ม้าแกนกระดาษ
คุณครูอนุบาลคงเคยให้เด็กๆ นำแกนกระดาษทิสชูที่ใช้หมดแล้ว มาทำงานฝีมือสนุกๆ เช่น ที่ใส่ดินสอ จรวด หรือแจกัน กันมาบ้างแล้ว แต่คงจะสนุกมากขึ้น ถ้าเด็กๆ ได้เอาแกนกระดาษทิสชูเหล่านั้นมาทำ เป็นม้าสี่ขาที่สามารถปรับหัว ก้มหน้า ยกขาหน้า และย่อตัวได้

อุปกรณ์ที่ใช้

1. แกนกระดาษทิสชู 2 อัน
2. หลอดกาแฟทานตะวัน 4 อัน
3. เชือกไหมพรม
4. กระดาษสี หรือกระดาษสา 2 สี
5. ปากกาเมจิกสีดำ และสีแดง



วิธีทำ

วาดเส้นแบ่งครึ่งแกนกระดาษ และตัดเป็นสองส่วนเท่าๆ กัน ใช้ปากกาแหลมๆ หรือปลายกรรไกรเจาะรูให้พอดีกับหลอดตามรูป
ตัดหลอดกาแฟแบบพับขอได้ ( หลอดทานตะวัน) แบ่งครึ่งเป็นสองส่วนเท่าๆ กัน
นำหลอดกาแฟส่วนที่โค้งพับได้มาเสียบรูที่เจาะไว้ของแกนส่วนหัว(แกนสั้น)
เสียบปลายหลอดอีกข้างที่รูของแกนกระดาษส่วนลำตัว(แกนยาว)
พับปลายหลอดและใช้แม็กซ์เย็บติดกับแกนกระดาษด้านบนของส่วนหัว
พับปลายหลอด ใช้แม็กซ์เย็บติดกับแกนกระดาษด้านล่างของส่วนลำตัวเพื่อให้แข็งแรงไม่หลุดจากกันเวลายืดคอ ปรับหัวม้า



ตัดหลอดกาแฟแบ่งครึ่งเท่าๆ กัน 2 อัน สำหรับทำขา 4 ขา
ใช้แม็กซ์เย็บปลายหลอดติดกับแกนกระดาษส่วนลำตัว ห่างจากขอบ 2 ซม.
ขาหน้าและขาหลังที่ต้องการให้ยกขาและย่อตัวได้ ให้ใช้หลอดด้านที่พับงอได้
ตัดเชือกไหมพรมยาวประมาณ 3 ซม. 6 เส้น ผูกปลายติดกัน
เจาะรูบนแกนกระดาษส่วนหัวยัดปมเชือกไหมพรมลงรูที่เจาะไว้และทากาวติดไว้ข้างล่างกันหลุด
ตัดเชือกไหมพรมยาวประมาณ 6 ซม. 6 เส้น ผูกปลายติดกัน
เจาะรูบนแกนกระดาษส่วนหางยัดปมเชือกไหมพรมลงรูที่เจาะไว้และทากาวติดไว้ข้างล่างกันหลุด



ใช้เชือกไหมพรมสีส้ม หรือสีน้ำตาลทากาวติดทำเป็นสายบังเหียนตามรูป
ใช้สีเมจิกวาดลูกตาทากาวติดตามรูป วาดอานม้าบนกระดาษสี กว้าง 4 ซม. ยาว 8 ซม.
แล้วตัดตามรูป ใช้ปากกาเมจิกสีแดง วาดลายบนอานม้าตามความพอใจ ดูรูป
ทากาวด้านหลังอานม้า แล้วปิดตรงส่วนกลางของลำตัว ให้สองข้างเท่าๆ กัน
ใช้ปากากเมจิกสีแดง วาดเป็นจุดวงกลมรอบขอบอานม้า ดูรูป

