All Blog
วิธีต่อราคาสินค้าเป็นภาษาจีน ( 讨价还价)
          คราวที่แล้วพูดถึงเรื่องของลดราคาในห้าง ในห้างอาจจะต่อราคาสินค้าไม่ได้ แต่เอ....ถ้าไปซื้อของตามตลาดนัดหรือถนนคนเดิน ก็ควรจะลองต่อราคาสินค้าก่อนซื้อนะครับ เพราะว่าพวกนี้ชอบโก่งราคา ไม่ว่ากับคนจีนด้วยกันเอง หรือ คนต่างชาติก็ตาม วันนี้จะพูดถึงการต่อรองราคากันนะครับ

            คำว่า "ต่อราคา" ภาษาจีนจะพูดว่า 讨价还价 【tǎo jià huán jià】 เวลาเราไปซื้อของแล้วพ่อค้าแม่ค้าบอกราคาแพงๆมา เราก็จะต้องพูดว่า

太贵了吧,能不能便宜点?
【Tai guì le bā ,néng bù néng piányí diǎn ?】
แพงไปอ่ะ ลดหน่อยได้มั้ย

           ส่วนพวกพ่อค้าแม่ค้าก็มักจะพูดว่า

这是最低价了,别跟我讨价还价了。
【Zhè shì zuì dī jià le ,bié gēn wǒ tǎo jià huán jià le】
เนี่ย ราคาถูกสุดๆแล้ว อย่าต่ออีกเลย

那你说多少钱?
【Nà nǐ shuō duōshǎo qián ?】
งั้นคุณบอกมาสิว่าจะเอาราคาเท่าไหร่

           พวกพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของตามตลาดนัดหรือถนนคนเดินมักจะเป็นอย่างนี้ทุกเจ้าครับ โดยเฉพาะพวกที่เป็นแหล่งขายสินค้าให้กับคนต่างชาติ จะโก่งราคาจะดูเว่อร์มาก ไม่เป็นไรครับ หลังจากที่เราถามแล้ว ถ้าเราไม่พอใจในราคา ก็ลองต่อราคาดู เคล็ดลับที่จะดูว่าเค้าจะลดให้หรือไม่ดูง่ายๆครับ ถ้าเราพูดราคาออกไป แล้วแม่ค้าปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย หรือดูแล้วไม่ค่อยสนใจเรา ร้านพวกนี้จะต่อราคาไม่ค่อยได้ครับ แต่ถ้าพวกพ่อค่าแม่ค้า มีมาแบบฉุดๆยื้อๆ ให้เราซื้อให้ได้ วิธีต่อราคาที่ง่ายที่สุดก็คือ พูดราคาที่เราต้องการออกไป ถ้าเค้าไม่ให้ก็เดินออก พอก้าวออกนอกร้านปุ๊บ ถ้าราคาที่เราต่อนั้น เค้ารับได้ พวกเค้าจะเรียกเรากลับมาทันที ลองใช้มาหลายที่ละครับ ใช้ได้ผลเป็นอย่างดี ^^

          ส่วนบางร้านไม่ต้องต่อก็ลดราคาให้ถูกแบบสุดๆแล้วครับ พวกนี้จะไม่เขียนว่าลดกี่ 折 แต่จะเขียนว่า 


【shuǎi】แปลเป็นไทยนั้น มีหลายความหมายมาก แต่ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับของซื้อของขาย คำนี้จะหมายความว่า "โละ ล้างสต็อก" ซึ่งก็คือขายในราคาถูกมากนั่นเอง ส่วนอีกคำนึงที่ช่วงนี้เป็นที่นิยม พบเห็นได้บ่อยก็คือ 跳楼价tiào lóu jià】 คำว่า 跳楼 แปลว่า "โดดตึก" ส่วน 价 แปลว่า "ราคา" รวมกันเลยแปลว่า เนี่ยเป็นราคาที่คนขายขาดทุนแทบจะต้องไปโดดตึก 

             ถ้าใครเจอร้านไหนติดป้ายแบบนี้ ก็ลองเข้าไปดูนะครับ สินค้าราคาถูกแน่นอน แต่คุณภาพนี่ เมืองจีนขึ้นชื่ออยู่แล้ว เหอๆ ลองดูคุณภาพสินค้าให้ดีก่อนซื้อนะครับ ไม่ใช่ว่าซื้อมาแล้วใช้ไป 2-3 วันแล้วก็ต้องโยนทิ้ง มันจะไม่คุ้มกับเงินที่เสียไปนะครับ ^__^



Create Date : 19 สิงหาคม 2556
Last Update : 19 สิงหาคม 2556 10:50:00 น.
Counter : 15780 Pageviews.

