Group Blog
 
All blogs
 
เจ้าลูกแมวตัวน้อย ตอนที่ 1


ใคร ๆ ก็รู้ (เพื่อนสนิท) ว่าฉันกลัวแมวยังกับอะไรดี ไม่เกลียด แต่กลัว โดยเฉพาะกลัวแมวมอง (มิน่าหล่ะ ถึงไม่ได้เข้าสู่วงการบันเทิงกับเขาซักที ใครเคยว่าเอาไว้ลืมไปแล้ว) ตาของแมว จะว่าสวยก็สวย มันกลมโต ใสบ้องแบ๊ว หางตาตวัดขึ้นเล็กน้อย คมกริบ เหมือนนางพญา จะว่าน่ากลัวมันก็ใช่เลย ฉันเคยคิดอยากเป็นคนรักแมว อยากเลี้ยงสัตว์ที่มันไม่ซุกซน ไม่ส่งเสียงดังรบกวน เยื้องย่างสง่างามเหมือนเสือชีตาร์ตัวเล็กๆ และร่างกายไม่ใหญ่โตคับห้อง แต่ความพยายามในเรื่องนี้ริบหรี่ลงไปเรื่อยๆ จนเกือบจะดับ ทุกครั้งที่ฉันโดนเจ้าเหมียวหง่าวเฉียดกรายเข้ามาใกล้ๆ ขนแขนจะลุกชันจนแทบจะเก็บความกลัวไว้ไม่ได้ อยากจะกรี๊ดออกมาดัง ๆ ให้มันรู้แล้วรู้รอดไป

มีไม่กี่ครั้งที่ฉันออกอาการเสียจริต ให้คนรอบข้างได้เห็น เพราะไม่อยากให้ใครรู้ความลับอันน่าขวยเขินนี้สักเท่าไหร่ เพราะเวลาใครได้ยินว่าฉันกลัวแมว เขาจะมองหน้าฉันแปลกๆ ทำตาปริบๆ เหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง ประมาณว่า ถามจริง ผู้หญิงถึกๆ อย่างเธอเนี่ยนะ... หรือ ล้อเล่นเปล่า... หรือ จะบ้าตาย กลัวทำไมเนี่ยกะอีแค่แมว ฉันอายเวลาต้องวิ่งหนีแมว โดยที่ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าแมวมันมีเซนส์รับรู้อะไรได้บางอย่างหรือเปล่า ว่าใครไม่อยากให้มันเข้าใกล้ แล้วมันก็จะแกล้งเย้าแหย่ ให้คนๆ นั้นเสียศูนย์ ฉันรู้สึกว่าฉันเป็นคนที่มีเสน่ห์ต่อแมว (คิดเอาเองอ่ะ) เพราะไม่ว่าไปแห่งหนตำบลใด ที่มีแมว ฉันมักจะตกเป็นเป้าหมายในการเข้ามาหา มาคลอเคลีย ของแมว แล้วมันชอบทำเหมือนกับว่า อยากใกล้ชิดฉันให้มากที่สุดเท่าที่มันจะทำได้

มีครั้งหนึ่ง ในช่วงที่ฉันทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง มีโอกาสได้ไปร่วมงานสวดศพ แม่ของบอส (เรียกกันแบบเว่อร์ๆ จนติดปาก แต่จริงๆ พี่เขาก็เป็นเจ้านายจริงๆ อ่ะแหล่ะ) ที่วัดธาตุทอง พวกเราไปกันหลายคน ก่อนที่แขกอื่นๆ จะเริ่มทยอยมา เราใช้เวลาว่างตรงนี้ ช่วยกันจัดพวกของที่จะใช้ในงาน เป็นพวกกระดาษเงินกระดาษทองอะไรประมาณนี้ฉันก็จำไม่ค่อยได้นัก พวกเรานั่งกันอยู่หลายคนเลยทีเดียว แล้วหางตาฉันก็เหลือบไปเห็นเจ้าเหมียวหง่าวตัวต้นเรื่อง เอาล่ะสิ มันมาจากไหนไม่มีใครรู้ แต่มันกำลังเดินตรงมาทางนี้แล้ว ฉันทำเป็นมองไม่เห็นมัน แต่ใช้หางตาคอยสังเกตการณ์ไว้ตลอด พลางคิดในใจ "ไปทางนั้นสิฟะ ซ้ายอีกหน่อย ๆ อย่าตรงมาทางนี้ อย่าตรง... อย่า... ซ้ายอีกหน่อยสิโว้ยยย" เหมือนเจ้าเหมียวหง่าวจะได้ยินความคิดของฉัน มันเดินผ่านคนมากมาย แล้วโฟกัสมาที่ขาฉันทันที ฉันแกล้งทำเป็นเปลี่ยนท่า เขยิบขาไปวางไว้อีกฟากหนึ่งอย่างช้าๆ เพราะถ้าทำเร็ว ๆ กลัวเจ้าหง่าวจะคิดว่าเล่นด้วย เจ้าตัวดียังเดินตามมาไม่ลดละ เอียงคอมาแต่ไกล หวังจะคลอเคลีย ฉันตัดสินใจกระเถิบหนีจากเก้าอี้ตัวเดิม ไปนั่งตัวที่ห่างไปอีกสองตัว แต่มันก็ยังตามมาอยู่พร้อมกับเอาหัวมาถูขาฉันทำตาพริ้ม ปากก็ร้อง หม่าว... หม่าววว.... ต่อมอิมเมจฉันถึงคราวแตกทันที อยากจะร้องกรี๊ดๆๆๆ ออกมาก็เกรงใจ บอส และมีหัวหน้างานนั่งอยู่แถวๆ นั้นด้วย แต่จะให้ทนเจ้าเหมียวต่อไปก็ทำไม่ไหว เลยลุกขึ้นวิ่งหนีทันที แมวเจ้ากรรมก็ช่างตื้อเหลือเกิน มันวิ่งไล่ตามฉันยังกับฉันเป็นหนูจี๊ด วิ่งไปทางไหนก็ไล่ตามอย่างกระชั้นชิด ฉันไม่รู้จะหนีมันไปทางไหนแล้ว ได้แต่ยืนร้องไห้โฮอยู่ตรงนั้น กว่าที่เพื่อนฉันจะวิ่งตามมาแล้วก็กวักมือไล่เจ้าเหมียวไป ท่ามกลางสายตาไม่น้อยกว่ายี่สิบคู่ ที่มองมาเป็นจุดเดียว (ทำไมไม่รอให้ฉันหัวใจวายตายไปก่อน แล้วค่อยวิ่งมาเก็บศพล่ะยะแม่คุณ) เหตุการณ์วันนั้น ทำให้ฉันเสียภาพพจน์ไปไม่น้อย ลองนึกภาพว่ามีผู้หญิงบ๊องๆ คนนึง วิ่งหนีแมว อยู่บริเวณศาลาวัด ที่กำลังมีงานศพอยู่ และบรรยากาศโดยรอบกำลังเต็มไปด้วยความเศร้า และที่สำคัญ มีบอสของฉันเป็นเจ้าภาพ ใส่ชุดไว้ทุกข์ นั่งคุยกับแขกอยู่ตรงนั้นด้วย เฮ่อ...




Create Date : 21 มิถุนายน 2549
Last Update : 21 มิถุนายน 2549 21:06:51 น. 0 comments
Counter : 376 Pageviews.

JC_Inlove
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]











Friends' blogs
[Add JC_Inlove's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.