ส่วนรายละเอียดอื่นๆคงอยู่ที่ความพร้อมและจินตนาการของเด็กๆ แต่ละคนขอเพียงแนะนำให้ประกอบ เป็นตัวม้าได้เท่านั้น ส่วนที่เหลือให้พวกเขาบรรเลงกันเองตามความพอใจ ถ้าใครต้องการให้ม้ายกขาหน้า เวลาวางจะล้มให้ใช้ดินน้ำมันก้อนเล็กๆ ถ่วงไว้ทีตอนท้ายของลำตัว

เด็กๆ มีความอยากรู้อยากเห็นมีจินตนาการ ควรใช้โอกาสนี้สอนให้เขาเป็นคนช่างสังเกต ท่าทางของม้า เวลายกขา หมอบ ย่อตัว และลุกยืนรวมทั้งการทรงตัวในท่าทางต่างๆ ของสัตว์จะทำให้พวกเขา ได้ความรู้ความภาคภูมิใจในผลงานควบคู่กันไป

จากม้าแกนกระดาษเราสามารถแปลงร่างให้เป็นสัตว์อื่นๆ อีกมากมายขึ้นอยู่กับความต้องการเพียงแต่ ปรับแต่งรายละเอียดอื่นๆ เช่น ขนาดของลำตัว สี ลาย และแขน ขา ท่าทางประกอบ ทดลองดูครับ




Create Date : 15 กรกฎาคม 2552
Last Update : 24 พฤษภาคม 2556 19:07:03 น.
Counter : 591 Pageviews.

4 comment
ศิลปะกระดาษ
ศิลปะกระดาษ (Paper Art) เป็นศิลปะเก่าแก่ที่มีกำเนิดจากจีนมาแต่ครั้งโบราณ เช่นงานศิลปะการ ตัดกระดาษที่ละเอียดงดงามหรือศิลปะการพับกระดาษเงินกระดาษทองจนพัฒนามาเป็นการพับ กระดาษ แบบโอริงามิของญี่ปุ่นรวมทั้งงานปิดกระดาษบนโครงไม้้ไผ่ที่ทำเป็นรูปคนและสิ่งของที่ใช้ใน พิธีกรรมต่างๆ ที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดจนเจริญแพร่ หลายไปทั่วโลกที่รู้จักกันดีคือเปเปอร์มาเช่ ของ ชาวยุโรป



ความมหัศจรรย์ของกระดาษ (PaperMagic) ที่เกิดจากสมองของมนุษย์ที่นำกระดาษมาทำกิจ กรรม สร้างสรรค์ในงานศิลปะ นอกเหนือจากใช้เป็นกระดาษเขียนภาพ เขียนโคลงกลอน ทำบัตรอวยพร นามบัตร ทำพัด ตุ๊กตา โคมไฟ ร่ม ประดิษฐ์ดอกไม้ การพับธนบัตร และศิลปะกระดาษตัดแบบจีน รวมถึงการพับกระดาษออริกามิ

ศิลปะกระดาษตัด
(Chinese paper art) เป็นกระดาษแกะหรือกระดาษตัดลาย (Paper Cutting)

โอริงามิ หรือออริกามิ
(ORIGAMI) เป็นภาษาญี่ปุ่นแปลตรงตัวว่าการพับกระดาษ(Paper Folding)

เปเปอร์มาเช่
(Paper Mache) เป็นภาษาฝรั่งเศษหมายถึงกระดาษที่ฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ ทากาวปิดซ้อนกันเป็นรูปทรง

ศิลปะกรรมกระดาษ
(PaperCraft) เป็นการนำกระดาษมาประดิษฐ์ให้เป็นรูปทรงทั้งสองมิติ และ สามมิติ

ประติมากรรมกระดาษ
(Paper Sculpture) เป็นศิลปะการประดิษฐ์ - ขึ้นรูปด้วยกระดาษ มีทั้ง แบบภาพนูนต่ำ ภาพลอยตัว และสื่อผสมที่ใช้วัสดุที่ทำมาจากกระดาษเป็นหลัก ซึ่งมีทั้งงานเปเปอร์มาเช่ และงาน 3D Papaer art
ที่มีลักษณะของมิติที่สมจริง

