....เมื่อเกิดมาโดยไม่มีอะไร .....ก็จงเรียนรู้ที่จะอยู่แบบไม่มีอะไร...

สงกรานต์นี้ ทุกอย่างเปลี่ยนไป

ก่อนอื่นต้องขออภัยมิตรรักแฟนบล็อก(ที่อาจจะไม่มีเลยก็ได้---บ้าไปแล้ว) ผ่านร้อนหนาวมาหลายเวลา ขอรับผิดแต่โดยดี ไม่ได้เข้ามาใยดีบล็อกตัวเองเลย โอกาส(ไม่)ดี ได้กลับมาเขียนๆขีดๆอีก เพราะคิดว่าจากนี้ไป คงจะมีเวลาเหลือเฟือในการเจียดมาเขียนเรื่องบ้าๆบอๆ ของผู้ชายที่บ้าๆบอๆ พอๆกับเรื่องที่มันเขียน

สงกรานต์นี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป แล้วจะเข้ามาเล่าให้ฟังครับ
อืมมม .. คิดว่าน่าจะเปลี่ยนเป็น แล้วจะมาเขียนให้อ่าน มากกว่า ตอนนี้ขอตัวไปเอาตัวแห้งๆให้โดนน้ำสักหน่อย

สุขสันต์วันตัวเปียกที่แสนเศร้าครับ
โอ๊ต
เชียงใหม่ ไทยแลนด์




 

Create Date : 12 เมษายน 2550   
Last Update : 12 เมษายน 2550 14:31:42 น.   
Counter : 719 Pageviews.  

เล่าย้อนถึง การ เที่ยวในช่วง ฤดูหนาว

*ข้อเขียนนี้ เพื่อระลึก ถึงการท่องเที่ยว เมื่อหน้าหนาวที่ผ่านมา (ช่วง ต้นเดือน พฤศจิกายน 2548—เดือนมกราคม 2549)

หนาวที่ผ่านมาได้มีโอกาส---เรียกให้ถูก ต้องบอกว่า “หาโอกาส” เดินทางไป อำเภอ ปาย จว.แม่ฮ่องสอน หลายต่อหลายครั้ง เป็นการเดินทางที่สนุกสนาน มีสีสันที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต
ทั้งที่เคยไป “ปาย” มาแล้วหลายครั้งหลายครา แต่คราวนี้ ไม่ทราบเป็นเพราะอะไรถึงรู้สึกขนาดนั้น บางทีมันไม่ต้องมีเหตุผลอะไรมากเลย--แค่รู้สึกดีเท่านั้น

สนุกขนาดไหน คิดดูสิว่า เพื่อนกลับกันหมด แต่ผมยังดื้อที่จะอยู่ต่อ ไม่ยอมกลับเชียงใหม่ (ตอนนั้นยังอยู่เชียงใหม่) แถมลากเอาเพื่อนไว้อีกหนึ่งคน (ขอบคุณ บอล นะครับ ที่อยู่ เมาด้วยกันจนเกือบตาย!!)

กว่าจะกลับได้ก็เล่นเสียจนหมดตูด--ตูดในที่นี้ หมายถึงสตางค์ในกระเป๋า กรุณาอย่าคิดลึก!

ทริปแรกนี้ รู้สึกว่าจะไปงานดนตรีปายที่จัดขึ้นมาเพื่อช่วยชาวบ้านหมู่บ้านปายและหมู่บ้านใกล้เคียงที่ถูกน้ำท่วม นักดนตรีรุ่นใหญ่ๆอย่างวงคาราบาว หงาคาราวาน พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ ฯลฯมาร่วมร้องร่วมเล่น
มีเวที ถึงสองเวที ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ สลับสับเปลี่ยน หมุนเวียนกันขึ้นเล่นอย่างสามัคคี
ชาวบ้านมาร้องรำทำเพลงกันเป็นที่ครึกครื้น เบียร์ขายดีจนหมดร้าน จำได้ว่างานนี้เล่นกันถึงเช้า (ตุ๊ก บราสซารี่ มาเล่นตอนเจ็ด โมงเช้า!)
ผมกลับไปนอนในสภาพที่หมดเรี่ยวแรง อ่อนเบียร์ เปลี้ยแรงกาย หลับเป็นตาย ตื่นตอนเย็น!!




