เราเป็นตัวเรานั่นดีที่สุด
Group Blog
 
All blogs
 
ตราบนิรันดร์ บทที่ 4



บทที่ 4 วาทะคารม


หลังจากเสร็จงานเลี้ยงก็ดึกมากแล้วทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับ พาสเดินไปส่งคุณอัญชสาที่รถประจำตัวของท่านที่มีนายแสนเป็นคนขับ


“น้าแสนขับรถระวังหน่อยนะฮะ นี่คงไม่ได้ดื่มเหล้านะ” พาสเอ่ยถามเมื่อเห็นหน้าของน้าแสนมีสีแดงคล้ำ


“ดื่มไปไม่ถึงครึ่งแก้วเลยครับหมวด จ่าโต้งเอามาให้จิบเท่านั้นครับแก้กระหาย” แสนยิ้มแหยๆ


“อ้อ เดี๋ยวจะได้จัดการถูกคน ยังไงก็ขับระวังๆ นะฮะ ไปช้าๆ ก็ได้” พาสย้ำเตือน


“ครับหมวด ผมจะระวังให้มากไม่ต้องห่วงครับ” แสนรีบโค้งรับ แล้วเข้าประจำตำแหน่ง


พาสกราบที่ไหล่ของผู้สูงวัย “ขอบคุณอีกครั้งนะคะแม่อัญสำหรับของขวัญ แล้วยังไงถ้าว่างจากงานพาสจะไปเยี่ยมที่บ้านนะคะ”


“จ้ะอย่าลืมแล้วกันนะว่าสัญญากับแม่ไว้ว่ายังไง” คุณอัญชสาหอมแก้มของพาส


“ค่ะ” พาสหอมแก้มของท่านตอบ “หอมจัง”


“มาทำปากหวาน ไปจ้ะกลับบ้านดีๆ นะลูก” คุณอัญยิ้มอย่างใจดี


“ค่ะ” พาสปิดประตูรถให้ แล้วถอยออกมาโบกมือส่งท่าน


หลังจากส่งคุณอัญชสาเรียบร้อยพาสก็เดินจะกลับเข้าไปด้านใน เดินมาได้ยังไม่ทันถีงสามก้าว ณุก็ออกมาจากมุมด้านหนึ่ง พาสถึงกับชะงักเท้าที่จะก้าวต่อ


“ดีขึ้นแล้วหรือครับ ถึงเที่ยวเดินไปทั่วงาน” ณุยิ้มกวนๆ ให้พาส


“ก็ไม่ได้เป็นไรมากนี่ฮะสารวัตร ขอบคุณที่ถาม” พาสจ้องหน้าชายหนุ่มเธอตอบเสียงเรียบ หญิงสาวทำท่าจะออกเดินต่อ


“เดี๋ยวสิครับผมมีเรื่องอยากคุยกับว่าที่ผู้กองนะครับ” ณุก้าวออกมายืนขวางไม่ให้หญิงสาวเดินหนี


“ไว้วันหลังละกันฮะ นี่ดึกมากแล้ว” พาสถอยหลังมานิดเพื่อให้ห่างจากณุ


“แต่พี่อยากคุยกับน้องพาส แค่สักครู่ไม่ได้หรือครับ” ณุพูดกับพาสด้วยเสียงนุ่มเพราะ


พาสยืนนิ่งเมื่อได้ฟังเสียงเรียกที่หวานหู เธอคุ้นเสียงหวานนี้มาตลอดระยะเวลาเกือบเดือนที่ผ่านมา แต่เธอไม่คุ้นกับคนตรงหน้าตอนนี้เธอยังไม่อยากยอมรับความจริงว่าเขาคนนั้นได้มาปรากฎขึ้นมาจริงๆ


“พี่ขอแทนตัวเองว่าพี่นะครับ พาสคงไม่ว่าอะไรเพราะพวกเราก็มีความเป็นพี่เป็นน้องกันอยู่แล้วใช่ไหมครับ” ณุยิ้มหวานให้


“เอ่อสารวัตรนี่เปลี่ยนท่าทีง่ายจังนะฮะ พาสรับไม่ค่อยทัน แต่ยังไงคงต้องขอตัวก่อนนะฮะ ไว้คุยกันที่สถานีพรุ่งนี้ละกันฮะ” พาสเบี่ยงตัวไปทางซ้ายมือของชายหนุ่ม


“น้องพาสกำลังหนีอะไรกันแน่ครับ ไม่พอใจที่พี่เรื่องที่ถูกพี่อุ้มหรือว่าเรื่องอื่น” ณุคว้าต้นแขนของพาสไว้


“ไม่มีเรื่องอะไรทั้งนั้นแหละฮะ แต่นี่ดึกมากแล้วพาสต้องการพัก” หญิงสาวสะบัดแขนตัวเองออกจากมือของเค้า แต่มือนั้นช่างเหนียวเสียเหลือเกินไม่สามารถหลุดได้ง่ายๆ


“พี่ว่าพาสมีนะ แต่ช่างเถอะไว้วันหลังก็ได้ ยังไงเราก็ต้องเจอกันไปอีกนาน” ณุค่อยๆ ปล่อยแขนของหญิงสาวอย่างอ้อยอิ่ง