0 comment
วิธีดูป้ายลดราคาสินค้าในเมืองจีน ( 打折那点事 )
          Blog ก่อนหน้าพูดถึงวิธีถามราคาแล้วใช่มั้ยครับ ใครที่ยังไม่ได้อ่านแนะนำเข้าไปอ่านได้ที่นี่นะครับ 


          วันนี้เราจะมาดูกันว่า สินค้าลดราคา เราจะพูดว่ายังไงบ้าง เวลาเราไปพวกห้างสรรพสินค้า (百货商场 【bǎi huò shāngchǎng】) เวลามีงานลดราคามักจะติดป้าย Sale! ใช่มั้ยหล่ะครับ ก็จะเขียนว่าลด 20% บ้าง 50% บ้าง แต่ในภาษาจีนไม่ได้เขียนแบบนั้นครับ ป้ายลดราคาในจีนปกติจะหน้าตาแบบนี้



         เป็นตัวเลข + 折zhé】 เช่น 7 折,8.5 折 ,3 折 เป็นต้น เรามาเรียนคำศัพท์คำนึงก่อนละกันครับ คำว่า 打折dǎ zhé】 แปลว่า ลดราคา (แบบเป็นเปอร์เซ็นต์) มีเพื่อนคนนึงเรียนภาษาจีนมานิดหน่อย พอไปถึงจีนปุ๊บ เห็นป้าย 7 折 เพื่อนคนนี้ก็เลยพูดว่า โห!! ลดตั้ง 70% แหน่ะ รีบๆไปดูกันเหอะ เพื่อนคนนี้หารู้ไม่ว่า 7 折 นี่ไม่ได้แปลว่าลด 70% แต่ว่าแปลว่า "ลดลงมาเหลือแค่ 70% ของราคาป้าย ซึ่งก็คือลด 30% นั่นเอง"  เพื่อความเข้าใจยิ่งขึ้น เรามาดูตัวอย่างเพิ่มกันนะครับ

8 折 = ลด 20% ( 80% ของราคาป้าย)
4.5 这 = ลด 55% ( 45% ของราคาป้าย)
1 折 = ลด 90% (10% ของราคาป้าย)

          พอจะเข้าใจเพิ่มขึ้นมั้ยครับ คำว่า 折 ไม่ได้แปลว่าลดกี่ % แต่แปลว่า ลดลงมาเหลือกี่ % ของราคาเดิม ถ้าเป็นป้ายลดราคาปกติจะเขียนว่า 7 折,8.5 折 ,3 折 เป็นต้น แต่เวลาพูดเราจะใส่คำว่า 打 เข้าไปด้วย ตัวอย่างเช่น

这件衣服打七折。【Zhè jiàn yīfu dǎ qī zhé】
เสื้อตัวนี้ลด 30 %

现在有活动,打4折。【Xiànzài yǒu huódòng ,dǎ sì zhé
ตอนนี้มีโปรโมชั่น ลด 60%

          เวลาไปซื้อของตามห้างบางทีอาจจะงงๆกับราคาว่า เอ......ราคานี่มันลดแล้วหรือว่ายังไม่ลด เราก็สามารถถามพนักงานว่า

这个价格已经打完折了吗?
【Zhè gè jiàgé yǐjīng dǎ wán zhé le ma ?
ราคานี้เป็นราคาที่ลดแล้วรึยัง

打完折多少钱?
dǎ wán zhé duōshǎo qián?
ลดราคาแล้วเหลือเท่าไหร่?

