เราเป็นตัวเรานั่นดีที่สุด
Group Blog
 
All blogs
 
ตราบนิรันดร์ บทที่ 3

บทที่ 3 ประสพพบพา


ตั้งแต่เมื่อดึกคืนที่ผ่านมาจนล่วงเข้าสายของวันใหม่พาสและลูกน้องอีกกลุ่มหนึ่งยังไม่ได้พักกันเลยเพราะมีการตรวจจับรถขนยาที่ทางสายได้รายงานเข้ามาว่าจะผ่านเข้ามาในเขตความรับผิดชอบของหน่วยงานเธอ แต่จนถึง ณ ขณะนี้ก็ยังไม่พบรถคันดังกล่าวสุดท้ายหญิงสาวจึงให้ยกเลิกการปฏิบัติการตรวจค้น แล้วให้ทุกคนกลับเข้าสถานี


“ติ๊ดติ๊ด.... ติ๊ดติ๊ด...”


เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในขณะที่พาสกำลังสั่งงานลูกน้องให้ขนย้ายอุปกรณ์ต่างๆ อยู่ พาสล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาดูพอเห็นเบอร์ที่โชว์ก็นึกได้ สาวมาดเท่ห์รีบกดรับทันที


“สา... พาสขอโทษ... รอแป๊บนะ”


“เร็วๆ นะ.... เดี๋ยวไม่ทันถวายอาหารเพล” สามองนาฬิกาที่ข้อมือพร้อมกับกรอกเสียงไปตามสาย


“.... ไปเดี๋ยวนี้แล้ว” พาสวางหู


“หมู่ธร... จัดการให้เรียบร้อยล่ะ... แล้วบ่ายเจอกัน” พาสสั่งลูกน้อง แล้วก็รีบเดินอ้าวไปที่รถ เพื่อไปรับสาที่คอนโดฯ


.
สองสาวเข้ามาในบริเวณวัดหลวงประจำอำเภอรอบๆ สถานที่ดูสงบร่มเย็นไม่มีเสียงอะไรรบกวนเพราะเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ต้นไม้ยืนต้นมากมายให้ร่มเงา ลมที่พัดเอื่อยๆ ปะทะกับยอดไม้กิ่งใบพลิ้วไหวลู่ตามแรงลม เสียงกระดิ่งบนยอดพระอุโบสถดังไปทั่ว ไม่ได้สร้างความรำคาญแต่อย่างใด กลับทำให้จิตใจของผู้คนที่ผ่านเข้ามาสงบเกิดความสบายใจขึ้น หลายคนเข้ามานั่งพักผ่อนปล่อยวางความทุกข์ที่สะสมมา บางคนก็มานั่งอ่านหนังสืออยู่ตามใต้ร่มไม้


พาสรู้สึกสบายใจตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาในเขตวัด ผิดกับสาที่ตอนนี้ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเพราะกลัวจะไม่ทันถวายพระเพล


“พาสเดินเร็วหน่อยได้ไหม.... จะไม่ทันแล้วนะ” สาเริ่มโวยเพื่อน


“ใจเย็นสิ... มาทำบุญต้องใจเย็น.... เดี๋ยวก็ไม่ได้บุญกันพอดี” พาสที่หิ้วบิ่นโตกับถังสังฆทานเดินตามหลังสามาพูดยิ้มๆ


สาหันมองเพื่อนนิดหนึ่งก่อนจะผ่อนฝีเท้าลง เมื่อพาสเดินเข้ามาใกล้สาวสวยก็เข้ามาช่วยถือบิ่นโตแต่เพื่อนกลับส่ายหัว


“ไม่เป็นไรถือได้... สาถือดอกไม้ธูปเทียนก็พอ เดี๋ยวช้ำหมด” พาสว่า


“งั้นช่วยกันหิ้วถังละกันนะ” สาเดินไปอีกข้างเอื้อมมือมาช่วยพาสจับที่หูของถังใบย่อม


“อืม...” พาสได้แต่ยิ้มน้อยๆ กับเพื่อน


----------------------------------------------------------1


ทั้งสองเดินคู่กันไปตามทางเล็กๆ พาสชี้ชวนให้สาดูดอกไม้ที่กำลังผลิบานไปเรื่อยๆ จนมาหยุดที่หน้ากุฏิหลังแรก พาสเป็นคนที่ไม่เคยเจาะจงว่าจะทำกับพระรูปไหน เพราะส่วนตัวแล้วการเจาะจงดูเป็นการไม่ควร ยกเว้นกรณีพระรูปนั้นเป็นญาติเธอก็จะทำอีกชุดมาต่างหาก


ซึ่งเธอก็มีเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งที่ได้บวชเรียนมานานเป็นสิบปีและท่านมักจะออกปฏิบัติธรรมไปทั่ว ไม่เคยจำวัดไหนเป็นพิเศษ ท่านจะไปจำวัดตามชนบทเป็นพระพัฒนาคนหนึ่ง พาสเองก็จะส่งของใช้และสิ่งที่คิดว่าท่านจำเป็นต้องการในการทำงาน กับยาสามัญประจำบ้านไปให้เสมอ เพราะท่านไม่เคยเรียกร้องหรือแจ้งจำนงมาสักครั้ง


ทั้งคู่เข้าไปกราบพระรูปหนึ่งท่านดูอาวุโสมากแล้ว ตรงหน้าของท่านมีเพียงข้าวกับอาหารคาวอีกเพียงอย่างละเล็กน้อย พาสจัดสำรับออกมาวางเรียงพระท่านก็มองหน้าพาสเพียงเล็กน้อย ท่านตักกับข้าวแต่ละอย่างมาผสมรวมกันในบาตร เมื่อท่านฉันเสร็จก็มีลูกศิษย์ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ เข้ามายกเอาสำรับออกไป


