• About me...Jannilicious....
• Jannilicious's Lifestyle
• My baby & Family Blog
• Jannilicious Dressed up & Accessories
• Jannilicious Makeup of the day
• Preview & Haul
• Beauty Box Update
• Makeup Tutorial & How to
• All about LIPS Review & Swatch
• Face & Eyes Makeup Review
• Skincare & Hair care Review
• All about Perfumes
• Nail Polish Review & Swatch
• Activities & Events

ทำสวยกับ EMMA Clinic สวัสดีค่าาา...   มาอัพ blog ในรอบปี นานมากกกแล้ว วันนี้มาเล่าเรื่องที่แจนไปทำสวยมาให้รับชมกันค่ะ แจนไม่ได้ทำอะไรกับหน้าเลยมาเป็นเวลา 2 ปีกว่า ๆ แล้ว เรียกได้ว่านานพอสมควร อะไร ๆ มันก็หย่อนคล้อย ริ้วรอยก็เริ่มมา ไม่ได้การละ เลยต้องมาจัดหนักจัดเต็มกันคราวเดียวเลยค่ะ โดยแจนไปทำสวยครั้งนี้กับ EMMA Clinic นะคะ  EMMA Clinic เป็นคลินิกเสริมความงาม ตั้งอยู่ที่ ถนน แพรกษา จ.สมุทรปราการ ค่ะ สาว ๆ ที่อยู่โซนนี้ก็จะสะดวกเลย ลูกค้าเยอะมากกกค่ะ โดยที่นี่จะให้บริการด้านความงาม ผิวพรรณ ทรีทเม้นท์ เลเซอร์ , Botox, Filler, และโด่งดังทางด้านศัลกรรม จมูก และ คาง ด้วยค่ะ คุณหมอมีความเชี่ยวชาญและเก่งมาก ๆ และที่สำคัญ ราคาไม่แพงอย่างที่คิดเลยค่ะ ทำออกมาได้สวย ละมุนเป็นธรรมชาติ ลองเข้าไปดูรีวิวกันได้ค่ะ มาถึงเรื่องการทำสวยของแจนบ้างนะคะ  วันนั้นจัดเต็ม ทั้งการให้สารวิตามินผิว ที่ไม่ได้แค่ผิวกระจ่างใสเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์กับร่างกายโดยรวม ด้วยวิตามินต่าง ๆ ถึง 16 ชนิด เช่น วิตามิน บี 6 บี 12, วิตามินซีเข้มข้น และอื่น ๆ ที่เป็นสูตรลับเฉพาะของทาง Emma ขอย้ำว่าไม่ใช้การฉีดสารกลูต้าเร่งผิวขาวนะคะ และปลอดภัยกับร่างกาย 100% และในระหว่างรอให้วิตามิน ก็แปะยาชา และมาทำ Hifu กันค่ะ บอกเลยว่า ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย และไขมันบนใบหน้าเป็นสิ่งที่กังวลมาก คุณหมอเลยแนะนำให้ทำ Hifu เก็บเหนียง และไขมัน ให้รูปหน้ากระชับได้รูปขึ้น  โดยเครื่อง Hifu ของที่นี่เป็นของแท้ นำเข้ามาจากเกาหลี มาตรฐานเดียวกับคลินิคชั้นนำในประเทศเกาหลี เทคโนโลยีระดับสูง มีหัวยิงขนาดเล็กสามารถเข้าเก็บได้ละเอียดและลึกกว่า  ด้วยประสิทธิภาพตัวเครื่องอย่างเดียวไม่พอค่ะ บวกกับฝีมือการยิงของคุณหมอออย คุณหมอจะช่วยดูถึงปัญหาบนใบหน้า และเน้นย้ำตรงส่วนที่เรากังวลเป็นพิเศษค่ะ ของแจนจะเป็นช่วงกรอบหน้า เหนียง ร่องแก้ม และช่วงไขมันที่แก้ม ตอนทำมีความรู้สึกอุ่น ๆ ผิว บางช่วงมีจี๊ด ๆ บ้าง แต่ไม่เจ็บมากค่ะ  หลังจากยิง Hifu แล้ว ก็มา ฉีด Botox กันต่อเลย ก่อนที่ยาชาจะหมดฤทธิ์ซะก่อน  บอกแล้วค่ะว่าวันนี้จัดเต็ม คุณหมอฉีด Botox ให้ช่วงกรอบหน้า โดยเทคนิค​ Nefertiti​ V​ Lift เทคนิคใหม่ล่าสุดเฉพาะของ​ Emma​ Clinic ให้กรอบหน้าคมชัดได้รูปมากขึ้น ให้ผิวที่หย่อนคล้อยยกกระชับ ทำให้หน้าดูเรียวขึ้นนั่นเองค่ะ  และต่อ ๆ ที่ Botox เก็บริ้วรอยหางตาอีกสักหน่อย รอยตีนกามันมาแล้ว ต้องจิ้มบ้างอะไรบ้าง ขั้นตอนนี้ชิล ๆ ค่ะ คุณหมอและผู้ช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด จบกันที่การฉีดมาเด้ Made Aura Bright ฉีด 16 จุด ทั่วใบหน้า ช่วยให้ผิวหน้าสว่างกระจ่างใส ผิวฟูฉ่ำเด้ง อิ่มน้ำ ลดจุดด่างดำ รอยสิวได้เป็นอย่างดีค่ะ คุณหมอออยบอกว่า  