Group Blog
 
All blogs
 
ทิกเกอร์...คุณชายน้อยผู้แสนหยิ่ง 4




แม่อ่านมาจากในหนังสือที่พูดถึงลักษณะนิสัยของชิห์สุว่า เป็นสุนัขที่มีความภาคภูมิ
ในตัวเอง หยิ่ง ไว้ตัว และค่อนข้างจะหลงตัวเองอยู่ไม่น้อย เนื่องด้วยชิห์สุ เป็นสุนัขที่
ในอดีตนั้น ถูกเลี้ยงดูอย่างดีในวังหลวง เป็นสัตว์เลี้ยงที่โปรดปรานของฮ่องเต้ และ
เป็นสมบัติของราชวงศ์จีน นานนับ 200 ปี ซึ่งบุคคลธรรมดาทั่วไป ไม่สามารถนำไป
เลี้ยงดูได้ ทำให้ชิห์สุมีลักษณะท่าทางเหมือนคุณหนูน้อยๆ ที่เฉลียวฉลาด ร่าเริง
กระตือรือร้น ใฝ่รู้ รักสวยรักงาม และเอาแต่ใจตัวเอง ในหนังสือยังพูดอีกว่า บุคลิก
โดยรวมของชิห์สุนั้น ไม่เหมือนสุนัข แต่ดูเหมือนเด็กที่เอาแต่ใจตัวเองมากกว่า
แต่อย่างไรก็ดี คนทั่วไปที่เลี้ยงสุนัข ก็มักจะมองว่าสุนัขของตัวเองเหมือนคนอยู่แล้ว
ซึ่งแม่ก็เห็นด้วยหล่ะนะ (แฮ่มๆ) เห็นด้วยเกือบทั้งหมดที่พูดมา ยกเว้นก็แต่เรื่อง
รักสวยรักงาม ซึ่งแม่ไม่เห็นวี่แววว่าทิกเกอร์จะสนใจสักเท่าไหร่ ทิกเกอร์เป็นเด็ก
ร่าเริง แจ่มใส และเป็นมิตรเสมอกับทุกๆ คน มีความกระตือรือร้น อยากรู้ อยาก
เห็น ไปเสียหมดทุกเรื่อง หรือบางครั้งก็เอาตัวเองเข้าไปมีส่วนร่วมกับกิจกรรมนั้นๆ
เวลาได้ยินเสียงอะไรแปลกๆ ทิกเกอร์จะเอียงคอมองอย่างสนใจ ยิ่งฉงนมาก คอก็
จะยิ่งเอียงมากขึ้นเป็นลำดับ หรือบางครั้งก็จะยื่นหน้าเข้าไปดมดูต้นเสียงที่ฟัง
แปลกหูนั้น คล้ายจะสำรวจว่ามันคืออะไรกันแน่ ตอนเด็กๆ เวลาแม่เรียกชื่อทิกเกอร์
ทิกเกอร์จะหันมามอง ดูว่าที่แม่เรียกนั้นมีอะไรน่าสนใจหรือเปล่า ถ้าไม่มีอะไรก็จะ
ทำท่าไม่สนใจ และไม่มาหา แต่ถ้าได้ยินเสียงถุงกรอบๆ แกรบๆ ไม่ต้องเรียกก็รีบ
วิ่งตรงดิ่งมาทันที เพราะคิดว่า คงมีอะไรอร่อยๆ ให้กินเป็นแน่ บางครั้งแม่เรียก
แล้วทิกเกอร์ทำมองแล้วเมินไม่สนใจ แม่ก็จะแกล้งทำเป็นเสียงหมาหอน (เหมือน
หมาป่านะ ไม่ใช่เหมือนหนังผี) ทิกเกอร์จะทะลึ่งตัวขึ้นนั่ง และมองหาต้นตอของ
เสียงทันที สลับกับการหันมามองแม่ เหมือนจะบอกแม่ว่า แม่ฟังจิคับ เสียงอะไร
ก็ไม่รู้ หลังจากมองซ้ายมองขวาแล้วยังหาไม่พบว่ามันคือเสียงของเจ้าหมาตัวไหน
กันแน่ ทิกเกอร์จะหุบหูลง จนหัวกลมเหมือนลูกชิ้นนายฮั่งเพ้ง พอแม่หยุด หูก็จะ
พองออกมาเหมือนเดิม พอแม่ทำเสียงหอนอีก หูก็จะหุบเข้าไปอีก หุบเข้าหุบออก
ให้แม่ขำกลิ้งเล่นๆ ซึ่งทิกเกอร์จะทำหูหุบๆ เข้าไปแบบนี้ทุกครั้งที่รู้สึกกลัวหน่อยๆ
เพราะไม่แน่ใจว่ามันคือเสียงอะไร หรือบางครั้งก็กลัวถึงขนาดวิ่งแจ้นมาหาแม่เลย
ก็มี โดยปกติทั่วไปแล้วสุนัขมักกลัวเสียงอะไรที่ดังผิดปกติ เช่นเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่า
ทิกเกอร์เองก็มีท่าทีตื่นตกใจกับเสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่าเหมือนกัน แต่มันพิกลตรงที่ว่า
พอตกใจเสียงฟ้าผ่าแทนที่จะวิ่งหาที่หลบภัย เช่นตามมุม ซอกตู้ ใต้โต๊ะ เหมือน
ตัวอื่นๆ ทิกเกอร์จะรีบวิ่งไปที่หน้าต่างแล้วหันซ้าย หันขวา ก้มๆ เงยๆ มองหา
ต้นตอของเสียงทันที ผิดกับเวลาที่แม่ดุโดยการเอาหนังสือตีพื้นดังป้าบๆ ทิกเกอร์
จะวิ่งหนีกระเจิงไปตั้งหลักซะไกลทีเดียว


