ร้อนนี้...ท้าแดดจัดระวัง มะเร็งผิวหนัง
* * . . . . .
สุขภาพ

ร้อนนี้...ท้าแดดจัดระวัง มะเร็งผิวหนัง (Lisa)

ดำดีสีไม่ตก แต่ถ้าปล่อยให้แดดเลียผิวจนไหม้นาน ๆ เข้า "มะเร็งผิวหนัง" จะถามหานะ

          เป็นความจริงที่คนไทยไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องมะเร็งผิวหนังมากเท่าชาวยุโรปผิวขาว แต่การไม่หลบแดดร้อนแรงของบ้านเรา หรือไม่ป้องกันไว้ก่อนตั้งแต่เนิ่น ๆ มะเร็งผิวหนังก็อาจจะมาเยือน และเมื่อนั้นก็จะหมดสวยกันเลยทีเดียวล่ะ

รู้จักกับมะเร็งผิวหนัง

          ในขณะที่เซลล์ผิวหนังทั่วไปจะถูกสร้าง เจริญเติบโต และตายไปเป็นวัฏจักร มะเร็งผิวหนังจะเกิดขึ้นเมื่อเซลล์เจริญเติบโตอย่างไม่สามารถหยุดยั้งได้แทนที่จะตายไปตามปกติ เพราะ DNA ในเซลล์นั้นเกิดความผิดปกติที่ทำให้มันโตขึ้นเรื่อย ๆ และสร้างเซลล์ผิดปกติอื่น ๆ ตามมาอีก

มะเร็งผิวหนังที่คนไทยต้องระวัง

Basal Cell Carcinoma (BCC)

          มะเร็งชนิดนี้ถือเป็นมะเร็งผิวหนังที่พบได้บ่อยที่สุด เมื่อ Basal Cell ในชั้นล่างสุดของหนังกำพร้าเจริญเติบโตอย่างควบคุมไม่ได้ มองภายนอกอาจจะเห็นแค่แผล ผื่นแดง แผลเป็น ตุ่ม ซึ่งมักจะเกิดจากการได้รับรังสี UV เป็นระยะเวลานาน หรือเกิดจากการได้รับรังสี UV ในระยะสั้น ๆ แต่เป็นปริมาณมาก ๆ

          ข่าวดีก็คือ แม้ว่าหน้าตาจะน่ากลัว แต่ก็แทบจะไม่แพร่กระจายไปยังบริเวณอื่น (แต่ถ้ามันจะแพร่ไปในอวัยวะอื่น ๆ แล้วก็อาจจะอันตรายถึงชีวิตด้วยเช่นกัน)

ใครเสี่ยงกับ BCC

          ไม่ว่าใครก็ตามที่สัมผัสแสงแดดบ่อย ๆ ก็ล้วนเป็นมะเร็งชนิดนี้ได้ทั้งนั้น แต่คนเอเชียผิวสีเข้มมีโอกาสเป็นน้อยกว่าคนยุโรปผิวสีอ่อน โดยที่มีรายงานว่า แม้จะไม่พบในเด็ก แต่ก็พบได้บ้างในวัยรุ่น และคนไข้ในกลุ่มอายุ 20-30 ปี ก็มีสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่ผู้ชายเป็นมากกว่าผู้หญิง

          BCC แทบทั้งหมดจะเกิดขึ้นกับอวัยวะส่วนที่รับแสงแดดมาก โดยเฉพาะใบหน้า หู คอ หนังศีรษะ ไหล่ และหลังแต่บางทีก็เกิดกับแผลเปิดที่ไม่ยอมหายสักที หรือในบริเวณที่ผิวอักเสบเป็นเวลานาน ส่วนแผลเป็น แผลไฟไหม้ วัคซีน หรือรอยสัก ก็ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเติม

ผิวพรรณ

Squamous Cell Careinoma (SCC)

          มะเร็งที่พบได้บ่อยที่สุดเป็นอันดับสอง เกิดขึ้นเมื่อ Squamous Cell ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของชั้นหนังกำพร้าเกิดการเปลี่ยนแปลงผิดปกติ และไม่สามารถควบคุมได้ ปกติแล้วมักจะดูเหมือนผิวหนังลอกแดงเป็นเกล็ด ๆ แผลถลอก หรือหูดที่อาจที่แตกและมีเลือดไหล

