All Blog
|
เกาหลีไม่มีขาวันที่ 5 : ซกโซ วันนี้ตื่นแต่เช้านั่งรถไฟใต้ดินไปสถานี Dongseoul ลงมาชั้นล่างข้ามถนนก็เป็นสถานีรถบัสเลยคะ เข้าไปก็ซื้อตั๋วรถไปซกโซคะ ราคาประมาณ 17,000 วอน แล้วก็รอไปประมาณ 1 ชั่วโมงคะ รถมาจอดตรงเวลาออกตรงเวลาคะ แต่เราก็หมั่นไปถามตลอดนะเวลารถมาจอดนะคะ จะได้ไม่พลาด รถจะจอดที่ท่ารถ 4 กับ 5 นะคะ ของเราท่ารถ 4 คะ อ๊ะๆ และอย่าลืมหยิบสิ่งนี้มานะคะ พอไปถึงไปซกโซแล้วซื้อตั๋วขากลับไว้เลยคะ ถึงเราไม่หยิบเดี๊ยวพนักงานเค้าจะยื่นให้เราเองตอนเราลงปลายทางคะ รถบัสก็นั่งสบายดีคะ มีที่เหยียดขายาวอยู่ พอผ่านสะพานข้ามแม่น้ำ ก็จะเจอแต่ป้าไม้ภูเขาแล้วละคะ การเดินทางประมาณสองชั่วโมงครึ่ง เขาก็จะขับรอดภูเขาไปเรื่อยๆ มีแวะข้างทางก่อนถึงซกโซนิดหน่อยคะ เข้าซกโซเมื่อไหร่จะเจอป้าย Seorak Waterpia เองคะ ไม่ต้องลงป้ายไหนทั้งสิ้น ไปลงปลายทางที่สถานีรถบัสได้เลย จากนั้นเราก็ต่อแท๊กซี่ประมาณ 8,000 วอน ไปที่พักคะ คนขับถามเราเป็นคนฮ่องกงหรอ สิงคโปร์หรอ บลาๆ เราก็บอกไทยแลนด์ๆ เค้าก็ไม่เข้าใจ พอบอกนิชคุณๆ เค้าก็ทำหน้างงๆ (สรุปคนเกาหลีเรียกนิชคุณว่าไงหละเนี่ย?) เลยเปิดหนังสือแล้วพูดว่า "ชอนึน แทคุก อินิมด๊าาาา" 555 พอเค้าได้ยินแทคุกๆ เค้ายกนิ้วเยี่ยมๆ ใหญ่ เหมือนประมาณว่า เกาหลี เมืองไทย เยี่ยมๆ ประมาณนั้น ที่พักเราค่ะชื่อ Goodstay Ritzcal ที่พักสะอาด บริการดี สิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน และถูกเมื่อเที่ยบกับคุณภาพ เสียอย่างเดียวที่ มันค่อนข้างจะไกลจากที่ต่างๆ นะคะ ถ้าพักที่นี้ทำใจไว้เลยว่าแทีกซี่สถานเดียว ดึกๆ อยากกินไรขึ้นมา แถวที่พักไม่มีนะคะ ต้องเดินไกลมากๆ และค่อนข้างเปลี่ยวซะด้วย แต่เราชอบนะ มันสงบและเห็นวิวตอนเช้าของภูเขาด้วย คือมันใกล้ ซอรัคซาน นะคะ :) ก็บอกโรงแรมเรียกแท๊กซี่ให้ ก็ได้แท๊กซี่ภายใน 10 นาทีคะ เดินทางสู่ซอรัคซานคะ แป๊บเดียวจริงๆ เสียประมาณ 6,000 วอนคะ ก็เสียค่าเค้าคะ จำไม่ได้เท่าไหร่แต่ไม่แพงหรอกคะ วันที่ 17 ตุลาคม 2556 ใบไม้ที่นี้ยังไม่ค่อยเปลี่ยนสีมากคะ แอบตลกที่มีต้นนึงเปลี่ยนเป็นสีแดงทั้งต้นคนเลยรุมถ่ายกัน