูส่วนพระองค์ของกษัตริย์ซูนิส สำหรับราชครูแล้ว เจ็นเป็นแค่เครื่องมือที่จะทำให้กษัตริย์ซูนิสได้ครอบครองอาณาจักรเอ็ดดิสเท่านั้น แต่เจ็นก็มีแผนของตัวเองซ่อนอยู่เช่นกัน

หนังสือในชุดจอมโจรยูเจนิดิส

จอมโจรยูเจนิดิส
ราชินีแห่งแอตโทเลีย
ราชันแห่งแอตโทเลีย

ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ของอมรินทร์ค่ะ
--------------------------------------------------------------------------

ลัดคิวค่ะ เพิ่งนั่งอ่านจบไปเมื่อคืนนี้เอง เล่มที่จบก่อนหน้านั้นยังไม่ได้เล่าถึงเลย ก็กระโดดมาเล่าเล่มนี้แล้ว

ช่วงแรกของเรื่องดำเนินเรื่องแบบค่อยเป็นค่อยไปค่ะ ค่อยเป็นค่อยไปมากกกจนจขบ.อ่านจบ 2 บทแล้วก็วางทิ้งไว้ร่วมเดือน จนเมื่อคืนนี้ถึงเพิ่งหยิบมาอ่านต่อ ใครที่ชอบหนังสือที่เดินเรื่องไว ๆ ขอแนะนำให้อ่านเรื่องนี้อย่างใจเย็นมาก ๆ หน่อยนะคะ ของดีมันซ่อนอยู่ตอนท้าย ๆ ค่ะ

จากเรื่องย่อก็ตามนั้นค่ะ (ข้างบน) ไม่เล่ามากกว่านี้แล้วเพราะเรื่องนี้หลัก ๆ ก็มีอยู่เท่านี้ค่ะในเล่ม 1 แต่ตอนที่อ่านใช้เวลานานอยู่ เพราะเรื่องนี้เต็มไปด้วยบทบรรยายค่ะ เป็นบทบรรยา+เล่าเรื่องจากความคิดของเจ็น หรือแบบมุมมองบุรุษที่ 1 นั่นเอง บทสนทนาน้อยมาก ทำให้ทั้งหน้าเต็มไปด้วยตัวหนังสือปริมาณมากทีเดียว แต่จขบ.กลับชอบนะ เพราะรู้สึกว่าช่วงนี้บริโภคหนังสือแบบเร็วเกินไปจนความสามารถในการเก็บรายละเอียดชักจะน้อยลงแล้ว เจอเรื่องที่ทำให้ตัวเองอ่านช้าลงได้เลยรู้สึกดีค่ะ

ชอบการเล่าตำนานในเรื่องค่ะ จขบ.เป็นโรคบ้าตำนานเทพมาตั้งแต่เด็กแล้ว มาเจอเรื่องนี้เข้าเลยลำเอียงเข้าข้างทันที

ตัวละครของเรื่องมีการซ่อนความเป็นมาของตัวเองไว้เยอะทีเดียว แต่จขบ.แอบไปอ่านสปอยล์มาแล้ว เลยทำให้ตอนอ่านจบไม่ได้รู้สึกอะไรเลย การดำเนินเรื่องไหลลื่นตลอดเรื่องค่ะ แต่เล่มนี้ยังไม่ค่อยมีลุ้นมากเท่าไหร่ ทำให้รู้สึกแค่อยากติดตามไปจนกว่าจะรู้ว่าในที่สุดแล้วเรื่องจะไปจบตรงไหนมากกว่า

สิ่งที่ทำให้ชอบ เป็นฉากหลัง+ปมขัดแย้งของสามแคว้นในเรื่อง คือ ซูนิส เอ็ดดิส และแอตโทเลียที่ให้อารมณ์การเมืองมาก ๆ ค่ะ นอกจากนั้นก็เป็นรายละเอียดที่ละเอียดมากจนดูเหมือนเป็นอีกโลกหนึ่งจริง ๆ กับความน่ารักของตัวละครค่ะ จขบ.ชอบเจ็นกับราชินีแห่งเอ็ดดิสน่ะ แต่เจ็นน่ะมันซ่อนคมค่ะ ซ่อนไว้ลึกมากจนกว่าจะแสดงฝีมือก็ปาเข้าไปเกือบจบเรื่องแน่ะ - -"

ก็คงได้อ่านเล่ม 2 เลยในคืนนี้ค่ะ ถ้าแผนการไม่ผิดพลาด ได้ยินว่าเล่ม 2 ยิ่งเข้มข้น จขบ.อ่านตัวอย่างหน้าแรกในเล่ม ก็สนใจแล้วค่ะ เพราะมันบรรยายถึงราชินีแห่งแอตโทเลีย จขบ.เป็นโรคแพ้พวกราชินีด้วยสิ

ขออภัยที่เล่าถึงน้อยไปหน่อย เพราะเล่มนี้ยังไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่น่ะค่ะ คงเพราะเล่มนี้เป็นวรรณกรรมที่ให้อารมณ์เยาวชนมั้ง เล่ม 2 +3 ได้ยินว่าจะมืดมนมากขึ้น จขบ.คงชอบอารมณ์นั้นมากกว่าค่ะ





 

Create Date : 27 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2550 13:02:11 น.
Counter : 2141 Pageviews.  