“...............” พาสไม่พูดอะไรเธอรีบออกตัวเดินไปจากที่ตรงนั้น


ชายหนุ่มเอี้ยวตัวกลับมามองตามหลังของพาส เขาได้แต่คิดว่าทำไมนะทั้งที่ตลอดมาเค้าไม่เคยคิดขวนขวายหาหญิงในฝัน เพราะคิดว่าเป็นสิ่งเพ้อเจ้อแต่เมื่อได้พบเธอแล้วเค้ากลับไม่สามารถละสายตาไปจากเธอได้ แล้วมิหนำซ้ำเธอยังอยู่ใกล้เพียงแค่มือเอื้อม ณุได้แต่ถอนใจยาว
-----------------------------------------------------------1


สาที่เห็นพาสเดินกลับเข้ามาแล้วก็รีบตรงเข้าไปหาเพื่อน สาวหวานควงแขนพาสมาที่โต๊ะซึ่งกร อิทธิศักดิ์ และขจรยังคงนั่งคุยกันอยู่ ส่วนแขกที่มาร่วมงานต่างก็พากันกลับไปจนจะหมดแล้ว เหลือแต่พวกเจ้าหน้าที่จัดเก็บสถานที่เท่านั้นที่ยังคงทำงานกันอยู่


“แหมพาสไปส่งคุณแม่นานจัง ร่ำลาอะไรกันนักหนาเหรอสองแม่ลูก”สาแซวเพื่อน


“ก็นิดหน่อย” พาสเลี่ยงที่จะบอกความจริงกับเพื่อน


“เออ พาสเห็นสารวัตรพิษณุบ้างไหม ไม่รู้ว่ากลับไปหรือยัง พี่มัวแต่ลาพวกผู้ใหญ่” กรถาม


“มะ.... ไม่เห็นนี่ฮะพี่กร” พาสปฏิเสธ


“สงสัยคงกลับไปแล้วมั้งคะ พวกเราก็กลับกันดีกว่าสาอยากให้พาสได้พักด้วยเหนื่อยมาหลายวันแล้ว ดูสิมาเป็นลมให้สาวๆ เห็นคงเสียหน้าแย่” สาแซวเพื่อน


“อืม ไม่พูดก็ไม่มีใครว่าหรอกนะสา” พาสทำตาขวางใส่เพื่อน


“ขอโทษ แต่ก็จริงใช่ไหมล่ะ” สายังคงอารมณ์ดีในการได้ยั่วเพื่อน


พาสมองสานิดหน่อยก่อนจะหัวเราะออกมา เธอไม่เคยโกรธเพื่อนได้เลยสักครั้ง สาเป็นคนที่สามารถทำให้เธออารมณ์ดีได้เสมอ


“ไป กลับกันดีกว่า เดี๋ยวไปเคลียร์กันที่ห้อง” พาสยิ้มมุมปาก แล้วหันไปไหว้ลากรกับขจรแล้วลากแขนเพื่อนมุ่งหน้าไปที่รถกระป๋องของเธอ


“ไปนะคะพี่กร สารวัตร” สายังไม่วายหันมาโบกมือบ๊ายบายหนุ่มทั้งสอง


กรกับขจรหันมามองหน้ากันยิ้มๆ ขจรจ้องหน้าผู้กำกับฯ หนุ่มหน้าดุประจำโรงพัก ที่ยิ้มได้ทุกครั้งถ้าเป็นเรื่องของน้องสาวและผู้หมวดสาว


“อะไรขจร มองหน้าแบบนี้” กรถามขึ้นเมื่อเห็นขจรมองหน้าเขานิ่ง


“พี่กร ไม่คิดจะบอกกับพาสหรือครับว่าคิดยังไงกับพาส”


“อยากบอกเหมือนกัน แต่พี่กำลังชั่งใจอยู่เพราะถ้าบอกหรือแสดงตัวมากไปจะไม่ดีกับตัวพาสเอง” กรเป็นห่วงถึงสถานะการทำงานของพาส ตัวเขานั้นพร้อมรับทุกสถานะการณ์กลัวแต่ทุกอย่างจะไปตกกับพาส ด้วยฐานะงานและอีกหลายอย่าง


“นั่นสิ ยิ่งพาสกำลังจะเลื่อนขั้นด้วยแล้วมันจะไปกันใหญ่” ขจรพยักหน้าเข้าใจ


“ใช่ พี่คงต้องรอต่อไป แต่พี่บอกตรงๆ นะพี่สังหรใจอะไรบางอย่าง” กรพูดเนิบๆ แต่สายตาเขามองไปไกล


“บางครั้งเราก็ต้องเชื่อเรื่องพรหมลิขิตนะครับพี่กร” ขจรมองหน้าพี่ที่นับถือด้วยความเห็นใจ


.
เมื่อสองสาวทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้วก็ต่างพากันเข้านอน ด้วยความเพลียที่สั่งสมมาจากเมื่อคืนทำให้พาสเข้าสู่นิทราไปโดยง่าย ความฝันที่บังเกิดกับเธอในค่ำคืนนี้ช่างต่างไปจากทุกครั้ง