หญิงทั้งสองรอจนท่านทำธุระเสร็จแล้วจึงค่อยๆ ยกเครื่องสังฆทานเข้าไปหาท่าน หลังจากท่านให้ศีลเป็นที่เรียบร้อยก็พรมน้ำมนต์ให้ ท่านมองมาที่พาสนิ่งแล้วยิ้มน้อยๆ


“สีกาได้พบแล้วนะ คนที่สีกาอยากเจอ” ท่านว่า


“คะ...” พาสงง


“แล้วจะรู้เอง อาตมาบอกได้เพียงเท่านี้” ท่านหันไปเรียกให้เด็กมาเอาของไป


“เอ่อ.... แล้วเค้า” พาสอยากจะถามต่อ แต่ก็ต้องหยุดเมื่อท่านไม่ต้องการบอกเธอก็ไม่ควรก้าวล่วงไปถามซ้ำ


“อะไรเหรอพาส” สาเองก็งงกับสิ่งที่หลวงปู่พูดไม่น้อย


“ไม่มีไร... กราบลาท่านเถอะ” พาสสะกิดแขนเพื่อน


“พวกหนูสองคนกราบลานะคะหลวงปู่” พาสกับสาก้มลงกราบอย่างสวยงาม


พาสจูงมือสาพาออกมานอกกุฏิสาวเท่ห์รับบิ่นโตคืนจากเด็กวัดจากนั้นก็เดินนำสามุ่งหน้ากลับมาที่พระอุโบสถใหญ่ ในใจของเธอตอนนี้คิดถึงแต่เรื่องที่หลวงปู่บอกเมื่อครู่


สาที่เดินควงแขนพาสมาก็ได้แต่มองหน้าเพื่อนรักด้วยความสงสัยเช่นกัน เธอเห็นพาสเดินเงียบไม่พูดอะไรก็ยิ่งอยากรู้


“ที่หลวงปู่พูดหมายถึงอะไรพาส... สาไม่เห็นเข้าใจเลย” สารั้งแขนเพื่อนไว้ให้หยุดคุยกันก่อน


“ไม่มีอะไรหรอก... เราไปไหว้พระกันดีกว่า แล้วจะได้กลับไปทำงานต่อ” พาสคว้ามือเพื่อนสาวพาเข้าไปในพระอุโบสถ


.
ณุหรือพิษณุวันนี้เขามาในชุดลำลองด้วยเสื้อโปโลแขนสั้นกางเกงยีนสีซีดตัวโปรด เขามาเดินเที่ยวในอำเภอและแวะมาไหว้พระที่วัดพอดี ชายหนุ่มเห็นพาสกับสาเข้าเขาก็ได้แต่เดินตามสาวทั้งสองมาห่างๆ จนเมื่อทั้งคู่หายเข้าไปในพระอุโบสถ


ชายหนุ่มจึงตามเข้าไปเขายืนมองสาวเท่ห์ที่ใส่เสื้อสองชั้นตัวในสีขาวตัวนอกเป็นคอปกสีดำ กางเกงยีนตัวโคล่งเหมือนพยายามปิดบังหุ่นเอาไว้ ผิวหน้าที่เนียนเรียบสีนวลมีเลือดฝาด คิ้วโก่งได้รูปโดยไม่ต้องเติมแต่ง ริมฝีปากอิ่มเต็มดูเย้ายวน จมูกน้อยๆ ที่ดูรั้น เจ้าของคงเป็นสาวที่ดื้อไม่ใช่น้อย แต่กิริยาท่าทางที่เธอแสดงออกตอนนี้ช่างขัดกับการแต่งตัวและท่าทีปกติที่แสนจะห้าวเสียเหลือเกิน ท่านั่งพับเพียบเรียบร้อยการกราบที่นุ่มนวลทำให้เขายิ้มออก เขารู้ได้เองว่าเธอคนนี้เป็นหญิงแท้เพียงแต่การทำงานและความรับผิดชอบทำให้เธอต้องทำตัวให้เป็นแมน


.
ชายหนุ่มหลบออกมาเมื่อเห็นทั้งสองสาวขยับตัวลุกขึ้น เขารอจนทั้งสองออกไปแล้วจึงเข้าไปกราบพราะประธาน ชายหนุ่มนั่งพับเพียบเขาเงยหน้ามองพระพักตร์ของท่าน เห็นพระโอษถ์ที่ดูยิ้มละไม พระเนตรที่หลุบต่ำเหมือนมองลงมาเบื้องล่างเพื่อปลอบประโลมจิตใจและเพื่อปลดทุกข์ให้กับพุทธศาสนิกชนทุกวรรณะไม่มีการแบ่งชนชั้น อยู่ที่ใครจะสามารถรับรู้ได้ถึงแก่นแห่งรสพระธรรมคำสอนอย่างแท้จริง


ณุคิดถึงความฝันของตนเองตั้งแต่ตอนครบเบญจเพศมาซึ่งแต่ก่อนความฝันนั้นนานๆ ครั้งจึงจะปรากฎ แต่ช่วงเดือนที่เขาได้ทำเรื่องจะย้ายลงมาชายหนุ่มฝันเห็นหญิงสาวผมยาวสลวยที่มองเขาด้วยใบหน้าที่บ่งบอกถึงความรัก ดวงตาและริมฝีปากอิ่มยิ้มหวานให้เขา เสียงใสกังวาลเอื้อนเอ่ยนามของใครคนหนึ่ง


“พิชญะ” นั่นคือชื่อของเขาคนนั้น


ชายหนุ่มจำได้ดีว่าชื่อที่หลุดจากปากของเขาที่เรียกเธอไว้ทุกครั้งในความฝัน “ฑิมพิกา”