          สาเหตุหลักของ SCC เกิดจากการสะสมรังสี UV ถ้าปล่อยไว้นาน ๆ ก็เสี่ยงกับชีวิตเช่นกัน โดยมะเร็งชนิดนี้สามารถขึ้นได้ทุกบริเวณในร่างกาย แต่มักจะเกิดในบริเวณที่สัมผัสแสงแดดบ่อย ๆ เช่น ขอบหู ริมฝีปากล่าง หนังศีรษะ (สำหรับคนหัวล้าน) คอ มือ แขน และขา ซึ่งปกติ แล้วผิวในบริเวณดังกล่าวก็จะแสดงให้เห็นถึงความเสียหายจากแสงแดด

ใครเสี่ยงกับ SCC

          คนที่ผิวสีอ่อนจะเสี่ยงกว่าคนผิวสีเข้ม แต่ใครก็ตามที่มีประวัติเจอแดดเป็นระยะเวลานานย่อมมีความเสี่ยงสูงขึ้นโดยเฉพาะคนทำงานกลางแจ้ง ชอบเล่นกีฬากลางแจ้ง หรือเคยมีประวัติเป็นมะเร็งผิวหนังชนิด BCC รวมถึงคนที่มีโรคพันธุกรรมที่แพ้รังสี UV เป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง มีโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง และพบได้ในผู้ชายบ่อยกว่าผู้หญิงถึง 2 เท่า

          แม้ว่าคนผิวเข้มจะมีชั้นปกป้องจากรังสี UV โดยธรรมชาติ แต่เราก็ควรตระหนักว่าในคนกลุ่มแอฟริกัน-อเมริกัน จะเป็นมะเร็งผิวหนังชนิดนี้กันส่วนใหญ่ ดังนั้น ไม่ว่าผิวคุณจะสีเข้มหรืออ่อน ก็ควรทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ

ครีมกันแดด

ปกป้องตัวเองจากมะเร็งทุกชนิด

ในขณะที่มะเร็งผิวหนังประเภทอื่น ๆ นั้นมักจะรักษาได้ถ้าได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่เนิ่น ๆ วิธีที่ดีที่สุด ก็คือการป้องกันไว้ก่อน ซึ่งทำได้โดย

หลบแดดในเวลา 10.00-16.00 น. หรือทุกเวลาที่เงามีขนาดสั้นกว่าตัวคุณจริง ๆ

หลีกเลี่ยงการทำผิวสีแทน

เมื่อออกแดด ก็ควรใส่หมวกปีกกว้าง ใส่เสื้อแขนยาว และใช้แว่นกันแดดที่กันรังสียูวีได้

ใช้ครีมกันแดดที่ปกป้องทั้ง UVA และ UVB ทุกวัน โดยมี SPF อย่างน้อย 15 แต่สำหรับคนที่ต้องออกแดด ให้ใช้ SPF มากกว่า 30 และกันน้ำ

วิธีทาครีมกันแดดเป็นสิ่งสำคัญมาก ควรทาครีมกันแดดอย่างน้อย 2 ช้อนโต๊ะ ก่อนออกแดดอย่างน้อย 30 นาที หากคุณมีเหงื่อมากหรือว่ายน้ำ ก็ควรทาซ้ำอีกครั้งทุก ๆ 2 ชั่วโมง

ระวังอย่าให้ลูกน้อยเจอแดด แต่เด็กอายุมากกว่า 6 เดือนเท่านั้นที่สามารถทาครีมกันแดดได้

เช็กผิวสม่ำเสมอ ไม่ใช่แค่เฉพาะผิวหน้า แต่เป็นผิวหนังทั่วตัว หลายกรณีพบว่าคนไข้จำไม่ได้ว่าผิวเปลี่ยนแปลงไปเมื่อไหร่เพราะไม่ได้สังเกต ซึ่งสิ่งที่คุณต้องดูก็คือ

สิ่งผิดปกติบนผิว โดยเฉพาะขนาดและรูปร่างของไฝ มีจุด ผื่น หรือแผลบ้างมั้ย (แม้ว่าจะไม่มีสีก็ตาม)

รอบ ๆ ไฝหรือปาน มีสีกระจายออกมารึเปล่า

รู้สึกคัน หรือเจ็บแสบผิดปกติบ้างมั้ย

มะเร็งผิวหนัง

Expert’s Corner มะเร็งผิวหนังกับคนไทย

          เราต้องกลัวมะเร็งผิวหนังรึเปล่า หรือว่าต้องปกป้องตัวเองกันแค่ไหน ไปพบคำตอบกับ พญ.ศิริวรรณ ชัยกิตติศิลป์ แพทย์ผิวหนัง ร.พ.สมิติเวช สุขุมวิท

