Group Blog
 
All Blogs
 
Ent Story ...

วันนี้มีคนมาถามว่า…. จะเตรียมตัวเอนทรานซ์ยังไงดี ฉันก็เลยนึกย้อนไปถึงตัวเองเล็กน้อย รู้สึกว่า ตอนนั้นฉันเพี้ยนไปได้ขนาด พระเจ้าช่วยกล้วยทอด นึกไปนึกมา บล็อคก็ไม่ได้อัพมาหลายวัน มีหัวข้อจะเขียนแล้วเรา

ว่าด้วยเรื่องของเอนทรานซ์…

จะบอกก่อนว่า ปกติแล้วไม่ใช่คนตั้งใจเรียนเท่าไหร่ โดดได้ก็โดด ขี้เกียจเรียนก็ไป ซกมกเป็นเลิศ ชอบใส่รองเท้าแตะกับชุดพละไปโรงเรียน เพราะว่าขี้เกียจซัก (ก็ชุดนักเรียนมันรีดยากชิเป๋งเลย ใส่ก็ลำบาก) เมื่อก่อนจะใส่สกอลล์สีชมพูไป เวลานั่งที่ระเบียง อาจารย์คนหนึ่งเธอก็จะเดินเข้ามาใกล้ แล้วทักว่า…

“รองเท้าสวยดีนะจ๊ะ”

ชมจ้า…คุณครูชม… ทว่าคนถูกชมสวยๆเช่นฉันสะดุ้งเฮือกไปถึงรูขุมขนด้วยประโยคต่อมา

“แหม…เด่นกว่าหน้าเสียอีก”

ปรู้ดดดดดด…..

แล้วเมื่อวาน น้องสาว วัยเด็กเล็กกระเตาะ ก็มาแจ้วๆข้างหู

“พี่…เมื่อวานครู (คนเดียวกัน) เล่าให้ฟัง..ว่าตอนเรียน พี่ใส่รองเท้าซกมกไปเรียนทุกวันเลย”

…..เป็นไงล่ะตรู….

ที่จริงไม่อายหรอก ด้านแล้ว…แต่แหม… เผากันไปได้ คนออกจะเข้าเรียนของแกตลอด



กลับมาเข้าเรื่อง!

มีคนเคยถามว่า ตอนเอนท์ทำยังไงถึงจะรอด … แล้วจะบอกยังไงดีล่ะ ปกติก็ไม่ใช่คนเรียนเก่ง ไม่เคยเป็นที่หนึ่งของห้องเลย กลางๆ เล่นเสียมาก (ชอบแอบหลับหลังห้อง) แต่จะเล่าว่า ตอนเอนทรานซ์นั้น อย่างแรกที่ฉันทำเลยนะแก คือเปลี่ยนไปนับถือเจ้าแม่อุ๊ แห่งลัทธิเคมี Ucxxxx เรียนเข้าไปแบบว่าแทบตาย

ใครคิดจะลงเรียนเคมีเจ้าแม่อุ๊… ควรพิจารณาคุณสมบัติ

1. ความสามารถในการวิ่งร้อยเมตรเพื่อเข้าไปให้ถึงหน้าเคาเตอร์แบงก์กรุงไทยก่อนใคร และความสามารถในการเปลี่ยนคอร์สเรียนอย่างเร่งด่วนหากคอร์สเต็ม

2. ควบคุมน้ำหนักเล็กน้อย เพราะไม่งั้นจะเข้าไปนั่งเรียนไม่ได้จริงๆ ขอบอก (คือมันแคบๆอ่ะ เพื่อจะได้จุหลายๆคน)


3. ควรเป็นคนหลับยาก (สำคัญโคตร)


นอกจากเจ้าแม่อุ๊แล้ว ก็ยังมีกวดวิชาดังๆ พวก เจี๋ย เดอะเบรน ยูเรก้า แอปพลายด์ … ว่าแล้วก็โม้แอป
พลายด์สักหน่อย อันนี้ไม่เคยไปเรียนด้วยตัวเอง แต่ได้ยินเสียงร่ำลือมาว่า

“แกเอ๊ย ชั้นไปเรียนแอปพลายด์มา แมร่งเชรี่ยกรูทำโจทย์ไม่ทัน แต่ในวิดีโอมันทำเสร็จแถมชูสองนิ้ว”

ถ้าเป็นคนอื่นจะเฉยๆ แต่คนนี้มันเก่งฟิฯทีสุดในสายชั้นฉันแล้ว…พระเจ้าช่วยกล้วยทอด เราทำข้อเดียวมันไปสามข้อ งี้ถ้ามันทำไม่ทัน….แล้วฉันจะเหลืออะไร..?

