***Think of the great path you walked pass***
Group Blog
 
All Blogs
 

ผู้หญิง + กระเทย = เรื่องราวดีๆที่แสนเศร้า.....1

ผู้หญิง + กระเทย = เรื่องราวดีๆที่แสนเศร้า

เป็นเรื่องราวที่ดีเรื่องหนึ่งที่อยากให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน ยังไงขออนุญาตเจ้าของเรื่อง นำกระทู้นี้มาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันนะคะ
*************************************

เรามีเรื่องจริงเรื่องหนึ่ง ที่ตอนนี้ผ่านมาได้ประมาณ 2 ปีแล้ว แต่ว่าความทรงจำทั้งหมดยังถูกเก็บไว้อยู่ตลอดเวลา แล้วก็ขอบอกไว้ก่อนว่า ชื่อเรา กับชื่อคนในเรื่องไม่ใช่ชื่อจริงๆนะ ขอปกปิดหน่อยละกันนะ

เรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนนั้นเราเรียนพึ่งจบ กำลังหางานทำ บ้านเราอยู่เหนือ
เราเอ็นท์ติดที่กรุงเทพ เราก็เลยอยู่หอ เราอยู่ชั้น 5 ซึ่งเป็นชั้นบนสุด เป็นห้องริมสุด ถัดจากห้องเรามาเป็นห้องกระเทยคนหนึ่ง ชอบพาผู้ชายมานอนห้องด้วยบ่อยๆ
(ม่ายรู้มันไปหามาจากไหน อิจฉามาก)

กระเทยคนนี้หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก ผิวขาว เราว่าถ้าเป็นผู้ชายก็คงจะหน้าตาดีอ่ะ (ไม่น่าเรย) เสียดาย ผู้ชายยิ่งมีน้อยๆ อยู่ รู้ชื่อภายหลังว่า ชื่อ "องุ่น" ย้ายมาประมาณ 3 เดือนที่แล้ว แต่ว่าถึงเขาจะพาผู้ชายมาดึกๆบ่อยๆ แต่เขาก็ไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ใครอ่ะ เราก็เลยไม่ได้คิดอะไร

ช่วงนั้นเรามีแฟน คบกันมาได้ปีกว่าๆ ละ เป็นผู้ชายธรรมดาๆ เรียบร้อย เจี๋ยมเจี้ยม หน้าหงิมๆ เรารู้แต่ว่า "เรารักเขามาก" เพราะมันเป็นเหมือนความผูกพัน เพราะเขามานอนท่ห้องเราบ่อยๆ เหมือนกับได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันบ่อยๆ

แต่แล้ววันนึงก็มีภาพ mms ภาพหนึ่งอ่ะ ส่งเข้าโทรศัพท์เรา เป็นภาพแฟนเราอ่ะนอนกอดกับผู้หญิงคนหนึ่ง ขาวๆ สวยๆ ผมยาวๆ ในภาพดูเขามีความสุขมาก กอดกันซะแน่นเชียว

โทรศัพท์แทบหล่นจากมือ.......ตามฟอร์มรีบโทรไปหาที่มาตามเบอร์ที่ส่งมา ปิดเครื่อง.....อ้าวเวน.... เจ้าของเบอร์มันกล้าส่ง แต่ไม่กล้ารับโทรศัพท์ ตอนนั้นรู้สึกสับสนมาก รู้สึกเหมือนไม่มีแรง หายใจไม่ออก อยากร้องไห้ก็ร้องไม่ออก สับสนระหว่างใช่กับไม่ใช่
เราได้โทรไปหาแฟนเรา ปรากฏว่าเป็นเสียงผู้หญิงรับ เสียงหวานแจ๋วแหวว เค้าบอกว่าเค้านอนอยู่กับแฟนเรา เขารู้แล้วหล่ะว่าต้นมีแฟนแล้ว เขามีอะไรกันหลายครั้งแล้ว!!!! เราก้อเลยไม่รู้จะพูดยังไง ภาพประกอบมันชัดเจน ไม่มีคำร่ำลาใดๆ ไม่ต้องอธิบายอะไรแล้ว ชัดเจนขนาดนี้ เสียใจมากๆ แต่ไม่รู้จะทนไปทำไม เลวขนาดนี้แล้ว