ถ้าได้ฉีดอาทิตย์ละครั้งจะดีมาก ผิวจะใสฟูเด้งออร่าขั้นสุด  ทั้งหมดนี้ แจนทำไปได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว ตอนนี้เห็นผลชัดเจนแล้วค่ะ หน้ากระชับขึ้นจริง ๆ มีกรอบหน้าชัดขึ้น จากการทำ Hifu และ Botox Lift และยังต้องมา follow up ทำ Hifu ต่อเนื่องอีก 2 ครั้ง เพื่อความเป๊ะมากยิ่งขึ้น และเดี๋ยวมาอัพเดทเรื่อย ๆ ค่ะ ฝากติดตามทาง Social Media ของแจนด้วยค่ะ Before & After สำหรับท่านใดที่สนใจเข้าไปใช้บริการที่ EMMA Clinic  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ link นี้เลยค่ะ EMMA CLINIC THAILAND ท้ายนี้ ขอขอบคุณทาง EMMA Clinic ที่ดูแล ให้บริการเป็นอย่างดีค่ะ  All treatments sponsored by EMMA Clinic Non sponsored content   Create Date : 27 มิถุนายน 2562     Last Update : 27 มิถุนายน 2562 16:46:31 น. Counter : 25192 Pageviews.   0 comment Share Tweet

Review : Meso Fat & Thread Lifting by Simply Clinic สวัสดีค่ะ มาพบกับ blog อัพเดทความสวยความงามกันอีกแล้ว ช่วงที่ผ่านมาอาจจะมีห่างหายกันไปบ้าง  แต่ถ้าใครติดตาม FB & IG แจน ก็จะมีอัพเดทเรื่อย ๆ นะคะ  แจนได้มีโอกาสไปทำสวยมา หลังจากที่ไม่ได้ทำอะไรกับหน้ามาปีกว่า ๆ แล้ว ก็ถึงเวลาต้องซ่อมแซมกันบ้าง 555 ครั้งนี้แจนได้รับเชิญจาก Simply Clinic ค่ะ เป็นคลินิกเสริมความงาม มาตรฐานโรงพยาบาลชั้นนำ ดูแลเรื่องผิวพรรณ ทรีทเม้นท์ ปรับโครงหน้า ลดริ้วรอย โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และนวัตกรรมใหม่ที่อัพเดทตลอดเวลา ด้วยราคาที่ไม่แพง  และเห็นผลจริง อันนี้เดี๋ยวจะหาว่าอวยกันเกินไปอีก แจนไปใช้บริการแล้วเห็นผลจริง ๆ ค่ะ ไปทำอะไรมาบ้างมาดูกันเลยจ้าา หลังจากที่พบคุณหมอครั้งแรก สิ่งที่ต้องทำอย่างแรกเลยคือ ลดไขมันที่แก้มและเหนียง  เพราะนี่คือปัญหาใหญ่ของแจน หน้ากลม แก้มเยอะ ต้องทำการปรับรูปหน้ากันก่อน วันแรกก็ไปฉีด Meso Fat ค่ะ โดยคุณหมอจะเน้นบริเวณไขมันที่้ห้อย ช่วงกรอบหน้า คาง และเหนียง  จัดเต็ม คุณหมอมือเบามาก ๆๆๆ ค่ะ ไม่เจ็บเลยนะ ตอนตัวยาเข้าไปก็ไม่แสบนะคะ แค่รู้สึกว่ามันมียาเข้าไปเท่านั้นเอง  แล้วก็จัด Botox ลดกรามด้วย แล้วก็ลดริ้วรอยหางตาอีกสักหน่อย  วันนั้นหลังฉีดหน้าบวมมากกก คือบวมเป็นอึ่งอ่างเลย 555  แต่วันรุ่งขึ้นก็ยุบเป็นปกติค่ะ และไขมันจะค่อย ๆ ลดลง สลายไปเอง หน้าก็จะค่อย ๆ เข้ารูปขึ้น ก่อนฉีด - หลังฉีดทันทีหน้าจะบวมอยู่ค่ะ - หลังฉีด 1 วัน ยุบเป็นปกติค่ะ  อันนี้เห็นผลจริง ๆ ว่าฉีดเพียงครั้งเดียว ไขมันก็ลดลงจริง จากที่แจนเคยฉีดที่อื่นมาหลายครั้ง ไม่ลง หรือลงช้ามาก  ที่ Simply Clinic ครั้งเดียว เอาอยู่เลย  หลังจากนั้นก็มาตาม follow up กันค่ะ หน้ายุบลงแล้ววว  แต่แจนมีแก้มเยอะอยู่แล้ว อันนี้ทำยังไงก็ไม่หาย เพราะเป็นกรรมพันธุ์ ทุกคนในครอบครัวมีกันหมด ส่วนตัวแล้วแจนชอบแก้มแบบนี้นะ ไม่ชอบให้มันแบนราบ แจนว่ามีแก้มแบบนี้มันดูเด็กกว่าแก้มตอบ ๆ แต่ทีนี้ด้วยความที่เนื้อแก้มเยอะ มันก็ทำให้เกิด ร่องแก้ม เป็นเส้น ๆ แล้วยิ่งอายุมากขึ้นและแรงโน้มถ่วง มันก็จะทำให้เรามีร่องแก้ม และดูแก่ 555 ต้องกำจัดมันออกไป  ทีนี้ก็โดนร้อยไหมค่ะ เป็นการยกกระชับหน้า ซึ่งการร้อยไหม จะช่วยให้ผิวเต่งตึง ยกกระชับในทันที และนอกจากนั้นยังไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในผิว และช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ทำให้หน้าใสขึ้นด้วย  ตอนร้อยไหม ยอมรับว่าเกร็ง ๆ และตื่นเต้นค่ะ  แจนร้อยไหมมิรากุ ( ไหมละลาย ) ไปทั้งหมด 40 เส้น ( ข้างละ 20 ) รู้สึกว่าเลือดไหลเวียน วูบวาบที่หน้า แต่คุณหมอทำเร็วและมือเบามาก จะให้เรารู้สึกเจ็บน้อยที่สุด  หลังจากร้อยไหมมิรากุ กลับบ้านไป ก็มีระบมเหมือนกัน หน้าช้ำอยู่ประมาณ 7-10 วันค่ะ ผิวแจนช้ำง่ายอยู่แล้ว  บางคนก็ไม่เป็น แล้วก็หายเป็นปกติ แต่ก็สามารถแต่งหน้ากลบได้ ใช้ชีวิตปกติเลยค่ะ หน้าเรียวขึ้นเห็นได้ชัด และร่องแก้มก็จางลงด้วย เพราะไหมไปยกกระชับ ดึงแก้มขึ้น  เว้นไปอีก 2 สัปดาห์ แจนก็ไปร้อยไหมเงี่ยงเพิ่มค่ะ ไหมเงี่ยงนี้ จะเป็นตัวที่ไปดึงผิวข้างใน ให้ยกกระชับได้ดียิ่งขึ้น ใช้จำนวนเส้นน้อย เพราะแรงดึงเค้าเยอะ  แจนร้อยไปข้างละ 2 เส้น ทั้งหมด 4 เส้น หลังร้อยรู้สึกหน้าตึงมากกกก หมอเค้าดึงจนมันตึงและมาร่วมกันอยู่ที่แก้ม 555 ตอนแรกก็ตกใจ แต่มันคืออาการปกติตอนร้อยไหมเงี่ยงค่ะ ยิ่งดึงยิ่งยกกระชับ ตอนนี้แหละที่รู้สึกว่าตัวเองเริ่มมีคางแล้ววว  หน้าจะเป็นรอยบุ๋ม ๆ นิดนึง อันนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละคนเลยค่ะ บางคนก็ไม่เป็นอะไรเลยนะ แต่แจนมีบุ๋ม ๆ นิดนึง แต่หน้าตึงอยู่หลายวันมาก รู้สึกฟินมากในความตึง ผ่านไปสักพักก็ดีขึ้นและเป็นปกติค่ะ ไม่มีอาการข้างเคียงอะไรทั้งนั้นค่ะ  แจนทำมาได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว หน้ามันค่อย ๆ เข้ารูปขึ้น หน้ายกกระชับขึ้นมาก ร่องแก้มหายไปเยอะเลย เอารูปมาให้ดูกัน ถ่ายเก็บไว้ดูความเปลี่ยนแปลงของรูปหน้าค่ะ รูปที่ถ่ายมาลงก็จะมีแบบหน้าสดบ้าง แต่งหน้าบ้างนะคะ  อันนี้คือล่าสุดเลยค่ะ การร้อยไหมที่แบบแจนทำอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปีค่ะ  ระหว่างนี้หน้าก็จะยิ่งยกกระชับ โดยจะเห็นผลชัดเจนที่สุดในระยะเดือนที่ 2 หลังจากทำค่ะ  โดยรวมแล้วแจนพอใจมากค่ะ เพราะทำแล้วเห็นผลจริง คุณหมอใจดีและมือเบา พนักงานที่นี่ดูแลดีค่ะ  และราคาที่ไม่แพงเวอร์ มีแพคเกจและโปรโมชั่นหลากหลายที่บอกเลยว่าคุ้มค่ะ  รีวิวนี้แจนทำขึ้นเพราะอยากแชร์ประสบการณ์จริงจากการที่ไปใช้บริการที่ Simply Clinic ค่ะ  ไม่ได้รับการว่าจ้างให้เขียนแต่อย่างใด อยากทำเพื่อแบ่งปัน และบอกต่อว่าทำแล้วเห็นผลจริง  ไว้ถ้ามีโอกาสไปทำสวยอีกเมื่อไรแจนจะมาอัพเดทกันอีกครั้งนะคะ ใครสนใจก็เข้าไปขอคำปรึกษาได้ค่ะ Facebook Page https://www.facebook.com/simplyclinic/?fref=ts Sponsored treatments by Simply Clinic Non Sponsored content    Create Date : 10 พฤศจิกายน 2559     Last Update : 11 พฤศจิกายน 2559 10:50:37 น. Counter : 145130 Pageviews.   0 comment Share Tweet

Hair Treatment : EVO Fabuloso & Temptress Shine Treatment สวัสดีค่าา เมื่ออาทิตย์ก่อนแจนได้ไปทำทรีทเม้นท์ผมมา แล้วประทับใจมากกกก แจนเองไม่ได้เข้าร้านทำผมทำทรีทเม้นท์จริงจังมานานมาก ๆ  ส่วนใหญ่ก็จะบำรุงเอง หมักผมเองที่บ้าน มีไปสระไดร์บ้างบางครั้งค่ะ ช่วงหลังผมเริ่มบางลง ปลายบางและแห้งมาก ผมหยาบกระด้าง  ได้โอกาสมาทำทรีทเม้นท์ก็เลยมารีวิวให้ดูกันสักหน่อยค่ะ แจนเห็นว่าแบรนด์นี้เพิ่งเข้าไทยแล้วก็ดูผลิตภัณฑ์เค้าน่าใช้ดีค่ะ ชื่อแบรนด์ EVO เป็น Hair Care จากประเทศออสเตรเลียค่ะ ตอนนี้เข้าไทยเรียบร้อยแล้วนะคะ จะมีตามซาลอนชั้นนำต่าง ๆ  Treatment ที่แจนได้ทำจะมี 2 ตัวนะคะ FABULOSO COLOR และ TEMPTRESS SHINE มาดู Before กันก่อนไหม ดูสิคะผมช่วงปลายบางมากเนื่องจากผมร่วง และขาดการบำรุง ผมไม่มีน้ำหนัก จัดทรงยาก มีความแห้งและฟู ทุกวันนี้ต้องหนีบผมตลอดค่ะไม่งั้นแห้งฟูมาก ๆ เลยกะไว้ว่าทำทรีทเม้นท์เสร็จจะตัดออกสัก 3 นิ้วให้ผมดูเท่า ๆ กันค่ะ เริ่มด้วยการทำ FABULOSO COLOR  จะเป็นการเติมสีผมในรูปแบบของครีมนวดค่ะ เพื่อรักษาความสดของสีผม และเพื่อสุขภาพที่ดีของเส้นผม เพิ่มความเงางาม  มีถึง 7 เฉดสีให้เลือก และยังสามารถนำไปทำเองได้ที่บ้านด้วยค่ะ หน้าตาของผลิตภัณฑ์ก็จะเป็นแบบนี้่ค่ะ วันนั้นพี่เค้าผสมออกมาให้แจนเป็น Hair Cocktail สีสันน่ารักมาก ๆ  เสร็จแล้วก็เชครวมกัน นำมาหมักผมทิ้งไว้สักครู่  ตัวนี้จะไม่ใช่การเปลี่ยนสีผมถาวรนะคะ แต่จะเป็นการเติมประกายสีผม ให้มีความเงางาม อย่างผมแจนพื้นเดิมจะเป็นสีน้ำตาลเข้ม-ดำ ก็จะได้เป็นประกายดูเก๋ ๆ ค่ะ แต่สำหรับคนที่ทำสีผมหรือกัดสีผมมาก็จะได้สีสันที่เด่นชัดขึ้น คือเวลาสระผม สีที่เราทำมันจะเฟดไปเรื่อย ๆ ตัว FABULOSO COLOR นี่แหละค่ะจะเป็นเสมือนครีมนวดผมที่เติมสีและบำรุงไปในตัว สามารถใช้เองที่บ้านโดยการหมักทิ้งไว้แค่ 3 นาทีเท่านั้นค่ะ เสร็จแล้วก็มาทำอีกหนึ่งทรีทเม้นท์ค่ะ  TEMPTRESS SHINE TREATMENT ตัวนี้ชอบมากกกกกเลย เพราะมันหอมมาก ๆๆๆ และที่สำคัญตัวนี้เป็นการบำรุงผมเสมือนกับการเคลือบแก้วเลยทีเดียว  เป็นทรีทเม้นท์เพิ่มความเงางาม ให้ความเรียบลื่น นุ่มสลวย ช่วยให้ผมมีน้ำหนัก และลดการชี้ฟู  ประทับใจตัวนี้มาก ๆ ค่ะ กลิ่นหอมติดผม หอมแบบน้ำหอมหรู ๆ  ขั้นตอนก็คือ หมักผมและเข้าตู้อบไอน้ำ ทิ้งไว้ 5 นาที และทิ้งไว้ให้เย็นอีก 5 นาทีแล้วล้างออกค่ะ ล้างออกแล้วก็มาไดร์และจัดทรงได้ตามปกติค่ะ แจนตัดผมออกไปประมาณ 3 นิ้วด้วยค่ะ สบายหัวมาก After หลังการทำ  FABULOSO COLOR & TEMPTRESS SHINE TREATMENT ผมนุ่มมากกก และเงามาก ๆ เลยค่ะ ไดร์ง่ายกว่าเดิมมาก ผมมีน้ำหนักไม่ฟูเหมือนตอนแรกแล้ว แล้วมันหอมมากกกกกค่ะ จับผมดมผมทั้งวันเลย ฟินมากกก ไม่ได้สัมผัสผมตัวเองแบบนี้มานานแล้ว  หลังจากทำแล้วแจนก็กลับมาดูแลผมเองตามปกตินะคะ ก็สระและไดร์เอง ความเงางามยังคงอยู่ และรู้สึกว่าไดร์ง่ายขึ้น ผมมีน้ำหนักขึ้นค่ะ  ขอขอบคุณ EVO HAIR THAILAND ที่เชิญไปทำสวยค่ะ สำหรับใครที่สนใจทำทรีทเม้นท์ หรือสนใจผลิตภัณฑ์สามารถเข้าไปดูได้ค่ะ ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.facebook.com/evohairthailand/ //evohair.com/ ( Sponsored treatment by EVO HAIR THAILAND ) ( Non sponsored content )   Create Date : 29 สิงหาคม 2559     Last Update : 29 สิงหาคม 2559 15:30:23 น. Counter : 144671 Pageviews.   0 comment Share Tweet