และสองวันนี้เขาได้พบกับเธอ หญิงสาวมาดเท่ห์ที่มีใบหน้าเหมือนกับที่เขาฝันเห็นมานานวันนี้เขาจะได้เจอเธอไหมเขาอยากรู้จักกับหญิงคนนี้เหลือเกิน เธอจะฝันเหมือนกับเขาไหม ณุเฝ้าถามตัวเองเขาอยากรู้จริงๆ


ที่บ้านพักนายตำรวจเหล่าตำรวจในสถานีต่างมารวมตัวกันเพื่อเลี้ยงส่งสารวัตรขจร ทุกคนมาในชุดลำลองและมีชาวบ้านร้านค้าผู้ใหญ่ของอำเภอพากันมาร่วมเลี้ยงส่งและการได้ไปกินตำแหน่งผู้กำกับฯ ของสารวัตรขจร ว่าที่ผู้กำกับฯ ดูช่างยิ้มสดใส ทั้งที่ที่เขาจะกลับไปนั้นแม้จะเป็นบ้านเกิดแต่ก็เป็นถิ่นอันตรายอยู่ไม่น้อย


นายอิทธิศักดิ์ส่งวงดนตรีมาเล่นในงานส่วนตัวเองมาพร้อมกับกระเช้าของขวัญขนาดใหญ่


“วันนี้สารวัตรต้องรับนะครับ.... ไม่อย่างนั้นผมไม่ยอมจริงๆ” อิทธิศักดิ์ส่งกระเช้าให้


“ครับ.... ขอบคุณครับ” ตั้งแต่เขามาทำงานที่สถานีตำรวจแห่งนี้เขาไม่เคยรับของขวัญจากใครทั้งนั้น เขาเป็นตำรวจมือสะอาดคนหนึ่งที่หาได้ไม่ง่ายนัก แต่คงต้องยอมรับว่ายังคงมีให้เห็นอยู่บ้าง


“เชิญหาที่นั่งตามสบายนะครับคุณอิทธิศักดิ์” สารวัตรกล่าวอย่างเป็นกันเอง


“เอ่อ... พาส เอ๊ย หมวดพาสนามาหรือยังครับ” อิทธิศักดิ์ถามพร้อมกับชะเง้อเข้าไปด้านใน


“มาแล้วครับมาช่วยดูแลเรื่องอาหารรับรองแขกตั้งแต่เมื่อบ่าย... ตอนนี้คงนั่งอยู่กับผู้กำกับกรและคุณสาด้านในละครับ” เขาพูดยิ้มๆ


“ครับ... ผมเข้าไปด้านในละครับ” อิทธิศักดิ์รีบตรงเข้าไปทันที


สารวัตรขจรมองตามหลังนายอิทธิศักดิ์ไปเพียงครู่ พอหันกลับมาเขาก็พบกับณุ


“อ้าวมาแล้ว.... เชิญครับไปด้านในกัน... ผมจะพาไปแนะนำให้รู้จักกับทุกคน” ขจรเดินนำหน้าณุเข้าไป


พาสกำลังหน้านิ่วคิ้วผูกปมอยู่ในขณะที่อิทธิศักดิ์กำลังพยายามพูดด้วย ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเดี๋ยวนี้พาสยังไม่ได้นอนเลย นั่นยิ่งทำให้เธอหงุดหงิดนายคนนี้เป็นเท่าทวี พาสตั้งท่าจะลุกหนี แต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะเธอเห็นสายตาปรามของกรที่มองมา


กรเองก็ใช่ว่าจะพอใจนักที่นายอิทธิศักดิ์มาตามตอแยพาส แต่เขาไม่ต้องการให้พาสแสดงกิริยาไม่ดีต่อหน้าผู้คนเพราะคนที่มาไม่ได้มีเฉพาะพวกเขาเท่านั้น แต่ยังมีคนอีกหลายกลุ่มทีเดียว


“พี่กร...” พาสเรียกชื่อคนตรงข้ามเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่พูด พาสได้แต่ทำหน้าง้ำ


นายอิทธิศักดิ์ดูจะไม่ได้สนใจอะไรเขาเอาแต่ยิ้มให้หญิงสาว สำหรับหนุ่มตี๋คนนี้แล้วไม่ว่าพาสจะทำอะไรก็น่ารักไปหมด จะโกรธจะว่าเขาอย่างไรก็ไม่เคยถือสาสักครั้ง ขอเพียงให้เขาได้พูดได้คุยกับเธอเท่านั้นก็พอ


“วันมะรืนนี้อิทจะเข้ากรุงเทพฯ พาสอยากได้อะไรเป็นพิเศษไหม อิทจะซื้อมาให้”


“ไม่ต้อง.... บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่เอา” พาสพูดเสียงเรียบ


“ก็อิทอยากซื้อให้พาสนี่ครับ ไว้อิทเลือกมาให้แล้วกันนะ พาสต้องชอบแน่ๆ” เขาหมายมั่น เขาไม่ได้รู้เลยว่าของที่เขาซื้อมาให้นั้นพาสเอาไปแจกบรรดาภรรยาผู้ใต้บังคับบัญชาหรือไม่ก็ตำรวจสาวๆ ในสถานีหมด

----------------------------------------------------------2


ขจรแนะนำณุให้รู้จักกับแขกที่มางานเลี้ยงส่งเขาตลอดทาง จนมาหยุดอยู่ด้านหลังของสาวมาดเท่ห์


“ทุกคนครับผมขอแนะนำให้ได้รู้จักกับสารวัตรพิษณุ เขาจะมาประจำที่อำเภอของเรา”ขจรบอกกับทุกคนที่นั่งอยู่


