|
หนทาง
เมื่ออตีดเป็นของที่วางอยู่ข้างหลัง และอนาคต คือสิ่งที่ต้องไข่วคว้า
ผมตื่นขึ้นมาในตอนสายๆ วันทำงานธรรมดาช่างเรียบง่าย ไม่ต้องตกใจ ผมตื่นสายจริงๆ
11: 44 น เป็นเวลาที่ผมตื่นนอนโดยเฉลี่ย การเดินทางไปทำงานของผมนั้นใช้เวลาแค่ชั่วอีดใจ แค่ผมลงไปแปรงฟันอาบน้ำ ขึ้นมานั่งที่โต๊ะผมก็พร้อมจะทำงานได้ทันทีและแน่นอนที่พักของผมก็อยู่แถวๆโต๊ะทำงานนั้นและคงไม่ต้องบอกว่าผมนอนตอนกี่โมง ไก่ขันเมื่อไรผมก้อนอนนั้นแหละ
ชีวิตผม เป็นเช่นนี้เข้าปีที่สองที่ผมเป็นคนแบบนี้ แต่ถึงกระนั้นงานที่ผมทำนั้นมันยังคงคุณภาพไว้ได้เสมอมาไม่ขาดตกบกพร่อง มันคอยย้ำเตือนสติทุกครั้ง ว่าให้งานออกมาดีเป็นที่พอใจของเราของลูกค้าหรือแม้กระทั่งคนอื่นๆ
" ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน "
ผมให้ความสำคัญกับคนรอบข้างทุกคน เพราะทุกคนคือเพื่อน พี่ และน้องๆ เมื่อก่อนผมเคยเป็นน้องสุดของที่นี้ ผมอายุน้อยที่สุด ความรู้น้อยที่สุด ในบรรดาคนทำงานด้วยกัน ผมเป็นคนที่อ่อนประสบการณ์มากๆ หาทางเอาตัวรอดทุกอย่างโดยไม่หวังพึ่งใคร แต่ยอมรับว่าสังคมตอนนั้นการเเข่งขันสูงหากเราทำไม่ดีหรือพลาด เราเองนั้นแหละที่อาจจะพบจุดจบเองได้
เป็นการสอนเป็นนัยๆให้ผมรู้ตอนนั้นว่า คนเราไม่ได้อยู่ได้ด้วยตัวคนเดียวเสมอไป ผมเริ่มเข้าไปพูดคุยกับพี่ๆ ในที่ทำงานตอนนั้นผมเพิ่งทำงานเป็นที่แรก เด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่ไม่มีปัญญาขึ้นรถไฟฟ้าได้เอง ต้องให้เพื่อนมาส่ง สอนวิธีการขึ้นให้ มันน่าอายนัก แต่ผมต้องขอบคุณเพื่อนคนนี้มากๆ เพราะเขาคือคนๆเดียวที่เป็นเพื่อนแท้ของผม
อดีตที่ผ่านมาในชีวิตในวัยเด็กของผมนั้นมีแต่ความเศร้า ไม่เคยได้อะไรอย่างที่หวังๆ การจะได้อะไรมากสักอย่างยากเย็นเเสนเข็ญ มีเงินไปโรงเรียนวันล่ะไม่กี่บาท ไม่เคยได้ซื้อขนมดีๆมากิน และไม่เคยได้ไปเที่ยวใหนๆ เหมือนเพื่อนๆคนอื่นบ้าง อยู่บ้านนั่งปั้นดินเหนียวเป็นหุ่นยนต์บ้าง สัตว์ประหลาดบ้าง ตากแดดเอาไว้ให้มันแห้ง แล้วค่อยเอามาเล่น
แต่กระนั้นถ้ามามองดูตัวเองมันจะยิ่งเศร้าใจ ผมลองหัดมองคนอื่นๆบ้าง เด็กในรุ่นราวคราวเดียวกับผมอีกหลายๆคนอาจจะแย่กว่าผมอีกมันก็มี แค่คิดได้ดั้งนั้นเรื่องของผมกลายเป็นเรื่องง่ายๆ ไปทันที
ผมบอกกับตัวเองเสมอว่าอตีดที่เลวร้ายจะทำให้ผมแข๊งแกร่งขึ้นในอนาคต