Review : 3D Eyebrow with Adenaa สวัสดีค่ะ บล็อกนี้แจนจะมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของ คิ้ว กันนะคะ พูดถึงคิ้วเค้าว่ากันว่าเป็นมงกุฏของหน้าเลยนะ เพราะเป็นส่วนที่สำคัญและเติมเต็มความสวยงามสมบูรณ์แบบของใบหน้าคนเรา หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินนะคะว่าถ้าคิ้วสวยได้รูป ก็จะช่วงเสริมโหงวเฮ้งได้ด้วย คิ้วที่บางเกินไปก็อาจจะทำให้ดูมีอายุ ส่วนถ้าคิ้วหนาไปก็จะดูรกอีก วันนี้เลยจะพามาทำความรู้จักกับการทำคิ้ว 3 มิติ กับทาง Adenaa ค่ะ และจะพาทัวร์คลินิกพร้อมกับรีวิวการทำคิ้ว 3 มิติ กับที่นี่ด้วยค่ะ ADENAA  คลินิกเสริมความงามเฉพาะทาง ก่อตั้งโดยอาจารย์เอ  เป็นที่รู้จักและยอมรับในความเป็นผู้เชี่ยวชาญ Eyebrow Artist ชื่อดังของเมืองไทย  จากประสบการณ์กว่า 20 ปี และแรงบันดาลใจจากศิลปินเอกของโลกอย่าง " ลีโอนาร์โด ดาวินชี " ที่มีความสนใจทางด้านวิทยาศาสตร์ และความสามารถในการเชื่อมโยงศิลปะหลายแขนงเข้าด้วยกัน เกิดเป็นการสร้างสรรค์ความงามในรูปแบบคิ้ว 3 มิติ ที่ผสานศาสตร์ของการวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้าที่แตกต่างกัน และศิลป์ของการออกแบบทรงคิ้ว โดยคำนึงถึงการสะท้อนและการหักเหของแสงเงา เพื่อความสวยสมบูรณ์แบบในทุกองศาสำหรับแต่ละคน  ที่ Adenaa ไม่ได้มีเพียงบริการออกแบบคิ้วและเพ้นท์คิ้ว 3 มิติเท่านั้นนะคะ แต่ยังมีบริการ เปลี่ยนสีริมฝีปาก เพ้นท์หนังศีรษะ 3 มิติ และดีไซน์ความงามส่วนตัว ในเรื่องของใบหน้า ผิวพรรณ และรูปร่าง โดยเทคโนโลยีทางและนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ทันสมัย เช่น Botox, Meso Fat, Laser & Treatment  ทุกขั้นตอนจะดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ  แจนจะพามาเยี่ยมชมที่คลินิกและบอกเล่าประสบการณ์การทำคิ้วกันนะคะ คลินิกตั้งอยู่ที่ ชั้น G ศูนย์การแพทย์แบงคอคเมดิเพล็กซ์  เดินทางไม่ยากค่ะ ถ้ามา BTS ก็มีทางเชื่อมต่อโดยตรงที่สถานีเอกมัย ทางออกที่ 2 หรือถ้ามารถส่วนตัวก็มีที่จอดรถในตึก สะดวกสบายค่ะ  มาถึงบริเวณคลินิกก็จะเจอแผนกต้อนรับลูกค้าด้านหน้าค่ะ  พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใส ให้บริการดีค่ะ  อาจารย์เอ และ Adenaa Eyebrow Artist Team  เดินเข้าไปอีกนิด จะเป็นอีกส่วนที่ให้ลูกค้าที่ทำนัดแล้ว เข้าไปทำคิ้วด้านในค่ะ บริเวณนี้จะเป็นส่วนตัว ไม่ได้มีใครเดินเข้าเดินออกได้ง่าย จะมีเพียงพนักงานและลูกค้าที่ทำนัดแล้วเข้าไปใช้บริการเท่านั้น  เตียงสำหรับลูกค้านอนทำคิ้วค่ะ สบายมาก ๆ ค่ะ ระหว่างทำก็หลับไปเลยค่ะ เตียงนอนสบายมาก มีกระจกและม่านกั้นเป็นสัดส่วน ชอบมาก ๆ ค่ะ  วันแรกแจนเข้าไปทำการออกแบบคิ้วก่อนค่ะ ทางเอดิน่าจะวิเคราะห์โครงหน้า และออกแบบทรงคิ้วให้เหมาะกับรูปหน้า โดยการร่างทรงคิ้วให้ลูกค้าได้เห็นจริงและสอบถามความพึงพอใจลูกค้าก่อน ชอบแบบไหนบอกได้ค่ะ พนักงานทุกคนจะผ่านการอบรมจากอาจารย์เอมาแล้ว จะมีความเชี่ยวชาญทุกคนค่ะ แต่ว่าสไตล์แต่ละคนจะไม่เหมือนกัน  ใช้เวลาในการออกแบบทรงคิ้ว 1 ชั่วโมงค่ะ ถ้าลูกค้าชอบและพึงพอใจแล้วกับแบบคิ้วแล้วก็สามารถนัดวันในการมาทำการเพ้นท์คิ้ว 3 มิติได้เลย  คิ้วแจนเคยผ่านการสักถาวรมาแล้ว สีจางไปเยอะแล้วค่ะ บางด้วย แต่ก็ยังคงมีโครงเดิมบ้าง ทางผู้ออกแบบคิ้วก็วาดเป็นแบบ 3 มิติตามโครงคิ้วเดิม ให้หนาขึ้นและได้รูปขึ้น แจนอยากได้คิ้วหนาขึ้นเพราะทุกวันนี้ก็วาดให้หนาขึ้นตลอด  ก็ออกมาได้เป็นทรงนี้ค่ะ สวยมากกก ถูกใจมากค่ะ ตอนอาบน้ำแทบไม่อยากลบคิ้วออก 555  แต่วันที่เราทำคิ้ว 3 มิติจริงก็จะเป็นทรงเดิมนี้ค่ะ  ผู้ออกแบบคิ้วให้แจน ชื่อ คุณเดียร์ นะคะ ถ้าใครชอบหรือสนใจก็รีเควสได้ค่ะ มาถึงวันนัดทำคิ้วจริงค่ะ วันนี้จะใช้เวลาทั้งหมด 4 ชั่วโมง นานหน่อยค่ะ เพราะต้องวาดคิ้วใหม่ 1 ชั่วโมง และแปะยาชา ถึงมาเพ้นท์คิ้ว 3 มิติ ที่ใช้เวลานานเพราะที่นี่เค้าละเอียดอ่อนและพิถีพิถันมากค่ะ ทุกขั้นตอนต้องเป๊ะค่ะ ยาชาเค้าดีมากกกกค่ะ ชาได้ใจ ไม่รู้สึกเจ็บระหว่างทำเลย หลับสบาย การเพ้นท์คิ้ว 3 มิติของเอดีน่าจะเป็นเทคนิคการวาดลายเส้นเหมือนขนคิ้วจริงทีละเส้นเพิ่มลงในแนวขนคิ้วเดิม ทำให้ได้คิ้วที่รูปทรงสวย พริ้วไหว ดูเป็นธรรมชาติ เข้ากับรูปหน้าของแต่ละคนโดยเฉพาะ โดยที่ทำแล้วไม่ต้องเขียนคิ้วเพิ่มเติม  หลังเพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สวยมากกก ชอบมาก ๆ ค่ะ ก่อน และ หลัง คิ้ว 3 มิติ  คิ้วทรงก่อนจะค่อนข้างบางมาก จึงทำให้ดูโก่ง ทำให้ดูมีอายุค่ะ และหัวคิ้วจางหายไปเยอะ หลังเพ้นท์ 3 มิติทำให้ดูหนา เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ชอบมากกกค่ะ มองคิ้วตัวเองทั้งวัน  ตอนหลังทำจะดูเข้มหน่อย เดี๋ยวเค้าจะค่อย ๆ ลอก และสีจางลงกว่านี้ค่ะ หลังทำก็ต้องดูแลดี ๆ ค่ะ โดยทางเอดีน่าจะมีครีมมาให้ทาคิ้ว ครีมนี่จะเป็นตัวให้ความชุ่มชื่น เคลือบคิ้วเอาไว้ คล้ายกับพวกปีโตเลียม เจลลี่ค่ะ  - ห้ามโดนน้ำ 7-10 วัน  - ทาครีมที่คิ้วทุกวัน วันละ 2-3 ครั้ง เป็นเวลา 10 วัน - ห้ามแกะเกา หรือลอกสะเก็ดออกเอง - ระหว่างสะเก็ดลอก อาจจะมีสีบางส่วนหลุดออกมาบ้าง ไม่ต้องกังวล เพราะอีก 1 เดือนจะมีการเติมสีคิ้วเพื่อเก็บรายละเอียดอีกครั้งค่ะ ส่วนของแจนสีไม่ลอกเลยเพราะดูแลดีมากกก ไม่ไปแกะไปลอกสะเก็ด เค้าก็จะค่อย ๆ ลอกเองโดยที่สียังอยู่ ทาครีมให้หนา และเบามือ รูปนี้คือ คิ้วที่เพ้นท์ผ่านไปประมาณ 5-7 วัน ก็สามารถใช้ชีวิตปกตินะคะ แต่งหน้าได้ตามปกติแค่อย่าไปยุ่งกับคิ้ว หมั่นทาครีมที่คิ้วให้ชุ่มชื่นตลอดเวลา และห้ามโดนน้ำ เวลาลบเครื่องสำอางออกก็ใช้พวก cleansing water เช็ดรอบ ๆ เว้นคิ้ว และล้างหน้าครึ่งหน้าไปก่อน หลัง 10 วันค่อยโดนน้ำค่ะ อดทนนิดนึงรับรองว่าคุ้มแน่ ๆ ค่ะ  แจนเพิ่งไปเติมสีคิ้วมาด้วยค่ะ หลังเพ้นท์ครั้งแรก เว้น 1 เดือน ทำการเติมคิ้วเพื่อเก็บรายละเอียดอีกครั้งค่ะ หลังเติมก็ดูแลตัวเองตามเดิมค่ะ เดี๋ยวแจนจะอัพเดทรูปให้ดูกันเรื่อย ๆ ทาง social นะคะ คิ้ว 3 มิติที่เอดีน่า จะอยู่ได้ประมาณ 1 ปี ค่ะ ขึ้นอยู่กับการดูแลด้วยค่ะ ถ้าหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับหน้าที่มีสวนผสมของแอลกอฮอล์ได้ก็จะยิ่งดีค่ะ ทำให้สีติดอยู่นานขึ้นค่ะ แจนประทับใจมาก ๆ กับที่นี่ค่ะ ทั้งบริการ และความเชี่ยวชาญของพนักงาน และในทุกขั้นตอนก็จะมีอาจารย์เอมาช่วยดู รู้สึกว่าได้รับการดูแลที่ดีมาก วัสดุอุปกรณ์ก็ครบครัน สะอาด ปลอดภัย เดินทางก็สะดวกค่ะ แนะนำเลยค่ะสำหรับคนที่กำลังหาที่ทำคิ้ว อัตราค่าบริการเพ้นท์คิ้ว 3 มิติ 10,000-15,000 บาท ค่ะ   ( ราคาขึ้นอยู่กับความยากง่ายในการออกแบบโครงคิ้วของแต่ละบุคคล ) แบบที่แจนทำจะอยู่ที่ราคา 15,000 บาทค่ะ ถ้าใครสนใจก็สามารถไปขอคำปรึกษาและออกแบบทรงคิ้วได้นะคะ Adenaa Clinic เปิดให้บริการทุกวัน 10.00-19.00 น ค่ะ รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.facebook.com/3d.eyebrows.Adenaa //www.adenaa.com/ ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้นะคะ  ขอบคุณ อาจารย์เอ และ Adenaa Clinic มาก ๆ ค่ะ ขอบคุณที่รับชม และไว้พบกันบล็อกหน้าค่าาา   Create Date : 13 ตุลาคม 2558     Last Update : 13 พฤศจิกายน 2558 19:17:18 น. Counter : 148939 Pageviews.   0 comment Share Tweet