งานศิลปะบางส่วนที่จัดแสดงภายในงาน




ตอนกลับต้องนั่งรถเมล์แดง รถนั่งสบาย ... อ้อ ... ในรถมี ถุงพลาสติกสำหรับอ้วกด้วย น่ารักดีแฮะ


หลังจากทริปแรก ผมก็เฝ้าฝันหาแต่ ปาย ปาย ปาย ... เหมือนชายหนุ่มตกหลุมรักสาวสวย




ทริปที่สองผมตัดสินใจชวน หมู เพื่อนที่ไปเรียนมอรังสิต ไม่ได้เจอกันร่วม 4 ปีผมเลย อยากพาไปพบและรู้จักกับ "ปาย" หญิงสาวที่ผมหลงรัก ..
ผมเอารถวิบากไปเองเลยคราวนี้

ตอนขาไปไม่มีปัญหาเพราะ หมู ขึ้นรถไปก่อนแล้ว ส่วนผมขี่รถตามไปทีหลัง การเดินทางคนเดียวก็ได้อารมณ์อีกแบบ สนุกๆลุยๆ คิดเองว่าเป็นการเดินทางแบบลูกผู้ชาย ซึ่งบางที ผู้ชายฉลาดๆเขาอาจไม่ บ้า ขนาดผมก็เป็นได้--ช่างเถอะ ทำไปแล้ว!

เสียดายที่คราวนี้ ไม่ได้ติดกล้องไปด้วย เลยอดเก็บภาพมาฝาก

ไฮไลท์ ของทริปนี้ คือ ขากลับ ลองนึกถึงชื่อ หมู สิ....

ร่างกายอันกำบวมและใหญ่โต ทำให้ขากลับ ผมต้องแบกน้ำหนักร่วมๆร้อย(เฉพาะหมู) ขึ้นเขาลงห้วย แถมตอนหลังรถมาเสียกลางป่าอีก โชคดีที่ขับเลยมาจากหมู่บ้านแค่สี่กิโล! จึงเข็นกลับมาซ่อมในหมู่บ้านได้ ตอนแรกคิดว่าจะได้ค้างที่นี่อีกคืนเสียแล้ว เพราะดูท่าทางร้านซ่อมรถน่าจะทำได้แค่ปะยางกับสูดลมยาง ...แต่ผิดคาดช่างที่นี่เก่งแฮะ
พอซ่อมเสร็จรถวิ่งฉลุยถึงเชียงใหม่สบายๆ

อ้อ...ทริปนี้ได้รู้จักกับน้องสาวสองคนซึ่งยกให้หมูทั้งคู่ และหนุ่มนักเรียนนอกซึ่งก็ยกให้หมูอีกละกัน...เพราะเที่ยวนี้ผมเอาเรื่องไม่สบายใจพกมาเที่ยวด้วยเยอะไปหน่อย เลยซึมๆ

สรุปว่านี่เป็นทริปปิดปี 2548 ก็ไม่เลวร้ายมากนัก..ก็โอเค้!!



ระหว่างนั้น ผมเดินทางไป เชียงราย เชียงแสน แม่สาย แก้ขัดไปก่อน(ไปเคาท์ดาวน์กับครอบครัว)
แต่ยังไม่สาแก่ใจ
และแล้ว สิ่งที่เฝ้าใฝ่หาก็มาถึง ดั่งฟ้ามีตา มีเทศกาล "เรกเก้ เฟสติวัล" ที่ ปาย
ซึ่งเป็น ช่วงที่ กรุงเทพ มีงาน เฟตเฟสฯ เพราะเพื่อนโทรมาชวนให้ไปงานดนตรี ณ เมืองกรุง แต่ผมปฏิเสธ ไปแบบ ไม่ใยดี เพราะ หัวใจผม ไปนั่งดื่มลมชมความหนาวที่ปาย เสียแล้ว

ผมลงทุนเช่ารถ มอเตอร์ไซด์ ขับจากเชียงใหม่ไปกันเลยทีเดียว ทริป นั้น จำได้ว่า เราไปกัน สามคันผมพา “จอร์จ” (ตอนนั้นเพิ่งคบกันเป็นแฟนอย่างจริงจัง—หลังจากเป็นเพื่อนกันมา 5 ปี!) ซ้อนท้ายไปด้วย มีก้อย และ แทบแย่ (ชื่อคณะ กรุณาอย่างง ชื่อจริงๆ คือ ป้อง) ไปกันอีกคนละคัน

จำได้ว่าอากาศ หนาวอย่างกับขั้วโลก เราแวะพักหลายต่อหลายครั้ง แต่ด้วยความที่เราออกจากเชียงใหม่เกือบค่ำ จึงต้องเร่ง เพื่อไม่ให้ถึง ปาย ดึกเกินไป แถมยังไม่มีที่พัก




รูปนี้ถ่ายเลยแยก แม่มาลัย อ.แม่แตง มาหน่อยเดียว กำลังจะลุยทางไกล


คืนแรก เรานอนเอาแรงกัน เพราะเหนื่อยจากการเดินทาง ....




วันถัดมา เราก็เรื่อยๆเฉื่อยๆ เดินถ่ายรูปบ้าง กินกาแฟ นั่งๆนอนๆ ทำตัวสบายรอเวลาคอนเสิร์ต คือ ประมาณ 2 ทุ่ม
แต่จำได้ว่า เมา ตั้งแต่หัวค่ำแล้ว..

คอนเสิร์ตเริ่มได้สักพัก แต่เรายังลอยชายอยู่ที่ บาร์ ด้าน หน้าทางเข้า เจอเพื่อนเก่าสมัยเรียนมอปลาย ขับเวสป้ามากันหลายสิบคัน ก็ทักทายกันพอหอมปากหอมคอ

พอสามทุ่มครึ่ง เราก็เคลื่อนพลเข้าไปภายในงาน ทันดู น้าจ้อบ (บรรจบ) พอดี วงของน้าจ้อบขนกันมาจากกระบี่ เล่นสนุก และปล่อยเพลงใหม่ทั้งอัลบั้ม--เพราะดี



จากนั้น มีเซอไพรส์ เพราะวงที่ขึ้นถัดจากน้าจ้อบ คือ ที โบน วงดนตรี ที่ผมชอบมากๆ เคยดูเล่นสดหลายครั้ง ทั้งคอนเสิร์ต และที่แซกโซโฟน อนุสาวรีย์ฯ
แต่คราวนี้ สุดๆ มันมาก แถมผมกำลังเมาได้ที่ เลยโยกกระจาย---สกา--เรกเก้ จงเจริญ...เอิ้กกก


น้าแก๊ป และ วงที-โบน




รูปนี้มีน้อง แตงโม ตามมาสมทบ



จากนั้นก็เป็นวงจากเชียงใหม่บ้าง จากปายบ้าง เล่นกันเกือบสว่าง...ผมกลับไปนอน อย่างไร ยากที่จะจดจำ....