ในฝันพาสเห็นหญิงสาวในชุดผ่านุ่งสีชมพูอ่อนยาวแค่เข่ากับเสื้อคอเต่าแขนตุ๊กตาสีขาวนั่งอยู่ที่ท่าน้ำ ดวงตาของเธอมองเหม่อไปตามกระแสน้ำที่ไหลผ่านคลองหน้าบ้าน สักพักก็มีชายหนุ่มที่ช่างหน้าตาเหมือนพิษณุเดินเข้าไปนั่งซ้อนหลังของหญิงสาว


“.............” เธอหันกลับมามองค้อนพร้อมกับขยับร่างออกห่าง


“จะหนีพี่ไปไหนจ๊ะพิกา” ชายหนุ่มพูดเสียงหวาน


“พี่พิชญะ... มานั่งอย่างนี่ไม่ดีนะคะ คนอื่นจะครหาได้” หญิงสาวเอื้อนเอ่ยวาจาเป็นเชิงติ


“จะเป็นไรเล่า ในเมื่อเราก็หมั้นหมายกันแล้ว” เขาคว้ามือที่วางอยู่กับตักมากุมไว้


“พี่...” สาวเจ้ายังไม่ทันได้ต่อว่าก็ต้องนิ่งอึ้งอายหน้าแดงจนต้องก้มหน้างุด


“หอมจริง.... มือน้อยๆ นี้ช่างหอมนัก” ชายผู้ซึ่งเพิ่งขโมยจูบจากมือของหญิงสาวเอ่ยขึ้น


“.........” สาวเจ้ายังคงก้มหน้านิ่งไม่กล้าแม้จะสบตาคม


“อยากรู้นักว่าแก้มของพิกาจะหอมหวานเช่นเดียวกับมือนี้หรือไม่” เขาขยับเข้าไปใกล้


“อย่าค่ะ” หญิงสาวรีบลุกหนีพร้อมๆ กับสะบัดมือให้หลุดจากมือใหญ่ของเขา


“พิกาไม่เห็นใจพี่หรือคะ” ชายหนุ่มที่มองตามร่างน้อย ที่หนีไปนั่งอีกด้านออดอ้อน


“เพิ่งหมั้นหมายกันก็วันนี้พี่พิชญะจักรังแกพิกาเสียแล้ว” หญิงสาวชะม้ายตาค้อน


“พี่นะอยากแต่งเสียวันนี้เลยเชียว พิกาก็รู้ว่าพี่รักน้องมานานเพียงไร น้องอยากร่ำเรียนต่อพี่ก็ไม่ว่า แล้วรู้หรือไม่ว่าทำไมพี่ถึงต้องเร่งให้คุณพ่อส่งผู้ใหญ่มาสู่ขอน้องไว้ก่อน” ชายหนุ่มตามมาลงนั่งข้างๆ แต่ไม่ชิดนัก


“พิกาไม่ต้องการทราบหรอกค่ะ” หญิงสาวตอบไปเช่นนั้นเพราะรู้อยู่ว่าช่วงหลังมานี้หนุ่มหล่อตรงหน้านั้นไม่พอใจที่มีหนุ่มใหญ่หนุ่มรุ่นกระทงมาเยือนถึงเรือนของเธอมิได้ขาด มีของฝากมาให้เสมอ ทั้งที่เธอก็ปฏิเสธและคืนของเหล่านั้นไปก็หลายครั้ง แต่ก็ไม่วายจะมีข่าวไปกระทบหูชายหนุ่ม นี่คงเป็นสาเหตุหนึ่ง


“ไม่อยากทราบจริงๆ หรือ” ชายหนุ่มขยับเข้าไปใกล้


“จริงสิคะ” หญิงสาวลุกขึ้นตั้งท่าจะเดินหนีแต่รองเท้าเจ้ากรรมบังเอิญไปติดในร่องไม้ทำให้เธอถึงกับเซถลา


“ว้าย....”


“ระวังพิกา” ชายหนุ่มรีบเข้าไปโอบรับร่างของเธอไว้ และฉวยโอกาสสวมกอดเธอไม่ยอมปล่อย


สองกายแนบชิดหญิงสาวถึงกับสะท้านไหว อีกทั้งเขาเป็นชายเดียวในดวงใจด้วยแล้ว หัวใจดวงน้อยได้แต่สั่นระรัวใบหน้างามเงยขึ้นสบตาคมที่มองมา


กลิ่นกรุ่นแป้งร่ำน้ำปรุงจากกายสาวอันเป็นที่รักช่างหอมยั่วใจ แก้มนวลใสที่ตอนนี้เขินอายจนแดงระเรื่อ อยู่ใกล้เพียงนิดสาวน้อยนางนี้ที่เค้าเฝ้าทนุถนอมมิเคยได้ทำให้เสียน้ำใจสักเพียงน้อย
------------------------------------------------------------2

แต่มาบัดนี้วันที่ที่เค้าได้จับจองเธอเพียงเพื่อกันชายอื่นไม่ให้เข้ามาวุ่นวาย ใจเขาเองนั้นกลับอยากครอบครองเธอไว้เสียตลอดไป