Update รูปหน้า Lipo Dissolve + Lipo Firm with Poss Clinic สวัสดีค่ะ...บล็อกนี้แจนจะมาเล่าเรื่องราวสวย ๆ งาม ๆ กันอีกเช่นเคยนะคะ จะมาอัพเดทเรื่องรูปหน้า และโปรแกรมดูแลรูปร่างที่แจนได้ไปใช้บริการที่ Poss Clinic มาค่ะ ถ้าใครติดตาม social media ของแจนก็จะเห็นว่าแจนไปใช้บริการที่ Poss Clinic เป็นประจำเลย ไปทุกสัปดาห์ หลัง ๆ นี้ก็จะเริ่มห่างไปบ้างเพราะยุ่ง ๆ แต่ที่ไปติด ๆ กันช่วงแรกก็จะเป็นการดูแลเรื่องรูปหน้าอย่างต่อเนื่องค่ะ ซึ่งที่นี่นอกจากจะมีบริการทางด้านความงาม ดูแลผิวพรรณ ปรับรูปหน้า และการชะลอวัยแล้ว ยังมีในส่วนของรูปร่างอีกด้วยค่ะ ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และปลอดภัยไร้ผลข้างเคียง ฟังดูแล้วน่าสนใจมาก ๆ แจนเองก็ไว้ใจและใช้บริการที่นี่เป็นประจำเสมออยู่แล้วค่ะ ดูได้จากรีวิวที่เคยโพสไปแล้วนะคะ  ในส่วนของการทำทรีทเม้นท์ Ultra Deep Cell Repair ตาม link ด้านล่างได้เลยค่ะ Ultra Deep Cell Repair Treatment with POSS Clinic  พาคุณแม่ทำสวย Ultra Deep Cell Repair กับ Poss Clinic มาถึงรีวิวการปรับรูปหน้าของแจนกันบ้างนะคะ แจนเป็นคนหน้ากลมค่ะ 555 ไขมันที่หน้าเยอะ โดยเฉพาะช่วงล่างบริเวณคาง และเหนียงเป็นชั้นเลยค่ะ ไหนจะแก้มที่มีเยอะมากอีก ( โหนกแก้มและเนื้อแก้มเป็นกรรมพันธ์ุค่ะ ญาติ ๆ และครอบครัวแจนจะมีทุกคน ) และยิ่งเราเป็นคนตัวใหญ่ คือเจ้าเนื้ออะ ก็จะมีแก้มเยอะกว่าคนอื่น แล้วต้องใช้หน้า แต่งหน้า ถ่ายรูป ถ้าหน้าไม่เรียวไม่ได้รูป ถ่ายงานออกมามันก็จะดูไม่มีมิติ ไม่สมบูรณ์ ช่วงแรกแจนก็ใช้การ shading หน้าช่วยค่ะ ก็ช่วยได้บ้างนะ แต่พอมาเจอคุณหมอไก่ ที่ Poss Clinic คุณหมอฉีดให้เลยค่ะ บอกว่าแก้มต้องเอาออก เหนียงใต้คางก็มีเยอะ ต้องเอาออกค่ะ คุณหมอเลยจัด Lipo Dissolve เป็นการฉีดสลายไขมันบริเวณหน้า ให้ไขมันสลายไปอย่างถาวร ฉีดไปทั้งหมด 4 ครั้งค่ะ โดยแต่ละครั้งก็จะเว้นช่วงห่างกัน 2 สัปดาห์ ให้ผิวได้พัก ก่อนฉีดจะมีการแปะยาชาทิ้งไว้ประมาณ 45 นาที พอชาได้ที่ก็จะลงมือฉีด คุณหมอไก่ ฉีดให้เองเลย มือเบามากกกก  ที่ Poss Clinic การฉีดสารทุกอย่างจะทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นค่ะ ก่อนฉีดจะมีการทำตำแหน่งไว้ เพื่อกำหนดว่าจะฉีดบริเวณไหน บางคนหน้าเบี้ยวบ้าง ไม่เท่ากันบ้างก็สามารถฉีดให้ไขมันลดลงทำให้หน้าเท่ากันค่ะ  หลังฉีดก็จะหน้าบวมอยู่ประมาณ 3 วันค่ะ แต่ก็สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ และมียาลดบวมมาให้ทาน ภาพ Before และ After ก่อนฉีด และหลังฉีดครั้งแรกค่ะ แจนได้ฉีด Botox ลดกรามด้วย 1 ครั้งนะคะ ทำให้กรามดูลดลงด้วย และภาพที่เหลือจะเป็นหลังจากการฉีด 2 - 4 ครั้ง ตามลำดับค่ะ  จะเห็นได้ว่า หน้าค่อย ๆ เรียวขึ้น และไขมันที่หน้าและเหนียงใต้คางค่อย ๆ ลดลงค่ะ  โดยรวมแล้วพอใจมากค่ะ หน้าได้รูปขึ้น โดยที่ไม่ได้เรียวเล็กเกินไป ดูธรรมชาติ  แก้มที่มีก็ยังมีอยู่นะคะ แต่คุณหมอออกแบบรูปหน้าให้ออกมาเป็นธรรมชาติและเข้ากับเรามากที่สุดค่ะ รูปปัจจุบันค่ะ และที่แจนเกริ่นไว้ช่วงต้นบล็อก ว่าที่ Poss Clinic