ไอ้เพื่อนพวกนี้มันเรียนมาสามปี เพิ่งมารู้เอาม้วนสุดท้ายว่า ที่ชูสองนิ้วๆ นั้นคือโดนหลอก (ฮ่าๆ สมน้ำหน้า ใครมันจะสปีดนรกขนาดน้าน)

กลับมาที่อุ๊ใหม่

ตอนไปเรียนเคมีอาจารย์อุ๊ คอร์สเอนท์เรียนที่สะพานควาย (ถ่อไปเรียนไกลถึงกทม. บ้านอยู่แถวๆภาคใต้) คอร์สเอนทรานซ์ ตอนไปถึงมีอันอึ้งแด๊ก แบบว่าคนข้างๆ มันทำเร็วโคตร…โคตรเร็ว พระเจ้าจอร์จ แล้วมันก็นั่งหมุนปากกา หมุนไปหมุนมา ไซโคกันรึไงฟ่ะ ฉันก็ ‘อยาก’ หมุนเป็นนะเฟ๊ย…ก็เลยไปหมุนบ้าง หมุนไปหมุนมา ทำไมไม่เหมือนของมัน แล้วมันก็อมยิ้ม…

เยาะเย้ย มันเยาะเย้ย!!!!! อ๊าคคคคคค ….

เรียนก็เรียนไปเรื่อยๆ ขยับดูคนข้างๆแล้วหันมาดูของตัวเอง โอ๊ย ชีวิตเศร้า มันทำการบ้านมากดดันเราทุกวันเลย นิสัยไม่ดีๆ

แต่หลังจากนั้นพอเข้ากลางๆคอร์ส เธอก็จะมาช้าลง พร้อมกับสมุดของกวดวิชาอีกที่หนึ่ง (กับคู่เลสของเธอ) บางวัน เธอมาถึงปุ๊บ เธอก็จะหลับ หลับไปจนถึงท้ายคอร์ส แล้วเธอก็จะตื่นมางัวเงีย (อย่างแรง) แล้วก็หันไปคุยกับคู่เลส (สวนฉันก็ดูเวลาแล้วดูเวลาอีก …อีกชั่วโมง…อีกครึ่งชั่วโมง…อีกสามนาที…เฮ้ย หมดเวลาตั้งนานแล้วยังไม่ปล่อยอีก!)

นี่เป็นประสบการณ์ตอนเรียนคอร์สเอนทรานซ์กับอาจารย์อุ๊ หลังจากนั้นมาเข้าคอร์ดตะลุยโจทย์ อันนี้ชีวิตเศร้า จะหลับก็หลับไม่ลง เพราะว่าไฟมันจี้ตูด ท่องอยู่คำเดียว

แกหลับแกเอนท์ไม่ติด!

แกหลับแกเอนท์ไม่ติด!

เหมือนคนบ้าเลย แล้วคิดดู๊ๆๆๆ คนข้างๆโหยโคตรหล่อ ร่างสูง ผิวขาว หุ่นดี อกหนาแถมมือใหญ่ ผมก็เท่ห์ อู๊ว หล่อมากค่ะคุณเพื่อนขา แบบว่าอย่างที่ใฝ่ฝันมานานเกือบสามปีตั้งแต่เคยเรียนมา (กวดวิชาใครบอกตรูไม่หวังอะไร ก่อนโอนเงินจะพนมมือท่วมหัว ขอให้ตรูได้นั่งข้างคนหล่อเถอะเพี้ยง!!!) พอได้นั่งใกล้จริง จะแกล้งหลับไปเอนซบซักหน่อยดันหมดอารมณ์ (ที่จริงน่าจะหลับมาซบตักฉัน…มาม๊ะๆ รออยู่นานแล้ว) ก็เลยได้ใช้แต่มุกนี้

“ขอโทษนะคะ คือ…มีไส้ดินสอหน่อยไหมคะ?”