          ทีนี้เค้าก็จะบอกราคาที่ลดแล้ว หรือราคาขายที่แท้จริงให้แล้วครับ ^_^



Create Date : 18 สิงหาคม 2556
Last Update : 18 สิงหาคม 2556 17:35:28 น.
Counter : 13235 Pageviews.

0 comment
วิธีถามราคาสินค้าเป็นภาษาจีน ( 问价钱 )
          ประโยคที่ใช้ใช้ถามราคาสินค้าเป็นสิ่งที่จำเป็นๆอย่างยิ่งสำหรับคนที่ไปเรียนต่อทำงานที่ประเทศจีนหรือไปเที่ยวประเทศจีน ประเทศจีนของเยอะแยะมากมายมีให้ซื้อได้ทุกวัน เพราะฉะนั้นได้ใช้ทุกวันแน่นอนครับ ^^ 

          เมื่อก่อนตอนที่ผมพูดภาษาจีนกลางไม่ได้แล้วไปเที่ยวฮ่องกงวิธีต่อรองหรือถามราคากับคนฮ่องกงที่ง่ายที่สุดก็คือ"เครื่องคิดเลข" หยิบขึ้นมาแล้วก็จิ้มให้ดูแต่หลังจากที่พูดภาษาจีนกลางเป็นแล้ว(สมัยนี้คนฮ่องกงพูดภาษาจีนกลางได้ดีขึ้นเยอะแล้วครับ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่พูดได้แต่ภาษาจีนกวางตุ้ง)ก็พบว่าใช้เครื่องคิดเลขต่อราคา กับใช้ภาษาจีนกลางต่อราคา ได้ราคาไม่เหมือนกันครับถ้าคนขายเขาเห็นว่าเราพูดภาษาจีนได้ เค้าจะนึกว่าเราเป็นคนจีน(บวกกับหน้าตาผมที่เหมือนคนจีนอยู่แล้วด้วย เหอๆ)คนขายจะให้ราคาถูกกว่านักท่องเที่ยวต่างชาติครับเนื่องจากคนขายเค้าคิดว่าคนจีนด้วยกันเองย่อมต้องรู้ราคาสินค้าดีเลยจะไม่ค่อยกล้าโก่งราคาซักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นหัดพูดไว้ไม่เสียหายครับ ^_^

          คำแรกเลยที่ต้องเรียนก่อนก็คือ 多少钱? duōshǎo qián? ซึ่งแปลว่า "ราคาเท่าไหร่" คำว่า duōแปลว่า มาก ส่วน shǎo แปลว่าน้อย  รวมกันเลยแปลว่ามากน้อยแค่ไหน ซึ่งก็คือคำว่า "เท่าไหร่" ในภาษาไทยนั่นเองส่วนเวลาจะถามถ้าเราไม่รู้ว่าของชิ้นนั้นเรียกว่าอะไร เราสามารถใช้คำว่า “这个 【zhè gè】อันนี้” ,“那个 【nà gè】อันนั้น” แทนได้ครับ ตัวอย่างเช่น

这个多少钱?【Zhè gè duōshǎo qián ?

อันนี้ราคาเท่าไหร่

那个多少钱?【Nà gè duōshǎo qián ?

อันนั้นราคาเท่าไหร่

ปล.เวลาพูดอย่าลืมชี้นิ้วด้วยนะครับ เดี๋ยวคนขายจะงงว่าเป็นอันไหนกันแน่ ^^


         ยังมีอีกประโยคนึงที่ใช้ถามราคาสินค้าได้ครับ แต่ส่วนใหญ่จะใช้ถามสินค้าที่ต้องชั่งกิโล อย่างเช่น ผลไม้ ผัก เนื้อหมู เป็นต้น เราจะใช้คำว่า 怎么卖? 【zěn me mài ?】 ซึ่งแปลว่า "ขายยังไง" เหมือนภาษาไทยเลยใช่มั้ยหล่ะครับ เวลาเราไปซื้อผลไม้ที่ตลาดปกติก็จะพูดว่า "ขายยังไง" คงไม่ค่อยมีใครพูดว่า "ราคาเท่าไหร่" ใช่มั้ยหล่ะครับ เราสามารถนำมาผสมกับคำว่า 这个 และ 那个 ได้เหมือนกัน ตัวอย่างเช่น


这个怎么卖?【Zhè gè zěn me mài ?