“พิกาจ๋า” ชายหนุ่มเรียกชื่อคนรักเสียงหวาน เขารั้งตัวเธอให้ชิดอกกว้างมากขึ้น


“..........” หญิงสาวยังไม่ทันได้เอ่ยถ้อยความใด เพียงแค่เธอเงยหน้าขึ้นก็ต้องเสียทีให้กับคู่หมาย


ชายหนุ่มฝังจมูกปากลงกับแก้มนวลอย่างรวดเร็ว “ช่างหอมชื่นใจเสียจริง... คนงามของพี่”


“พี่พิชญะใจร้าย... รังแกน้อง” สาวเจ้าถึงกับน้ำตาหยดจากตาคู่งาม ด้วยไม่เคยถูกกระทำอย่างนี้มาก่อน เธอทั้งตกใจและอายเสียเหลือเกิน


“โถ... คนดีพี่รักดอกจึงขอชื่นใจ” ชายหนุ่มซับน้ำตาให้


“พี่ไม่เคยหักหาญน้ำใจพิกาสักครั้ง.... พี่ขอแค่เพียงน้อยเท่านั้นเองนะคนดี” เขายังคงปลอบประโลมคนรักที่เอาแต่เงียบงัน


“พี่ทำแค่นี้เจ้าก็ร้องไห้เสียแล้ว หากแต่งงานกันไปพิกาไม่ต้องร้องไห้อย่างนี้ทุกคืนเหรอคะ”ชายหนุ่มเย้า


“พี่พิชญะ....” หญิงสาวถึงกับอายจนหน้าแดง


“ฮึฮึ” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอเขาโอบกระชับเธอไว้


.
ความฝันนั้นช่างแสนสั้นนักสำหรับณุที่จำต้องตื่นเพราะนาฬิกาปลุกหัวเตียง เขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มเต็มใบหน้า ชายหนุ่มสลัดผ้าห่มให้พ้นตัว เช้านี้เขาแสนจะกระปี้กระเป่าเสียนัก


ซึ่งผิดกับพาสที่ตื่นมาด้วยความรู้สึกหงุดหงิด แค่เขาอุ้มพาเธอไปส่งที่ห้องพักเท่านั้น ถึงกับทำให้เธอฝันเห็นอะไรบ้าๆ


“ผู้ชายฉวยโอกาส” พาสบ่นออกมา


“พาสว่าใคร” สาที่เอากาแฟมาวางให้พร้อมกับขนมปังปิ้งเอ่ยถาม


“เปล่า...” พาสปฏิเสธ เธอเสยกกาแฟขึ้นดื่ม


“แปลกขึ้นทุกวัน พาสเนี่ย” สาส่ายหัว “เดี๋ยวสาไปทำงานก่อน นี่พี่อนันต์มารออยู่ข้างล่างแล้ว.... อ้อ......... วันนี้สาจะไปธุระกับพี่อนันต์และจะแวะกลับไปดูพี่กรด้วย คงไม่มาหาพาสนะวันนี้......... พาสอยู่คนเดียวได้ไหม”


“อยู่ได้สิถามตำรวจอย่างนี้ได้ไง เออ... จริงๆ สาไม่ต้องมาค้างกับพาสก็ได้” พาสบอกเพื่อน เธอเองก็เกรงใจสาเหมือนกัน


“ไม่อยากให้สาอยู่ด้วยเหรอ” สาทำหน้าง้ำ


“ไม่ใช่ แต่เป็นห่วงพี่กรไม่มีคนคอยดูแล บ้านก็ไม่มีใครช่วยสาเล่นมาอยู่กับพาสแบบนี้ใครจะคอยช่วยที่บ้านละ” พาสเป็นห่วงพี่กร


“งั้นก็ไปอยู่ด้วยกันที่บ้านสิ สาจะได้ดูแลง่ายขึ้น” สายิ้มเจ้าเล่ห์


“พี่กรคงไม่อยากเลี้ยงน้องที่กินเก่งอย่างพาสนักหรอก” พาสทำเป็นไม่รู้ถึงความหมายของเพื่อน


“ถ้าเลี้ยงไหวละ แต่คงไม่ใช่ในฐานะน้องหรอกจะว่าไง” สาถามใหม่


“ฐานะน้องเขยเหรอ” พาสถามกลับพร้อมกับหัวเราะดังคับห้อง


“ชริ” สาทำจมูกย่นใส่พาส


“ไปแล้ว.... เบื่อคนแกล้งโง่” ก่อนไปสายังมาล็อกคอพาสเสียอีกครั้งหนึ่ง


“ฮ่า...ฮ่า...” พาสหัวเราะเสียงใส


“บาย... ไว้เจอกัน” สาโบกมือให้เพื่อนแล้วเดินออกจากห้องไป


พาสกลับมานั่งที่โต๊ะทำงานพร้อมกับเปิดเอกสารที่เพิ่งได้รับจากกำธรเมื่อเย็นวาน ซึ่งระบุถึงความคืบหน้าในการให้สองพี่น้องทำทีกลับเข้าไปขอเป็นคนส่งของให้กับนายหนึ่ง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก ทั้งสองถูกซักอย่างหนักดีที่ว่าทางพาสได้วางแผนไว้อย่างรัดกุม


