นกสีฟ้า สาลิกาหิน
Group Blog
 
All Blogs
 
ทำชีสจากนมแพะไว้ทานเอง

หลังจากห่างหายไปนานนับปีเพิ่งนึกขึ้นได้เลยเข้ามาอัพเดทสักที

เพราะเศรษฐกิจที่ยังไม่ตกสะเก็ดเพราะกำลังกลัดหนองอยู่ รัฐบาลออกนโยบายออกมารีดไถประชาชนเรื่อยๆเริ่มตั้งแต่นโยบายรัดคอ เอ๊ยยย รัดเข็มขัดค่ะ   ลดอัตราค่่าแรงขั้นต่ำลง แต่ดันขึ้นภาษีอาหาร และภาษีอื่นๆอีกจิปาถะเล่นเอาผู้ประกอบการปิดตัวกันไปเป็นแถว เพราะขืนทำต่อมีแต่เข้าเนื้อ เพราะเงินได้มาเสียภาษีนู่นนั่นนี่ให้รัฐหมด ทำเอาคนตกงานเป็นแถว  ยิ่งถ้าเป็นพวกกำลังผ่อนบ้านผ่อนรถ นี่ดันมาตกงานแถมยังโดนเรียกเก็บภาษีพิเศษเพิ่ม หมดเนื้อหมดตัวไม่มีจะกิน ยิงตัวตายประท้วงไปหลายราย  ที่เกาะที่เราอยู่นี่ผูกคอตายไป 2 ราย

 ตอนนี้อะไรทำเองได้แบบประหยัดเป็นทำเองไม่ยอมจ่ายเงินซื้อเด็ดขาดค่ะ

ทั้งตัวเองนั้นชอบดื่มนมแล้วลูกก็ยังดื่มนมอยู่สามีเลยสั่งแพะนมจาก เกาะ กิโมลอสมาเลี้ยง  ให้นมได้ถึงวันละ3กิโลกรัม บวกกับแกะอีก  เลยมีนมเกือบๆ5กิโลกร้มทุกวัน  แต่ใช้ดื่มกับทำขนมแค่วันละประมาณ2ลิตร  ที่เหลือเลยต้องแปรรูปเพราะนมแพะถ้าแช่เย็นเกิน3วันจะเริ่มมีกลิ่นสาป ยกเว้นแช่แข็งจะอยูได้นานหน่อย

สิ่งที่ต้องเตรียมก็มี นม ภาชนะสำหรับบรรจุนม  ตะกร้าตาถี่ๆสำหรับใส่นมที่จับตัวแล้ว และสารเรนนิทที่ใช้สำหรับทำให้นมจับตัวเป็นก้อน

RENNET เป็นสาร เรนนินจากระเพาะลูกวัวใช้ทำให้นมจับตัวเป็นก้อน

 

1. เตรียมนมแพะหรือแกะ กรองให้สะอาด วัดอุณหภูมิให้ได้30-35องศา หากแช่เย็นไว้ก่อนหน้านี้ให้ตั้งไฟอ่อนๆจนได้อุณหภูมิที่กำหนดค่ะ

ถ้าเป็นนมแพะไขมันจะน้อย ถ้านมแกะไขมันจะเยอะมาก

ถ้ารีดมาแล้วยังไม่ทำให้แช่เย็นไว้ก่อนค่ะอย่าตั้งทิ้งไว้นานเพราะแค่ตั้งทิ้งไว้ในอุณหภูมิปกติสัก30 องศา ประมาณ2ชั่วโมงจะมีกลิ่นสาปค่ะ

ของที่บ้านจะรีดนมวันละ2รอบ รอบเช้าพอได้มาจะรีบกรองและทำชีสทันทีส่วนรอบเย็นถึงจะเก็บไว้ดื่มค่ะ

1.1 หากทำชีสสมุนไพร จะใส่ผสมสมุนไพรลงไปกับนมก่อนใส่สารเรนนินค่ะ สมุนไพรส่วนใหญ่จะเป็นออริกาโน่ หรือทิสมี่แรือพวกที่เพิ่มกลิ่นหอมค่ะแต่ต้องแห้งนะคะเพราะถ้าสดอาจทำให้ชีสขึ้นราได้ค่ะ

หากทำชีสตามปกติก็นมล้วนๆไม่ต้องใส่อะไรค่ะ

 

2.ตวงสารเรนนิน ตามสัดส่วนที่เขียนในฉลาก  และเกลือป่นในปริมาณที่เท่ากับสารเรนนินที่ใช้

 

 

1ช้อนสีแดงที่เห็นจะใช้ได้กับนม 100 กิโลกรัม

 ที่บ้านจะใช้นมแค่ครั้งละ2-3 กิโลกรัมเท่านั้น จึงใช้แค่ปลายด้ามช้อนกาแฟค่ะ

3. ผสมสารเรนนินกับเกลือป่นลงในน้ำเล็กน้อยคนให้ละลาย

4. เทลงผสมในนมคนให้ทั่ว แล้วปิดฝาหรือคลุมผ้าไว้ ตั้งทิ้งไว้ในอุณหภูมิปกติรอให้นมแข็งตัว

