BlogGang.com : : แจ้ห่ม47 - เซลล์แมน ตอนที่ 5 ว่าด้วยการสอบสัมภาษณ์เข้าทำงานเซลล์

Group Blog

All Blogs

เซลล์แมน ตอนที่ 5 ว่าด้วยการสอบสัมภาษณ์เข้าทำงานเซลล์

ต่อจากตอนที่ 4
บางท่านฟังผมเล่ามาหลายตอน เคลิ้มสนใจในการเป็นเซลล์แล้วอยากรู้ว่าการสอบสัมภาษณ์งานเซลล์เขาสอบอย่างไร ผมขอเล่าวงการผมก็แล้วกัน
1. สอบข้อเขียนไม่มีครับ (ไม่เหมือนราชการ มีสอบข้อเขียน , สอบ กพ
สอบความรู้สายงาน สอบ.......) มีเขียนอย่างเดียวก็ใบสมัครครับ
ผมขอเน้นให้เขียนแบบอ่านง่ายๆ ตัวบรรจงสุดชีวิต สมัยนี้ไม่มีวิชาคัดไทยก็ยากหน่อยนะครับ อย่าใช้ภาษาเนท เช่น อาไร๊ ชิมิ คิคิ คับผม โดยเด็ดขาด ถ้ารู้ว่าเกรดไม่ดีเท่าคนอื่นให้เขียนกิจกรรมที่ทำสมัยเรียน
เช่น ออกค่ายอาสา หัวหน้าชมรม ผ่านงานขายของ ทำงาน part time ที่ 7-11 หรือ ห้างสรรพสินค้า เคยทำโครงการช่วยอาจารย์ เคยฝึกงานที่ไหนมาบ้าง จะช่วยท่านเยอะ เขาจะพิจารณาจากกิจกรรมที่ทำสมัยเรียนเป็นหลัก อย่าลักไก่เขียนมั่ว เขาจะถามต้อนคุณถ้าตอบไม่ดีจนมุม ตกสัมภาษณ์เลยก้ได้ อ้ออย่าลืมให้ที่อยู่หรือเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อง่ายๆให้เรียกตัวไปสัมภาษณ์ด้วยครับ
2. ผ่านการเรียน รด ครบ 3 ปี โดยได้ยกเว้นการเกณฑ์ทหาร
ถ้าไม่ได้เรียนกำลังผ่อนผันรอเรียกจับใบดำใบแดง รับรองไม่ผ่านการคัดเลือกแน่นอน เพราะเขาจะไม่รอคุณไปรับใช้ชาติระหว่างทำงานแน่นนอนหรือคุณต้องไปผ่านการเกณฑ์ทหารช่วง เดือน เมย มาก่อนเขาจึงพิจารณา

เมื่อท่านกรอกใบสมัครเรียบร้อยแล้วส่งให้ทางบริษัทรอเรียกสัมภาษณ์
ถ้าถูกเรียกตัวแสดงว่าท่านผ่านคุณสมบัติด้านการศึกษา โอกาสได้ 50%แล้่วทีนี้มาถึงขั้นตอนสำคัญแล้วครับ การสอบสัมภาษณ์

เราจะเตรียมตัวอย่างไรในการสัมภาษณ์

1. การแต่งกาย ต้องเสริมบุคลิกครับงานเซลล์เน้นบุคลิกครับ เราต้องแต่งการให้ดี เพราะเป็นด่านแรกที่คณะกรรมการจะพิจารณา
เริ่มจากทรงผม ต้องเรียบร้อยอย่าตัดทรงเกาหลีไปสัมภาษณ์นะครับ
ท่านไม่ได้ไปสมัคร เข้าบ้าน AF ตัดรองทรงดีที่สุดครับ

อย่าเจาะหูเจาะปาก ใส่แหวนวงใหญ่ ใส่กำไล (เฉพาะท่านชาย) เอาออกก่อนนะครับ กรรมการส่วนใหญ่อนุรักษ์นิยมครับ

ปกปิดรอยสัก เช่น สักโดเรม่อน ชินจัง ควรปกปิดด้วยครับถ้าสักที่แขนควรใส่เสื้อแขนยาวปกปิด

หนวดเคราควรโกนให้สะอาด เคราแพะ เคราแมว หนวดปลาดุก ต้องโกนให้เกลี้ยง เพราะเราไม่ได้ไปสมัครเป็น นักร้องวงร็อค หรือวงเพื่อชีวิต หรือ เราไม่ใช่ขุนโจร 100 ศพ