“กับผมคงไม่ต้องแนะนำแล้วล่ะขจร” กรบอก


“ครับ” ณุทำความเคารพ


แล้วกำลังจะหันไปทางสาแต่ก็ถูกอิทธิศักดิ์ลุกขึ้นยื่นมือมาหาเสียก่อน “ผมอิทธิศักดิ์ครับเป็นเจ้าของธุรกิจในจังหวัดมีการค้าหลายอย่างครับ ยังไงถ้ามีอะไรขาดเหลือสารวัตรบอกผมได้นะครับ เดี๋ยวผมจัดการให้ได้”


“สวัสดีครับคุณอิทธิศักดิ์ และต้องขอขอบคุณนะครับสำหรับความมีน้ำใจแต่ผมคงไม่รบกวนหรอกครับ” ณุบอกด้วยสีหน้าเรียบเป็นปกติ


“อะ.... ครับ” อิทธิศักดิ์ดูเสียหน้าเล็กน้อย เขากลับมาลงนั่งข้างพาสตามเดิม


“สวัสดีค่ะสารวัตร สาเป็นน้องของพี่กรค่ะ” สาที่นั่งอยู่อีกด้านของพาสไหว้สารวัตรหนุ่ม


“ครับ... ยินดีที่ได้รู้จักคุณสาครับ” ณุยิ้มน้อยๆให้


“ยินดีเช่นกันค่ะ”


พาสเองตามตำแหน่งและหน้าที่แล้วเธอจำเป็นต้องทำความเคารพสารวัตรคนใหม่ พาสขยับตัวลุกขึ้นเธอเลื่อนเก้าอี้ให้พ้นตัว หญิงสาวหันหลังมายืดตัวตรงทำความเคารพ พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่ม เมื่อเธอมองเห็นหน้าของณุชัดๆ


สายตาที่มองมายังเธอดูหวานหยด แต่มันกลับทำให้พาสเห็นเป็นดวงตาคมของชายในความฝัน สาวเท่ห์ถึงกับหน้าถอดสีด้วยความคาดไม่ถึงร่างกายของเธอเซถอยไปชนเข้ากับเก้าอี้


“ระวัง....” ณุรีบคว้าตัวของพาสไว้ เขากลัวว่าเธอจะล้ม แล้วก็เหมือนมีกระแสอะไรบางอย่างที่แล่นผ่านเข้าสู่ร่างกายของสองหนุ่มสาว


จู่ๆ ร่างน้อยก็อ่อนยวบไปทันที ดีที่ว่าณุจับเธอไว้แล้ว เขาสวมกอดร่างของเธอไว้ทั้งตัว


“พาส” ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างตกใจกับภาพตรงหน้า เสียงเซ็งแซ่ของผู้คนใกล้ๆ กันนั้นทำให้วงนอกต่างพากันสนใจขึ้นมาว่าเกิดอะไรขึ้น


“ผมจะพาเธอไปพักที่ไหนได้ครับ” ณุถาม เขากอดร่างน้อยไว้ด้วยความเป็นห่วง ไม่มีใครได้ทันสังเกตว่าท่าทีของชายหนุ่มดูหวงแหนหญิงในอ้อมกอด เขาไม่ยอมแม้แต่จะให้อิทธิศักดิ์แตะต้องตัวเธอ


“พาสมีห้องอยู่ที่นี่ค่ะ” สารีบหยิบกระเป๋าเป้ของพาสล้วงเอากุญแจออกมา


“พี่พาพาสไปเองก็ได้” กรทำท่าเดินเข้ามา เพื่อจะรับตัวพาส


“ไม่เป็นไรครับ...ผมพาไปได้” ณุรีบจัดการช้อนร่างของหญิงสาวขึ้นมาแนบอก


“.........” กรมองสารวัตรคนใหม่นิ่ง


“ไปค่ะ” สาบอก เธอไม่ได้สนใจอะไรนอกจากห่วงเพื่อน
ณุอุ้มพาสตามหลังสาไปคนที่เหลือต่างมองตามไป กรเริ่มรู้สึกได้ว่าคนๆ นั้นดูท่าจะมาเป็นคู่แข่งของเขา แต่สิ่งที่คาใจเขาคือทั้งสองไม่น่าจะรู้จักกันมาก่อน แล้วทำไมณุถึงมีทีท่าห่วงและหวงพาสอย่างชัดเจนขนาดนั้น


แขกเหรื่อต่างวิภากวิจารณ์ไปต่างๆ นาๆ ระหว่างพาสกับสารวัตรคนใหม่ สาวๆ บางคนดูจะหวงหมวดพาสสาวหล่อของกรมนี้มาก แต่บางคนเริ่มจะติดใจในความหล่อเหลาของสารวัตรใหม่ก็พากันหมั่นไส้พาส ต่างคนก็ต่างใจกันไปคนละทาง


ณุอุ้มร่างน้อยมาวางลงบนที่นอนนุ่ม เขาคุกเข่าอยู่ข้างๆ เตียงมือข้างหนึ่งท้าวอยู่บนที่นอนอีกข้างก็ค่อยๆ ปัดผมที่ปลกหน้าของพาสออก เขามองวงหน้าของหญิงสาวที่กำลังสลบไสล ณุมองที่ริมฝีปากอิ่มเขากำลังจะเลื่อนมือใหญ่ลงมาหาริมฝีปากนั้นแต่ก็ต้องชะงักไป เมื่อเสียงสาที่ดังมาจากด้านนอกประตูห้อง สาเข้ามาพร้อมกับยาหอม


“มาแล้วค่ะยา.... สงสัยว่าพาสจะเหนื่อยนะคะเลยเป็นลมไป เนี่ยตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่ได้นอนเลย จริงๆ ก็ไม่ได้นอนหลับสนิทมาหลายวันแล้ว” สาก็พูดไปเรื่อยเธอไม่ได้สนใจชายหนุ่มสักนิด


“ครับ..” ณุตอบรับ เขาลุกออกห่างเพื่อให้สาเข้าไปดูแลเพื่อน


“ปกติเขาแข็งแรงนะคะ... ไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน... ยกเว้นเมื่อคราว...” สาพูดแล้วก็ต้องหยุด เพราะคิดว่าพูดมากเกินควรไปแล้ว เธอเสหันไปสนใจเพื่อนแทน สาวหวานเอายาดมอังที่จมูกเพื่อน


“พาส.... พาส...” สาเรียกเพื่อน


“ขอโทษนะครับ.... ที่บอกว่ายกเว้นเนี่ยอะไรพอบอกได้ไหมครับผมเป็นพวกไม่ได้รับความกระจ่างแล้วจะคาใจน่ะครับ” ณุถาม


สาหันมามองชายหนุ่มนิดหน่อยก่อนตอบ “เขาเคยเป็นลมครั้งหนึ่งค่ะ เมื่อตอนเพื่อนร่วมงานเสียชีวิตน่ะค่ะ”


“อือ....” พาสเริ่มขยับตัว


“พาส... เป็นไงบ้าง” สารีบหันกลับมาดูเพื่อน


“สา...” พาสค่อยๆ ลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนสาวเรียก


“จ้ะสาเอง... พาสดีขึ้นหรือยัง”


“อืม... ดีขึ้นแล้ว” พาสยิ้มให้ สักครู่เธอก็พยายามลุกขึ้น


“นอนพักก่อนดีกว่า... พาสคงเหนื่อยนอนสักหน่อยนะแล้วค่อยลงไป” สาใช้มือกดไหล่เพื่อน


“พาสไม่เป็นไร.... เราลงไปกันเถอะพาสไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วง” พาสจับแขนเพื่อน เธอขยับมานั่งตรงขอบเตียง พาสมองเลยเพื่อนสาวไปยังชายหนุ่มที่ยืนพิงผนังห้อง
พาสรู้สึกเสียหน้ามากที่ต้องมาเป็นลมในอ้อมแขนของผู้ชายแปลกหน้า ทั้งที่ปกติเธอก็ไม่เคยแสดงความอ่อนแอให้ใครได้เห็น แล้วยังมาเป็นต่อหน้าคนทั้งอำเภออีกด้วย พาสถึงกับอยากจะพาลคนตรงหน้า


“ขอบคุณ” พาสพูดเสียงเรียบดูออกจะห้วนไปสักนิดเสียด้วยซ้ำ


“ไม่เป็นไรครับ... ผมเต็มใจ ผู้หมวดอุตส่าห์มาเป็นลมในอ้อมแขนทั้งที” ณุแหย่เมื่อเห็นว่าเธอทำท่าแข็งใส่เขา ทั้งที่เขาออกจะเป็นห่วงเธอขนาดนี้


“นี่สารวัตรพูดดีๆ นะ ใครเค้าอยากไปเป็นลมในอ้อมแขนของสารวัตรกัน” พาสขึ้นเสียง


“อ้าวผมจะไปรู้ได้ไงละครับ... ก็จู่ๆ” ณุยิ้มกริ่ม


“ฉันไม่ใช่แบบที่สารวัตรคิดนะ” พาสโวย


“ผมยังไม่ได้คิดอะไรเลย หรือว่าจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ” ณุขยับเข้ามาใกล้


“เฮ้ย....” พาสตั้งท่าจะสวนคำต่อแต่ถูกเพื่อนสาวปิดปากไว้ซะก่อน


“พอแล้วพาส... สารวัตรเขาช่วยพามาส่งก็ขอบคุณเขาดีๆ หน่อยไม่ได้เหรอไงล่ะ”


“ก็ขอบคุณแล้วไง” พาสว่า


“พูดให้ดีกว่านี้หน่อยสิ พูดเป็นมะนาวไม่มีน้ำเอาซะเลย” สาว่าเพื่อน เธอรู้นิสัยพาสดีว่าคงรู้สึกไม่ดีนักกับสภาพที่เกิดขึ้น


ณุมองหน้าที่บึ้งตึงของพาสด้วยรอยยิ้ม เธอคนนี้แม้ขณะหน้าง้ำก็ยังคงดูน่ารัก เวลาโกรธแก้มใสกลับเป็นสีชมพูระเรื่อน่ามอง


“ผมขอตัวก่อนดีกว่าครับคุณสา ผู้หมวดเธอจะได้พักผ่อนให้สบายกว่านี้”


“ค่ะขอโทษแทนพาสด้วยนะคะ... ยังไงก็ขอบคุณสารวัตรด้วย” สายิ้มอย่างจริงใจให้กับณุ


“ครับ... ไว้เจอกันนะครับหมวด” ณุยิ้มเจ้าเล่ห์ให้พาส


“.........” พาสมองณุไปแบบตาขวางๆ


ณุยิ้มให้กับสาแล้วมองนิ่งที่พาสอีกครั้งก่อนก้าวออกจากห้องไป เขากลับมาที่จัดงานด้วยใบหน้าที่สดใส ชายหนุ่มนึกถึงร่างน้อยที่แสนจะนุ่มนิ่ม กลิ่นหอมจางๆ จากร่างของเธอทำใหเขาต้องยิ้มอย่างเป็นสุข


“.........พาสเป็นอย่างไรบ้าง” กรถามขึ้นเมื่อณุเดินมาที่โต๊ะ


“ได้สติแล้วครับ... เห็นคุณสาว่าหมวดเธอเหนื่อยมาหลายวัน”