ประมาณ3นาทีนมจะเริ่มจับตัวทิ้งไว้ประมาณ 3-48 ชั่วโมง  ตามแต่ประเภทชีสที่เราจะทำ  ยิ่งทิ้งไว้นานชีสจะมีกลิ่นและรสที่เปรี้ยวขึ้น มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับระยะเวลาค่ะ  แต่ในขั้นตอนนี้ไม่ต้องกลัวว่าทิ้งไว้นานแล้วนมจะมีกลิ่นสาปนะคะ

นมจะจับตัวแข็งเหมือนเต้าฮวย เคยลองเอาใส่น้ำขิง ทานอร่อยดีค่ะ

เมื่อทิ้งไว้จนได้เวลาตามที่ต้องการแล้วก็ใช้ทัพพีตักนมใส่ในตะกร้าที่มีตาค่อนข้างถี่ เกลี่ยนนมเบาให้เสมกันไม่ต้องกดนะคะ จนเต็มตะกร้าวางบนตะแกรง

ให้ะเด็ดน้ำ

เอียงให้น้ำไหลออกเป็นพักๆค่ะ  น้ำที่ได้จากการทำชีสนี้  ถ้าเป็นชีสที่หมักทิ้งไม่เกิน7-8ชั่วโมง เอาไปตั้งไฟ่อ่อนๆดื่มได้ค่ะจะมีรสหวานหอม  เจ้าของบล็อกดื่มทุกวันค่ะ  แต่ถ้าเป็นชีสที่ต้องทิ้งไว้นานจะมีรสเปรี้ยวค่ะ อันนี้จะขอผ่านไม่ดื่มค่ะ

เอาผ้าคลุมตั้งทิ้งไว้ในที่ร่มและแห้ง ระยะเวลานานเท่าไหร่อยู่ที่ประเภทชีสที่เราทำค่ะ

ตัวนี้เป็นชีสเนื้ออ่อนสำหรับทานเล่นหรือใส่สลัดค่ะ ช่วงที่หมักให้นมแข็งตัว เราทิ้งไว้ประมาณ  3 ชั่วโมงค่ะรสชาติจึงไมเปรี้ยวแต่จะมันและหอมกลิ่นนมค่ะ

ส่วนช่วงที่ใส่ตะกร้าทิ้งให้แห้ง  ตัวนี้ใช้ตั้งไว้ในร่ม2วันค่ะ  จากนั้นเคาะใส่จานเก็บใส่ตู้เย็น แล้วแต่จะทานเปล่าๆ หรือจะโรยน้ำตาล โรยเกลือ หรือจะใส่ทำเป็นใส้ขนมพายก็ได้ค่ะ แต่ชนิดนี้จะเก็บได้ไม่นานค่ะเพราะไม่นิยมแช่แข็ง ส่วนใหญ่จะทำทานเลยเก็บไว้ไม่เกิน5วันค่ะ

 

ชนิดนี้จะมีทั้งช่วงที่หมักนมระยะสั้นและยาว  คือตั้งแต่ 3 ถึง 48 ชั่วโมง ค่ะ อยู่ที่รสชาติที่ต้องการและประเภทของอาหารที่จะทำ  ถ้าใช้สำหรับผสมแป้งนวดทำพวกพายต่างๆ ก็จะทิ้งไว้ไม่ไม่เกิน7 ชั่วโมง ถ้าจะใช้สำหรับทำครีมจิ้มหรือราดอาหารนี่จะนิยมรสเปรี้ยวจะหมักไว้นานถึง2วัน  ถ้าจะทานเล่นแกล้มแอลกอฮอล์ก็ระยะเวลาแล้วแต่จะชอบค่ะ

แต่ช่วงที่ใส่ตะกร้าทิ้งให้สะเด็ดน้ำนี่จะเท่ากันคือทิ้งไว้ประมาณ8-10ชั่วโมงค่ะ  จากนั้นเคาะใส่จานใช้ส้อมบี้ให้แตก พร้อมกับโรยเกลือป่นไปด้วยเล็กน้อยตามชอบค่ะ

ตัวนี้เราสามรถแช่แข็งไว้ได้ค่ะ

 

ส่วนชีสสำหรับขูดใส่ในสปาเก็ตตี้  ในช่วงการหมักนม ระยะเวลาสั้นหรือนานจะอยู่ที่ความชอบค่ะ ได้ตั้งแต่3-48ชั่วโมงหรือจะนานกว่า

