ต้นทุนการเลี้ยงแพะขุน
ต้นทุนในการเลี้ยงแพะขุนนี้ผมเผยแพร่เพื่อเป็นประโยชน์กับคนที่สนใจ เพราะผมหาได้ยากมากในอินเตอร์เนท ผมมีข้อมูลเลยอยากนำมาแชร์สำหรับคนที่อยากเลี้ยงแพะเป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพหลัก ข้อมูลเป็นการเก็บในเกษตรกรที่เลี้ยงแพะขุนอย่างเดียว ไม่ได้เลี้ยงผลิตลูกขาย คือผู้เลี้ยงขุนจะรวบรวมแพะเข้ามาขุนไม่เกิน 3 เดือน และจับขาย การเลี้ยงไม่ได้ไล่เลี้ยง ทำคอกมีลานให้แพะเดินออกกำลัง ผู้เลี้ยงจัดหาอาหารหยาบและอาหารข้นมาให้แพะกิน มีการชั่งน้ำหนักรวมก่อนขุนและน้ำหนักรวมหลังจับขาย มาดูต้นทุนกันครับ ขอบคุณเกษตรกร อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรีที่ให้ข้่อมูล
เจ้าของฟาร์มรายแรก คุณปัญญา
คอกที่ใช้ขุนแพะครับ
มาดูต้นทุนกันครับ
จำนวนวันที่เลี้ยงขุน 90 วัน จำนวนแพะเข้าขุน 60 ตัว น้ำหนักรวมเข้าขุน 780 ก.ก. น้ำหนักเฉลี่ย 13 ก.ก./ตัว น้ำหนักรวมหลังขุน 1,620 ก.ก. น้ำหนักเฉลี่ย 27 ก.ก./ตัว น้ำหนักที่เพิ่มเฉลี่ยต่อตัว 14 กก/ตัว อัตราการเจริญเติบโตต่อวัน (ADG) = 160 กรัม/วัน ราคาขาย=135 บาท/กิโลกรัม รวมรายได้ = 218,700 บาท/รุ่น เฉลี่ย = 3,645 บาท/ตัว เงินลงทุน ค่าตัวแพะที่ซื้อเข้าขุน 130 บาท/กก 780*130 = 101,400 บาท ค่าอาหารข้นตลอดการขุน = 32,400 บาท เฉลี่ย 540 บาท/ตัว ค่าอาหารหยาบตลอดการขุน = 11,640 บาท เฉลี่ย 194 บาท/ตัว ค่ายาถ่ายพยาธิ ยาปฎิชีวะนและวิตามิน = 1,800 บาท เฉลี่ย 30 บาท/ตัว ค่าแรง 2คน ๆละ 4,500 บาท/เดือน = 27,000 บาท เฉลี่ย 450 บาท/ตัว รวมต้นทุน = 174,240 บาท เฉลี่ย 2,904 บาท/ตัว กำไร = ราคาขาย-ต้นทุน = 218,700 -174,240 = 44,460 บาท เฉลี่ย 741บาท/ตัว
กำไรเฉลี่ยเดือนละ 14,820 บาท หรือ กำไร 26% เป็นรายได้ที่น่าพอใจสำหรับการลงทุน
ยังไม่ได้คิดมูลแพะที่ขายได้ถุงละ 20 บาท นะครับ เพราะเจ้าของจำไม่ได้ว่าขายไปกี่ถุง
ฟาร์มที่ 2 คุณนเรศ
ลักษณะคอกที่สร้างแบบง่ายๆครับ
มาดูต้นทุนกันครับ
จำนวนวันที่เลี้ยงขุน 45 วัน (ขุนระยะสั้น) จำนวนแพะเข้าขุน 50 ตัว น้ำหนักรวมเข้าขุน 850 ก.ก. น้ำหนักเฉลี่ย 17 ก.ก./ตัว น้ำหนักรวมหลังขุน 1,250 ก.ก. น้ำหนักเฉลี่ย25 ก.ก./ตัว น้ำหนักที่เพิ่มเฉลี่ยต่อตัว 8 กก/ตัว อัตราการเจริญเติบโตต่อวัน (ADG) = 180 กรัม/วัน ราคาขาย=135 บาท/กิโลกรัม รวมรายได้ = 168,750 บาท/รุ่น เฉลี่ย = 3,375 บาท/ตัว เงินลงทุน ค่าตัวแพะที่ซื้อเข้าขุน 130 บาท/กก 850*130 = 110,500 บาท ค่าอาหารข้นตลอดการขุน = 13,500 บาท เฉลี่ย 270 บาท/ตัว ค่าอาหารหยาบตลอดการขุน = 7,900 บาท เฉลี่ย 158 บาท/ตัว ค่ายาถ่ายพยาธิ ยาปฎิชีวะนและวิตามิน = 1,500 บาท เฉลี่ย 30 บาท/ตัว ค่าแรง 2คน ๆละ 4,500 บาท/เดือน = 13,500 บาท เฉลี่ย 270 บาท/ตัว รวมต้นทุน = 146,900 บาท เฉลี่ย 2,938 บาท/ตัว กำไร = ราคาขาย-ต้นทุน = 168,750 -146,900 = 21,850 บาท เฉลี่ย 437บาท/ตัว
กำไรเฉลี่ยเดือนละ 14,567 บาท หรือ กำไร 15% เป็นรายได้ที่น่าพอใจสำหรับการลงทุน
จะเห็นว่าไม่ว่าจะจับแพะขนาดเล็กฟาร์มแรก เลี้ยง 90 วัน หรือ ฟาร์มที่สองจับแพะตัวใหญ่ขุนสั้นๆ ที่ 45 วัน จะได้กำไรใก้ลเคียงกัน แต่รอบการเลี้ยงฟาร์มที่สองจะเร็วกว่า และกำไรมากกว่านิดหน่อย เสี่ยงด้านราคาน้อยกว่าฟาร์มแรก เพราะซื้อขายไว ออกแพะได้เร็ว เงินหมุนผ่านมือเร็วกว่าครับ
กรณีศึกษา
บางฟาร์มที่ขุนให้อาหารแต่เลี้ยงแบบไล่ให้หากินอาหารหยาบข้างทาง น้ำหนักจะเพิ่มน้อยกว่าอยู่คอก แล้วหาอาหารหยาบและข้นมาให้ เพราะคุณภาพอาหารหยาบไม่สม่ำเสมอ แพะเสียพลังงานในการเดินหาอาหารไล่ไป ไล่กลับระยะทางเกือบ 15 กม ต่อวัน ช่วงแล้งบางทีน้ำหนักตัวแพะลด
ถ้าจะขุนควรขุนในคอกแล้วหาอาหารมาให้ครับ รับประกันความสำเร็จแน่นอน
อาหารหยาบใส่ให้กินทั้งวัน
ส่วนอาหารข้นให้แบ่ง 2 มือ เช้าเย็น
รางให้อาหารจะช่วยการจัดการด้านให้อาหารแพะได้ง่ายและมีประสิทธิภาพครับ
ติดตาม FB ได้ที่
Create Date : 06 พฤศจิกายน 2554 |
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2556 23:30:48 น. |
|
18 comments
|
Counter : 30652 Pageviews. |
|
|
|