“ใช่....คงอย่างนั้น” กรพยักหน้าเห็นด้วยกับน้องสาว


“อย่างนี้เค้กเซอร์ไพรส์วันเกิดนี่ละครับ” อิทธิศักดิ์ถามขึ้น เขาต้องการจัดงานวันเกิดให้พาสแต่รู้ว่าหญิงสาวคงไม่ยินดี เขาจึงหอบเอาเค้กก้อนใหญ่มามอบให้เธอที่นี่


“วันนี้วันเกิดหมวดพาสนาเหรอครับ” ณุมองเค้กแล้วถามขึ้น


“ใช่.... แต่ปกติพาสเขาจะกลับบ้านไปเลี้ยงกันที่นั่น พอดีวันนี้มีเลี้ยงส่งสารวัตรขจรเลยไม่ได้กลับ” กรตอบ


“ถ้าพี่พาสได้สติแล้ว.... เดี๋ยวก็คงจะลงมาละครับ” กำธรบอก


“นั่งกันเถอะณุ” ขจรตบไหล่สารวัตรหนุ่ม ส่วนตัวขจรเองเดินมาลงนั่งข้างๆ กร ณุนั่งลงตรงที่นั่งเดิมของพาสติดกับอิทธิศักดิ์


“เอ่อ.... คือ” อิทธิศักดิ์ เหมือนอยากจะบอกณุว่านี้เป็นที่นั่งของพาส แต่เขาก็ไม่กล้า ยิ่งเมื่อณุมองกลับมาที่เขา ทำให้หนุ่มตี๋ได้แต่เพียงยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม


สักพักพาสก็กลับมาที่งานเลี้ยงเธอมาที่โต๊ะ พอเห็นณุที่นั่งอยู่ตรงที่ของเธอหญิงสาวก็หน้าบูด แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรพอดีกลับสาวๆ พากันเข้ามาหาและอวยพรวันเกิดให้ ต่างพากันจูงมือพาสให้ไปทางโต๊ะของพวกเธอ


“หมวดคะวันนี้วันเกิดหมวดพวกเรามีอะไรจะเซอร์ไพรส์น่ะค่ะ มาด้วยกันหน่อยนะคะ”


“ฮะ.... ได้สิฮะ” พาสยิ้มแย้มกับสาวๆ


“น่ารักจังค่ะหมวด.... มาเร็วค่ะ” หนิงสาวเปรี้ยวซ่าประจำอำเภอเข้ามาควงแขนพาส ส่วนแขนอีกข้างก็มีนิดสาวอวบมาเบียดจนสาต้องปล่อยมือจากพาส


“นี่พวกเธอ....” สาตั้งท่าจะโวย แต่ก็ไม่ทันซะแล้ว พวกสาวๆ ต่างพากันลากพาสไปที่กลุ่มของพวกเธอ
-----------------------------------------------------------3


พาสหันกลับมายิ้มให้เพื่อนสาวแล้วสายตาก็เผลอเหลือบไปมองหน้าชายหนุ่มที่นั่งอยู่ เขาเองก็มองเธออยู่เช่นกัน พาสต้องรีบหันกลับหัวใจของเธอเต้นระรัวอย่างห้ามไม่อยู่


พาสถูกพามานั่งที่โต๊ะของกลุ่มสาวเปรี้ยวประจำอำเภอ ทุกคนต่างพากันเอาอกเอาใจพาสสารพัด หาน้ำให้ทานหาขนมมาส่งแทบจะประเคนถึงปากถ้าพาสยอม


“เมื่อกี้หมวดพาสเป็นอะไรไปคะ หนิงเป็นห้วงเป็นห่วง”


“พาสอดนอนมาหลายวันน่ะฮะ พอลุกกระทันหันก็เลยหน้ามืดไป” พาสพูดแก้ตัวไป


“เห็นไหม.... ฉันบอกพวกหล่อนแล้ว ช่วงนี้เห็นหมวดทำงานหามรุ่งหามค่ำ” นิดรีบหันไปพยักเพยิดกับสาวๆ ในกลุ่ม


“โถ... น่าสงสารหมวดจัง คงเหนื่อยนะคะ” สาวหนิงหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา จะซับเหงื่อตามไรผมให้


พาสเบี่ยงตัวหลบนิดหน่อยแต่พอเห็นสีหน้าน้อยใจของหนิงเข้า พาสจึงทำเป็นจับมือของหญิงสาวไว้ส่วนอีกมือก็รับผ้ามาจากมือเรียวนั้น


“พาสเช็ดเองดีกว่าฮะ เดี๋ยวคนอื่นจะเขม่นหนิงเอา พาสไม่อยากเห็นหนิงถูกคนอื่นรังแก” พาสกระซิบเบาๆ พร้อมกับทำตาหวานใส่


“ค่ะ...” สายตาของพาสทำเอาสาวหนิงถึงกับเพ้อ


“คุยอะไรกันแค่สองคนคะหมวด” สาวอีกคนในโต๊ะถามอย่างงอนๆ


“ไม่มีอะไรฮะ...โธ่ พาสไม่กล้ามีความลับกับทุกคนหรอกฮะ” พาสทำเสียงออดอ้อน ทั้งที่ในใจตอนนี้อยากหนีไปให้พ้นๆ จากกลุ่มของสาวๆ เสียเหลือเกิน


ระหว่างที่สาวๆ แย่งกันพูดกับพาสอยู่นั้น มีสาวสูงวัยท่าทางภูมิฐานเดินมาที่โต๊ะที่พาสนั่งอยู่ ข้างกายเธอมีเด็กสาวเดินตามหลังมาในมือถือกล่องของขวัญมาด้วยหนึ่งกล่องใหญ่