อันนี้ขายยังไง

那个怎么卖?Nà gè zěn me mài ?

อันนั้นขายยังไง


           ส่วนเวลาเรียกคนขายของเราถ้าเป็นเจ้าของร้านผู้ชายจะเรียกว่า 老板lǎobǎn】 ถ้าเป็นเจ้าของร้านผู้หญิง จะเรียกว่า 老板娘 【lǎobǎnniáng】ถ้าเป็นพนักงานทั่วๆไปเราสามารถเรียกว่า 小姐 (ผู้หญิง)【xiǎojiě】หรือ 先生 (ผู้ชาย) 【xiānshēng】 ก็ได้ครับ ถ้าไม่แน่ใจก็เรียกว่า 老板 และ 老板娘 จะดีกว่านะครับ อย่างน้อยก็เป็นการให้เกียรติเค้า ^^ 


           สำหรับบางคนที่เคยเรียนภาษาจีนมาบ้างแล้ว คงจะรู้จักคำว่า 售货员shòuhuòyuán】ซึ่่งแปลว่า พนักงานขายของ ใช่แล้วครับ ไม่ผิดครับคำนี้แปลว่าพนักงานขายของ แต่ว่าเราจะไม่ใช้คำนี้เรียกเค้าครับ จริงๆแล้วก็เหมือนภาษาไทยอ่ะครับ เวลาไปซื้อของคงไม่มีใครพูดว่า "พนักงานขายของๆมานี่หน่อย" ใช่มั้ยหล่ะครับ ปกติเราก็จะพูดแค่ว่า "พี่ๆ" หรือว่า "น้องๆ" 


            รู้วิธีถามราคาแล้ว ต่อไปมาดูวิธีดูสินค้าลดราคาในเมืองจีนกันบ้าง ติดตามต่อได้ที่นี่เลยครับ

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=jingji&month=18-08-2013&group=4&gblog=20


ปล. สำหรับคนที่ยังไม่รู้จะวิธีการนับเลขเป็นภาษาจีน แนะนำเข้าไปอ่านที่นี่นะครับ รู้จักตัวเลขในภาษาจีนแล้วทำให้การซื้อของง่ายขึ้นเยอะเลยครับ ^^

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=jingji&month=13-08-2013&group=4&gblog=16





Create Date : 17 สิงหาคม 2556
Last Update : 18 สิงหาคม 2556 17:34:41 น.
Counter : 11050 Pageviews.

0 comment
ยี่ห้อมือถือฉบับภาษาจีน
          อย่างที่ผมเคยบอกไว้ใน blog ก่อนหน้าๆนะครับ เนื่องจากคนจีนส่วนมากไม่รู้จักภาษาอังกฤษ เพราะฉะนั้น ชื่อสินค้า ยี่ห้อสินค้าต่างๆ จะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นภาษาจีนทั้งหมด บางคำก็ใช้วิธีทับศัพท์ เอาเสียงที่คล้ายๆกันแทนที บางคำก็ใช้แปลตามความหมาย วันนี้เราจะมาดูกันนะครับว่ามือถือแต่ละยี่ห้อในภาษาจีนเรียกว่ายังไงกันบ้าง


ก่อนอื่นเรามาเรียนคำว่า "โทรศัพท์มือถือ" กันก่อน คำว่าโทรศัพท์มือถือ ภาษาจีนจะเรียกว่า 手机 【shǒu jī】 คำว่า 手 แปลว่า "มือ" 机 ย่อมาจาก 机器 【jīqì】แปลว่า "อุปกรณ์,เครื่อง" รวมกันเลยแปลว่า อุปกรณ์ที่ใช้มือถือ ก็คือ "โทรศัพท์มือถือ" นั่นเอง