เสื้อผ้าที่ใส่ ควรเป็นเสื้อเชิตแขนยาว สีขาวดีที่สุด ไม่ใช่ขาวขุ่นเพราะใช้มานานนะครับ ถ้าไม่มีสีขาวก็สีพื้นอ่อนๆก็ได้และควรผูกเนคไทม์ด้วยครับ แต่ไม่ถึงกับใส่สูท เว่อร์ไปครับ กางเกงสแลคสีดำ กางเกงยีนส์ กางเกงลูกฟูกอย่าใส่เด็ดขาดครับ เข็มขัด รองเท้า สีดำ รองเท้าควรขัดให้เงา เหมือนรองเท้าบู๊ท ร.ด. แค่นี้ก็พร้อมแล้วสำหรับการแต่งตัวเข้าสัมภาษณ์

2. เครียมตัวเองให้พร้อม

2.1 ความรู้ที่เรียนมา กรรมการจะถามความรู้ที่เรียนมาไม่มากหรอกครับ
2.2 ประสพการที่ทำสมัยเรียน พื้นฐานครอบครัว สิ่งที่ชอบ ไม่ชอบ
2.3 บทบาทสมมติ เช่น กรรมการจะให้คุณออกมาคุยต่อหน้าคณะกรรมการ ให้คุณเป็นพนักงานขาย กรรมการเป็นลูกค้าให้เสนอขายสินค้ากับกรรมการ หรือให้คุณเป็นนักพูดคุยกับผู้ฟังที่เป็นกรรมการ หรือให้คุณจัดประชุมเสนอขายสินค้าของบริษัท (ควรมีความรู้ด้วยว่าบริษัทที่คุณจะไปสมัครขายอะไร) หรือบางครั้งให้เล่านิทาน หรือร้องเพลง เขาจะทดสอบความกล้า ความสามารถในการสื่อสารของคุณ
2.4 ทดสอบการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เช่น เกิดลูกค้าจะเคลมสินค้าคุณจะแก้ไขปัญหาอย่างไร รถขนส่งส่งสินค้าช้าลูกค้าต่อว่าคุณจะทำอย่างไร ส่งสินค้าผิดคุณจะทำอย่างไร ปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย
2.5 ทดสอบอารมณ์ของคุณ บางที่กรรมการสอบสัมภาษณ์คนใดคนหนึ่งถามกวนๆ แหย่คุณให้โกรธ ถ้าคุณโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง รับรองตกแน่ เพราะงานขายคนทำต้องใจเย็นมีความอดทนสูงระงับอารมณ์เก่ง
ถ้าเขาแหย่คุณ จงรู้ไว้เลยว่าเขากำลังทดสอบคูณ อย่าหลงกล วิธีรับมือ เลี่ยงไปตอบประเด็นอื่นๆ ถ้าจนมุมใช้วิธีตอบอย่างกลางๆ แล้วถามกลับคนที่ถามว่าเขาจะแก้ไขปัญหาอย่างไร
2.6 ทดสอบแนวคิดของคุณ เช่นตั้งปัญหาในงานขาย แล้วถามว่าเป็นคุณควรทำอย่างไร
2.7 เขาอาจจะถามเรื่องเงินเดือน คุณตอบกลางๆว่าตามมาตรฐานของบริษัทที่ให้กับพนักงานใหม่ บางบริษัทเขามีอัตราเงินเดือนสำหรับพนักงานใหม่อยู่แล้ว ถ้าเป็นบริษํทเล็กๆถ้าคุณตอบต่ำคุณอาจได้เงินเดือนต่ำ ข้อนี้สอบถามรุ่นพี่ที่ทำงานก่อนก็ได้ครับ

3. การเตรียมตัวก่อนวันสอบให้นอนแต่หัวค่ำสมองจะได้โปร่ง และไปถึงที่สัมภาษณ์ก่อนสัก 1 ชม จะได้มีเวลาเตรียมตัวและคุ้นเคยกับเจ้าหน้าที่และสถานที่