20 เล่ม ใน 37 วัน รีวิวมาราธอนรอบที่ 2

หลังจากที่รอบ 1 ผ่านไปแล้ว 4 เล่ม ก็มาต่อกันที่รีวิวมาราธอนรอบ 2 ค่ะ (พักนี้คิวแน่นเอี๊ยด ยังมีอีกหลายเล่มที่อยากกล่าวถึง)



ชื่อเรื่อง เพราะรัก เล่ม 1
ผู้เขียน คังพุล
ผู้แปล วิวรรธ์น
ราคา 350.00 บาท
สนพ. เพิร์ล พับลิชชิ่ง
ISBN : 974-92509-7-4


ชื่อเรื่อง เพราะรัก เล่ม 2
ผู้เขียน คังพุล
ผู้แปล วิวรรธ์น
ราคา 350.00 บาท
สนพ. เพิร์ล พับลิชชิ่ง
ISBN : 974-92509-7-4

เล่มนี้เป็นการ์ตูนค่ะ แปลจากภาษาเกาหลี เป็นหนังสือที่ออกมาหลายปีแล้วล่ะ แต่จขบ.พึ่งได้อ่าน อ่านแล้วรู้สึกดีนะ เหมือนกำลังดูซีรีส์เกาหลีซึ้ง ๆ อยู่เลย มันให้อารมณ์หวานแบบเรื่อย ๆ ค่ะ อ่านได้ไหลลื่นตลอดทั้งเล่ม ก็เห็นเรื่องราวของความรักหลากหลายรูปแบบที่แต่ละคนก็เจอสถานการณ์และปัญหา รวมทั้งปมในใจที่แตกต่างกันไป

เรื่องมันเริ่มที่ชายหนุ่มพนักงานออฟฟิศคนหนึ่งกับเด็กสาวมัธยมปลายที่อยู่แมนชันเดียวกัน โดยที่ฝ่ายชายเป็นผู้ที่ย้ายเข้ามาใหม่ค่ะ และอีกกรณีหนึ่งก็เป็นเด็กหนุ่มมัธยมปลายกับสาวออฟฟิศ ตอนแรกตัวละครแต่ละตัวต่างก็ดำเนินชีวิตไปเรื่อย ๆ ในเมืองใหญ่ อยู่ใกล้ ๆ กัน แต่วนไปเวียนมา ไม่เจอกัน แต่พอเจอกันขึ้นมาแล้ว เรื่องราวทั้งหมดก็เริ่มต้นขึ้นค่ะ

ชอบความเป็นธรรมชาติเหมือนคนที่มีอยู่จริงของตัวละครแต่ละตัวค่ะ ปลื้มพระเอกที่เป็นหนุ่มออฟฟิศมาก เพราะเฮียแกต่อมโรแมนติกโตมาก คงเป็นชายในฝันของสาวหลายคน แต่ก็มีเหตุผลรองรับนะคะว่าทำไมเขาถึงเป็นอย่างนั้น

อีกคนที่ชอบกลับเป็นแม่ของเด็กสาวมัธยมค่ะ เป็นแม่ที่น่ารักมาก ๆ เธอเป็นแม่ของลูกสาวที่กำลังจะโตเป็นสาว ก็เป็นธรรมดาค่ะที่จะต้องเป็นห่วงลูกสาวเป็นพิเศษ ความห่วงใยนี่ล่ะค่ะที่ทำให้รู้สึกว่าน่ารักมาก อ่านแล้วคิดถึงแม่น่ะ

เป็นอันว่าแนะนำค่ะ ใครชอบสไตล์ซีรีส์เกาหลีอยู่แล้วคงชอบ แต่ว่าพระเอกเรื่องนี้ไม่รวยนะ (ยิ่งทำให้ปลื้มเรื่องนี้เข้าไปใหญ่)



เวิ้งฟ้า...ม่านตา
ผู้เขียน : 20 นักเขียนร่วมสมัย
สำนักพิมพ์ นกฮูก
จำนวนหน้า : 216 หน้า
ราคาปก : 175 บาท

รายละเอียด : เวิ้งฟ้า...ม่านตา หนังสือรวมเรื่องสั้นของ20 นักเขียนร่วมสมัย คัดสันจากสำนักพิมพ์นกฮูกประจำปี 2548 รวมเรื่องสั้นเรื่องราวความรัก ฆาตกรรม หวานปนขม และอีโรติก หลากหลายแนวของนักเขียนใหม่ ผลงานของ... พัทธวรรณ/อนงค์นาง/ณัฐนพิน โอทองคำ/ภาภัส/สามก้าว/fayfena/ชณาดา/จรัล มานตรี/ running/อภิสิทธ์ บุศยารัศมี/ปัทมา โอ้วสรรเพชย์/มนุษย์พลาดพลั้งแห่งดาวเฟล/บุณรักษา/อุมาพร วันบรรจบ/ศิริรัตน์ เกิดสวัสดิ์/สิริกาญจน์ ศุภเลิศพร/สายรุ้งยามค่ำ/ภาสพงศ์ อารีรักษ์/พิณประภา ขันธวุธ/อุเทน พรมแดง


เล่มนี้ก็ดีค่ะ เป็นเล่มที่จะว่าเหมาะที่จะอ่านตอนว่างๆ หรือเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจ เพราะอารมณ์ของเล่มนี้มีหลากหลายมาก มีทุกแนวทั้งดรามาสะท้อนสังคม ไซไฟ โรแมนติก ฯลฯ

อ่านแล้วประทับใจเรื่องเจ้าชายในฝันมาก ๆ แนะนำค่ะ เรื่องอื่นก็ดีค่ะ แต่ด้วยความที่เป็นเรื่องสั้น ประกอบกับอ่านหนเดียวและนานมาแล้วพอสมควร ก็เลยจำเรื่องอื่นไม่ค่อยจะได้ เล่มนี้มีจุดเด่นที่ความหลากหลายค่ะ อ่านได้ทุกอารมณ์ ทั้งแบบว่าง ๆ หรือแบบจะเอาสาระ

ต่อมาเป็นชุดที่อ่านแล้วประทับใจมากค่ะ นั่นก็คือ ตำนานนาร์เนีย หรือ The Chronicles of Narnia นั่นเองค่ะ แต่ว่าเซตนี้พึ่งได้อ่านแค่เล่ม 2-6 เท่านั้นเองค่ะ



เล่ม 2 ตู้พิศวง หรือ The Lion, the Witch and the Wardrobe



เล่ม 4 เจ้าชายแคสเปียน หรือ Prince Caspian



เล่ม 5 ผจญภัยโพ้นทะเล หรือ (The Voyage of the Dawn Treader)



เล่ม 6 เก้าอี้เงิน หรือ The Silver Chair



เล่ม 3 อาชากับเด็กชาย หรือ The Horse and His Boy

ที่อ่านเป็นฉบับภาษาไทยค่ะ ที่เรียงลำดับแบบนี้เพราะจขบ. อ่านเรียงตามนี้ค่ะ คือ เล่ม 2, เล่ม 4, เล่ม 5, เล่ม 6 แล้วค่อยมาเล่ม 3 เพราะจขบ.ลองอ่านตามแบบที่ผู้เขียนตั้งใจเขียนออกมาตามลำดับนี้ค่ะ ซึ่งก็คือเป็นลำดับการพิมพ์ในครั้งแรกด้วย