ตอนเด็กๆ ทิกเกอร์ติดชอบเล่นกัดนิ้วมือ นิ้วเท้า กัดแขน กัดขา เพราะตอนนั้นแม่
กับพ่อไม่รู้ว่า ถ้าปล่อยให้เล่นแบบนี้ตั้งแต่เด็ก หมาจะเข้าใจว่านี่คือการเล่นสนุก
จนกระทั่งโต เขี้ยวยาว ฟันงอกแล้ว ก็ยังอยากเล่นแบบนี้อยู่ จนพ่อกับแม่ชักไม่ไหว
เพราะเจ็บระบมไปหมด บางครั้งแม่ต้องเอาผ้าขนหนูมาพันแขนเล่นกับลูก และ
บางทีก็ชักกะเย่อผ้าขนหนูกันแรงๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุนี้ด้วยหรือเปล่าที่ทำให้
ฟันล่างของทิกเกอร์เรียงไม่เป็นระเบียบเท่าไหร่ มีแตกแถวออกมานิดหน่อย (นอก
เหนือจากเหยิน ซึ่งอันนั้นเหยินตามธรรมชาติมาอยู่แล้ว ) พอโตขึ้นมาหน่อย แม่
พยายามให้ทิกเกอร์เลิกเล่นแบบนี้ ด้วยการดุ เวลาที่ทิกเกอร์มากัดนิ้วมือ นิ้วเท้า
ดุเท่าไหร่ทิกเกอร์ก็ไม่สนใจ แม่ก็เลยใช้วิธี ตาต่อตา ฟันต่อฟัน พอทิกเกอร์เข้า
มากัดแม่ แม่ก็กัดเข้าไปตรงต้นคอทิกเกอร์เป็นการเอาคืน ทิกเกอร์ถึงกับชะงัก
ด้วยความงง และเอียงคอมองแม่แบบฉงนเต็มที่ ว่าเมื่อกี๊เราโดนอะไรเข้าไปหว่า
ซึ่งมันก็ได้ผลแฮะ แล้วหลังจากนั้นแม่ก็ไม่ยอมให้กัดนิ้วอีกเลย จนถึงตอนนี้