หรือไม่ก็…

“โทษนะคะ คือ ลืมเอายางลบมา”

แล้วเขาก็ส่งให้ ฉันก็รับมาแต่ในใจร่ำร้อง

‘อย่าเพิ่งหันไปเด้ มาคุยกันก๊อน’

พลันหน้าคนเฝ้าห้องวิดีโอก็จะเยี่ยมกรายเข้ามา ‘อย่างดุๆ’ …หน้าเหมือนโกรธกันมาสักชาติแน่ะพี่ หนูจะเหล่หนุ่มของหนูสักหน่อย แหม พี่แอบโสดอ้ะเปล่า

แต่จะว่าไป ตอนคอร์สที่เรียน เขาแอบเมาท์ถึงลูกชายอาจารย์อุ๊ด้วย กรี๊ดกันไป คนอะไร แม่รวย (อย่างแรง) …ข่าวว่าเรียนอยู่อังกฤษ อันนี้ไม่เฟิร์มน้า



หลังจากเข้าคอร์สเอนทรานซ์เสร็จ (หมดเงินไปหลายหมื่น) ก็เปิดเทอม เปิดเทอมนี้ฉัน ‘หนี’ ย้ำ หนี! ไปเช่าหออยู่ห่างจากโรงเรียนเกือบกิโลเมตร ทั้งที่ปกติตัวองอยู่บ้าน แล้วขนหนังสือไป แบบว่ากะหลบเพื่อนเต็มที่ อยู่ใกล้มันมากๆไม่ได้เฟ๊ย เดี๋ยวมีเปิดประตูเข้ามาเม้าท์แตกตลอด ไม่เม้าท์ก็ลากไปกินข้าว ไปเหล่หนุ่มๆ แถวหน้ามอ

พระเจ้าจอร์จ มันโคตรทรมานเลยลอร่า ฉันต้องทิ้งหนุ่มๆ และกิ๊กอีกห้าคนที่กำลังคั่วอย่างเมามันไปหากองหนังสือขนาดมโหฬารบานตะไท คิดถึงเด็กๆก็คิดถึงใจแทบขาด น้ำตาซึม ลูกแม่เอ๋ย รอแป๊บ เดี๋ยวแม่จะกลับไป (แต่มันก็ชิ่งไปแล้ว)

สิ่งที่คิดว่าน่าจะได้ผลตอนเตรียมตัวสอบเอนท์คือทำข้อสอบเก่า ไปซื้อมาเลยแบบว่าทำย้อนไปสักยี่สิบปีถ้าเป็นไปได้ จะบอกว่าเคยถึกมาแล้ว วิชาอังกฤษนี่ไม่ลงกวดวิชา แต่ไปคุ้ยข้อสอบมานั่งทำ ตื่นก็ทำ นอนก็ทำ ค่ำก็ทำ เย็นก็ทำ ตอนแรกเต็มร้อยได้ไม่ถึงห้าสิบ โคตรใจปิ้วเลย ….แล้วตรูจะรอดมั้ยเนี่ย? คิดในใจก่อนจะกดฟัน กรูจะทำต่อ ยังไงกรูก็ตั้งความหวังไว้กับวิชานี้แล้ว

เชื่อเถอะว่าอย่าท้อ ฉันทำย้อนหลัง ครบทุกปี เสร็จแล้วเอามาทำใหม่ เอนท์จริงได้แปดสิบต้นๆ (แอบเสียดาย ถ้าลงกวดวิชาไม่รู้จะเป็นไงบ้าง)


ช่วงแรกสปีด อ่านหนังสือทุกวัน ช่วงหลังชักเอื่อย ..(มันเป็นเรื่องธรรมชาติ) มีงานเข้ามาทับจนตัวแบน กลายเป็นหนอนตัวแบนแพลธีเฮลเมนทีส แอบย่องไปดูคนอื่นเขาอ่านหนังสือ ย่องไปแล้วย่องกลับมาน้ำตาเล็ด โอ๊ยมันอ่านกันทั้งวันทั้งคืนเลย ไม่ไหวแล้ว ฉานสปีดน้อยไป จะทำยังไงดีวะๆๆๆ กลับมานอนคิด (และหลับไปในที่สุด) อยู่หลายคืน แต่ก็ไม่มีคำตอบ พยายามทำข้อสอบไปเรื่อยๆ

มีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง ก่อนเอนท์ มันเก็บตัวมาก ไม่พูดไม่จากับเพื่อนเลย วันๆก็จะขึ้นไปอ่านหนังสือบนห้องสมุด (เลวมากมาย…พวกคนขยัน) หน้าตาก็ดี ใส่แว่น ตรงสเป็ค แต่..หงึ่ก.. ไม่เอา ใครอยากได้เอาไป ….หลังจากเอนท์เสร็จกลับคำพูด …เชื่อมั้ย พอมันเอนท์ติดก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน โอพระเจ้าจอร์จ มันเล่นกีฬา มันทำงานห้อง มันเฮฮา มันร่าเริง …อ๋ายยยยย ใจละลาย…ช้านจอง ไม่ให้ใครแล้วเว้ย!!

ตอนนี้ก็ติดคณะเดียวกัน (ชะกึ๋ยๆ) แต่แบบว่า มันได้ที่ต้นๆของคณะ แต่ฉัน…แหะๆ… สองสามคนสุดท้ายได้มั้ง

แต่ก็ติดแล้วเนอะ…มาเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังลุ้นต่อไป


^_^ เดี๋ยวมาต่อเรื่องต่อไป ว่าด้วยการสอบสัมภาษณ์คณะแพทย์ศาสตร์




Create Date : 28 เมษายน 2548
Last Update : 28 เมษายน 2548 4:34:29 น. 8 comments
Counter : 364 Pageviews.

 
ขอเอามาประยุกต์ใช้บ้างนะคะ
พูดถึงเรื่องเอนท์...เป็นอันต้องเครียดและกังวล
เฮ้ออออ.....ว่าแล้วก็ขอปลีกตัวไปพิมพ์รายงานก่อนนะคะ คือกะว่าปิดเทอมจะเคลียร์รายงานของม.6 ให้หมด แล้วก็เปิดเทอมจะอ่านแต่หนังสือ ไม่รู้จะทำได้หรือเปล่า !!!!!!!!


โดย: ผ้าเช็ดหน้า วันที่: 28 เมษายน 2548 เวลา:10:17:26 น.  

 
Y____________Y

เคมีอุ๊...หลับไม่ได้จริงๆ....ทรมานโครต!

คนข้างๆพี่ก็ตั้งใจเรียนมากเหมือนกัน กดดันกันสุดๆ ...แต่แล้ว ไหงตอนสุดท้ายมาบอกกันว่า "โทษครับ...ขอลอกเมื่อกี้หน่อย ผมจดไม่ทัน"

-__________-"



โดย: ....เกียร์... IP: 58.8.248.34 วันที่: 28 เมษายน 2548 เวลา:20:45:20 น.  

 
อิอิ เอาใจช่วยคะ

ขอให้สอบได้ ดังที่ต้องการ

วีวี่ คนเก่งอยู่แล้ว..จุ๊บๆๆ

เป็นเด็กดี ของแม่บุ ตลอดไปนะคะ


โดย: [[clk`klc]] IP: 61.91.176.22 วันที่: 28 เมษายน 2548 เวลา:21:55:07 น.  

 
ว่าด้วยเรื่องเอนทรานซ์ไปแล้ว ต่อไปจะมาดูบรรยากาศหลังเอนทรานซ์

ตอนช่วงเอนทรานซ์นั้น ก็จะมีการสอบโควต้าพิเศษเข้ามาเป็นระยะๆ ไม่ว่าจะเป็นหมอศิริราช หมอจุฬา หมอมหิดล หมออะไรสุดแล้วแต่จะหมอ แล้วก็พวกทุนกพ. ไปเรียนต่อต่างประเทศ อะไรต่างๆพวกนี้ ฉันไม่ได้ลงสมัครสักอัน เพราะว่าตั้งใจแน่วแน่ ว่าจะเรียนแถวๆบ้านแน่นอน เหตุผลหลายๆอย่าง บ้านไม่รวย แม่ไม่ค่อยสบาย (อยู่บ้านคนเดียวไม่อยากทิ้งไปไกลๆ) ตอนนั้นคิดว่า ถ้าไปเรียนกรุงเทพฯหรือต่างประเทศเราต้องปรับตัวอีกหลายอย่าง ไม่แน่ใจว่าจะไหวไหม มันเสี่ยงไปนิด แม่ต้องเลี้ยงลูกสองคนคือฉันกับน้อง ส่วนพ่อเลิกกับแม่มานานแล้ว ถ้าอยู่ใกล้ๆก็จะได้ช่วยลดภาระนิดหนึ่ง ตกลงก็คือไม่สมัครอะไรเลย สมัครแต่โครงการแพทย์ชนบทพิเศษ (ที่จริงทำฟอร์ม รู้ว่าสมัครไปก็ไม่ติดแค่นั้นเอง แหะๆ)