เรียงตามลำดับการจัดพิมพ์

1. ตู้พิศวง (The Lion, the Witch, and the Wardrobe) พิมพ์ปี ค.ศ. 1950
2. เจ้าชายแคสเปี้ยน (Prince Caspian) พิมพ์ปี ค.ศ. 1951
3. ผจญภัยโพ้นทะเล (The Voyage of the Dawn Treader) พิมพ์ปี ค.ศ. 1952
4. เก้าอี้เงิน (The Silver Chair) พิมพ์ปี ค.ศ. 1953
5. อาชากับเด็กชาย (The Horse and His Boy) พิมพ์ปี ค.ศ. 1954
6. กำเนิดนาร์เนีย (The Magician's Nephew) พิมพ์ปี ค.ศ. 1955
7. อวสานการยุทธ์ (The Last Battle) พิมพ์ปี ค.ศ. 1956

แต่ถ้าเป็นลำดับตามเหตุการณ์ในเรื่องจะเป็นแบบนี้ค่ะ

1. กำเนิดนาร์เนีย (The Magician's Nephew)
2. ตู้พิศวง (The Lion, the Witch, and the Wardrobe)
3. อาชากับเด็กชาย (The Horse and His Boy)
4. เจ้าชายแคสเปี้ยน (Prince Caspian)
5. ผจญภัยโพ้นทะเล (The Voyage of the Dawn Treader)
6. เก้าอี้เงิน (The Silver Chair)
7. อวสานการยุทธ์ (The Last Battle)

จขบ.ก็อยากลองอ่านในแบบที่ผู้เขียนตั้งใจค่ะ ก็เลยลองดู ผลปรากฏว่าก็ดีนะ แต่จะว่าไป อ่านแบบไหนจขบ.ก็คงชอบเรื่องนี้อยู่ดีค่ะ

ตอนแรกที่เห็นว่าเรื่องนี้เป็นวรรณกรรมเยาวชนก็ไม่คิดอะไรมากค่ะ ถึงจะรู้ส่าเป็นวรรณกรรมอมตะก็เถอะ แต่ปกติจขบ.ไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะปลื้มหนังสือเด็กเลย แต่พอลองอ่านเข้าจริง ๆ ถึงได้เข้าใจค่ะ ว่าทำไมเรื่องนี้ถึงได้จัดเป็นวรรณกรรมเยาวชนชุดอมตะของโลกเรื่องหนึ่ง ก็เพราะว่าสนุกค่ะ

นาร์เนียสนุกมากและทำให้จขบ.แปลกใจค่ะ ไม่ได้แปลกใจเรื่องที่ว่านาร์เนียสนุกกว่าที่จขบ.คาด แต่เรื่องนี้ทำให้แปลกใจตรงที่ จขบ.คิดไปก่อนล่วงหน้าแล้วว่านาร์เนียจะต้องสนุกมากแน่ แต่ไม่ได้คาดคิดเลยว่าตัวเองจะสนุกไปกับนาร์เนียที่สนุกแบบวรรณกรรมเยาวชนได้มากขนาดนี้ (อ่านแล้วงงไหมคะ)

การเล่าเรื่องของนาร์เนียจะเล่าไปเรื่อย ๆ เป็นเส้นตรงไปข้างหน้าทั้งเรื่อง เหมือนกับนิทานสำหรับเด็ก แต่เรื่องนี้กลับสามารถดึงให้จขบ.จดจ่ออยู่กับหน้าที่กำลังอ่านอยู่จนไม่ได้เดาเลยว่าเรื่องในหน้าต่อไปจะเป็นยังไง

นั่นคือความสนุกในแบบที่นาร์เนียทำให้จขบ.รู้สึกค่ะ

มาถึงในส่วนเนื้อหาบ้าง นาร์เนียมีการกล่าวอ้างถึงตำนานกรีกอยู่บ้างค่ะ สัตว์ในเทพนิยายหลายชนิดที่ถูกกล่าวถึง รวมทั้งบางตำนาน แต่ก็มีส่วนน้อยค่ะที่อ้างถึงตรง ๆ นอกนั้นเนื้อหาที่มีโครงสร้างเป็นแบบการกอบกู้แผ่นดินของวีรบุรุษ การเดินทางผจญภัย การต่อสู้กับความชั่วร้ายที่มาในรูปของแม่มดหรือเวทมนตร์ ฯลฯ รูปแบบของเรื่องเล่าแฟนตาซีที่เราคุ้นเคย ก็มีในนาร์เนียแบบครบถ้วนค่ะ เพียงแต่ว่าแน่นอนค่ะที่แต่ละเล่มก็จะมีอยู่แค่รูปแบบเดียว

อ่านแล้วก็อดเชื่อมโยงนาร์เนียเข้ากับรูปแบบของตำนานกรีก-โรมันโบราณ กับแฟนตาซียุคนี้ที่เด็ก ๆ ลุกขึ้นมาเขียนกันไม่ได้ค่ะ ว่ามันไม่ได้มีอะไรแตกต่างกันเลย แต่สิ่งที่ทำให้นาร์เนียต่างออกไปคงเป็นความสามารถในการเล่าเรื่อง สร้างรายละเอียดเรื่องราว เหตุการณ์ที่ลื่นไหล บรรยากาศที่ทำให้เราจินตนาการตามได้ และการสร้างตัวละครของคุณปู่ลูอิส ผู้เขียนนั่นเองค่ะ ที่ทำให้จขบ. สนุกจนลืมไปเลยว่านี่หนังสือเด็กนี่นา (ลืมแก่นั่นเอง)

นอกจากนั้นที่ทำให้จขบ.อึ้งอีกอย่างคือ หลังจากอ่านจบแล้วก็คือนัยยะมากมายที่แฝงอยู่ในเรื่องค่ะ จขบ.ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมามากแล้วเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ตอนอ่านตั้งใจว่าจะไม่คคิดมากแล้วนะ แต่ไงพออ่านจบแล้วมันรู้สึกได้ก็ไม่รู้ - -