ทิกเกอร์ค่อนข้างติดคน และช่างเรียกร้องความสนใจ ถึงแม้ในเวลาปกติ จะชอบ
หลบไปนอนในมุมที่มีความเป็นส่วนตัวอยู่สักหน่อย แต่ก็ต้องแน่ใจว่า มีแม่อยู่
ใกล้ๆ พอที่จะเดินมาหาได้ทุกครั้งที่ต้องการ และถ้าชะเง้อมามอง ก็ต้องเห็นว่า
แม่อยู่ตรงนั้นนะ อยู่ตรงนี้นะ ทิกเกอร์ก็จะนอนเล่น อยู่คนเดียวได้อย่างสบายใจ
เวลาพ่อ หรือแม่นอนอ่านหนังสือพิมพ์ ทิกเกอร์จะมานอนข้างๆ และมองอย่างสนใจ
แต่ถ้าอ่านนานเกินไป ทิกเกอร์จะประท้วงโดยการเดินเข้ามานอนให้หนังสือพิมพ์
แล้วไม่ยอมลุกไปไหนอีก และมักจะนอนแม่นซะด้วย เพราะแม่อ่านหัวข้อไหนอยู่
ก็จะทับลงไปตรงนั้นแหล่ะ
เวลาที่แม่อาบน้ำ จะพาทิกเกอร์เข้าไปอาบด้วยทุกวัน โดยที่ทิกเกอร์จะนอนรอ
บนเคาน์เตอร์ข้างอ่างล้างหน้า โดยไม่เห่า ไม่โวยวาย ทิกเกอร์จะนอนรอเงียบๆ
และมองแม่เป็นระยะๆ ว่าใกล้จะเสร็จหรือยัง พอเห็นแม่เปิดประตูปุ๊บ ก็จะลุก
ขึ้นยืนทันที และมองแม่เหมือนจะบอกว่า อย่าลืมพาป๋มออกไปด้วยนะค๊าบ
บางทีแม่จะเข้าห้องน้ำ ทิกเกอร์ก็จะเดินตามเข้ามาด้วย โดยการนั่งรอเฉยๆ
ไม่กระดุกกระดิก จนกว่าจะได้ยินเสียงกดน้ำนั่นแหล่ะ ถึงจะรีบลุกยืนทำท่ากระวี
กระวาดเตรียมตัวทันที บางครั้งแม่แค่เข้าไปล้างมือ แล้วแกล้งนั่งเฉยๆ ในห้องน้ำ
ทิกเกอร์จะมองแล้วรอนิ่งๆ พอแม่แกล้งลุกไปยืนหน้าประตู ทิกเกอร์ก็ยังนิ่งอยู่อีก
แม่จึงทดลองนั่งลงบนฝาชักโครก แล้วกดน้ำ พอได้ยินเสียงกดน้ำ ทิกเกอร์ทะลึ่งตัว
พรวดลุกเดินไปรอหน้าประตูทันที (อ่อ ...นะ ที่แท้ทิกเกอร์จับสัญญาณได้จาก
การกดน้ำนี่นะเอง)


บ้านที่เราอยู่ในปัจจุบันนี้เป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ซึ่งห้องนอนใหญ่จะอยู่บนชั้น 4
แต่แม่ไม่อยากขึ้นไปนอนบนชั้น 4 เพราะ ห้องนั้นปูพื้นไม้ปาร์เก้ แล้วแถมมีหน้าต่าง
เป็นกระจกใส รูปโดมขนาดใหญ่ จากพื้นสูงขึ้นไปจรดเพดาน ดังนั้น ในตอนกลางวัน
ห้องนี้จะรับแดดมาเต็มๆ ทำให้ค่อนข้างอบอ้าว แล้วแม่ก็ไม่แน่ใจว่า เล็บเท้าน้อยๆ
ของทิกเกอร์จะไปทำให้พื้นปาร์เก้ของเขากลายเป็นแผนที่โลกไปได้หรือเปล่า แม่
เลยเลือกที่จะนอนห้องชั้น 3 ซึ่งปูพื้นหินขัด และจริงๆ แล้วมันเป็นแค่ชั้นลอยเท่านั้น
เพดานจึงไม่สูงนัก แต่มีทั้งห้องน้ำ และห้องซักผ้า รวมกันอยู่ชั้นนี้หมด ส่วนข้าวของ
ที่ขนย้ายมาจากบ้านเก่า ส่วนใหญ่ยังอยู่ในกล่อง วางรวมไว้ที่ชั้น 2 บนห้องนอน
ของเราไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรเลย นอกจากที่นอน ที่แขวนผ้า โต๊ะวางของสองตัว
แล้วก็ทีวี แค่นั้น ตอนกลางวันเราจะอยู่บ้านกัน 2 คน รอจนตอนเย็นๆ ประมาณ
4-5 โมงเย็น พ่อถึงจะมารับไปร้านของพ่อ เป็นกิจวัตรประจำวันของเรา ซึ่งเวลา
พ่อมาจอดรถหน้าบ้านถ้าได้ที่จอดไม่ไกลมากนัก ทิกเกอร์จะจำได้ทันทีว่าพ่อมา
จากเสียงกดรีโมตรถยนต์ (แต่แม่จำได้มากกว่าทิกเกอร์อีก แค่เหยียบคันเร่งก็
จำเสียงได้แล้ว ) แต่ถ้าเป็นเสียงรีโมตคันอื่นๆ ทิกเกอร์จะทำเฉยๆ ไม่สนใจ
ถ้าเป็นเสียงรีโมตรถพ่อ ทิกเกอร์จะรีบวิ่งไปที่หน้าต่าง (หน้าต่างเป็นบานใสยาว
จากพื้นถึงเพดาน) แล้วมองหาทันที ถ้ามองเห็นพ่อมาก็จะแสดงอาการกระดี๊
กระด๊าออกมาเต็มที่ เหมือนกับไม่ได้เจอพ่อมานานนับปีเลยทีเดียว จนถึงทุก
วันนี้ทิกเกอร์มีพัฒนาการมากขึ้นไปกว่าเดิม โดยการจับสังเกตุแม่ เป็นข้อๆ
ดังนี้คือ
1. ตอนเย็นๆ ก่อนพ่อมารับ แม่จะต้องเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ
2. อาบน้ำเสร็จแม่ออกมาแต่งตัว
3. เสียงโทรศัพท์จะดัง เพราะพ่อต้องโทรมาบอกว่า ถึงแล้วจ้า หรือว่า
ใกล้ถึงแล้วจ้า อะไรทำนองนี้
4. พอแม่วางสายแล้ว แม่ก็จะเรียกทิกเกอร์ หยิบกระเป๋า แล้วลงไปหาพ่อ
ข้างล่าง
5. ทิกเกอร์จะนั่งกระดิกหางรอหน้าประตู แล้วพ่อจะเปิดประตูเข้ามารับ