4. เวลาเข้าห้องสัมภาษณ์ ก็ให้เคาะประตูก่อนเข้า จากนั้นให้ไหว้กรรมการทุกคน ตำแหน่งใหญ่สุดมักอยู่ตรงกลาง รอให้คณะกรรมการเรียกให้นั่ง หรือบางที่ก้จะให้แนะนำตัวก่อนนั้ง (เตรียมเรียบเรียงข้อมูลแนะนำตัวไปก่อนก็ดีครับ)
5. เวลากรรมการถามเราต้องใช้สายตามองไปทีกรรมการคนที่ถาม ไม่ใช่นั่งก้มหน้า หรือมองเพดานห้อง เราต้องใช้สายตาสบตากรรมการที่ถามคำถาม และปล่อยให้เขาถามจบก่อนแล้วค่อยตอบ ถ้าไม่แน่ใจถามยำ้ไปว่ากรรมการจะสอบถามเรื่องนี้ใช่ไหม
6. การตอบคำถามต้องตรงประเด็น และเสริมความคิดเห็นเราลงไปด้วย อย่าตอบอ้อมโลกไม่ตรงกับคำถาม
7.ถ้าคำถามที่กรรมการถามเราไม่รู้จริงๆ เป้นเรื่องที่ยาก ไม่เกี่ยวกับที่เราเรียนหรือมีความรู้ เราก้ตอบตรงๆว่าไม่รู้ อย่าดำน้ำเดี๋ยวชนตอ
แต่ไม่ใช่ว่าถาม 10 เรื่อง ตอบไม่รู้ 9 เรื่อง ก็ไม่ไหวครับ
8. เวลาตอบคำถามให้พูดชัดๆ นำ้เสียงหนักแน่น อย่าพูดเร็ว
ส่วนใหญ่จะตื่นเต้นพูดเร็ว (รวมทั้งผมตอนสัมภาษณ์ด้วย) หรือ อย่าพูดช้าเนิบนาบจนเกินไป
9. ถ้าถามเรื่องการเมืองควรตอบแบบกลางๆ ไม่ควรแดงแจ๊ด หรือ เหลืองอ๋อย ไม่แน่กรรมการเขาอาจจะอยู่ด้านตรงข้ามกับคุณ ข้อแนะนำควรตอบด้วยภาษาการฑูต แบบไม่ฝักไผ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
เพราะงานขายจะเจอลูกค้าทั้งสองสี
10.สัมภาษณ์ใกล้จบ กรรมการอาจจะให้คุณถามกรรมการได้ 1 คำถาม
ไม่ควรถามว่า ผมจะได้งานไหม(ทุกคนก็อยากจะถามแน่ๆ แต่ควรรักษาฟอร์ม) บริษัทติดต่อคุณเองภายหลังครับถ้าเขาสนใจคุณ ควรถามแบบกลางๆ เช่น นโยบายพัฒนาบุคลากรของบริษัท หรือ อาจตอบว่าไม่มีครับ
11.จบสัมภาษณ์แล้วก็ไหว้ลากรรมการทุกคน เราคนไทยไปลามาไหว้ครับ อ้ออย่าลืมยิ้มด้วยครับเวลาสัมภาษณ์ อย่าเครียดจนออกหน้าออกตา หน้านิ้วคิ้วขมวด จะเสียบุคคลิกครับ คิดซะว่ากำลังคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ ที่เขาเสียสละเวลามาคุยกับเรา ถ้าไม่ได้บริษัทนี้ก้ยังมีบริษัทดีๆรอให้เราทำงานอีกเยอะ

เคล็ดลับที่เราต้องทำให้กรรมการสัมผัสได้จากการให้สัมภาษณ์
1. ทำให้เขารู้สึกได้ว่าเราอยากทำงานกับบริษัทเขา
2. ทำให้เขารู้สึกได้ว่ารับเราแล้วเราจะทุ่มเทให้กับงาน
3. ทำให้รู้สึกว่าเราจะอยู่กับเขา เติบโตไปกับบริษัทเขา ไม่ใช่ตอบว่ามาหาประสพการณ์ อีกสัก 3 ปี จะไปเรียนต่อหรือกลับไปทำที่บ้าน จำไว้เลยครับบริษัทไม่ใช่ที่ฝึกงาน
4.แสดงให้เห็นว่าคุณเป็นคนปรับตัวง่าย ขยันและอดทน (ทำยากนะ่)
ต้องแสดงออกทางสีหน้าและแววตาที่มั่นใจให้กรรมการเห็น
5.ทำให้เห้นว่าคุณเป็นคนไว้ใจได้ ซื่อสัตย์เพราะงานเซลต้องเกี่ยวข้องกับเงิน

ผมว่าเอาวิธีการเตรียมตัวสัมภาษณ์ไปใช้กับงานอื่นๆได้เช่นกันครับ

ขอให้ผู้ที่จะสัมภาษณ์งานเซล์หรืองานอื่นๆประสพผลสำเร็จครับ

ได้งานแล้วรักงานที่ทำด้วย.... แล้วงานมันจะรักท่านครับ

เริ่มเข้าสู่สังเวียนชีวิตจริงแล้วครับ พนักงานใหม่ หลังซ้อมเตะกระสอบทราย เตะต้นกล้วย ขอเงินพ่อแม่ใช้ตั้งแต่อนุบาล...ยันมหาวิทยาลัย ..... เงินเดือนเดือนแรกที่เราหาได้เอง...มันช่างน่าจดจำครับ

ขอบคุณภาพประกอบ : จากอินเตอร์เนต

Create Date : 04 กันยายน 2553

Last Update : 13 มกราคม 2560 22:02:29 น.