เรื่องนี้มีสัญลักษณ์ให้ตีความจริง ๆ ค่ะ แต่แนะนำว่าอย่าไปตีความเลย อ่านสนุก ๆ ดีกว่าค่ะ

หลงรักบรรยากาศของเรื่องมาก ๆ เลยค่ะ เสียดายอยู่อย่างเดียวที่ขวัญใจของจขบ. มีบทน้อยไปหน่อย









คนนี้ล่ะค่ะ เล่นเอาจขบ.ซึ่งปกติมีโรคประจำตัวเป็นโอจิคอน ถึงกับโชตะคอนกำเริบเลยทีเดียว

เล่มต่อมาคือ

กลิ่นการเวก
กับโอลีน มินนอร์ไซน์ เล่าถึงแบบละเอียดไปแล้วค่ะ ตามลิงค์ไปได้

ที่เหลือมาต่อบล็อกหน้าค่ะ อีกประมาณ 7-8 เล่มนี่ล่ะค่ะ




 

Create Date : 26 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2550 17:10:52 น.
Counter : 860 Pageviews.  

งาน Magezine & Book Fair ที่สยามพารากอน 22 พ.ย. 2550

งานนี้มีช่วง 21-25 พ.ย. นี้ค่ะ เป็นงานที่ตอนแรกจขบ. นึกว่าจะมีอะไรมากกว่านี้แต่ก็เหมือนออกแนวเป็นงานหนังสือเล็ก ๆ มากกว่าค่ะ ก็ส่วนใหญ่สนพ.ที่มาออกบูธจะเป็นนิตยสารค่ะ นอกนั้นก็มีสนพ.ใหญ่ อีกหลายสนพ.ที่ไปเปิดบูธหนังสือค่ะ

เท่าที่จำได้ก็ นิตยสารทุกแนว ตั้งแต่อสท. จนถึงรักลูก คลีโออะไรแบบนี้เลยค่ะ นิตยสารเด็กก็มี (จริง ๆ แล้วก็คงมีนิตยสารเกือบทุกหัว)

อะเดย์ (จขบ.สนใจมาก) อมรินทร์ อักษรโสภณ ศรีสยามการพิมพ์ สยามอินเตอร์ บุ๊คสไมล์ สถาพร ฟิสิกเซนเตอร์ come-on นานมี อิสระบุ๊คส์ บรรลือสาสน์ ร้านหนังสือเก่าแบบประเภทสะสมก็มีค่ะ สนพ.ที่กล่าวมานั่นก็เอานิตยสารในเครือไปออกบูธด้วยค่ะ(คิดว่าทุกหัวเลย)

มีอีกเยอะค่ะ แต่จำไม่ค่อยได้ เพราะเดินแบบเร่งด่วน งานจะมี 2 โซนติดกันนะคะ จัดที่รอยัลพารากอนฮอลล์ ชั้น 5 (คนน้อยมาก เดินสบาย)

บูธที่สนใจเป็นพิเศษในช่วงนี้คือ abook หรือ aday นั่นเองค่ะ ที่สนใจเพราะเมื่ออาทิตย์ที่แล้วพึ่งไปค้นพบหนังสือเล่มหนึ่งของสนพ. นี้ที่ทำให้จขบ.กรี๊ดสุดขีด นั่นก็คือ Beanspout and Firehead in the Infinite Madness ค่ะ เห็นชื่ออินเตอร์แต่จริงๆ แล้วเป็นสัญชาติไทยแท้ค่ะ ผู้เขียนคือ คุณทรงศีล ทิวสมบุญ แค่จขบ.เปิดอ่านในเล่มไปนิดเดียวก็ทนไม่ไหว ต้องซื้อกลับไปอ่านแล้ว (อย่าเข้าร้านหนังสือเวลาว่าง ๆ นะคะ อันตราย) แล้วทีนี้เมื่อเห็นผลงานเล่มต่อ ๆ มาของคุณทรงศีลก็แย่สิคะ เสียเงินซื้อทันทีแน่นอน ก็พบว่ามี 2 เล่มค่ะที่เล็งอยู่ก็คือ Imporvise และ Nine Lives ค่ะ (แล้ววันหลังคงได้กล่าวถึงในบล็อกอีก)

มาถึงโปรโมชันพิเศษบ้าง ก็อมรินทร์จะมีโปรฯเหมือนในงานหนังสือที่ผ่านมาเปี๊ยบ คือ ซื้อครบ 400 บาท ได้จับคูปองส่วนลด 800 บาท ได้หนังสือฟรีที่ร่วมรายการ 1 เล่ม มากกว่านั้นรู้สึกจะแถมกระเป๋าลาก

มติชน ก็มีหนังสือที่ใหม่พอควร พึ่งออกไม่เกิน 2-3 ปี เล่มบางหน่อย ราคาไม่เกิน 200 มาลดเหลือ 100 บาททุกเล่มค่ะ อย่างเช่น รวมเรื่องสั้น วรรณกกรมแปล จำชื่อเรื่องไม่ค่อยได้ เจ้าสาวจอมเวทย์ อันนี้จำแม่นเพราะเคยซื้อไปก่อนหน้านี้แล้ว ซื้อครบ 5 เล่มแถมถุงผ้าใบเล็ก สีสวยดี

บุ๊คสไมล์ ก็มีซื้อครบ 100 จับรางวัลมีสิทธิได้บัตรของขวัญ 100 บาท แต่ถ้าซื้อครบ 500 บาทก็ไม่ต้องจับ จะได้เลย และแถมหนังสืออีก 1 เล่ม หนังสือส่วนใหญ่ของบูธนี้จะเป็นหนังสือเซตแรก ๆ ของแจ่มใสค่ะ