เราอยู่ที่ปายต่ออีกวัน กลางวันก็ ไม่มีอะไรมาก ขับรถไปเที่ยวหมู่บ้านจีนฮ้อ เที่ยวน้ำตก เดินตลาดตอนค่ำ พอตะวันกำลังจะตก เราก็เมา(อีกครั้ง)เสียแล้ว กลับไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วออกมานั่งดื่มเบียร์กับเพื่อนต่อที่ร้าน Walk In ร้านนี้เค้าเปิดให้ขึ้นมาแจมกีตาร์ได้ ผมเลยถูกน้าน้อยลากขึ้นไปครวญหลายเพลง มีอยู่ช้อทหนึ่งช่วงท้ายๆจำได้ว่า มีฝรั่งกลุ่มหนึ่ง ตะโกน ขึ้นมาว่า "โลโซๆๆ" ผมก็ยิ้ม และขึ้นคอร์ดแรก แบบโลโซ ฝรั่งก็เฮ กันใหญ่ แต่ตอนเริ่มร้องนี่สิผมดันร้องเพลงของ POP ซึ่งที่สุดแล้วฝรั่งกลุ่มนั้นก็ค่อยๆ เงียบเสียงไปในที่สุด ฮ่าๆๆ....เจอมุกเด็กไทย งง ไปเลย

พอทำขายหน้าได้สักพักเราก็ย้าย สำมะโนครัวไปต่อที่
B-BOB ร้านนี้ใครมาปายแล้วไม่ได้มาที่นี่ เหมือนมาไม่ถึงปาย ขนาดนั้นเชียว...
คืนนี้ ครึกครื้นมาก เพราะเหล่าบรรดานักดนตรี แห่กันมาแจมกันที่นี่ เพื่อนผม วง"ซาเวีย" ได้เล่นที่นี่ด้วย เต้นกันเสียหมดแรง ปล่อยของกันสุดฤทธิ์ เพื่อนวงนี้เล่นได้ดีทีเดียว หลังจากคืนนั้น ก็ได้รับคำชวนจากน้าจ้อบ บรรจบ ให้ไปเล่นที่กระบี่

พอร้านปิดก็ไปต่อกันที่ ฟูลมูน ร้านนี้อาหารอร่อย มีโต๊ะพูล ผู้คนน่ารักเป็นมิตร แถมมีเตาผิงในร้านเหล้า!! เอากะเขาสิ



ถึงจะเมา แต่สู้ตายครับ อิอิ ถ่ายที่ ร้าน ฟูลมูน


คืนนั้นกลับมานอนได้ยังไง ไม่รู้...อีกเช่นเดิม



ตื่นราวๆเที่ยง เก็บข้าวของแล้วแจ้นกลับ เชียงใหม่ เพราะต้องทำเวลาเพื่อเอารถที่เช่าไปคืนให้ทันเวลา



วิว ระหว่างทาง....ที่ซึ่งตอนบ่ายโมง
หนาวอย่างกับอยู่ในช่องฟรีซ


ถึงเชียงใหม่โดยสวัสดิภาพ ในเวลา 4 โมงเย็น แยกย้ายกันพักผ่อน
พอตกดึกก็ลากกันไปต่อที่ ซีสเคป(ร้านเหล้า น่ารักๆบนถนนนิมมานฯ) เป็นอันจบทริป ในหน้าหนาวปีก่อน ... ขอบคุณที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ครับ


ปล.ต้องขออภัย ที่เล่ารายละเอียดได้ไม่หมด เพราะนานหลายเดือนแล้ว ความทรงจำลางเลือน

ปล2.ต้องขอขอบคุณนู๋จอร์จ บอล น้องหนุ่ม(ถาปัด) น้องหนิง ยู น้องแอ้ม(ปาย) น้าน้อย(แฟมิลี่เฮาส์) คีธแมน สตีฟ แมท ซาร่า ลอท(วิจิด) มิกิ แอนโทนี่ เพื่อนๆน้องๆชาว วิจิตรฯ หนุ่มสาวชาวปาย สำหรับทริปแรกทุกคนน่ารักมาก

ส่วนทริปที่สอง ขอบคุณ หมู(เข็นรถด้วยกัน เสียเหนื่อย) น้องเฟิร์น ชาย หมิง น้าน้อย(อีกครั้ง) ฮิปปี้ส์ตัวจริง และซีโร่ ของผมเอง

ทริปสาม ขอบคุณ จอร์จ ที่ยอมตกระกรรมลำบาก ก้อย และแทบแย่ ที่ร่วมชะตาเมาและชะตากรรมร่วมกัน โอม(สำหรับ เกสเฮาส์ สวยๆและอื่นๆอีก--เมา--มาย!) บัวและเพื่อนสาวๆชาวอังกฤษ พวกคุณน่ารักมาก

ทั้งหมดนี้ผมคัดลอกมาจาก ไดอารี่ส่วนตัวที่ผมบันทึกไว้ ซึ่งบางตอนเล่าไม่ได้ และบางตอน ไม่ควรเล่า!