40 comments

Counter : 23740 Pageviews.

ตามมาอ่านคับพี่ ได้ความรู้มากๆคับพอดีว่าผมกำลังจะไปสัมภาษณ์งานพอดีเลยคับ ขอบคุณมากๆนะคับ กำลังจะไปสัมภาษณ์งานเป็นเซลออกต่างจังหวัดอ่ะคับขายสินค้าประเภทเมล็ดพันธ์เกษตรและอุปกรณ์การเกษตรคับ บริษัทก็ไม่ใหญ่คับ โทรไปคุยแล้วเค้าบอกว่าเป็นแบบครอบครัวเราอยู่กันแบบพี่ๆน้องๆอ่ะคับบริษัทมีรถให้คันนึงส่วนเขตที่ลงเค้าบอกว่าลองไปคุยกันดูรวมถึงเรื่องเงินเดือนด้วยอ่ะคับ ผมเลยมีข้อสงสัยอยากถามพี่อ่ะคับว่าถ้าเค้าให้ผมเรียกเงินเดือนผมควรเรียกประมาณเท่าไหร่คับ เรื่องเบี้ยเลี้ยงควรถามมั้ย ส่วนเรื่องค่าคอมได้คุยทางโทรศัพท์เค้าบอกว่าจะออกเป็นไตรมาสอ่ะคับ แล้วเปอร์เซ็นของค่าคอมสินค้าเกษตรนี่ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่คับพี่ ผมเป็นนักศึกษาจบใหม่นะคับเลยไม่รู้จะไปปรึกษาใครดีอยู่คนเดียวคับพ่อกะแม่ผมอยู่ต่างจังหวัด การไปเป็นเซลต่างจังหวัดเลยคิดว่าเราทำได้คับ ยังไงนักศึกษาจบใหม่คนนี้รบกวนพี่ช่วยเป็นที่ปรึกษาให้ผมหน่อยนะคับ เกือบลืมขอบพระคุณพี่มากที่ตอบคำถามของผมในตอนที่แล้วด้วยนะคับ ถ้าไม่รบกวนพี่จนเกินไปผมอยากได้มีโอกาศคุยกับพี่จริงๆนะคับยังไงผมขอฝากเบอร์ผมไว้ถ้าพี่สะดวกยิงมาก็ได้คับเดี๋ยวผมโทรกลับเองคับ ขอบพระคุณความเมตตาของพี่มากนะคับ เบอร์ผมนะคับ 086-895-7699

โดย: กฤษณ์ IP: 210.203.179.176 วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:16:29:06 น.

ตอบคำถามคุณ กฤษณ์
1.ผมเลยมีข้อสงสัยอยากถามพี่อ่ะคับว่าถ้าเค้าให้ผมเรียกเงินเดือนผมควรเรียกประมาณเท่าไหร่คับ
บริษัทเล็ก 10-12 พัน
บริษัทใหญ่ 12-15 พัน
เบี็ยเลี้ยง(ค่าอาหาร+ค่าที่พัก) 450-600 บาท/วันทำงาน
2.ค่าคอมก็ออกเป้นไตรมาสครับ
ค่าคอมแล้วแต่บริษัท หลักการง่ายๆครับ
ถ้าสินค้าไม่ติดตลาดค่าคอมจะมาก
ถ้าสินค้าติดตลาด คนรู้จักเยอะก้จะน้อย
ค่าคอมพูดลำบาก บางบริษัทถ้าทำเกินเป้าอาจจะได้มากว่าเงินเดือน สามเดือนรวมกัน ถ้าไม่ถึงเป้าอาจจะไม่ได้ บางที่มีค่าคอมเก็บเงินด้วยว่าทำได้ตามเป้าหรือไม่ บางบริษัททำค่าคอมเป็นขั้นบันไดไล่ไปตามยอดที่ได้ บางบริษัทก็จะมีเพดานค่าคอมบางบริษัท จะให้คงที่ ของน้องน่าจะได้อัตราก้าวหน้าเพราะบริษัทเล็ก ส่วนบริษัทเจ้าตลาดจะได้ค่าคอมในอัตราที่คงที่ครับ

ตามจรรยาบรรของงานเซลเราอาจจะเป็นคู่แข่งกันก้ได้ เอาไว้คุยกันผ่านทาง Blog ดีกว่าครับ