ต่อมา อันนี้น่าสนใจมากค่ะ คือสถาพร ขนเซต Princess ชุดดั้งเดิม ตั้งแต่เรื่องแรก ๆ ที่ออก ที่เป็นปกสไตล์ตัวการ์ตูนแบบเหมือนจริงน่ะค่ะ มาลดเหลือ 30 บาท สำหรับเล่มบาง 50 บาทสำหรับเล่มหนาที่ราคาปกเกิน 180 บาท จขบ.ก็กรี๊ดสิคะ เพราะแถบจะไม่เคยซื้อหนังสือเซตนี้เลย แต่เล็งว่าอยากได้ ๆ มานานแล้ว สภาพก็ค่อนข้างดีด้วย จขบ.เลยซื้อในขั้นเบื้องต้นมา 5 เล่ม หมดไปแค่ 190 บาทเท่านั้น คือ

1. รักสุดท้ายที่ปลายขบวน
2. สารานุกรมรักฉบับปีศาจ
3. แอบรักออนไลน์
4.กอดหัวใจให้อุ่นรัก
5. คืนจันทร์ทอใจ

ใครสนใจก็แวะไปได้ที่สยามพารากอนค่ะ ถึงวันที่ 25 คือ วันอาทิตย์นี้ค่ะ




 

Create Date : 23 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2550 12:47:29 น.
Counter : 780 Pageviews.  

Dragon Delivery 2 "กี๊ซซ..ก๊าซซ" (สำเนียงมังกรแปลว่า กรี๊ด..กร๊าด.)

จริง ๆ แล้วว่าจะรีวิวมาราธอนต่อจากบล็อกที่แล้ว แต่หลังจากที่อ่านเล่มนี้จบแล้วมันทนไม่ไหว ก็เลยมาแรงแซงทางโค้งลัดคิวให้เล่มนี้ ซึ่งเป็นแฟนตาซีที่จขบ.รักยิ่งก่อนค่ะ



ผู้แต่ง : พัณณิดา ภูมิวัฒน์
สำนักพิมพ์ : สถาพร
ราคา : 140 บาท

รายละเอียดจากเว็บสนพ.: เด็กหนุ่มผู้ที่ได้รับร้านขนส่งมังกรเป็นมรดกจะทำฉันใด เมื่อต้องกอบกู้กิจการและหนี้สินสองล้านแปดแสน แถมยังถูกคนปองร้ายหมายขวัญ

งานนี้มังกรสามตัวกับผู้ช่วยหนึ่งคนคงไม่เพียงพอที่จะช่วยเขาได้...

จขบ.ฝอยเอง------------------------------------------------------------

เรื่องย่อจากเว็บช่างย่อจริง ๆ - -" เอาเป็นว่าเล่าเองดีกว่าค่ะ ใครที่เคยอ่านเล่ม 1 มาแล้วคงพอทราบภูมิหลังของเรื่องนะคะ

เรื่องนี้มันเริ่มจากที่โซลโท เอชาน หนุ่มชาวนาคนหนึ่งเกิดถูกหวยได้มรดกจากลุงที่ไม่เคยรู้จักหน้าค่าตา เป็นร้านมังกรเล็ก ๆ 1 ร้าน พร้อมด้วยมังกรที่ดูธรรมดาแต่ไม่ยักกะธรรมดา 3 ตัว แถมผู้ช่วยซึ่งก็เป็นตาลุงธรรมดาที่ดูไม่น่าจะธรรมดาอีกเช่นกัน 1 คน

จริง ๆ แล้วตัวโซลโทเองก็เป็นคนที่ธรรมดาที่สุดเท่าที่จะพบได้ในนิยายแฟนตาซีแล้ว ยกเว้นความถึกเกินคน(ไปมาก) และอะไรที่ธรรมดาสุดขีดจนมันไม่ธรรมดาไปแล้ว แต่ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ยังคิดว่าตัวเขานั้นเป็นคนที่ธรรมดาที่สุดในร้าน (แต่คนอ่านเช่นจขบ. คิดว่าไม่...)

ร้านมังกรเอชานอยู่ในเมืองซีเล ซึ่งในซีเลมีร้านมังกร 2 ร้าน คือร้านมังกรเฮเบล เป็นร้านใหญ่มีชื่อเสียง ซึ่งอยู่ทางเหนือ คนทั่วไปจึงเรียกว่าร้านมังกรเหนือ แต่ร้านเอชาน เป็นร้านเล็กที่อยู่ทางใต้จึงถูกเรียกว่าร้านมังกรใต้

หลังจากที่ได้เริ่มธุรกิจร้านมังกรเล็ก ๆ แห่งเมืองซีเลเต็มตัว ตั้งแต่ยังงง ๆ ว่าจะกลับไปทำนาต่อเหมือนเดิมดีไหม จนมาถึงการตัดสินใจมุ่งมั่นที่จะทำร้านต่อไปหลังจากที่ได้รู้ว่าได้มรดกที่เป็นหนี้สินมาด้วย จนกระทั่งได้ทำความรู้จักกับร้านมังกรและมังกรของตัวเองเป็นอย่างดี และได้สอบผ่านการเป็นคนส่งของด้วยการใช้มังกรในที่สุด

รวมทั้งได้รู้จักใครหลายคนที่เข้ามาในชีวิตอย่าง เรนา หรือเอนาเร เฮเบล หลานสาวเจ้าของร้านมังกรเฮเบล เทย์ เฮเบล หลานชายร้านมังกรที่ไพล่ไปเป็นพ่อมดสอบตกที่ไม่ยอมเรียนจบซักที และท่านทาร์น เฮเบล ท่านตาพลังเพลิงของสองคนแรกที่กล่าวถึง

จนกระทั่งในเล่ม 2 นี้ โซลโทก็ได้เริ่มทำธุรกิจร้านมังกรอย่างจริงจังแล้วค่ะ โปรดระวังต่อจากนี้มีสปอยล์นะคะ

ในเล่ม 2 นี้โซลโทได้เริ่มวางแผนพัฒนาธุรกิจอย่างจริงจัง หลังจากที่ได้ยินมาว่ามีผู้ปล่อยข่าวลือว่าเขาได้ใบอนุญาตขี่มังกรมาโดยไม่ถูกต้อง และเขาก็ยังไม่มีลูกค้าเป็นของตัวเองสักที จนแม้แต่โซลโทที่เป็นตัวละครที่กระปรี้กระปรี้เปร่า+มองโลกในแง่ดีสุด ๆ ก็ยังเริ่มหงอยจนได้ ความผิดหวังจนทำให้โซลโทรู้สึกว่าต้องลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง (ในระหว่างนี้ลุงเจวาน ผู้ช่วยก็ไม่อยู่ให้ปรึกษา) จนในที่สุดโซลโทก็หันหน้าไปปรึกษาเทย์ (- -") ทั้ง ๆ ที่ก็รู้สรรพคุณของเทย์ดีว่ามัน...ขนาดไหน จากประสบการณ์ที่ถูกแกล้งมาไม่เบาแล้ว