เมือโตขึ้นในวัยที่เรียกว่าวัยรุ่น ผมเป็นเด็กที่มีเพื่อนมากขึ้น เพื่อนๆในก็วนมีทั้งเด็กที่เกเร ซ่าๆ หรือเรียบร้อยติ๋มๆ คละกันไป ชีวิตช่วงวัยรุ่นมีแต่ความสุข ได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆได้ทำอะไรๆตามใจตัวเองมากขึ้น มีสังคมและเพื่อนฝูงมากมาย กระนั้นเพื่อแท้ของผมยังมีแค่คนเดียวเหมือนเดิม
ผมจบ ปวช ด้วยเกรดเฉลี่ยที่ดีมาก ในความรู้สึกของตัวเอง มันทำให้ผมคิดว่าผมเองก็เรียนเก่งนะ เพราะฉนั้นจะไม่กลัวการเรียนที่ระดับสูงกว่านี้แน่นอน
แต่ทุกอย่างในโลกไม่เที่ยง ผมเกือบถูกรีไทร์ในปีเเรกที่เรียน ปวส และหลายๆคนในห้องที่ผมเรียนนั้นก็ออกไปหลายคน ผมเริ่มตระหนักและเริ่มตั้งใจเรียน แต่กระนั้น ผมเองก็ยังคงล้มเหลวในการเรียน
ผมเรียนไม่จบ ไม่เชิงหันหลังให้การเรียน แค่พักมันไว้ หันหน้าเข้าทำงาน และผมกลายเป็นคนบ้างาน การเรียนของผมหยุดชะงักลง
ผมทำงานมาเข้าปีที่ห้า ชีวิตทำงานทำให้ผมเรียนรู้อะไรมากมาย เลห์เหลี่ยม ทีมีอยู่แพรวพราว การหักหลัง และอื่นๆอีกมาก
สวรรค์ไม่มีบันใดให้ปีนขึ้นไป หากอยากขึ้นแม้ต้องเหยียบหัวคนอื่นก็ต้องทำให้ได้
มีคนเคยพูดประโยคนี้กับผม แต่ผมไม่เคยคิดจะทำ เพราะผมจะสร้างบันใดที่จะปีนขึ้นไปบนนั้นให้ได้เอง
หากจะถามว่าสวรรค์ของผมบนนั้นต้องมีอะไรบ้าง ตอบได้ทันที ว่าต้องการแค่ใครสักคนที่ยืนรอผมอยู่บนนั้น และเธอเข้าใจผมและพร้อมจะไปด้วยกันที่ใหนก้อได้ไม่เกียง เพียงแค่นี้ ก็พอ
แต่จะมีใครล่ะที่จะมาอยู่กับเราโดยที่เราไม่มีอะไรเลย
ผมจึงขวนขวาย ไขวคว้าอนาคตที่ต้องการอยู่จนถึงทุกวันนี้
อนาตคที่แสนจะสวยงาม กำลังรอผมอยู่
เพราะฉนั้นเมื่อเพือนๆของผมเสนอ ว่าเปิดบริษัทกันเถอะ ผมจึงตกลงอย่างไม่ลังเล คิดในใจอย่างเดียวว่า ออฟฟิตที่ช่วยกันสร้างขึ้นมานี้นั้นจะ ยิ่งใหญ่และมั่นคง
ระยะเวลาหนึ่งปีกว่าๆมีผลงานมากมายที่ออกไปจากออฟฟิตแห่งนี้ ทุกคนยิ้มกับมันเพราะมันคืองานที่เราตั้งใจทำ ถึงรายได้ในปีแรกดูน้อยไปหน่อยแต่มันเป็นเเรงพลักดันให้ทุกคนขยันที่จะทำงานกันมากขึ้น เพราะอีกไม่กี่ปีเราจะสร้างอนาคตที่ดีได้แน่ๆ
อนาคตเป็นสิ่งที่ต้องไขวคว้า และผมจะทำมันให้ได้ เพื่อที่วันใดผมปีนไปบนสวรรค์ และรับเธอลงมา อยู่ด้วยกันตลอดไป
นานเท่านาน
Create Date : 20 มีนาคม 2549 |
Last Update : 20 มีนาคม 2549 4:31:34 น. |
|
1 comments
|
Counter : 314 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Jabavox |
|
|
|
|