“พาส.... ลูก” คุณนายอัญชสาเรียกพาส


“แม่อัญมาได้ไงคะ” พาสรีบผละจากสาวๆ ทันที เธอตรงเข้าไปสวมกอดผู้สูงวัย


“วันนี้แม่รอพาสทั้งวันคิดว่าหนูจะมาหาแม่ก่อนกลับบ้านสวน จนยายจุ๋มมาบอกว่าเห็นหนูวุ่นทั้งวันและมาช่วยงานเลี้ยงส่งสารวัตรขจรแม่ก็เลยมานี่ละ”


คุณนายอัญชสา เป็นภรรยาม่ายของอดีตท่านผู้ว่าฯ ที่ล่วงลับไปเมื่อเกือบปีที่ผ่านมา ท่านรักและเอ็นดูพาสมากเพราะท่านทั้งสองไม่มีบุตรเลยสักคน ยิ่งเห็นถึงความขยันทำงานและความอ่อนน้อมของพาส ท่านถึงกับไปขอพาสกับทางบิดามารดาที่บ้านสวน


“หนูขอโทษค่ะ มัวแต่ยุ่งๆ เลยลืมโทรบอกแม่อัญ” พาสกราบลงที่อกของผู้สูงวัย


“จ้า... ไม่เป็นไร นี่แม่ก็กะว่าจะมาหาสารวัตรอยู่พอดี” ท่านว่า


สารวัตรขจรเข้ามาหาคนทั้งสอง เขายกมือไหว้คุณนายผู้ว่าฯ ด้วยความเคารพ “ไม่คิดว่าคุณอัญจะให้เกียรติมาถึงนี่ เชิญไปนั่งด้วยกันที่โต๊ะผู้กำกับนะครับ”


“ค่ะสารวัตร อิฉันจริงๆ ก็แค่ต้องการมาตามลูกสาวน่ะค่ะเห็นหายไปหลายวัน” คุณอัญลูบแขนพาส


“อ้อครับ.... ช่วงนี้หมวดเธอยุ่งครับ ผมยังแทบจะไม่ได้เห็นหน้าเธอเลย” สารวัตรยิ้มมองไปทางพาส


“ก็ยุ่งจริงๆ นี่คะแม่อัญ หนูก็ทำแต่งานนี่ละค่ะ เลยไม่ได้แวะไปหา” พาสยิ้มอ้อน


“จ้า.... แม่ละเชื่อเราเลยขยันจริงๆ”


“สิ้นปีนี้หมวดก็จะได้ปรับเป็นผู้กองแล้วนะครับคุณอัญ” สารวัตรที่เดินคู่มากับคุณอัญชสาบอก


“อ้าวเหรอ...” ท่านอุทานกับสารวัตร แล้วหันไปทางพาส “ไม่เห็นหนูบอกแม่สักคำ”


“เอ่อ...” พาสงง เธอหันไปมองทางสารวัตรขจร


“เธอเองก็ยังไม่รู้หรอกครับ พอดีผมคุยกับผู้กำกับเมื่อวันก่อน” ขจรไขข้อข้องใจ


“ดีจริง เนี่ยเพราะหนูมีผลงานเห็นไหม ทำงานมาสองปีก็ได้เลี่อนเป็นผู้กองแล้ว” คุณอัญคว้าพาสมากอดด้วยความดีใจ


“แต่หนูว่ามันเร็วไปไหมคะแม่อัญ.... สารวัตร” พาสเหลียวมองทางสารวัตรขจร เธอกลัวว่าคนอื่นจะหาว่าเธอใช้เส้นทั้งจากทางคุณนายท่านผู้ว่า และจากพี่กร


“ใครเค้าจะว่าละพาส.... ผลงานของพาสที่ผ่านมานี่หลายชิ้นมากเลยนะเด่นๆ ทั้งนั้น” ขจรพูดให้กำลังใจ


“ใช่ทุกอย่างที่หนูทำไม่ได้เกิดจากคนอื่นนะ เกิดจากฝีมือของลูกเองทั้งนั้น” คุณอัญบอก เธอรู้ว่าพาสกลัวคำครหา


“ค่ะ... ขอบคุณนะคะแม่อัญ ขอบคุณฮะสารวัตร” พาสยิ้มออกมาได้บ้าง


ทั้งสามมาที่โต๊ะเดิมที่กรนั่งอยู่ กรลุกขึ้นไหว้คุณอัญชสา ทำให้ทุกคนที่นั่งอยู่ต้องลุกตาม สาไหว้พร้อมกับยิ้มให้ผู้สูงวัย


“มาตามพาสถึงงานเลยเหรอคะคุณแม่”


“สิจ๊ะ ลูกไม่ไปหาก็ต้องมาตามเนี่ยละจ๊ะ แม่สา” คุณอัญยิ้มรับ


คุณนายผู้ว่าฯ มองไปทางชายหนุ่มที่ยืนนิ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม “คุณคงจะเป็นสารวัตรคนใหม่สินะคะ”


“ครับ สวัสดีครับคุณอัญชสา ผมนับถือท่านผู้ว่ามานานแล้ว แต่ก็ไม่สามารถลงมางานศพของท่านได้”


“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ท่านไปสบายแล้ว” คุณอัญยิ้มน้อยๆ


“เชิญครับ....” กรเลื่อนเก้าอี้ให้


“ขอบใจนะผู้กำกับ”


กรกับพาสช่วยพยุงผู้สูงวัยกันคนละด้าน กรกับพาสยิ้มให้กัน ภาพคนทั้งสองนั้นดูจะเป็นที่ชื่นชมของใครหลายๆ คน แต่ไม่ใช่สำหรับณุที่นั่งมองอยู่เขาจ้องมองไปที่พาสไม่วางตา พาสหันมาเห็นสายตาของณุเข้าเธอถึงกับทำอะไรไม่ถูกจำต้องเสมองไปทางอื่น เธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่กล้าที่จะสบลูกในตาของคนตรงข้ามนัก