เทย์มีคำแนะนำพิเศษค่ะ (เป็นคำแนะนำที่เป็นพื้นฐานของหลักการตลาดมาก ๆ เลยค่ะ) เล่นเอาฮือฮาไปทั่วเลย

ใน case ที่ 1 นี่เองที่ทำให้เป็นที่มาของ case ที่ 2 เมื่อโซลโทบังเกิดแนวคิดกลยุทธ์ใหม่ของวงการมังกรขนส่งได้ แต่ก็ทำให้ทั้งต้องเผชิญกับสถานการณ์ยุ่งยากอยู่นานพอสมควร และได้พบตัวละครใหม่ที่พึ่งปรากฏตัวในเล่มนี้ค่ะ

เธอเป็นคุณหนูที่ชวนหลอนจริง ๆ เพราะถึงจะแต่งตัวหวานแหววแต่ก็เล่นทรงดำตลอดเวลา - - แถมมีของเล่นที่ติดสมัยเด็กเป็นตุ๊กตาไม่มีหัวอีก (หลอนกว่าน้องเน่าของใครหลายคนเยอะ) พอได้รู้ว่าเทย์มันเคยถูกสาปเป็นกิ้งกือด้วย แทนที่จะสงสาร จขบ.กลับหัวเราะ ด้วยความรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังสมน้ำหน้ามันอยู่อย่างไรชอบกล


ความรู้สึกหลังจากที่ได้อ่าน -------------------------------------------------------

ที่ร่ายมายืดยาวนั่นยังไม่พอค่ะ ยังไม่ได้ครึ่งนึงของอารมณ์กรี๊ดกร๊าดที่ได้ตอนที่อ่านจบเล่มเลย แน่นอนว่าอ่านรวดเดียวจบค่ะ อาการที่เกิดขึ้นทันทีหลังจากอ่านจบคือ อยากจะกลายร่าง ฟาดหัวฟาดหางแล้วร้องเป็นสำเนียงมังกร
..... กี๊ซซซ.... ก๊าซซซซ.... (กรี๊ด.. กร๊าด..)
......กี๊ซซซซ....กี๊ซซซ ...... (เล่ม 3... เค้าจาเอาเล่ม 3)

น่ารัก รัฟน่ารักที่สุด ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ารัฟจะเป็นมังกรที่ใจดีแบบนี้ (เพ้อ (อ้างอิงจาก case ที่ 3))

กระโดดข้ามไปหน่อย เอาตั้งแต่ตอนแรก ๆ ดีกว่า เล่ม 2 นี้ยังคงเต็มไปด้วยความฮาตามสไตล์มังกรขนส่งที่ดูเหมือนล้อเลียนเทพนิยาย+แฟนตาซีสไตล์ผู้กล้าไว้เช่นเคย เรื่องราวของเล่มนี้เริ่มด้วยการพัฒนาธุรกิจและการพัฒนาตัวเองของตัวโซลโทเองด้วย และยังการถูกปองร้ายของโซลโทที่เริ่มเปิดเผยว่าแท้จริงแล้ว ขณะนี้โซลโทกำลังตกอยู่ในอันตราย (อ้างอิงจากปกหลัง) แต่อ่านไปไม่รู้จะเป็นห่วงดีรึเปล่า เพราะโซลโทมันแข็งแรงผิดมนุษย์จนชวนอึ้ง และทำให้ต้องลุ้นระทึก (555) ว่าใครกันที่คิดร้ายต่อโซลโท

การเปิดตัวตัวละครใหม่ที่แปลกใช่ย่อย แถมบทสุดท้ายด้วยการทำให้แฟน ๆ ลุ้น+อยากรู้กันสุดขีดด้วยค่ะ เล่นเอาจขบ.จะคลั่งตายด้วยความอยากอ่านต่อ

เล่มนี้เริ่มมีสรรพสัตว์โผล่มาให้ได้เห็นมากขึ้นค่ะ ชอบ ๆ ได้เห็นสัตว์ประหลาดในแง่มุมที่น่ารัก และลุ้นไปกับโซลโท ท่านเจ้าของร้านมังกร ที่มีอาชีพเสริมเป็นการปลูกผักสวนครัวเหมือนเคยว่าเมื่อไรจะใช้หนี้ได้ 555

อ่านไปแล้วก็ชวนให้รู้สึกว่าเราต้องพัฒนาตัวเอง+มองโลกในแง่ดีได้สักครึ่งหนึ่งของโซลค่ะ (แต่ก็สงสัยเหมือนกันว่ามันมองโลกในแง่ดีหรือว่ามันซื่อจัดกันแน่)

เสียดายอยู่อย่างเดียวเองค่ะว่าเล่มนี้บางไปหน่อยค่ะ (เนื่องจากผู้เขียนติดภารกิจ) (จขบ. ลำเอียงเข้าข้างเล่มนี้เห็น ๆ )

สรุป ---

กี๊ซซซซซซซซซ (สำเนียงมังกรถอดความได้ว่า...เล่ม 3 ....)

หนืดดดดดดดดด (สำเนียงสไลม์ถอดความได้ว่า...เล่ม 3 ....)

มี่...................(สำเนียงกิลช์ถอดความได้ว่า...เล่ม 3 ....)

มี้ .................(สำเนียงหนูมี้ถอดความได้ว่า...เล่ม 3 ....)

จิ๊บ ............... (สำเนียงค็อคคาทริสถอดความได้ว่า... เล่ม 3 ....)

อยากอ่านเล่ม 3 แล้วล่ะค่ะ




 

Create Date : 19 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2550 12:28:12 น.
Counter : 1265 Pageviews.  