บุญรักษาครับ




 

Create Date : 23 เมษายน 2549   
Last Update : 23 เมษายน 2549 5:15:51 น.   
Counter : 1018 Pageviews.  

สงกรานต์ ที่ดอยอินฯ

สวัสดีครับ มิตรรักแฟนบล็อก(หุหุ...ที่มีอยู่น้อยนิด---แถมยังขาจร อีกต่างหาก)

วันนี้ ขอถือดี อวดดี เอารูปถ่ายที่ไปเที่ยวดอย อินทนนท์ มาฝาก ไม่สวยงาม อย่างมืออาชีพนะครับ--ขอออกตัวก่อน



รูปนี้ ถ่ายตอนพระอาทิตย์ขึ้น เรียก ว่าแหกขี้หูขี้ตา ลุกมาจากเต้นท์ เพื่อชมวิว และสูด อากาศ บริสุทธิ์
อากาศหนาวจริงๆ (ผมไปตอน 12 เมษา!)
ในรูปคือครอบครัวของผมเอง (นานๆได้เที่ยวกับครอบครัว ก็เอากับเขาหน่อย อิอิ)
ตั้งกล้องไว้กลางถนน แล้วผมก็ วิ่งเข้า กล้อง เหนื่อยมาก แฮ่กๆๆ(แถมต้องไปนั่งเก๊กอีก )



แถมพระอาทิตย์ขึ้น อีกรูป (อ้อ...อยากชมพระอาทิตย์ ต้องตื่นตั้งแต่ ตีห้าเลยนะครับ)


จากนั้น ก็วิ่งเล่นกันบนดอย ตามประสา น้ำตก บ้าง เดินป่า บ้าง แวะกินกาแฟ อ่านหนังสือ
พอตกค่ำก็ หุงหาอาหาร ดื่มกิน หลับนอน (อูย...นึกถึง ยังหนาวๆเลย) มาที่นี่ผมเลือกที่จะกางเต้นท์ เพราะให้อารมณ์แบบมาดอยจริงๆ ลำบากหน่อย แต่สนุก




ช่วงหน้าร้อน หากใครไม่รู้จะไปไหน อากาศในเมืองก็ร้อน ผมขอแนะนำอย่างไม่อาย "ดอยอินทนนท์" ครับ หนาวตลอดปี



ดอกไม้เมืองหนาว


ออกไปสูดอากาศดีๆบ้าง กลับไป จะได้มี เรี่ยวแรงกรำงาน ให้นมดำ กันต่อไป(แหะๆ ยืม สโลแกน คุณ แทนไท มานิดนะครับ--คงไม่ว่ากัน)

สุดท้ายขอฝากภาพ น้องหนูคนนี้ ไว้ในอ้อมใจทุกคนนะครับ




สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ





 

Create Date : 22 เมษายน 2549   
Last Update : 22 เมษายน 2549 17:44:18 น.   
Counter : 1175 Pageviews.  

ตื่นมาบ่น ก็มันทนไม่ได้....

วันนี้ตื่นเช้ามาก (ตื่นตอน ตีสองครึ่ง) เดินไปมาหาอะไรนู่นนี่ทำเรื่อยเปื่อย ถึงเช้ามืด ---ยายตื่นมาเห็น ถามว่า "เอ้า ทำไมวันนี้ตื่นเช้า จัง สงสัย พายุจะเข้าลำปาง" .....

...ผมไม่ตอบ...ทำตาปรือๆใส่ แล้วหลบเข้าห้อง....