“สารวัตรจะมาเริ่มงานเมื่อไหร่คะ” คุณอัญถาม


“คงเป็นต้นเดือนนี้ละครับคุณอัญชสา” ณุหันไปตอบ


“เรียกป้าเฉยๆ ก็ได้ค่ะ กันเองดี”


“ครับขอบคุณครับ” ณุยกมือไหว้ขอบคุณอีกครั้ง


“จุ๋มเอากล่องของมา” คุณอัญ หันไปทางเด็กที่บ้าน


“ค่ะ” จุ๋มเข้ามาใกล้ๆ แล้วส่งกล่องนั้นมาทางพาส


“อันนี้เป็นของขวัญวันเกิดของหนูนะลูก” คุณอัญแตะที่กล่องใบใหญ่นั้น


พาสรับกล่องมาจากจุ๋ม หญิงสาวมองหน้าคุณอัญด้วยความรู้สึกทั้งรักและเคารพผู้สูงวัย เธอไม่เคยหวังว่าจะได้อะไรจากท่านแม้แต่น้อย แต่ท่านก็มอบให้เธอมากมายทั้งความรักความเอ็นดูเอาใจใส่ พาสวางของบนโต๊ะแล้วก็ลงมาคุกเข่ากับพื้นกราบลงที่ตักของท่านก่อนจะสวมกอดเอวท่านไว้แน่น


“ขอบคุณค่ะแม่อัญ” พาสพูดเสียงสั่นเครือน้ำตาซึม


“อะไรกัน นายตำรวจหญิงมาทำบ่อน้ำตาตื้นได้ไงกันจ๊ะ...หือ” คุณอัญแหย่ แต่สองมือของท่านก็โอบพาสไว้เช่นกัน


เพียงครู่เดียวเสียงดนตรีกับเสียงอวยพรวันเกิดก็ดังขึ้น ทำให้พาสต้องลุกขึ้นมา เธอยิ้มให้กับทุกคนรอบๆ งาน และคนที่ยืนข้างๆ เธอแต่ไม่มองไปทางณุสักนิด


“สุขสันต์วันเกิดนะครับพาส ขอให้พาสมีความสุขมากๆ” อิทธิศักดิ์ฉวยโอกาสอวยพรก่อนใคร


“แม่ขอให้ลูกพบกับสิ่งที่ดีในชีวิต” คุณอัญชสากล่าวพร้อมกับลูบหลังไหล่พาส


“พี่ก็ขอให้พาสมีความสุขมากๆ นะ สุขภาพแข็งแรง” กรยิ้มหวานให้พาส


“ขอบคุณทุกคนมากๆ ฮะ ทั้งที่เป็นงานเลี้ยงส่งสารวัตรขจรแท้ๆ ต้องขอบคุณสารวัตรด้วยนะฮะ” พาสไหว้ขจร


“พี่ยินดีที่ได้อวยพรพาสเช่นกัน เพราะถ้าพี่กลับไปแล้วไม่รู้จะได้มาอีกเมื่อไหร่” ขจรพูดเนิบๆ


“ไว้พาสจะลงไปเยี่ยมพี่ขจรเองก็ได้ฮะ” พาสบอก


“อืมแล้วพี่จะรอ” ขจรยิ้มรับ


“เอาตัดเค้กได้แล้วพาส สาอยากกินเค้ก” สาส่งจานกับมีดให้เพื่อน


“ไม่งกกินเลยนะ” พาสเอาด้ามมีดพลาสติกจิ้มหน้าผากเพื่อน ทุกคนต่างพากันหัวเราะขันไปกับสาที่ทำแลบลิ้นใส่พาส


ณุได้แต่ยิ้มน้อยๆ เขาได้แต่มองหญิงสาวอยู่ห่างๆ ปล่อยให้คนอื่นๆ เข้าไปอวยพรพาส ชายหนุ่มนั่งนิ่งสายตาจับจ้องอยู่ที่เธอตลอด เขาได้พบกับเธอคนนั้นแล้วและเขามั่นใจว่าเธอต้องฝันเห็นเขาเช่นกัน แต่แบบไหนล่ะถึงทำให้สาวห้าวคนนี้ถึงกับหน้าซีดไป ณุอยากรู้คำตอบ

จบบทที่ 3 ค่ะ





Create Date : 03 กันยายน 2549
Last Update : 6 กันยายน 2549 2:45:13 น. 3 comments
Counter : 275 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะพี่เจ ดีใจจังได้อ่านนิยายต่อด้วย เป็นกำลังใจให้ค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ


โดย: nazei IP: 202.12.74.5 วันที่: 3 กันยายน 2549 เวลา:13:04:17 น.  

 
สวัสดีค้าบพี่เจ

มารออ่านทุกเช้าเลย วันนี้ให้กำลังใจคนแต่งหน่อยดีกว่า

สู้ๆๆๆนะคะ ฟะรออ่านอยู่อย่างหม่ำเหมอ

สนุกมาก น่าติดตามที่สุด


โดย: ฟะ IP: 202.12.74.8 วันที่: 5 กันยายน 2549 เวลา:20:34:51 น.  

 
อิอิ เอากำลังใจมาฝากด้วยคนจ้า


โดย: pon00 วันที่: 6 กันยายน 2549 เวลา:1:19:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jd_spn
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




-ความรักเป็นสิ่งสวยงามแต่มิใช่จะเกิดได้ง่ายดาย เมื่อได้มาก็จงเก็บรักษาไว้ เพื่อจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลัง
-อยากมอบสิ่งดีๆ ให้กับทุกคน และมอบความรักให้กับคนอันเป็นที่รักทุกคน
คุยกันหลังไมค่กดที่ตุ๊กตาเด็กเล่นน้ำนะคะ
cursor
Friends' blogs
[Add jd_spn's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.