ส่วนขั้นตอนใส่ตะกร้าให้สะเด็ดน้ำ จะทิ้งไว้ในที่ร่มและแห้งประมาณ 2-3วันค่ะ จากนั้นเคาะใส่ตะแกรงโรยเกลือป่นให้ทั่วทิ้งไว้2-3ชั่วโมง กลับด้านล่างขึ้นแล้วโรยเกลือให้ั่ทั่ว ตั้งิ้งไว้ในตะแกรง2-3วันค่ะ

พอหมาดไม่มีน้ำหยดออกมากแล้ว ก็เก็บใส่ตะแกรง หรือห่อผ้าแขวนไว้ในที่ร่มและแห้งประมาณ2-3 สัปดาห์ จนชีทแข็ง   ถ้าเป็นชีทแบบธรรมดา  เมื่อชีทแข็งแล้วก็สาารถขูดใส่สปาเก็ตต้ หรือจะหั่นเป็นชิ้นทานเล่นได้ค่ะ

แต่ถ้าเป็นซิฟนอสชีส ของเกาะซิฟนอสแล้ว  เมื่อชีทแห้งแข็งแล้วจะต้องล้างชีทในน้ำสะอาดให้หมดเค็มแล้วนำไปแช่ในไวน์อีกค่ะ  ถ้าเห็นชีทที่เป็นก้อนประมาณ4-5นิ้วมีสีน้ำตาลเละๆเคลือบนั่นคือชีทที่แช่ไวน์ค่ะ จะมีราคาค่อนข้างแพงกว่าชีททั่วไป




Create Date : 09 มิถุนายน 2555
Last Update : 9 มิถุนายน 2555 3:03:51 น. 7 comments
Counter : 11386 Pageviews.

 
ได้ความรู้มากเลยค่ะ ดูเหมือนจะทำได้ง่ายๆนะเนี่ย แต่คิดว่าก็คงยากเหมือนกันแฮะ ชีสแบบนี้ นี่เค้าเรียกว่าชีสอะไรเหรอคะ? ใช่ Feta รึเปล่าเอ่ย? ^^ แต่เดี๋ยวนี้อะไรๆที่ไหนก็ขี้นราคาและแพงขึ้นมากๆเลยแหละค่ะ.. ทำชีสกินเอง เป็นความคิดที่ดีเหมือนกัน เพราะราคาชีสนี่ก็แพงเหมือนกัน..


โดย: ชื่อนี้ได้ผ่านการพิจารณา วันที่: 9 มิถุนายน 2555 เวลา:19:41:53 น.  

 
ชีสพวกนี้จะทำได้ง่ายมากค่ะเรียกว่าเบสิคชีสค่ะ ที่บี้ๆใส่จานทานเล่นหรือทำไ้ชีสพายจะเรียกมีชี๊ต่ะค่ะ เฟต้าจะมีวิธีทำที่ยุ่งยากกว่านี้ค่ะ เป็นชีสแข็งที่แช่น้ำ นิยมใส่ในสลัดกรีก เวลาจะทำทีนึงต้องใช้นมมากเลยค่ะ


โดย: สาลิกาหิน วันที่: 12 มิถุนายน 2555 เวลา:19:08:27 น.  

 
RENNET หาซื้อได้ที่ไหนในไทย


โดย: เล็ก IP: 58.8.222.174 วันที่: 16 กันยายน 2555 เวลา:1:00:35 น.  

 
อยากทราบว่าหาซื้อRennetได้จากที่ไหนหรอครับ


โดย: mai_wood IP: 183.89.16.30 วันที่: 11 มีนาคม 2557 เวลา:18:37:31 น.  

 
rennet นี้ที่ไทยนี้ซื้อได้ที่ไหนอะครับ


โดย: nitiwat IP: 171.6.179.48 วันที่: 13 สิงหาคม 2557 เวลา:23:46:13 น.  

 
อยากได้สารเรนนินมั่งอ่ะคับ รบกวนคุณพี่หน่อยจะได้มั้ยคับ ขอร้องๆๆนะๆๆๆคับ


โดย: ปูคับ IP: 1.46.239.40 วันที่: 22 กันยายน 2557 เวลา:22:59:01 น.  

 
RENNET หาซื้อได้ที่ไหนในไทย


โดย: kittiya IP: 203.172.241.34 วันที่: 17 มิถุนายน 2559 เวลา:13:01:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สาลิกาหิน
Location :
sifnos Greece

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




บล็อกของฉัน บล็อกของคนธรรมดา ที่มีทั้งแข็งกร้าวและอ่อนไหว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายภาพไปเรื่อย ฉันไม่ใช่นักถ่ายภาพฝีมือดี ฉันแค่อยากบันทึกความทรงจำไว้เท่านั้น วัฒนธรรม โบราณสถาน ต้นไม้ ดอกไม้ กาแฟหอมกรุ่น เครื่องดื่มชื่นใจ คือความสนใจของฉัน
Friends' blogs
[Add สาลิกาหิน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.