Group Blog
 
All Blogs
 
ถึงวันเชือดดดดดดดดดด วันที่ตื่นเต้นที่ซู๊ดดดด

และแล้ว วันที่ 1 กันยายา 2551 ก็มาถึง ก่อนไปยิงเลสิค เราก็ต้องเตรียมตัวดังนี้
1.สระผมให้สะอาด ไม่ใส่น้ำหอม และครีมทาที่มีกลิ่น เพราะอาจรบกวนการทำงานของเครื่องยิงเลเซอร์ได้ (แต่ถ้าเนื้อหอมนี่คงห้ามไม่ได้นะ )
2. ใส่เสื้อเชิ๊ตผ่าหน้า เพื่อที่เวลากลับบ้านจะได้ถอดได้สะดวก โดยไม่รบกวนบริเวณแผล แต่ตอนทำเราก็ไม่ต้องถอดเสื้อนะ เค้าจะมีเสื้อคลุมใส่ให้ค่ะ
3. พาญาติไปด้วย ให้เค้าช่ายหลาย ๆ อย่าง เพราะแสบตา ขับรถไม่ไหว

พอไปถึง จ่ายค่ายิงเลสิกกับค่ายา ประมาณไม่เกิน 32,000 แล้วก็เข้าไปรอหยอดยาฆ่าเชื้อ+ยาชา หลาย ๆ รอบ เพื่อเตรียมทำการยิง ในขณะที่ทำการยิง ตาต้องมองนิ่ง ๆ ไม่ต้องหาโฟกัสจุดเขียวก็ได้ เพราะถ้ายิ่งเรากลอกตามาก ผลจะออกมาไม่ดี (ตรงนี้ลุ้นม๊ากกก) แล้วห้ามพยักหน้าถ้าคุณหมอถามให้พูดเท่านั้น คุณหมอจะเริ่มทำที่ตาขวาของเราก่อน
เครื่องมือชิ้นแรก เป็นตัวดูดกระจกตามั๊ง รู้สึกเหมือนสะดึงมาครอบตาดำ แล้วบิด (ขั้นตอนนี้ ลุ้นจนแทบหยุดหายใจ และตัวเกร็งเลย คุณพยาบาลต้องมาช่วยกด) มันไม่เจ็บ แต่มันรู้สึกอ่ะ แล้วตาก็ต้องนิ่งด้วยนะ เพราะจะมีกลิ่นไหม้ ๆ นิดนึง เลยเดาว่าคงจะเปิดกระจกตาเราแล้ว (ประมาณ 1 นาทีได้)
ขั้นตอนที่สอง แสงสีเขียวที่เคยเป็นความหวัง (ไม่ใช่แระ) จะเริ่มหายไป (จริง ๆ เราว่ามันไม่หายนะ) แต่จะมีแสงสีแดง ๆ กว้าง ๆ วง ๆ เม็ด ๆ เข้ามาแทน แล้วยิงไปมา เราเดาเอาว่าเป็นขั้นตอนการยิงเพื่อปรับความโค้งแระ ก็เลยรีบทำตานิ่ง ๆ เข้าไว้ (ขั้นตอนนี้ประมาณ 30 วิเช่นกัน)
ขั้นตอนที่ 3 หลังจากนั้น แสงสีเขียวจะกลับมา พร้อมกับแสงสีแดง ตอนแรกแสงสีเขียวจะอยู่ริมๆ แล้วก็ค่อย ๆ เลื่อนไปอยุ่ตรงกลางแสงสีแดง (ตอนทำด้านขวาเห็นอย่างนี้ แต่ข้างซ้ายเห้นอยู่ใกล้ ๆ ศูนย์กลางเลย) ขึ้นตอนนี้ให้นิ่ง ๆ ห้ามกรอกตาเหมือนเดิม ประมาณ 5 นาที แต่ขั้นตอนนี้ไม่เจ๊บ เลยไม่ค่อยรู้สึกอาไร
ขั้นตอนที่ 4 จะปิดกระจกตากลับคืน รู้เลยว่าคุณหมอเอาเครื่องมือปาดกระจกตากลับ (ตรงนี้ไม่เท่าไหร่) แต่ตอนที่ถอดสะดึงออก (ไอ้ที่ครอบแล้วหมุนตอนแรกอ่ะ) น่ากลัวม๊ากกกก กลั้นหายใจ (อีกแล้ว) ตอนหมุนกลับอ่ะ

หลังจากทำเสร็จ 2 ข้าง คุณหมอก็ตรวจตาด้วยเครื่องที่มีไฟส่องอีกที แล้วเค้าก็เอาฝาครอบใสๆ มาครอบตาไว้ กันขยี้ แล้วพาไปพักผ่อนประมาณ 30 นาที เปิดเพลงให้ฟัง (เกือบหลับแน่ะ) เราถามจนท.ว่า เรากลอกตาไหม เค้าบอกว่าข้างขวาเรากลอกตานิดนึง แต่ไม่เกิน 0.3 มิล แต่ข้างซ้ายนิ่งมาก ไม่ขยับเลย
ระหว่างกลับบ้าน ยาชาหมดฤทธิ์ เราเริ่มแสบตาแปร๊บ ๆ ปริเวณแผลรอบๆ ตาดำ น้ำตาออกเยอะมาก (แต่เช็ดไม่ได้เพราะติดหน้ากากมดแดงอยู่) :P คุณพยาบาลเคยบอกว่าให้หลับตาไว้จะรู้สึกสบายขึ้น เราก็กินยาแก้ปวดแล้วหลับคร่อกไปเลย
ตื่นมาอีกที ตอนประมาณ สองทุ่ม รู้สึกว่ามองเห็นชัดขึ้นเหมือนใส่คอนแทค แต่ต้องมองผ่านที่ครอบตา เลยไม่ชัดเท่าที่ควร แต่ไม่อยากใข้สายตามาก เลยกินยานอนหลับที่หมอให้มา 1 เม็ด แล้วก็นอน



Create Date : 11 กันยายน 2551
Last Update : 11 กันยายน 2551 11:25:18 น. 0 comments
Counter : 333 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jeeddy
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add jeeddy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.