วันนั้นเราก็ตัดสินใจเลิกกับเขา เราพูดกับผู้หญิงคนนั้นว่าเรายอมแพ้ เรายกให้ เอาไปเลย แล้วอย่ามายุ่งกับชีวิตเราอีก ขอแค่นี้ก็พอ โอ้ว...นี่แค่นึกถึง มันก็เศร้าขนาดนี้ ไม่รู้ตอนนั้นเราทำใจได้ยังไง

อ๋อ...จำได้ละ.......ต่อจากเหตุการณ์นั้นประมาณ 4 ทุ่ม ในวันเดียวกันนั้นเอง เขาก็มาเคาะประตูหน้าห้อง เรารีบเช็ดขี้มูก และน้ำตา กุลีกุจอไปเปิดประตู

จริงๆแล้วก็พอจะเดาออกว่าเป็นเขา ก็รู้สึกดีใจเหมือนกันนะ แต่ว่าหลังจากเขาเดินเข้ามาในห้อง ประโยคแรกที่ได้ยินก็คือ "ขอยืมเงินสัก 5,000ได้มะ ผู้หญิงคนนั้นท้อง" แล้วทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ขอความเห็นใจ อุ๊แม่เจ้า...ทำไมแกช่างชั่วร้าย เลวทรามขนาดนี้ฟะ (แต่ไม่ได้พูดนะ คิดเฉยๆ)

เราก็เลยบอกไปว่า "ไปซะเหอะ เราไม่มีอะไรให้เธอหรอกนะ" เราดันๆ เขาออก แต่เขาไม่ยอมออก
เขาตัวใหญ่ ปากเขาก็พูดว่า "ให้ยืมเถอะนะขอร้อง" เราก็ดันแรงขึ้นเรื่อยๆ จากผลัก กลายเป็น ตบ ถีบ
เพราะด้วยความโมโหด้วย เขาก็โมโห เขาผลักเราล้มคว่ำ แล้ววิ่งไปค้นกระเป๋าตังค์เราที่อยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง
ทันที เรารีบแหกปากพร้อมวิ่งไป อย่านะ I เลว พูดดีๆ ไม่รู้เรื่องหรอกรูทนไม่ไหวแล้วนะ เมิงจะเอายังไง
กับกรูนักหนาวะ เราก็วิ่งไปกระชากเสื้อมันแล้วตบ มันคงโมโหอ่ะ มันตบเราคืน โผล๊ะ ดังมาก

รู้สึกมึนๆ แต่ไม่เจ็บอ่ะ แต่ชามาก คิดดูอ่ะ คนเราคบกันมาสุภาพเรียบร้อยทุกอย่าง แล้วเพิ่งจะมาแสดงธาตุแท้
กันวันนี้เอง หลังจากเราโดนเขาตบแล้ว เราก็ร่วงกราวลงไปกองกับพื้น ไม่รู้ว่าเขารู้สึกผิดหรืออะไร เขาชะงัก
แล้วเขาก็ทรุดนั่งลงมากอดเราร้องไห้ แล้วพูดว่า "ขอโทษนะเค้ก เจ็บมากไหม ต้นโมโหมากอ่ะ แต่ต้นไม่ได้ตั้งใจนะเค้ก ต้นขอโทษ" เราก็เลยพูดไปว่า "ไม่ต้องมาขอโทษอะไรทั้งนั้นแหล่ะ เราไม่ได้โกรธ เธอไปซะเถอะ เราไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว เราดีกับเธอทุกอย่าง แต่ทำไมถึงได้กลับมาอย่างนี้ก็ไม่รู้นะ" เราพูดแล้วก็เมินหน้าหนี เขาก็ยิ่งกอดเราแน่น "ขอโทษนะขอโทษจริงๆ ต้นรักเค้กคนเดียวนะ แต่ว่าเหมือนเราไม่ค่อยเข้าใจกัน (เมิงแหล่ะไม่เข้าใจกรู) ต้นจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ พรุ่งนี้เป็นวันเงินเดือนออกต้นจะคืนให้นะ"
"นี่รู้มั๊ยว่าแม่ของเค้กเขาส่งเงินก้อนนี้มาให้เป็นก้อนสุดท้ายแล้ว เพราะเค้กเรียนจบแล้ว ถ้าหมดก้อนนี้ก็ไม่มีอีกแล้ว
แล้วเค้กจะไว้ใจต้นให้ไปได้ยังไง งานก็ยังทำไม่ได้เลย" "นะนะ...ขอร้องเถอะนะ พรุ่งนี้จะคืนให้จริงๆ ตอนเย็นนะ เค้กรอต้นที่ห้องนะ ต้นจะเอามาคืนให้จริงๆ ต้นสัญญา" เขาอ้อนวอน แล้วก็กอดเราไว้แล้วร้องไห้ด้วย