พาสจัดฉากให้ทั้งสองแกล้งทำเป็นทะเลาะกับทางบ้านอย่างหนัก ทั้งถูกตีถูกต่อว่าในเรื่องการอดยา ให้ทางบ้านทำเป็นตัดขาดจากครอบครัว คนทั้งซอยรับรู้กันทุกบ้านว่าสองคนนี้เลิกยาไม่สำเร็จ ต้องออกจากบ้านไปนอนตามศาลาวัด อาศัยข้าวพระกิน ซึ่งทั้งสองก็ทำได้ดีทั้งยอมเจ็บตัวเพื่อช่วยงาน พวกสายของนายหนึ่งรับรู้จากพวกชาวบ้านก็กลับมารายงาน ตรงตามที่ทั้งสองคนบอกกับนายหนึ่งไว้


นายหนึ่งจึงเริ่มป้อนงานเล็กๆ ให้ทำก่อนชั่วคราว คือส่งของให้พวกขาจรเล็กๆ น้อยๆ แค่ไม่กี่เม็ดต่อคน


เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเป็นความก้าวหน้าไปอีกขั้นของทั้งสองคน การทำงานนี้ต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ปุบปับไม่ได้ต้องทำให้เหยื่อตายใจก่อน หญิงสาวยิ้มกับแผนการณ์ขั้นต้นของพวกเธอ พาสเตรียมตัวเข้าสถานี


.
ด้านณุเองก็แต่งชุดเต็มยศนั่งคุยงานกับสารวัตรขจรภายในห้อง แต่ใจเขาคอยคิดถึงสาวห้าวว่าวันนี้เธอจะเข้ามาที่ทำงานหรือเปล่า เขารู้ว่างานของพาสไม่แน่นอนนักอาจจะเข้าหรือไม่เข้ามาเลยก็เป็นได้


“เสร็จจากคุยงานกับพี่แล้วณุจะไปไหนต่อหรือเปล่า” ขจรถามขึ้น


“ผมว่าจะขอดูงานจากพี่ขจรทั้งวันได้ไหมครับ จะเป็นการวุ่นวายหรือเปล่าครับ” ณุพูดด้วยท่าทีเกรงใจ


“ได้สิ ดีเสียอีกเผื่อพี่จะได้รับความคิดใหม่ๆ จากคนหนุ่มๆ บ้าง” ขจรยิ้มให้


“ไม่หรอกครับ ผมเนี่ยยังต้องเรียนรู้อีกมาก” ณุถ่อมตัวตามที่ควรเป็น


“ตอนแรกพี่นึกว่าณุมีธุระเห็นเอาแต่มองนาฬิกา” ขจรพูดยิ้มๆ


“เหรอครับ... ขอโทษครับ” ณุยิ้มเขิน


“ตกลงไม่ได้มีนัด” ขจรย้ำถาม


“ไม่ครับ..”


“ดี... งั้นเที่ยงนี้จะพาไปกินข้าวที่ร้านเจ้าอร่อย อาหารเขาอร่อยเป็นร้านเล็กๆ อยู่ข้างสถานีเรานี่แหละ”


“ครับ” ณุพยักหน้ารับ


.
พาสเดินขึ้นสถานีมาพร้อมกับกำธรที่ได้รับโทรศัพท์เรียกตัวจากลูกพี่ให้มาสมทบกันที่สถานี พาสเดินตรงเข้าไปที่ห้องประชุมใหญ่ ซึ่งตอนนี้จ่าโต้งหมู่เมธีหมู่เจด และนายสิบอีกสามนายนั่งรออยู่ก่อนแล้ว


“โทษทีที่ให้รอ” พาสหยุดยืนที่หัวโต๊ะ


ทุกคนต่างลุกขึ้นพร้อมกันทำความเคารพ พาสโบกมือให้ทุกคนนั่งลง หญิงสาวส่งเอกสารในมือให้กำธรแจกจ่ายให้กับทุกคน

“ลองอ่านดูก่อน ว่าแผนขั้นต่อไปที่วางไว้ทุกคนมีความเห็นว่าไง” พาสพูดพร้อมกับมองหน้าทุกคน


ทั้งหมดดูตั้งใจกับการอ่านเอกสารเป็นอย่างดี จ่าโต้งเป็นคนแรกที่เงยหน้าจากเอกสารแล้วมองมาทางพาส


“ไอ้หมอนี่มันนกรู้มากนะครับ ผมยังคงสงสัยอยู่ว่าในกรมเราจะมีสายของพวกมันอยู่ด้วย”


“ก็คิดไว้แล้ว งานนี้จึงจะใช้คนที่ไว้ใจได้เพียงพวกเราในห้องนี้ ทุกคนคิดว่าไหวไหม มันอาจจะหนักมากในการที่ต้องติดตามไม่มีเวลาได้พัก” พาสมองเข้าไปในตาของลูกน้อง


“ครับ พวกเราทำได้ครับ” ทุกคนต่างตอบพร้อมเพรียงกัน


“ดี... ยังไงช่วงนี้เราจะปล่อยให้มันตายใจ และไว้ใจสายของเราไปก่อน” พาสยิ้มให้กับความตั้งใจของทุกคน


“รหัสคราวนี้อะไรครับหมวด” จ่าโต้งถาม


“รหัสคราวนี้..........”