ความหลากหลายของศิลปะกระดาษ เริ่มจากการพับกระดาษง่ายๆ ที่ทำเล่นกันตั้งแต่เด็กๆ เช่นการ พัับ นก การพับ เครื่องบิน ไปจนถึงการพับกระดาษที่ต้องใช้จินตนาการ ที่มีความสลับซับซ้อนเกิดเป็นรูป ร่างต่างๆ จากกระดาษแผ่นบางๆ กลายเป็นรูปทรงสามมิติ ที่เลียนแบบธรรมชาติได้อย่างน่ามหัศจรรย์

กระดาษสิ่งมหัศจรรย์ที่ถ่ายทอดประวัติศาสตร์ศิลปะวัฒนธรรม วิทยาการและความก้าวหน้าของมนุษยชาติมาหลายพันปีและจะคงความมหัศจรรย์ต่อไปในอนาคต แม้ปัจจุบันโลกได้เปลี่ยนแปลงมาใช้การ สื่อสารผ่านทางอินเตอร์เน็ตมากขึ้น ศิลปะรูปแบบใหม่ๆ ที่สร้างสรรค์ ด้วยอุปกรณ์ดิจิตอลบนเครื่อง คอมพิวเตอร์หลากหลายขึ้นแต่ท้ายสุดก็มาจบลงบนแผ่นกระดาษ โดยเฉพาะความคลาสิกของศิลปะ กระดาษที่สร้างขึ้น ด้วยสมองและสองมือธรรมดาๆ นี่เอง



อ่านข้อมูลเพิ่มเติมจาก :

มหัศจรรย์ศิลปะกระดาษ
//www.lib.ru.ac.th/journal/paper2

ศิลปะกระดาษตัด
//www.papercutters.info/SA/Galleries/index.php

ศิลปะการพับกระดาษ
//www_origami_art_pl.htm

ศิลปะกระดาษ 3 มิติ
//www.canon-europe.com/you_connect/june 2005/paperart/

ประติมากรรมกระดาษ
//www.evermore.com/catalog/index.php?cPath=2



Create Date : 15 กรกฎาคม 2552
Last Update : 24 พฤษภาคม 2556 19:06:43 น.
Counter : 2967 Pageviews.

5 comment
ศิลปะปิกัสโซ
ศิลปะนามธรรมแบบง่ายๆที่นิยมกันมากคือศิลปะของปิกัสโซที่สื่อให้เห็นความแตกต่างของสองสิ่งในรูปเดียวกัน ดังตัวอย่างข้างล่าง



ขาวสว่าง เป็นใบหน้าที่ดูบิดเบี้ยวของคนที่มีสองด้านแตกต่างกัน สื่ออารมณ์ที่ขัดแย้งกันทำให้ดูเป็นปริศนาแปลกตาชวนให้คิด ส่วน ฟ้าม่วง ซึ่งเป็นภาพเดียวกันแต่ระบายสีเน้นให้เห็นแต่ละด้านชัดเจน ด้านซ้ายจะเป็นผู้หญิงยิ้ม อารมณ์ดีสีฟ้าสดใส แต่ด้านขวาจะเป็นผู้ชายหน้าตาหมองคล้ำ สีม่วงหม่นหมองไม่มีความสุข

ภาพแบบนี้เหมาะสำหรับเด็กๆ ในการเรียนรู้งานศิลปะเพราะไม่เน้นเรื่องขนาดและความสมจริงแต่ละคนสามารถแสดงออกทางความคิด จินตนาการ และความรู้สึก ได้อย่างเป็นอิสระผลงานที่ออกมาจึงดูได้นานๆไม่น่าเบื่อ ทั้งยังสามารถนำมาดัดแปลงทำเป็นภาพประดับผนัง หรือทำเป็นนาฬิกาก็ทันสมัย ไม่ตกยุค

วันนี้มีตัวอย่างงานแบบปิกัสโซมาให้ดูเป็นตัวอย่าง เป็นงานที่ทำจากกระดาษกล่อง แล้วใช้เส้นลวดสักหลาดทำเป็นผม สีสันและลักษณะหงิกงอของเส้นผมจะแสดงอารมณ์ของแต่ละหน้าได้ต่างกันไปน่ารักดี ชักอยากทำเล่นบ้างแล้วใช่ไหมล่ะ … รอช้าทำไม มาลองทำกันบ้างดีกว่า