เขาในตอนนั้นดูน่าสงสาร และน่าสมเพชมาก แต่คนที่น่าสมเพชมาก ก็คือเราเอง (ถูกต้องนะคร้าบ เราใจอ่อน
ให้เขายืมเงินไป ตอนแรกบอกห้าพัน ตอนยืมจริงๆ ขอเป็นหมื่นนึง!!!

แต่เราก็โง่ให้เขาไป ทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือเงินอยู่ 130 บาท นึกถึงตอนนั้นแล้วอุบาทว์ตัวเองมากๆ โง่จริงๆ กระบือเรียกพี่เลยอ่ะ พอเขาได้เงินแล้ว เขาก็ออกไปจากห้อง ทิ้งเราไว้ว้าเหว่พร้อมคำสัญญาว่าจะคืนเงิน "พรุ่งนี้ 5 โมงเย็น"

(ยาวไปและ พบกับเรื่อง ผู้หญิง + กระเทย = เรื่องราวดีๆที่แสนเศร้า ตอน 2 นะคะ....รับรองอ่านแล้วซึ้งแน่นอนจ้า...)




 

Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2549    
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2549 18:17:32 น.
Counter : 694 Pageviews.  

30 วิธีทำลายความเงียบในลิฟท์ (ขำ..ขำหน่ะ)

ธรรมชาติประการหนึ่งของคนในฟท์คือ ทุกคนจะวางตัวเย่อหยิ่งไม่รู้จัก ไม่มองหน้ากัน ไม่ยิ้มแย้ม ตาจ้องที่เลขบอกชั้น บรรยากาศเย็นยะเยือกเหมือนเกิดสงครามเย็น แต่คุณอาจเปลี่ยนแปลงมันได้โดย.....