.
ในร้านข้าวแกงแม่ค้าสาวกำลังบริการอาหารให้กับสารวัตรทั้งสองด้วยตัวเอง เธอยิ้มแย้มเป็นอย่างดี


“อาหารที่สั่งมาครบหมดแล้วนะคะสารวัตร” สาวติ๊ดตี่ยิ้มหวานให้ทั้งสอง


“ครับ....” ขจรยิ้มบางๆ


แม่ค้าสาวอวบยังคงยืนคอยบริการทั้งสองหนุ่ม แต่พอหันไปเห็นพาสที่เดินเข้ามาพร้อมๆ กับพรรคพวก สาวเจ้าก็รีบขอตัวไปต้อนรับทันที


“หมวดพาส... คิดถึงจัง หายไปหลายวันเลยนะจ๊ะ” แม่ค้าสาวเข้าไปควงพาสด้วยความสนิดสนม พาเดินเข้าไปที่โต๊ะด้านในเลยจากโต๊ะของสองหนุ่ม


พาสหันไปยิ้มให้ขจรพอเหลียวกลับมาก็เห็นณุเข้าก็ทำหน้าเฉยเฉียบ ฝั่งณุก็ยังคงยิ้มตาหวานให้พาส เขาดูไม่ได้ใส่ใจกับอาการบึ้งตึงของหญิงสาวสักนิด


พวกที่ตามพาสมาต่างทำความเคารพสารวัตรทั้งสอง แล้วก็รีบก้าวตามพาสเข้าไปด้านใน ซึ่งเป็นโต๊ะประจำที่ติ๊ดตี่จัดให้


มุมที่นั่งนั้นโล่งโปร่ง มีรั้วเป็นต้นปากแตรที่กำลังออกดอกบานชูช่อ ลมพัดเย็นสบายเมื่อทุกคนนั่งกันเรียบร้อย พาสก็จัดแจงสั่งอาหารทันที


“วันนี้พาสอยากกินฝีมือติ๊ดตี่ได้ไหมฮะ เอาแบบวันก่อนนะ” พาสยิ้มอ้อน


แม่ค้าสาวดีใจจนออกนอกหน้าที่พาสชอบทานอาหารฝีมือเธอ ปกติที่ร้านจะมีพ่อครัวเป็นคนทำ ซึ่งเธอเองไม่ค่อยได้ลงมือเองยกเว้นคนขาดจริงๆ แต่กับหมวดมาดเท่ห์นั้นติ๊ดตี่อยากเป็นคนทำให้ทาน แต่ก็ไม่เคยกล้าพอดีเมื่อวันก่อนพ่อครัวไม่มาเธอจึงได้โอกาสทำให้พาสกิน


“ได้สิจ๊ะ... ต่อไปติ๊ดตี่จะเป็นคนทำให้หมวดทุกครั้งเลยนะจ๊ะ เดี๋ยวติ๊ดตี่รีบไปทำให้หมวดดีกว่า หมวดรอแป๊บนะจ๊ะ” พูดจบก็รีบเข้าไปทางห้องครัวของร้านทันที
------------------------------------------------------------3

ทั้งสี่มองตามหลังแม่ค้าสาวไปแล้วก็หันกลับมาสบตากัน หนุ่มทั้งสามยิ้มขันกับอาการดีอกดีใจของสาวร่างอวบ


“พี่พาสเก่งนะเนี่ย ที่หาทางให้แม่ติ๊ดตี่ไม่มาคอยติดแจ” กำธรพูดขึ้น


“จริงสิ” หมู่เจดตบโต๊ะเบาๆ เหมือนเพิ่งนึกได้ตามที่กำธรพูด


“ติ๊ดตี่ชอบวอแวกับหมวดเอามากๆ ยิ่งช่วงไหนที่หมวดหายหน้าไปนานๆ พวกเราเนี่ยเมื่อยปากทุกที ต้องคอยตอบคำถามแม่ติ๊ดตี่ทุกวัน” หมู่เจดว่าต่อ


“เฮ้...เฮ้ เบาหน่อยเดี๋ยวติ๊ดตี่จะเข้าใจพาสผิด มันไม่ใช่อย่างนั้นนะงวดนี้พาสอยากกินจริงๆ นะฝีมือติ๊ดตี่เนี่ย” พาสทำจุ๊ปากไม่ให้พวกที่นั่งร่วมโต๊ะพูดมาก


“จริงเหรอ... หมวด อาหารฝีมือติ๊ดตี่นี่ใช่คราวก่อนที่มากินด้วยกันหรือเปล่า” จ่าโต้งถาม


“ฮะ...” พาสพยักหน้า


“ผมว่ามันธรรมดามากเลยนะครับ ก็ไม่เห็นต่างจากที่คนอื่นทำ” จ่าโต้งพูดไปตามความคิดส่วนตัว


“ฮะ.... แต่พาสมองว่าเขาทำด้วยความตั้งใจ อีกอย่างทานแล้วรู้สึกได้ว่าเขาใส่ใจไงฮะ... คือสดสะอาดก็ใช้ได้แล้วพาสว่านะ”