เครื่องมือและอุปกรณ์

กระดาษกล่อง หรือกระดาษลูกฟูก
กระดาษโปสเตอร์สีต่างๆ
กระดาษกาว
กาวลาเท็กซ์
ลวดสักหลาดสีต่างๆ
กรรไกร
คัทเตอร์
ปากกาสีเมจิก




ขั้นตอนการทำ

1. ออกแบบรูปที่ต้องการทำบนกระดาษสีขาว
2. วาดวงกลมบนกระดาษกล่อง (ใช้กล่องขนมปังทาบขีดเส้นรอบกล่องง่ายดี)
3. ตัดกระดาษตามแบบเว้นขอบห่างจากเส้นรอบวงประมาณ 1นิ้ว ตัดแบ่งจากขอบนอกถึงขอบในห่างกันประมาณ 1 นิ้ว โดยรอบ
4. พับขอบวงกลมกับกล่อง แล้วใช้กระดาษกาวพันให้รอบ
5. ตัดกระดาษกว้าง 1 นิ้ว เป็นเส้นยาว ทากาวติดกับขอบด้านใน เสริมขอบให้แข็ง
6. ตัดกระดาษเป็นวงกลม ให้เล็กกว่าขอบเล็กน้อย ทากาวติดด้านในเพิ่มความแข็งของกรอบ แล้วตัดแต่งขอบให้เรียบร้อย



7. นำแบบที่วาดไว้มาขยายบนกระดาษขาว แล้วตัดตามรูป ทดลองวางบนกรอบ
8. ตัดกระดาษสีฟ้าเป็นวงกมล ทากาวปิดทับด้านบนของกรอบ
9. ทาบแบบบนกระดาษสีม่วง ตัดออก ทากาว ปิดทับตามแบบ
10. ตัดกระดาษสีน้ำเงินปิดทับขอบตาด้านขวา
11. ตัดกระดาษสีเขียวปิดทับขอบตาด้านซ้าย
12. ตัดกระดาษสีแดงปิดทับริมฝีปากด้านขวา
13. ตัดกระดาษสีส้มปิดทับกระดาด้านซ้าย
14. ใช้ปากกาเมจิกสีดำตัดเส้นขอบทั้งหมด และแต่งจุดบนแก้มขวา
15. ตัดกระดาษสีเหลืองเป็นวงกลมปิดทับแก้มด้านซ้าย
16. เจาะรูทะลุขอบด้านสีฟ้า สอดลวดสีส้มพันแน่น แต่งเป็นวงกลมก้นหอย
17. เจาะรูทุละขอบด้านสีม่วง สอดลวดสีดำพันแน่น ดัดเป็นผมหยึก
18. ใช้กระดาษสีน้ำเงิน ทากาว ปิดรอบขอบด้านนอกให้เรียบร้อย เป็นอันเสร็จ




Create Date : 15 กรกฎาคม 2552
Last Update : 24 พฤษภาคม 2556 19:06:04 น.
Counter : 715 Pageviews.

2 comment
ศิลปะสำหรับเด็ก
การเริ่มต้นให้เด็กๆ เรียนรู้ศิลปะและงานประดิษฐ์ จะทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และจินตนาการมีความเข้าใจในธรรมชาติรอบตัว ทำให้จิตใจเยือกเย็นมีสมาธิและลดความขัดแย้งกับปัญหารอบข้างได้ดี พ่อเล่าให้ฟังว่าตอนเด็กๆ เป็นคนชอบการ์ตูนเพราะดูเข้าใจง่าย ดูตลกมีรูปร่างแปลกๆ แตกต่างกัน แต่งตัวก็สวยงาม พระเอกเก่ง และนางเอกใจดี (ที่เกลียดมากก็นางแม่มดและผู้ร้ายใจยักษ์)