20 เล่ม ใน 37 วัน รีวิวมาราธอนรอบที่ 1

ตั้งแต่ 26 ก.ย. 50 ที่ผ่านมา จขบ.ก็ตกอยู่ในสภาวะจมในกองหนังสือค่ะ แต่เป็นหนังสือที่ยืมมาจากห้องสมุดใกล้ ๆ ที่พักทั้งสิ้น ข้อดีคือ ได้อ่านหนังสือเยอะมาก

แต่ข้อเสียที่น่าเศร้าก็คือ อ่านเร็วมาก จนแค่ให้หลัง 3 วันก็ลืมแล้วว่าเราอ่านอะไรไปบ้าง

วิธที่พอทำได้ก็คือมาบันทึกไว้ในบล็อกนี่ล่ะค่ะ นึกออกว่าได้อ่านจบแล้ว 20 เล่ม อ่านไม่จบ 1 เล่ม แต่ว่าก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า เราอ่านไปเยอะกว่านี้หรือเปล่า นึกไม่ออกแล้ว

แต่จะทำไงได้ ก็มาเริ่มที่เล่มแรก ๆ ที่ได้อ่านกันดีกว่าค่ะ



1. กาษานาคา
โดย : กนกวลี พจนปกรณ์ / สำนักพิมพ์ เพื่อนดี
ราคา : 250 บาท
สัตว์โลกผู้มีชีวิตทั้งหลายเกิดมาเพื่อชดใช้กรรมของตน โดยมิรู้ได้เลยว่า ก่อนมาอยู่ในชาตินี้ ตนได้เกิด ได้ตาย มาแล้วกี่ชาติ กี่ภพ แลได้ชดใช้กรรมมาแล้วอย่างไรบ้าง
ชีวิตนี้...สั้นนัก เราจงเร่งสร้างกรรมดีในชาติปัจจุบันนี้เกิดสร้างโดยมี กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม อันถูกต้อง นั่นก็คือ ทำดี คิดดี พูดดี นั่นเอง

ความรู้สึก ---------- เป็นอิทธิพลจากละครค่ะที่ทำให้อยากอ่านเล่มนี้ขึ้นมา จริง ๆ แล้วต้นฉบับนวนิยายกับละครมีส่วนที่ต่างกันอยู่ไม่น้อยทีเดียว แต่หลังจากอ่านแล้วก็รู้สึกประทับใจทั้งสองแบบ อยากให้ในละครลดบางอย่าง แล้วก็อยากให้นวนิยายเพิ่มบางอย่างขึ้นน่ะค่ะ

เป็นนวนิยายประเภทข้ามชาติข้ามภพที่สอดแทรกธรรมะได้ดีมากจริง ๆ อ่านแล้วซึ้งค่ะ จบได้แบบมีเหตุมีผลมาก (จบเหมือนในละครค่ะ) แต่ในนวนิยายตัวละครพงศ์พญาจะมีอิมเมจที่ดูหนักแน่นกว่า ชอบตรงนี้ค่ะ และอธิบายความรู้สึกของตัวละครได้ชัดเจนทำให้เราเข้าใจได้ง่ายกว่าฉบับละครค่ะ เป็นข้อดี+ได้เปรียบของการสื่อในรูปนวนิยายจริง ๆ

และก็ได้ความรู้เรื่องนาคมากขึ้นด้วย ใครชอบแนวสอดแทรกธรรมะ+นาค แนะนำเลยค่ะ



2. เงารัก
โดย : อรพิม
สำนักพิมพ์ : พิมพ์คำ
ราคา : 190 บาท
จากปกหลัง :
ปวิตากับเพื่อนสนิทเดินทางไปท่องเที่ยวอียิปต์กับบริษัททัวร์แห่งหนึ่ง ระหว่างทางเธอพลัดหลงไปยังร้านขายของที่ระลึกร้างผู้คน และถูกบางสิ่งบางอย่างดลใจให้ซื้อแหวนรูปแมลงสคาหรับกลับมาด้วย จากนั้น ทุกค่ำคืนเธอจะฝันประหลาดเกี่ยวกับเรื่องราวของอียิปต์โบราณ...โศกนาฏกรรมความรักขององค์ฟาโรห์กับพี่น้องฝาแฝด...ปมเงื่อนของอดีตที่รอการแก้ไขในชาติภพนี้

ความรู้สึก --------------- จริง ๆ แล้วหลังจากอ่านจบ รู้สึกว่าเรื่องนี้ก็มีปมขัดแย้งไม่มากนักค่ะ - - เรื่องแบ่งออกเป็นสองส่วน คือส่วนเรื่องปัจจุบัน กับส่วนที่ปวิตาได้รับรู้เรื่องราวในอดีตผ่านทางความฝันโดยการบันดาลของผีสาวที่ติดมากับแหวนสคารับที่เธอได้มาค่ะ

ส่วนเรื่องปัจจุบัน ก็ส่วนใหญ่จะเป็นการตามตื้อปวิตาของพระเอก กับการท่องเที่ยว ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในอียิปต์แบบละเอียดค่ะ ขอชมเชยตรงจุดนี้ แต่ก็นอกจากนั้นก็มีเรื่องของเพื่อนสาวของปวิตากับเจ้าของบริษัททัวร์นี้ที่มีกุ้กกิ๊กกันอยู่ คู่นี้ออกแนวพิมพ์นิยมของนิยายไทย มีคนมาตามตื๊อฝ่ายชายเพราะความรวย+หล่อ แต่เขาไม่สนใจ เพราะสนใจแต่เพื่อนนางเอก เลยดูเหมือนคู่นางจะไม่ค่อยมีฉากหวาน ๆ เท่าไหร่

ส่วนฉากในอดีต ตัดมาทีละช่วง ๆ ทำให้เราสนใจอยากติดตามอยู่เหมือนกัน แต่พอเรื่องเฉลยว่าตกลงปวิตาเป็นฝาแฝดคนไหน ใครรักใครแน่ ก็กรีดร้องค่ะ ที่กรีดร้องเพราะหมั่นไส้พระเอก (ฟาโรห์) อย่างรุนแรงมาก มีอย่างที่ไหนตอนแรกปากก็บอกว่ารักอีกคน แต่ไป ๆ มา ๆ ดันพึ่งค้นพบว่า เรารักอีกคนนี่หว่า - -"