“อ้อ.... ” ทุกคนขานรับ


ด้านโต๊ะของสองสารวัตรทั้งสอง ณุเฝ้ามองแม่สาวห้าวที่ยิ้มแย้มพูดคุยอย่างสนิทสนมกับพวกหนุ่มๆ ดูเป็นกันเอง เขาเห็นรอยยิ้มสดใสของเธอแล้วก็ให้นึกถึงความฝันเมื่อคืน ภาพความสนิทแนบคนคู่นั้นทำเอาเค้าต้องเผลอยิ้มออกมา


ขจรมองหน้าณุที่เอาแต่ยิ้มเขาเลยเอี้ยวมองตามสายตาของณุไป พบว่าคนที่ณุมองนั้นไม่ใช่ใครอื่น ขจรหันกลับมาที่ณุอีกครั้ง เขาบอกไม่ถูกว่าควรจะพูดหรือทำอย่างไร ในเมื่อเขารู้อยู่เต็มอกว่ามีอีกคนที่หมายปองสาวห้าวคนนั้นเช่นกัน


ณุผละจากการมองแม่สาวที่หันมาทำหน้าตูมใส่เขามาพูดคุยกับคนตรงหน้า “ดูพวกเขาสนิทกันมากนะครับพี่ขจร ผมไม่คิดว่าจะมีผู้ชายคนไหนยอมรับผู้หญิงได้ขนาดนี้”


“เป็นธรรมดาของผู้ชายแหละณุ กว่าจะยอมรับกันได้ก็ไม่ง่ายนักหรอก ตามปกติแล้วพาสเป็นคนนิ่งๆ กับคนที่ไม่ค่อยสนิทด้วย ตอนทำงานแรกๆ ก็ทำแต่งาน พวกนี้แต่ก่อนก็ไม่ชอบหน้าเขานักหรอกหาว่าทำดีเอาหน้า จ่าโต้งคนหนึ่งละตัวนำเลยด้วยความที่มองว่าพาสเป็นผู้หญิงไม่สู้งานจริง แต่พองานหลายชิ้นสำเร็จลงได้เพราะการทำงานของพาส ทั้งที่บางครั้งพวกจ่าโต้งไม่ค่อยได้ช่วยอะไร พาสกล้าที่จะเข้าทำงานเพียงลำพัง มีอยู่ครั้งที่พี่ไปด้วยตอนนั้นเรากำลังเข้าล้อมจับพวกค้ายาข้ามชาติ ยังไม่ทันได้เข้าจับกุมพวกนั้นกลับยิงปืนขึ้นก่อน แล้วพาสเกิดเห็นว่ามีปืนอีกกระบอกเล็งไปที่จ่าโต้ง พาสเลยกระโจนพุ่งตัวเข้าไปรับกระสุนแทน” ขจรพูดถึงวรีกรรมของพาสด้วยความนิยมชมชอบในตัวสาวคนนี้อยู่ไม่น้อย


“กล้าเกินตัวนะครับ” ณุยิ้มอารมณ์ดี


“ใช่ นั่นละเค้ารักเพื่อนร่วมงาน ทั้งที่บางคนยังไม่ยอมรับเขาก็ตาม แต่เขาก็สามารถชนะใจทุกคนได้เป็นอย่างดี”


“ครับ”


“เอ้า... ทานๆ เดี๋ยวพี่มีธุระต้องไปทำก่อน ถ้าณุอยากไปเดินเที่ยวก่อนก็ได้นะแล้วสักบ่ายสองพี่จะกลับเข้ามา” ขจรชี้ชวนให้ณุทานอาหารต่อ


“ครับ” ณุรับคำ


.
พาสที่เดินแยกตัวออกมาจากกลุ่มเธอมุ่งหน้าเดินไปที่รถ กลับพบว่าณุนั่งอยู่ที่ม้าหินใต้ต้นไม้ตรงทางเดิน หญิงสาวอยากจะหันหลังหนีแต่ก็ไม่ทำเพราะเขากำลังมองมาที่เธอ พาสไม่ต้องการให้เขาว่าได้ว่าเธอหนีเขา เธอจึงทำเฉยเดินไปตามทาง


ณุรีบลุกจากม้าหินเขาเดินเข้ามาหาพาส “สวัสดีครับ น้องพาส”


พาสจำใจต้องหยุดทำความเคารพชายหนุ่มตรงหน้า “สวัสดีฮะ สารวัตร”


“พี่มีเรื่องต้องคุยกับพาส ” ณุเข้าไปจนใกล้


พาสถอยฉากออกมานิดหนึ่ง เธอจ้องมองหน้าเขานิ่ง “มีอะไรหรือฮะ ถ้าเรื่องงานสารวัตรคุยกับพี่ขจรกับพี่กรก็คงพอแล้วละฮะ”


“เรื่องอื่นครับ พี่คิดว่าพาสน่าจะรู้นะ” ณุจ้องเข้าไปในตาของหญิงสาว


“รู้อะไรฮะ พาสไม่เห็นเข้าใจ” พาสพยายามบ่ายเบี่ยง


“จริงเหรอคะ น้องพิกา” ณุเรียกชื่อของสาวน้อยในความฝัน


“.........” พาสนิ่งงันไปนิด แล้วรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ “สารวัตรเรียกใครหรือฮะ ผิดคนแล้วละฮะ”