โตขึ้นหน่อยพ่อก็จะชอบขีดๆ เขียนๆ วาดรูประบายสี หรือนึกสนุกขึ้นมาก็จะปั้นดินเหนียวเป็นรูปคนบ้าง หมาบ้าง แมวบ้าง เพราะเป็นสิ่งใกล้ตัวเห็นอยู่ทุกวัน พอเรียนอยู่ประถมปลายพ่อบอกว่าชอบวิชาวาดเขียนมาก เช่าหนังสือการ์ตูนอ่านเป็นประจำ ทั้งการ์ตูนไทยและฝรั่ง แล้วเอาแบบจากการ์ตูนมาวาดตาม

วาดในสมุดบ้างวาดตามผนังวัดบ้าง ตัวไหนฮิตมากหน่อย ก็จะใช้หมึกอินเดียอิ้งค์วาดลงบนเสื้อยืด ที่หน้าอกบ้าง กลางหลังบ้าง ( เดินอวดเพื่อนๆ เท่ห์อย่าบอกใคร)

ช่วงอยู่มัธยมพ่อบอกว่ารักวิชาศิลปะเป็นชีวิตจิตใจ งานศิลปหัตถกรรมคะแนนจะเกือบเต็ม ทั้งวิชาวาดเขียน ปั้นและงานประดิษฐ์ พอจบมัธยมพ่ออยากไปเรียนต่อที่เพาะช่าง แต่คุณย่าไม่ชอบกลับให้ไปเรียนพาณิชย์เป็นหนังคนละเรื่องกันเลย สุดท้ายมาเรียนช่างนัยว่าจบแล้วได้ตังค์ ทำงานวิศวกรประดิษฐ์สิ่งต่างๆ (พ่อชอบจินตนาการ คงติดมาจากอ่านการ์ตูน ชอบสิ่งลึกลับมหัศจรรย์ คิดว่ามันคงเหมือนไสยศาสตร์ เหาะเหินเดินอากาศส่งโทรจิตถึงกันได้ อะไรเทือกนั้นมั๊ง..)

เล่ามาตั้งนานพ่อบอกว่าเพื่อเป็นตัวอย่างสร้างความเข้าใจให้คุณพ่อคุณ คุณแม่ ปู ย่า ตา ยาย ทั้งหลายรู้ว่าเด็กทุกคนเขามีจินตนาการ มีความฝังใจและต้องการเรียนรู้ตามความถนัดของเขาเอง บางครั้งเราไปบังคับมากไปก็ไม่ได้ ต้องประชาธิปไตย เริ่มจากการปูแนวทางให้เขาตั้งแต่เล็กๆ แล้วสังเกตความถนัด ดูแววดาราที่พวกเขาแสดงออกมา ปิ๊งเมื่อไหร่ก็ส่งเสริมเขาให้เต็มที่ (ตามอัตภาพและทุนทรัพย์ที่หาได้)

จากประสบการณ์ของพ่อเอง บอกว่าการเริ่มต้นให้เด็กๆ เรียนรู้ศิลปะและงานประดิษฐ์ จะทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และจินตนาการ มีความเข้าใจในธรรมชาติรอบตัว ทำให้จิตใจเยือกเย็น มีสมาธิ (แก้นิสัยใจร้อน โมโหง่ายได้มาก)


การสอนศิลปะสำหรับเด็กมีหลายแขนงทั้งวาดรูป ระบายสี และปั้นขึ้นรูป การประดิษฐ์และงานฝีมืออื่นๆ ซึ่งปัจจุบันมีโรงเรียนเปิดสอนศิลปะสำหรับเด็กแพร่หลาย แบ่งเป็นคอร์สสั้นๆ เช่น

การวาด หรือ DRAWING
เรียนวาดรูป ใช้ดินสอ ปากกา ลากเส้นตรง เส้นโค้ง วงกลม และสิ่งต่างๆ รอบตัว ได้รู้จักกับรูปร่าง Shape และรูปทรง Form ต่างๆ เพื่อเป็นพื้นฐานในการวาด