ซึ่งทิกเกอร์คงจะจำขั้นตอนต่างๆ เหล่านี้ได้ขึ้นใจ ช่วงหลังๆ เวลาเสียงโทรศัพท์
ดังตอนเย็นๆ ทิกเกอร์จะหูผึ่ง แล้วนั่งมองหน้าแม่ไปด้วย ในขณะที่แม่คุยโทรศัพท์
บางครั้งพอเห็นแม่รับโทรศัพท์ทิกเกอร์จะรีบวิ่งไปที่หน้าต่างทันที เพื่อดูว่ามีใคร
มาหรือยัง เพราะบางที พ่อจอดรถไกล ทำให้ไม่ได้ยินเสียงรีโมต เป็นอย่างนี้
มาตลอด จนกระทั่งวันหนึ่ง พ่อติดลูกค้าที่ร้านทำให้มารับช้ากว่าปกติ ทิกเกอร์
เดินไปเดินมาระหว่างหน้าต่าง กับที่นอนอย่างกระวนกระวายใจ แล้วเสียงโทรศัพท์
ก็ดังขึ้น ทิกเกอร์ Alert ขึ้นมาทันที วิ่งไปวิ่งมาอยู่ระหว่างหน้าต่างสองบานเพื่อ
มองหาพ่อ ปรากฏว่าคนที่โทรมาเป็นเพื่อนแม่เอง แม่คุยโทรศัพท์กับเพื่อนอยู่
ประมาณ 10 นาที หลังจากวางหูแล้ว เลยคิดได้ว่าทำไมทิกเกอร์หายเงียบไป
เรียกแล้วก็ไม่เห็นมา เสียงกระพรวนก็ไม่มี แม่เลยเดินลงมาดู ชั้น 2 ก็ไม่มีแฮะ
แม่เลยเดินเลยลงมาถึงชั้นล่างสุด ตอนนั้นเย็นมากแล้ว แม่ยังไม่ได้เปิดไฟ
แสงในบ้านเลยออกจะสลัวๆ อยู่บ้าง มองไปที่ประตูหน้าบ้านแล้วนึกขำลูกก็ขำ
นึกสงสารก็สงสารอยู่ เพราะภาพที่เห็นในความสลัวก็คือ มีหมาตัวกะปุ๊กลุก
ตัวหนึ่ง นั่งกระดิกหางดิ๊กๆ ๆ อยู่หน้าประตู ซึ่งเป็นท่าประจำ เวลาที่ทิกเกอร์
ลงมาคอยให้พ่อเปิดประตูเข้ามาหาทุกๆ วัน แล้ววันนี้ หลังจากแม่รับโทรศัพท์
แล้ว ทิกเกอร์คงคิดว่า เป็นพ่อโทรมาเหมือนทุกวันแน่ๆ เลยรีบลงมารอที่
ประตูอย่างเรียบร้อย หลังจากนั้นมา เวลามีโทรศัพท์มาเย็นๆ ถ้าไม่ใช่พ่อ
แม่ต้องบอกทิกเกอร์ด้วยว่า ไม่ใช่พ่อนะคับ แม่ก็ไม่รู้ว่า หมาจะเข้าใจคำพูด
ของคนได้แค่ไหน แต่เวลาที่โทรศัพท์แม่ดัง แล้วทิกเกอร์มองหน้า เหมือน
จะถามว่าใช่พ่อไม๊คับ พอแม่พูดว่าไม่ใช่พ่อนะคับลูก ทิกเกอร์ก็เดินไปนั่งเฝ้า
ที่หน้าต่างเหมือนเดิม คอยมองหาว่าพ่อมาหรือยังอยู่ทุกวัน หรือบางครั้ง
จะวิ่งไปบันได สลับกับมามองที่หน้าต่าง สลับไปสลับมาจนแม่เวียนหัว กว่า
จะหยุดก็เมื่อแน่ใจว่ายังไม่มีใครมาจริงๆ ทิกเกอร์ถึงกลับมาชะเง้อคอที่
หน้าต่างต่อไป