“พี่รู้ว่าพาสรู้จักคนๆ นี้ดีพอๆ กับพี่ ยิ่งความฝันเมื่อคืนที่ผ่านมา..” ณุกำลังจะพูดต่อแต่กลับถูกพาสสวนกลับทันที


“ความฝันมันก็เป็นเพียงความฝัน ไม่ใช่ความจริงสารวัตรอย่าเอามาคิดเลยฮะ”


“นั่นไงพาสก็เห็นเหมือนที่พี่เห็น ใช่ไหม” ณุตรงเข้าจับแขนของพาส


“สารวัตรปล่อย นี่สถานที่ราชการนะ” พาสพยายามปัดมือของชายหนุ่ม


“ไม่ พาสไม่ต้องการรู้เหมือนอย่างที่พี่ต้องการหรือว่าทำไมเราต้องฝันถึงคนคู่หนึ่งเหมือนๆ กัน” มือใหญ่ของเขายังคงจับแขนเธอไว้มั่น


“ไม่จำเป็นไม่ว่ายังไงคนคู่นั้นไม่เกี่ยวอะไรกับสารวัตรและพาสแน่นอน” หญิงสาวตัดบท


“แต่พี่กลับคิดว่าเกี่ยวกับเราทั้งคู่ พาสไม่คิดว่าเราจะมีอะไรเชื่อมถึงกันบ้างหรือ” ณุยิ้มตาหวานหยดให้พาส


“สารวัตรอย่าจริงจังกับความฝันเลยฮะ นี่โลกแห่งความจริง ความจริงที่ว่าเราเพิ่งรู้จักกัน ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน” พาสพูดเสียงเรียบ เธอพยายามไม่เขวไปกับตาของเขา


“..........” ณุมองหญิงสาวด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก “พาสคิดอย่างนั้นหรือ”


“ฮะ....” พาสตอบ


“แต่พี่ขอบอกว่าพี่เชื่อเรื่องนี้ พี่เชื่อว่าพาสก็ต้องมีบางเสี้ยวที่คิดแต่ไม่ยอมรับ” ณุปล่อยแขนหญิงสาวให้เป็นอิสระ


“.........” หญิงสาวไม่ตอบโต้อะไรอีก พาสทำความเคารพณุอีกครั้งแล้วเดินเลี่ยงจากไป


ชายหนุ่มได้แต่มองตามหลังหญิงสาวไป เขาไม่เข้าใจว่าเธอไม่ได้มีความคิดอย่างเดียวกับเขาบ้างเชียวหรือ บางอย่างเกิดเพราะความฝันแต่นั่นเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้น ณุหันหลังเดินกลับเข้าสถานี


“พี่ไม่ยอมแพ้หรอกนะ เรายังมีเวลาอีกมาก” ณุยิ้มที่มุมปาก

-------------------------------------------------------จบบทที่ 4







Create Date : 07 กันยายน 2549
Last Update : 16 กันยายน 2549 11:49:09 น. 5 comments
Counter : 232 Pageviews.

 
ตามทันแล้ว เย่ๆๆๆ
เมื่อวานไม่ได้คุยกันเลยเนอะ วันหลังนะจ๊ะ


โดย: bambina IP: 210.246.65.145 วันที่: 8 กันยายน 2549 เวลา:0:29:08 น.  

 
มารอคอย ลอยคอตั้งแต่ดึกเลยวันนี้ หุหุหุ


โดย: ดอกซากุระบานแค่เจ็ดวัน วันที่: 8 กันยายน 2549 เวลา:1:01:41 น.  

 
คืนนี้ คงรอไม่ไหวแล้ว
ขอตามพี่พาส ไปนอนพักก่อนนะคะ พี่เจ

^___^
ขอบคุณสำหรับนิยาย หวานๆค่ะ


โดย: <ToOn> เต่าน้อย IP: 58.136.85.194 วันที่: 8 กันยายน 2549 เวลา:1:21:21 น.  

 
ในที่สุดก้อตามอ่านจนทัน.........เป็นกำลังใจให้พี่เจมาต่อไวๆนะคะ


โดย: วะ IP: 124.157.131.253 วันที่: 8 กันยายน 2549 เวลา:23:40:46 น.  

 

วิ่งตามบ่นทันล่ะหุ หุ ฟิ้ววววววววววววววววววววววววววว


โดย: pon00 วันที่: 9 กันยายน 2549 เวลา:11:19:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jd_spn
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




-ความรักเป็นสิ่งสวยงามแต่มิใช่จะเกิดได้ง่ายดาย เมื่อได้มาก็จงเก็บรักษาไว้ เพื่อจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลัง
-อยากมอบสิ่งดีๆ ให้กับทุกคน และมอบความรักให้กับคนอันเป็นที่รักทุกคน
คุยกันหลังไมค่กดที่ตุ๊กตาเด็กเล่นน้ำนะคะ
cursor
Friends' blogs
[Add jd_spn's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.