การระบายสี หรือ PAINTING
เรียนการใช้สีต่างๆ เช่น สีไม้ สีเทียน สีเมจิก หรือสีชอลค์ และใช้พู่กัน ระบายสีน้ำ สีโปสเตอร์ การ ผสมสี และเท็คนิคต่างๆ ให้เกิดความสวยงาม

งานปั้นขึ้นรูป หรือ SCULPTURE
เรียนรู้การปั้น เริ่มจากแบบง่ายๆ โดยใช้ดินน้ำมันที่มีสีสันต่างๆ จะเรียนรู้เทคนิคการปั้นแบบนูนต่ำ แบบ นูนสูงและลอยตัว เพื่อฝึกกล้ามเนื้อมือ กด นวด ปั้นแต่ง เป็นงานประติมากรรมแบบต่างๆ

ประติมากรรมกระดาษ หรือ PAPER MACHE
เรียนรู้การนำกระดาษ มาฉีก ตัด ปะ ม้วน พับขยำ เช่นกระดาษสี กระดาษหนังสือพิมพ์ กระดาษทิชชู่ หนังสือแมกกาซีนและกระดาษกล่อง นำมาสร้างสรรค์ให้เกิดงานศิลปะต่างๆ เช่น ตุ๊กตากระดาษ และ หมูออมสิน

การพิมพ์ภาพ หรือ PRINT MAKING
เรียนรู้วิธีพิมพ์ภาพจากวัสดุต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไปและวัสดุที่มีอยู่ในธรรมชาติ เช่น ใบไม้ ดอกไม้ ก้าน กล้วย ที่มีลายแตกต่างกัน เป็นการเรียนรู้ วิธีการ และเทคนิคต่างๆ สร้างภาพที่แตกต่างกันไป

การประดิษฐ์สร้างสรรค์ หรือ CREATIVE CRAFTS
เรียนรู้การนำเอาสิ่งต่างๆ รอบตัว มาประดิษฐ์ จัดแต่งเข้าด้วยกัน เช่น กล่องกระดาษ กระป๋องนม หลอดด้าย ไม้ไอติม เศษผ้าริบบิ้นและลูกปัดสีต่างๆ ทำให้เกิดประสบการณ์เกิดความคิดสร้างสรรค์นำ
ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน


ประโยชน์ของการส่งเสริมเด็กทางด้านศิลปะ
เป็นการฝึกทักษะทางด้านศิลปะให้ดีขึ้น ให้เด็กกล้าคิดกล้าแสดงออกอย่างอิสระ รู้จักแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ทำให้มีสมาธิในการเรียนที่ดีขึ้น และยังมีผลถึงพัฒนาการด้านอื่นๆ ทั้งหมด การที่เด็กได้ทำมากฝึกฝนมาก จะยิ่งช่วยให้เด็กเกิดความชำนาญมากขึ้นอีกด้วย ถือเป็นการสั่งสมประสบการณ์อันมีค่ายิ่งของเด็ก หากเด็กได้รับการสนับสนุนให้สร้างสรรค์ศิลปะอย่างต่อเนื่อง ก็เท่ากับว่าเป็นทางหนึ่งซึ่งสั่งสมความคิดสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นกับเด็กอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

เพราะศิลปะมีกระบวนการและธรรมชาติ ที่เอื้อแก่การพัฒนาทางสมอง เพื่อเพิ่มพูนความคิดสร้างสรรค์มากที่สุด ยิ่งเด็กฝึกฝนมากเท่าไรสติปัญญาของเด็กก็จะเติบโตมากเท่านั้น และหากการได้คิดมากๆ คือการทำให้สมองแหลมคม การที่เด็กได้ขีดเส้นลงไปแต่ละเส้นหรือระบายสีก็ล้วนมีผลทำให้สมองได้ทำงานอย่างต่อเนื่องทั้งสิ้น


ข้อมูลอ้างอิง : art-for-ent.com
ภาพจากอินเตอร์เน็ต



Create Date : 15 กรกฎาคม 2552
Last Update : 24 พฤษภาคม 2556 19:05:42 น.
Counter : 671 Pageviews.

2 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  

idea4thai
Location :
ปทุมธานี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]



ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อเยาวชนและชุมชมไทย

All Blog