สรุปหักคะแนนพระเอกค่ะ จขบ.ไม่ถูกโรคกะพระเอกสไตล์นี้น่ะ



เอรากอน เล่ม 1 ตำนานนักสู้คู่มังกร
สำนักพิมพ์ : แพรวเยาวชน
โดย : คริสโตเฟอร์ เปาลินี; สุดจิต ภิญโญยิ่ง(แปล);
ประเภท : วรรณกรรมเยาวชน , วรรณกรรมแปล
ราคา : 415 บาท
ISBN : 9749804708
ปก : ปกอ่อน
จำนวนหน้า : 597 หน้า
คำแนะนำหนังสือ :
"ERAGON เอรากอน ตอน ตำนานนักสู้คู่มังกร เล่ม 1" ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดและได้รับการแปลไปแล้วกว่า 30 ภาษาทั่วโลก
เอรากอน เด็กหนุ่มชาวนาผู้อาศัยอยู่ในดินแดนอาลาเกเซีย อันกว้างใหญ่ไพศาล เก็บหินลักษณะประหลาดได้ขณะออกล่าสัตว์แต่แล้วหินก้อนนั้นกลับฟักออกมาเป็นมังกรเกล็ดสีน้ำเงินสวยงามซึ่งใครๆ เชื่อกันว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว มันคือของขวัญแห่งชะตากรรมที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเอรากอนไปตลอดกาล และเมื่อครอบครัวของเขาถูกสังหารโดยพวกราซัค เอรากอนก็ได้พบว่าโชคชะตากำหนดให้เขามีบทบาทสำคัญในสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทุกชีวิตทั่วพิภพ
เด็กหนุ่ม...มังกร...คนแคระ...เอลฟ์....ดาบวิเศษ และการต่อสู้ที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ ติดตามความสนุกของนวนิยายไตรภาคในตอนต่อๆ ได้ในไม่ช้าค่ะ


ความรู้สึก ----------- มาที่เรื่องที่ทำให้รู้สึกผิดคาดบ้าง ที่ว่าผิดคาดคือรู้สึกสนุกกับเรื่องนี้ผิดคาดน่ะค่ะ ตอนแรกนึกว่าจะไม่ชอบแต่พออ่านเข้าจริง ๆ กลับชอบแฮะ รู้สึกว่าคนเขียนเรื่องนี้เขียนได้สนุกผิดคาด บรรยายละเอียดดี สำนวนแปลก็ดีทำให้ผู้ซึ่งบ้าภาษาโบราณเช่น จขบ. กร๊ดค่ะ

ถึงแม้ว่าการดำเนินเรื่องจะมีกลิ่นสตาร์วอร์ และลักษณะของโลกในเรื่องจะมีกลิ่นลอร์ดออฟเดอะริงส์ก็เถอะ (ใครเคยดูอาจจะรู้สึกว่าเล่ม 1 มันละม้าย ๆ A New Hope ยังไงชอบกล) แต่ก็ยกประโยชน์ให้ผู้เขียนค่ะ เพราะเขียนตอนอายุ 15 เท่านั้นเอง แค่เขียนให้จขบ.อ่านแล้วรู้สึกสนุกได้ จขบ.ก็เทคะแนนให้แล้วค่ะ

ถึงจะมีกลิ่นแต่ก็รู้สึกว่าจะมีความสมจริงแฝงอยู่ในโลก(ในเรื่อง)อยู่ รวมทั้งการพัฒนาเติบโตขึ้นของเอรากอน ความสัมพันธ์ของตัวละครที่กำลังพัฒนา ปริศนาอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้เปิดเผย บรอมจะ come back แบบแกนดัล์ฟรึเปล่า ฯลฯ ทำให้รู้สึกว่าน่าติดตามอ่านต่อ ก็ถือว่าโอเคกับเรื่องนี้มากกว่าที่เคยคาดไว้ก่อนหน้าที่จะได้อ่านจริง ๆ ค่ะ

แต่ว่าพอเห็นความหนาของเล่ม 2 ทำให้ความคิดที่จะซื้ออ่านมันชะงักกึกเลยค่ะ - -"



ชื่อ : มิติรักข้ามภพ
รหัสหนังสือ : ISBN 978-974-94550-6-7
ชื่อผู้แต่ง : อินทวา
ราคาปกติ : 220
ราคาสมาชิก : 187
เรื่องย่อ
Romantic Fantasy

วีธรา มักฝันว่าได้ยินเสียงเรียกชื่อเธอดังแว่วมาอยู่เสมอ กระทั่งวันหนึ่งเธอถูก มังกรดำ พาดำดิ่งไปยังอีกโลกหนึ่ง ที่นั่น เธอได้พบกับชายหนุ่มที่ผู้มีนามว่า เซเรส เขาขอร้องให้เธอใช้พลังของลูกแก้ว และมังกรดำ เพื่อช่วยเหลืออาณาจักรซาดิเนียให้รอดพ้นจากการล่มสลาย

ทว่า สิ่งที่วีธรากำลังวิตกกังวลคือ เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีลูกแก้วอยู่ในตัวเธอ แล้วเธอจะรู้วีธีใช้พลังเหล่านั้นได้อย่างไร หรืออาณาจักรซาดิเนียจะต้องล่มสลายไปจริง ๆ

ความรู้สึก ------------- อ่า รู้สึกว่าเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าเรื่องแนวหลุดมิติประเภทนางเอกปวกเปียก เอ๊ย...อ่อนหวาน เท่าไร การเล่าเรื่องลื่นไหลไม่ถึงกับสะดุด แต่ก็ไม่ค่อยมีลุ้นเท่าไหร่ค่ะ ที่ชอบคือมังกรดำตัวกวน รู้สึกชอบมากที่สุดแล้วในเรื่อง

ก็อ่านได้เรื่อย ๆ ค่ะ มีความหวานของพระนางเยอะอยู่


เล่มอื่น ๆ เดี๋ยวต่อบล็อกหน้าค่ะ




 

Create Date : 15 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2550 16:38:13 น.
Counter : 642 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

จินตานุภาพ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Imagination is more important than knowledge
Friends' blogs
[Add จินตานุภาพ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.