1.กรณีที่ขึ้นหลายชั้น แกว่งตัวไปมาในลิฟท์ โยกเยก พลางร้อง "ฮุยเลฮุย"
2.แจกนามบัตรตัวเองซะเลย แล้วก็ถือโอกาสขอนามบัตรเค้าด้วย (จาได้ทำความรู้จักกันเอาไว้ เผื่อเจอขึ้นลิฟท์ด้วยกันอีก จะได้มีเพื่อนเมาส์ในลิฟท์ อิ.อิ...)
3.ทำเสียงบึ้มทุกครั้งที่มีคนกดปุ่ม (แต่ระวังคนข้างๆรมย์บ่จอยแล้วบึ้มใส่น้า)
4.จับมือคนที่เข้ามาใหม่ พลางพูดว่า "ยินดีต้อนรับ ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ" (หากทำท่าทางดีใจเหมือนเบียร์เชียร์ได้จะยิ่งเพิ่มความขลังได้อีกโข....)
5.ร้อง "ติ๊งต่อง" ทุกครั้งที่ประตูเปิด - ปิด (จะใช้ข้อนี้ต้องระวังนิดส์ ดูคนข้างๆด้วยว่าหน้าตาเถื่อนเปล่า....ม่ายงั้นอาจเจอทีนได้....)
6.ไอแห้งๆ เป็นระยะ บ่นพึมพำว่ายาวัณโรคหมดหลายเดือนแล้ว (วิธีนี้อาจเพิ่มความขนพองสยองเกล้าให้กับผู้ร่วมสเปซเดียวกันกับท่านได้....)
7.ยืนเงียบๆ ที่มุมในสุด หันหน้าชิดฝา ไม่ขยับร่างกาย พึมพำคาถา ไม่ต้องลงแม้ลิฟท์จะขึ้นสุดแล้ว (ถ้าคุณเป็นคนผมยาวด้วยจะยิ่งเวิร์คมาก เอาผมปิดหน้าปิดตาให้มันดูลึกลับเข้าไว้ รับรองวิธีนี้จะช่วยให้คุณได้เป็นเจ้าของลิฟท์ตัวนั้นแต่เพียงผู้เดียว เพราะไม่มีใครกล้าเข้าไปอยู่ด้วยหรอก รับรอง.....)
8.ผายลมต่อเนื่อง มองผู้หญิงข้างๆ แล้วยิ้ม (อันนี้ออกแนวเลวนะเนี่ย คิดจะป้ายความผิดรึไงเนี่ย!!)
9.รำมวยไทเก็ก (แนะนำสำหรับคนที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย อยู่ในลิฟท์คุณก็สามารถฟิตได้ ไม่เชื่อก็ลองดู)
10.พูดเสียงดังว่า "เอ๊ะ ปุ่มอะไร?" แล้วกดปุ่มสีแดงที่เขียนว่า "ฉุกเฉิน"
11.แง้มกระเป๋าถือ ชะโงกหน้าดูข้างใน พูดกับกระเป๋าว่า "คุณสบายดีไหม? อากาศในนั้นพอหายใจหรือเปล่า?"
12.พอประตูปิด ก็วิ่งไปทุบประตูแล้วร้องให้ "เปิดๆๆ" (อันนี้ต้องอาศัยแอกติ้งนิ๊ดส์หนึ่ง เพื่อความสมจริงสมจัง)
13.หันไปมองคนข้างหลัง แล้วถามว่าจับก้นผมทำไม
14.เอามือปิดจมูกแล้วบ่นดังๆ "ใครตดฟะ"
15.หันไปถามคนข้างๆ ว่า "ชั้น 19 ค่าโดยสารเท่าไหร่"
16.หยิบโทรศัพท์แล้วเมาท์กับเพื่อน บ่นว่าตึกนี้ทำไมมีแต่คนหน้าตาอุบาทว์ (อันนี้นอกจากจะทำลายความเงียบแล้ว ยังอาจได้กินยำทีนฟรีอีกด้วย โอ้...สุดคุ้มจิงๆคับ.)
17.มองผู้ชายข้างๆ แล้วทำน้ำลายไหล (เหอ...เหอ...)
18.หยิบโทรเฉาะ(สับ)มือถือขึ้นมา แล้วเลือกเสียงเรียกเข้าเพลง asarejr แล้วให้เต้นท่าตรงท่อนฮุค สะกิดคนข้างๆให้เต้นตามพร้อมๆ กัน
19.ทำตัวเป็นกระเป๋าลิฟท์ คอยเก็บค่าโดยสารคนเข้าใหม่
20.เอาถุงตดไปบีบในลิฟท์
21.กดโทรศัพท์ (แกล้งก็ได้) แล้วพูดว่า "ระเบิดที่ให้วาง เรียบร้อยแล้วครับ"
22.ซื้อข้าวกระเพรา EZ-GO ของเซเว่น เอาแบบร้อนๆ กลิ่นจะได้ฉุยๆ แล้วตักกินอย่างเอร็ดอร่อย พร้อมส่งเสียง "ซี้ดดด....อา.....ซี้ดดด.....อา
23.ตอนมีคนเข้ามาก็ทักสวัสดีค่ะ/ครับ ตอนออกก็พูดว่า "รับขนมจีบซาละเปาเพิ่มมั้งคะ
24.เวลามีคนเข้ามาเพิ่ม ทำเสียง "อ๊อดดดด...." สัญญาณเดตือนน้ำหนักเกิน
25.แกล้งพูดภาษาพรายกับเพื่อน ภาษางูก็ได้นะ (สำหรับสาวกแฮรี่โดยเฉพาะ)
26.แกล้งล้มลง แล้วบอกว่าโดนยิง
27.บอกคนที่ขึ้นใหม่ว่า "กรุณาคาดเข็มชัดนิรภัย"
28.เหมือน 27 แต่เป็นหมวกกันน็อค
29.เตรียมเสื่อ หมอน พร้อมอุปกรยังชีพ แล้วก็นอนมันในลิฟท์น่านแหล่ะ
30.ถามคนข้างๆว่า ขึ้นแต่ลิฟท์ เคยขึ้นออยไหม...มั่งไหม (ออย-ธนาหน่ะ)




 

Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2549    
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2549 10:57:49 น.
Counter : 276 Pageviews.  

1  2  

Pure wing
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add Pure wing's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.