เมื่อวานเย็นไปกินเบียร์กะเพื่อนรุ่นน้อง ที่มันติดทหาร กลับมาเมาเละ ตกใจตื่น ยังมึนๆ แต่มันนอนไม่หลับ เลยลากยาวจนป่านนี้ (เกือบๆเที่ยงวัน)

เดี๋ยวว่าจะอาบน้ำนอนเอาแรงสักหน่อย รู้สึกเพลียๆ
วันนี้ตอนเช้ากลับไปรื้อหนังสือของ คุณ วันชัย ตัน บก.สารคดี ชื่อว่า “ผมซักฟอก” มาอ่านอีกครั้ง

รู้สึกว่างานเขียนของเขามีเสน่ห์ดี เรียบง่าย มีมุมมองเฉียบคม จะอ่านเอาเรื่องหรืออ่านเอาเพลินก็ได้ทั้งสองแบบ

คุณ วันชัย ตัน ทำงานมาร่วม สามสิบปี ก็ไม่แปลกที่เขาจะมีมุมมองและทัศนะที่เรียกว่า กลั่นจริงๆ เป็นตัวจริงของวงการ และเป็น บก.นิตยสาร ที่มั่นคงคงยาวนาน ที่สุดเล่มหนึ่งของเมืองไทย!

คงต้องฝึกกันอีกนานกว่าจะมีใครเทียบชั้นกับแกได้ อีกอย่างเขาเป็นคนรุ่นที่เรียกได้ว่า เป็นความหวังของประเทศ คนรุ่นนี้นักคิดนักเขียนเยอะ
สมัยนี้ น้อยคนจะศึกษาหาความรู้ หรือสนใจสังคมอย่างเมื่อก่อน ..... วัยรุ่น สนใจแต่ เรื่องของเปลือกนอก ว่างก็แวะห้าง ช้อปปิ้ง ซื้อของ เดินเล่น

ผู้ใหญ่ก็มีส่วน ...จะส่วนไหนนั้น เดากันเอง...
สร้างเข้าไปไอ้ “ที่” อย่างนั้น ไม่เห็นมีใครสนใจอยากทำ พิพิธภัณฑ์ หรือ หอศิลป์

อีกหน่อย เมืองไทยจะมีแต่เด็กหัวกลวง เดินชนกันเต็มบ้านเต็มเมือง ยิ่งคิดยิ่งปวดหมอง! (ชนบ่อย)

โอ้วววววว ท่านนายกคนใหม่ ช่วยที...ประเทศไทย ไอเลิฟ ยู




 

Create Date : 11 เมษายน 2549   
Last Update : 12 เมษายน 2549 0:41:29 น.   
Counter : 455 Pageviews.  

การค้นพบครั้งใหม่...และการนับหนึ่ง(อีกครั้ง)

กลับมาจากเชียงใหม่เมื่อสองวันก่อน แต่ยังไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย วุ่นกับการติดอินเตอร์เน็ท ซ่อมนั่นแปลงนี่ ผมช่างไม่เหมาะกับเทคโนโลยีเสียจริงๆให้ตายเถอะ จนป่านนี้ยังไม่เรียบร้อยคงต้องรบกวนเพื่อนมาช่วยดูให้ คงช่วงสงกรานต์นู่นแหละ

ตอนอยู่เชียงใหม่ ได้เข้าไปท่องเว็บ หลายๆเว็บทำให้หลงเข้าไปในเว็บบล็อก (ผมเพิ่งรู้จัก นะเชื่อไหม?) ได้อ่านได้ดูหลายๆความคิดของคนหลายประเภทและหลายเพศ ยิ่งทำให้ตระหนักว่า โลกนี้ช่างกว้างใหญ่นัก ยังมีคนเขียน(หรือเล่าเรื่อง)ได้ดีอีกมาก ที่ยังซ่อนอยู่ตามซอกมุมต่างๆทั่วโลก
มีอยู่คนหนึ่ง ชื่อว่า คุณ"ฮานะ"---ไม่แน่ใจว่าเป็นชื่อจริงๆหรือนามแฝง ใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่น เขียนเล่าเรื่องชีวิต “แม่บ้าน” (ที่เฮ้วเอาการอยู่) เล่าเรื่องรอบๆตัว ได้อย่างมีเสน่ห์ แถมถ่ายรูปเก่ง สวยงาม และบอกเล่าอารมณ์ได้ดีมากๆ