苹果 【píngguǒ】

“iPhone” นั่นเองครับ ที่เรียก iPhone ว่า 苹果 ก็เพราะว่า 苹果 แปลว่า "แอ๊ปเปิ้ล" ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิต iPhone นั่นเอง 



三星 【sānxīng

คำนี้เป็นการเลียนเสียงของคำว่า Samsung ครับ ใครใช้มือถือของ Samsung แล้วมาอยู่ที่เมืองจีนนี่หายห่วงได้เลยครับ ศูนย์บริการเยอะมาก ถ้าผมจำไม่ผิดส่วนแบ่งในตลาดทางด้านมือถือในประเทศจีน Samsung จะได้ส่วนแบ่งไปเยอะที่สุดครับ เนื่องจากราคาถูก คนทั่วไปซื้อมาครอบครองไว้ได้ง่าย ^^


诺基亚 【nuòjīyà

ยังจำมือถือรุ่นนี้กันได้มั้ยเอง สำหรับเด็กๆรุ่นใหม่ๆอาจจะไม่รู้จักแล้วก็ได้นะครับ แต่สำหรับรุ่นผมมือถือ Nokia 3210 นี่เป็นที่รู้จักกันดี ปาใส่ผนัง ตกพื้น หรือใช้ปาหัวหมา มือถือก็ไม่มีวันเจ๊ง ^^ 
คำนี้ก็เป็นการเลียนเสียงมาจากคำว่า Nokia ครับ สำหรับบางคนอาจจะคิดว่าเสียงไม่เห็นคล้ายกันเลย ไม่เป็นไรครับ ฟังไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็จะรู้สึกว่าเสียงมันคล้ายๆกันเองแหล่ะครับ แหะๆ

索尼 【suǒní

คำนี้ก็เป็นการเลียนเสียงมาจากคำว่า Sony ครับ มือถือ Sony ก็ค่อนข้างเป็นที่นิยมในประเทศจีนครับ



黑莓 【hēiméi

คำนี้ใช้วิธีแปลตรงตัวเหมือน 苹果 เลยครับ คำว่า 黑莓 แปลว่า Blackberry นั่นเอง มือถือ Blackberry ไม่ค่อยเป็นที่นิยมในประเทศจีน เนื่องจากค่าบริการนั้นแพงมาก ถ้าผมจำไม่ผิดค่าบริการขั้นต่ำต่อเดือนน่าจะเกิน 150 หยวน(750 บาท) ครับ



小米 【xiǎomǐ

หลายคนๆอาจจะไม่เคยเห็นมือถือยี่ห้อนี้มาก่อน ไม่ต้องแปลกใจไปครับ เพราะมือถือยี่ห้อนี้เป็นยี่ห้อของจีน นอกจากเครื่องหิ้วแล้ว ก็หาซื้อตาม Shop ทั่วไปในต่างประเทศไม่ได้เลย 
小米 เป็นมือถือที่ดังมากในประเทศจีน Spec เครื่องสูง แต่ราคาถูก ใช้งานดี ตอนนี้ตัวผมเองก็มีไว้ครอบครองแล้ว 1 เครื่องครับ ไปแย่งซื้อกับเค้ามา ^^
ถ้าใครกำลังมองหาซื้อมือถือใหม่ แนะนำลองไปเดินดูที่มาบุญครองนะครับ น่าจะมีพวกเครื่องหิ้วขาย 

          แถมคำศัพท์เพิ่มอีกคำละกันนะครับ เนื่องจากว่าเดี๋ยวนี้มือถือที่ออกมาวางตลาดส่วนใหญ่จะเป็นแบบ touch screen หรือว่ามีพวกระบบปฏิบัติการ android ซึ่งราคาจะแพงกว่ามือถือทั่วไป คนจีนจะเรียกมือถือพวกนี้ว่า 智能手机 【zhìnéng shǒujī】 ส่วนระบบปฏิบัติการ android  ภาษาจีนจะเรียกว่า 安卓ānzhuó】 

          วันนี้เรียนกันไปหลายคำเลยนะครับ หวังว่าคงจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆนะครับ ^^




Create Date : 15 สิงหาคม 2556
Last Update : 15 สิงหาคม 2556 16:50:03 น.
Counter : 9538 Pageviews.