Create Date : 14 ธันวาคม 2548
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2549 20:51:22 น. 9 comments
Counter : 449 Pageviews.

 
อ่าติดแม่แล้วก็มีความซื่อสัตย์ดีจังอะ น่ารักดีจัง สุนัขก็เป็นเพื่อนที่แสนดีอะนะแล้วก็ซื่อสัตย์อะ


โดย: อินทรีทองคำ วันที่: 14 ธันวาคม 2548 เวลา:23:15:23 น.  

 
ทิกเกอร์ท่าทางจะรักพ่อมากกว่าแม่อะป่าว ขนาดตั้งตารอพ่อกลับบ้านเชียวเหรอลูกอยู่กับแม่คงน่าเบื่อเนอะ 555+
แต่สรุปแล้วอย่างไงทิกเกอร์ก็เป็นลูกชายสุดที่รักของครอบครัวนี้เจงๆ


โดย: กิ๊กกะเฮิร์ท วันที่: 15 ธันวาคม 2548 เวลา:6:52:59 น.  

 
ยาวจังตะเอง ยังอ่านไม่หมดนะคะ

ไว้มาอ่านต่ออีกนะคะ


โดย: babbbirdbird วันที่: 15 ธันวาคม 2548 เวลา:15:56:24 น.  

 
ทิกเกอร์หลานรักมาแล้วววว....
เสียดายจังที่รุปหนูตอนเด็กๆหายไปเยอะ ไม่งั้นต้องได้ดูรุปทิกเกอร์นั่งกระดิกหางอยู่แน่เลย
แสนรู้ขนาดนี้ คุณพ่อคงรักมากเลยนะเนี่ยะ
จะลองงับคอต้นหนบ้างเผื่อจะเลิกกัดมือแม่ ก็กลัวต้นหนนึกว่าเล่นด้วย กีดคอแม่บ้าง..ฮือๆ


โดย: น้าเอ็ม IP: 58.9.17.163 วันที่: 15 ธันวาคม 2548 เวลา:23:02:36 น.  

 
เจ้าลาเต้ก็เป็นแบบทิกเกอร์ค่ะพี่เจทท์
ต้องอยู่ในรัศมีที่มีคนอยูในสายตาตลอดเวลา
จะยอมให้ก็ตอนปิดไฟ แล้วต้อนเข้ากรงนอนตอนกลางคืนเท่านั้นล่ะค่ะ ที่จะรามือ ไม่อย่างนั้นพี่แกไม่มียอม
แต่เป็นหมาสองบ้านก็ดีเนอะ ทิกเกอร์เนอะ ~
มีที่เที่ยวตั้งสองแห่งอะ จะได้ไม่เบื่องายยย


โดย: ชิสุมุมห้อง วันที่: 17 ธันวาคม 2548 เวลา:7:58:00 น.  

 
สวัสดีปีใหม่นะครับ


โดย: กิ๊กกะเฮิร์ท วันที่: 4 มกราคม 2549 เวลา:8:04:06 น.  

 
แวะมาสวัสดีปีใหม่จ้า


โดย: poojar วันที่: 9 มกราคม 2549 เวลา:21:08:45 น.  

 
อ่านแล้วซาบซึ้งใจมากๆเลย


โดย: น้าเล็ก (Appreciator ) วันที่: 11 มีนาคม 2549 เวลา:1:46:28 น.  

 
น่ารักจังเลยค่ะ


โดย: บ้านโคกโจด (my_oom ) วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:46:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

JC_Inlove
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]











Friends' blogs
[Add JC_Inlove's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.