อีกคนชื่อ คุณ "grappa" คนนี้ มีความรู้เรื่องหนังสือเยอะมาก คิดว่าน่าจะเป็นคนในวงการน้ำหมึก แถมให้ทัศนะที่น่าสนใจ ทั้ง หนังสือ ภาพยนตร์ ชอบจริงๆ

สำหรับ "สาวไกด์ใจซื่อ" ก็เป็นอีกคนที่ อ่านแล้วเพลินดี มีมุมมองดีๆ มีทัศนะแจ๋วๆ ให้เราได้เข้าไปสัมผัส โอสสส!!---สัมผัสผ่านแค่หน้าจอ ....มากกว่านั้น อาจโดนตบ!!!

และอีกบลอกที่ยินดีนำเสนอ(ทำยังกับเป็นของตัวเอง)บลอกของ อาจารย์ ปกป้อง จันวิทย์ บก.โอเพ่นออนไลน์ ซึ่งผมเข้าไปอ่าน เวบแกประจำ อยากรู้มีดีอะไรลองไปค้นๆหาอ่านเอา รับรอง ผิดหวัง--ซะเมื่อไหร่


เมื่อคืนเข้าไปดูข่าว เห็น อาจารย์ ไชยันต์ ไชยพร ถูกจับข้อหา ฉีกทำลายบัตรเลือกตั้ง เป็นเรื่องเป็นราวกันใหญ่โต แถมมีคนเลียนแบบอีกยิ่งทำให้เหตุการณ์บานปลาย เรื่องความคิดความเชื่อทางการเมืองอย่างไรเสียก็ต้องมีความแตกต่างกัน อยู่ที่ว่าจะสามารถประนีประนอมกันได้สักเท่าไหร่ อาจารย์ ไชยันต์ แกเป็นอาจารย์อยู่ภาควิชารัฐศาสตร์ จุฬาฯ มีความคิดที่ค่อนข้างชันเจน ผมชอบบทความของแก ติดตามตั้งแต่สมัยโอเพ่นยังอยู่บนแผง ติดตามจนกระทั่งไปอยู่บนอินเตอร์เน็ท จริงๆผมไม่ใช่คนที่ชอบการเมืองเท่าไหร่ แต่เมื่ออ่านบทความของเหล่านักวิชาการรุ่นใหม่ แล้วก็รู้สึกว่า การเมืองไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นเรื่องที่อยู่รอบตัว เดี๋ยวนี้มีการเขียนให้อ่านง่ายย่อยง่าย โดยนักคิดรุ่นใหม่ ใครที่มองเรื่องนี้เป็นเรื่องปวดหัวล่ะก็คิดใหม่ได้
....ดูข่าวนายกทักษิณ ออกมาประกาศไม่รับตำแหน่ง ทำให้หลายฝ่ายมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลาย ทั้งฝ่ายเห็นด้วยและคัดค้าน ผมไม่มีความเห็นเรื่องนี้ ได้แต่ภาวนาในใจคนเดียวเบาๆว่า อยากให้นายกคนต่อไป มีน้ำใจ และเห็นใจคนไทยด้วยกันอย่างจริงใจ เท่านั้นเป็นพอ …




 

Create Date : 11 เมษายน 2549   
Last Update : 11 เมษายน 2549 22:19:37 น.   
Counter : 498 Pageviews.  

1  2  3  

jahbar
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




กลับมาหมกมุ่นกับบล็อคอีกครั้ง
[Add jahbar's blog to your web]