ถาม : ในคนไทยผิวสีอ่อนกับคนไทยผิวเข้ม มีโอกาสเป็นมะเร็งผิวหนังต่างกับรึเปล่า

ตอบ : ในคนไทยที่ผิวไม่คล้ำมาก การมีเมลานินป้องกันไว้ก่อนย่อมดีกว่า เพราะสีผิวถือเป็นปัจจัยสำคัญ ในคนที่ผิวเข้มก็จะมีเม็ดสีมากและมีเม็ดใหญ่ เขาถึงกรองและดูดซับแสงแดดได้ แสงแดดจึงเป็นอันตรายน้อย เราลองสังเกตดูว่าคนที่ผิวเข้ม พอไปตากแดดเขาก็จะดำขึ้น แต่ไม่เป็นอันตรายถ้าไม่ตากแดดบ่อย ส่วนคนที่ผิวขาวไปตากแดด ผิวเขาก็จะไหม้ง่าย ยิ่งในคนกลุ่มคอร์เคเชียนที่เม็ดสีของเขาจะอยู่หลวม ๆ ไม่สามารถกรองแสงได้มากก็จะมีโอกาสเกิดมะเร็ง Melanoma ได้มากกว่า

          แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ ถ้าสมมติว่าผิวคุณขาวแต่ไม่ออกไปไหนตอนกลางวัน ทาครีมกันแดด ใส่เสื้อแขนยาว ใส่หมวก และถือร่ม ก็จะมีโอกาสเกิดเซลล์มะเร็งน้อยกว่าคนผิวคล้ำ แต่ไม่ป้องกันตัวเองเลย

ถาม : ในส่วนของครีมกันแดด เราต้องการ SPF ปกป้องผิวมากแค่ไหน

ตอบ : ถ้าเป็นเมื่อก่อน SPF ระหว่าง 15-30 ก็ถือว่าโอเค แต่ทุกวันนี้ SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไปถึงจะใช้ได้ เรื่อยไปจนถึง SPF 200 ความแตกต่างอาจมีแค่ 1-3% แต่ก็ถือว่าต่างแล้ว

          ทีนี้ในการทาไม่ได้ขึ้นอยู่กับ SPF อย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับว่าคุณทาครีมกันแดดเป็นประจำรึเปล่า ทาครีมแล้วได้ป้องกันตัวเองบ้างมั้ย อย่างเช่น ใส่หมวก ใส่เสื้อแขนยาวกางร่มเวลาออกแดด และที่สำคัญคือต้องเลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับผิวเรา สมมติว่าคุณเป็นคนผิวหน้ามัน ก็ต้องเลือกครีมที่มี SPF เยอะ ๆ แต่ไม่ทำให้มีความมันมากนัก เพราะถ้ามันมาก ๆ แล้วสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ สิวขึ้นทำให้เราไม่อยากใช้ ถึงเวลาทาก็แกล้งลืม และต้องขอให้ดูว่ามีทั้ง Anti-UVA และ UVB ด้วย

ถาม : เราสามารถสังเกตมะเร็งผิวหนังได้รึเปล่า?

ตอบ : เห็นได้เลยค่ะ แต่มะเร็งผิวหนังเป็นมะเร็งที่ถึงจะไม่ได้เป็นแต่ก็อาจมีลักษณะเหมือนบ้าง เพราะถ้าตรวจด้วยสายตาแพทย์ผิวหนังจะบอกได้เพียง 70-80% เท่านั้น ซึ่งบริเวณที่เป็นมะเร็งมันจะไม่เหมือนผิวหนังของเรา อาจจะไม่เรียบเป็นตะปุ่มตะป่ำ เป็นแผล ซึ่งมะเร็งทั้งสามชนิดจะต่างกัน แล้วก็ยังมีมะเร็งที่อาจจะลามมาจากอวัยวะอื่น ๆ อีก บางคนที่หมอยังไม่แน่ใจก็ต้องสังเกต หมอก็จะขอให้ดูสักพักคนไข้ก็ไม่ต้องไปยุ่งกับมัน อย่าไปจับ เพราะถ้าเราจับมันจะโตตามมือ แต่ที่แน่นอนคือจะรู้ว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ ก็ต้องให้ตัดดูเท่านั้น อยากบอกคนไข้ว่าอย่ากลัวถ้าเป็นมะเร็งผิวหนัง เพราะถือว่าเป็นมะเร็งที่รักษาได้



Create Date : 17 พฤษภาคม 2555
Last Update : 17 พฤษภาคม 2555 11:34:08 น.
Counter : 498 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

jaideeda1
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



D D D D D D D D .......
Group Blog
All Blog