อันนี้เหมือนเค้าจะสร้างวัดหรืออะไรไม่รู้ มีคนไทยเขียนบริจาคกระเบื้องด้วย แล้วก็มาหาอะไรเติมท้องคะ ร้านข้างหลังเนี่ยจริงๆ คือสั่งอาหาร จ่ายเงิน แล้วหยิบเองคะ แต่ด้วยความไม่รู้เรื่องรู้ราวของเราสองคน คุณลุงที่นี้เค้าก็ช่วยแนะนำ ช่วยทำอะไรให้เป็นอย่างดีทีเดียว รสชาติพอใช้ได้ ราคาค่อนข้างสูง แต่ได้เยอะมากคะ กินแทบไม่หมด แล้วก็ที่เห็นคนนิยมกินมากๆ ก็มักกอลลีเนี่ยละคะ เจอคนเมาตกเก้าอี้ด้วย เดินมาสักพักจะเจอแยกให้เดินขึ้นเขานะคะ เราเลือกไปทางขวา ก็จะมีวัดนะคะ สองข้างทางก็จะมีคนเรียงหินแบบนี้ แต่อันนี้เก่งดีเลยถ่ายมาซะหน่อย น่าจะน้ำมนต์อะไรประมาณนี้ป่าว เห็นคนกินและก็กรอกกันนะคะ ขอบอกว่าเดินขึ้นเขาทรหดมาก แต่ก็ยังเดินสบายกว่าตามน้ำตกในเมืองไทยนะคะ คิดว่าที่นี้เค้าฮิตเดินเขากันหรือเปล่าไม่รู้ แต่วันที่ไปอาจุมม่าเต็มไปหมด แข็งแรงเดินกันเร็วด้วยสิ และเค้าจะมีเหล็กยาวๆ สองอันช่วยเดินละมั้งเนอะ เดินแพ้คนเกาหลีจริงๆ โดยเฉพาะคนแก่ สุดยอดมากๆ แทบท้อหลายทีละ สุดท้ายขึ้นมาก็จะเจอวัดที่สร้างอยู่ในหินน้ำนะคะ คนก็มากราบสักการะบูชา แล้วก็มีก้อนหินที่เราเข้าใจเองว่ามันเจอลมเจออะไรกัดหร่อนจนกลม วิวตรงนี้สวยมากคะ แต่ไม่กล้าเดินไปไกลมาก กลัวความสูง ขาลงคะ พระอาทิตย์น่าจะเริ่มๆ ตกบ้างแล้ว เดินลงนี้ลงง่ายนะคะ แต่ปวดหัวเขาแท้หลา ไม่รู้จักเตรียมตัวกันเองละ จริงๆ อากาศเย็นมากๆ แต่มันเร่มกลายเป็นร้อนไปเฉย เหงื่อชุ่มหลังเลยเรา แต่ได้กำลังดีจริงๆ แล้วอากาศก็สดชื่นสบายปอดมากๆ กลับมาที่รักหมดเรี่ยวแรงคะ นอนดูซีรี่ย์ The Heirs คะ ฟินมาก แล้วก็กินมาม่า ออกไปซื้อไรกินอีก เดินไปไกลมากจนถึงปัีมน้ำมัน มีร้านขายของชำเล็กๆ อาจุมม่าเจ้าของร้านน่ารักมาก ก็ซื้อๆมากิน นมสตรอเบอร์รี่เนี่ย อร่อยดีนะ ถึงเราจะชอบนมกล้วยมากกว่าหน่อยนึง เราว่ามาซกโซต้องใช้เวลาสัก 2-3 วันกำลังเหมาะ คือเรายังอยากไปตัวเมือง วอรัควอเตอร์เปีย ชายหาด และไร่สตรอเบอร์รี่ แต่แค่ซอรัคซานอย่างเดียวก็หมดไปเป็นวันแล้วคะ |
thejoff
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?] |