เจ้าโครงการนี้มีข้อดีคือไม่ต้องเอนทรานซ์ ไปเข้าค่ายคัดเลือก โดยผ่านการสอบสามส่วนคือ ฝึกงาน ข้อเขียน และสัมภาษณ์ เขาจะรับประมาณยี่สิบคน ก็ไปสมัครกับเขาด้วย สัมภาษณ์รอบแรกสบายมาก ผ่านฉลุย ไปเข้าค่ายกับเขา ตอนไปเข้าค่ายนี่เราแฮปปี้มากๆ คิดว่าทำได้อยู่แล้ว แหม… นักเรียนโรงเรียนชั้นนำของจังหวัด (อวดข่มหน่อยเฟ๊ย) แถมมาดมั่น มั่นใจ อะไรซิบะละกั๊ส ไปหมด จนเพื่อนคนหนึ่ง ชีเกิดอาการ ‘เกลียดขี้หน้า’ ฉันอย่างแรง…อันนี้ช่วยไม่ได้ ซวยจริงๆ ไปเหยียบหัวแม่เท้ามันตอนไหนก็ไม่รู้ เซ็งๆ … ไม่เซ็งได้ไง อยู่ดีๆมีคนมาเกลียดหน้า แถมเท่านั้นไม่พอ ทำอะไรมันก็จะคอยมองด้วยสายตาจับผิด… เลยเชิดใส่มันซะเลย ฮ่าๆ ๆ สะใจเว้ย!!


ฝากไว้ก่อนเดี๋ยวมาแปะ


โดย: p.ivy (p.ivy ) วันที่: 29 เมษายน 2548 เวลา:11:50:11 น.  

 
ผมว่าเรียน
แบบเข้าใจดีที่สุดนะ
แอบเคยเหงคนข้างๆ
บางทีจดอย่างเดียวเลย(แบบว่าลอกกระดานอย่างเดียวเลย)
แบบนี้ไม่รุ้จะได้รึป่าว

แต่ยังไงต่างคนก้อสไตล์การเรียน ก้อต่่างกันไปอีก
ค้นหาสไตล์ตัวเองให้เจอละกัน

เปงกำลังใจ ให้คนรอลุ้นผลเอ็นต์


โดย: ่ขิง IP: 203.156.131.184 วันที่: 29 เมษายน 2548 เวลา:11:51:05 น.  

 
5555 ขำได้ใจมากๆ วิวก้อเปนนะแบบนี้อ่ะ นั่งเหล่หนุ่มๆอ่ะ ชอบบบบ แต่แหมขอแอบเม้าติ๊ดส์ เคมีอ.อุ๊นี่ขอบอกว่า สมัครยากมากกก แถมที่นั่งก้อคับแคบจริงๆ(ยิ่งหุ่นงามอยู่)

แต่ก้อ.....นะ ขยันๆทำข้อสอบอ่ะดีแล้ววว เดี๊ยนแทบจะไม่เคยทำเองเลยย มีแต่ทำตอนเรียนพิเศษ อยู่บ้านนี่ กิน นอน ดูทีวี เท่านั้น!!! เอาแต่เรียนนอกบ้าน -_-''


โดย: view IP: 210.213.46.204 วันที่: 29 เมษายน 2548 เวลา:18:57:40 น.  

 
อยากได้บทสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษง่ะ กลัวว่าถ้าสอบติดและเค้าจะถาม


โดย: alina IP: 202.91.19.192 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2550 เวลา:0:32:37 น.  

 
พี่ฮามากๆเลยอ่ะ


โดย: Joy IP: 182.53.158.113 วันที่: 28 เมษายน 2554 เวลา:16:21:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

p.ivy
Location :
ปัตตานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add p.ivy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.