เค้านอกจากจะมีบริการทางด้านความสวยความงามบนใบหน้าแล้ว  ยังมีโปรแกรมดูและรูปร่างอีกด้วยค่ะ หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าเป็นการทานยาลดแน่ ๆ แต่ไม่ใช่เลยค่ะ โปรแกรมนี้คือ Lipo Firm ค่ะ เป็นนวัตกรรมที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเปลี่ยนไขมันสะสมในส่วนต่าง ๆ อาทิ หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา ให้เป็นพลังงาน ส่งผลให้อัตราการเผาผลาญไขมันสะสมในร่างการมากขึ้น จึงสามารถลดน้ำหนัก และลดไขมันสะสมได้อย่างเห็นผล โดยไม่ต้องทานยา ไม่ทำให้มีผลข้างเคียงจากการทานยา เช่น ใจสั่น นอนไม่หลับ ปลอดภัย โดยผ่าน อ.ย. ทั้งในและต่างประเทศ และรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ช่วยลดสลายไขมันเฉพาะจุด ช่วยลดรอยแตกลาย ช่วยลดและสลายเซลลูไลท์  โดยโปรแกรม Lipo Firm นี้ จะเป็นการฉีดเข้าเส้นเลือด ใช้เวลาในการทำประมาณ 5 นาทีเท่านั้นค่ะ และฉีดกระตุ้นสัปดาห์ละครั้ง ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดี แจนเองมีระบบเผาผลาญแย่อยู่แล้ว เคยไปวัดด้วยเครื่อง In body แล้วพบว่าระบบการเผาผลาญต่ำ เมื่อเทียบกับอายุและน้ำหนัก แจนเลยต้องมีตัวช่วยและพยายามมากเป็นพิเศษ แต่ด้วยความที่เป็นคนไม่ออกกำลังกายอยู่แล้ว ก็จะยิ่งลดยากค่ะ โปรแกรม Lipo Firm จึงเหมาะมาก และคุณหมอไก่ก็แนะนำให้ออกกำลังบ้างช่วงที่ฉีดจะได้ไปช่วยกระตุ้นให้ตัวยาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แจนฉีดไปทั้งหมดประมาณ 8 ครั้ง ช่วงแรกน้ำหนักยังไม่ลงค่ะ แต่สัดส่วนลดลง และรู้สึกสบายตัวขึ้น เสื้อผ้าค่อย ๆ หลวมขึ้น ผ่านไป 4 - 5 ครั้งน้ำหนักก็ค่อย ๆ ลดลง 1-1.5 กิโลกรัม ตอนนี้ลงไป 1.8 กิโลกรัม แหมถ้าลงฮวบฮาบก็น่ากลัวไปนิดนะ นี่เค้าค่อย ๆ ลดลงอย่างมั่นคง สำหรับแจนที่เป็นคนลดยากมาก แต่โปรแกรมนี้ใช้ชีวิตปกติมาก ๆ ค่ะ ไม่ต้องอดอาหาร แจนก็ไม่ได้อดเลย ทานอิ่มทุกมื้อแต่เลือกทาน ยาก็ไม่ต้องทาน ผลข้างเคียงก็ไม่มีค่ะ ถ้าเมื่อไรขยันออกกำลังบ้างก็จะยิ่งลงดี ก็รู้สึกว่าโปรแกรมนี้มันไม่ส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตเรา และไม่มีการ Yoyo effect หลังจากรักษาแน่นอน ปลอดภัย มั่นใจได้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ เหมาะกับคนที่ไม่อยากเสี่ยงกับการทานยา และไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกายค่ะ  แจนมั่นใจใช้บริการที่ Poss Clinic เพราะที่นี่เค้าปลอดภัยได้มาตรฐาน และแพทย์คือคุณหมอไก่ เก่งจริง ๆ ค่ะ คุณหมอจะรักษาให้ตามความเหมาะสม และที่นี่จะไม่เร่งขายคอร์ส พนักงานก็บริการดีและสุภาพ  เท่าที่ได้ไปใช้บริการคลินิกเสริมความงามต่าง ๆ แจนประทับใจที่นี่ที่สุดค่ะ  ขอบอกเลยว่าบล็อกนี้ไม่ได้รับค่าจ้างแต่อย่างใดค่ะ เขียนเองด้วยความรู้สึกและประสบการณ์จริง ก็ขอขอบคุณ Poss Clinic ที่ดูแลเรื่องความงามให้แจนนะคะ ตอนนี้เค้ามีโปรโมชั่นหลายรายการเลยค่ะ ใครสนใจก็ลองเข้าไปขอคำปรึกษาได้นะคะ  รายละเอียดเพิ่มเติมของทางคลินิก //www.possclinic.com Facebook Poss Clinic    Create Date : 28 กันยายน 2558     Last Update : 12 ตุลาคม 2558 15:03:25 น. Counter : 143051 Pageviews.   0 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang

• Jannilicious's Facebook
• BlogGang.com