0 comment
วิธีการนับเลขในภาษาจีน (ภาคต่อ)
       คราวที่แล้วพูดถึงหลักหน่วย หลักสิบ และหลักร้อยไปแล้ว ใครยังไม่ได้อ่านเข้าไปอ่านได้ที่นี่เลยครับ


        วันนี้เราจะมาดูตั้งแต่หลักพันขึ้นไปบ้าง มาเรียนกันอีก 2 ตัวก่อนนะครับ คือ


 千 【qiān 】  万 【wàn】
 พัน  หมื่น

         ในภาษาจีน ตัวอักษรจีนที่แทนจำนวนสูงสุดก็คือ 万 หรือ หมื่นนั่นเอง ทำไมถึงไม่มีหลักแสน หลักล้าน หล่ะ ?? ก็เพราะว่าตัวอักษรจีนมีมาตั้งแต่หลายพันปีก่อน ในหลายพันปีก่อนหลักหมื่นก็ถือว่าเป็นจำนวนที่เยอะมากสำหรับพวกเขาแล้ว เลยไม่มีตัวอักษรจีนตัวไหนที่ใช้แทนหลักแสน หรือ หลักล้าน ถ้างั้นเวลาจะพูดหลักแสน หรือ หลักล้านจะพูดว่ายังไงดีหล่ะ ?? เรามาดูตารางนี้กันเลยครับ

十万  百万   千万   亿 
【shí wàn】 【bǎi wàn】  【qiān wàn】 【yì】
แสน  ล้าน สิบล้าน ร้อยล้าน

          เคยดูพวกหนังจีนย้อนยุค อย่างพวกสามก๊ก ไรพวกนี้กันบ้างมั้ยครับ เวลาออกไปรบกันจะต้องส่งทหารออกไปเยอะๆใช้มั้ยหล่ะครับ พวกเขาก็จะพูดว่า ส่งทหารไป 30หมื่นนาย จริงๆแล้วก็คือ 3แสน นั่นเอง วิธีการนับเลขในภาษาจีนก็จะนับแบบนี้แหล่ะครับ สิบหมื่น ร้อยหมื่น พันหมื่น แต่จะไม่มีคำว่า "万万 (หมื่นหมื่น)" นะครับ จะใช้เป็นคำว่า 一亿 【yī yì】 ซึ่งก็คือ ร้อยล้าน นั่นเอง

         เพื่อนๆบางคนอาจจะมีคำถาม ถ้าเกิน 100 ล้านจะทำยังไงหล่ะ ก็ใช้หลักกันเดียวกับหลักหมื่นครับ ก็จะพูดเป็น 十亿 【shí 】,百亿 【bǎi 。。。。เป็นต้น

        ทีนี้เรามาดูวิธีการนับเลขกันบ้าง วิธีนับเลขก็เหมือนของหลักร้อยครับ ถ้ามีเลข 0 ขั้นตรงกลาง (ไม่ว่าจะกี่ตัวจะอ่านแค่ครั้งเดียว) หรือ หลักสิบเป็นเลข 1 จะต้องอ่านด้วย  ตัวอย่างเช่น

1050 อ่านว่า 一千零五十 【yī qiān líng wǔ shí】
1008 อ่านว่า 一千零八 【yī qiān líng bā】
1015 อ่านว่า 一千零一十五 【yī qiān líng yī shí wǔ】
10068 อ่านว่า 一万零六十八 【yī wàn líng liù shí bā】
10189 อ่านว่า 一万零一百八十九 【yī wàn líng yī bǎi bā shí jiǔ】

         หลักการนับเลขทั้งหมดในภาษาจีนก็มีเท่านี้แหล่ะครับ เพื่อนๆพอจะเข้าใจกันมากขึ้นมั้ยครับ ^^



Create Date : 14 สิงหาคม 2556
Last Update : 19 สิงหาคม 2556 12:29:20 น.
Counter : 16846 Pageviews.

1 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  

Jingji
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 130 คน [?]



New Comments