นับย้อนหลังไปเมื่อปี 2553 กระแสรณรงค์ลดโลกร้อนมีมากขึ้นเรื่อยๆ ใจอาสาจึงเริ่มมองหาวัสดุเหลือใช้ที่จะนำมาเป็นสื่อแทนวัสดุ Recycle นอกเหนือจากกระดาษหนังสือพิมพ์ และขวดพลาสติก ก็ไปพบว่า ไม้ไอติมที่ลูกๆ ทิ้งน่าจะเก็บมาใช้ในงานประดิษฐ์ที่เข้าถึงได้ง่าย และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ใน Blog ศิลปะสำหรับเด็กเล็กหลายๆ แห่งของต่างประเทศ ก็นิยมนำไม้ไอติมมาให้เด็กๆ ฝึกทำงานฝีมือ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเพียงงานง่ายๆ เช่น กรอบรูป หรือกล่องใส่ดินสอ ตอนนั้นเพียงคิดว่า มันน่าจะทำอะไรได้มากกว่านั้นน่ะ ก็เลยให้ความสนใจและทดลองนำไม้ไอติมมาออกแบบทำเป็นงานประดิษฐ์ยามว่าง
เมื่อได้ชิ้นงานมากขึ้น ศิลปะจากไม้ไอติม จึงถูกนำออกเผยแพร่ทาง ใจอาสา เรื่อยมา
เดือนพฤษภาคม 2553 ศิลปะจากไม้ไอติม ได้เสนอบ้านหลังแรกของเจ้าตัวเล็กเป็น บ้านของน้องปลา ที่ใช้ไม้ไอติมทำเป็นโครงบ้าน มีหลังคาที่สามารถกลับด้านได้ และใช้ขวดโค๊กลิตรมาตัดทำเป็นโหลใส่น้ำเลี้ยงปลาหางนกยูง
ถึง มกราคม 2555 บ้านนาฬิกา เป็นบ้านหลังล่าสุด ที่ออกแบบให้สามารถนำไปดัดแปลงเป็นกระปุกออมสิน เป็นกล่องใส่กระดาษทิชชู เป็นทั้งกรอบรูป นาฬิกา และโคมไฟ ซึ่งยังคงคอนเซปเดิมคือเรียบ ง่าย และไม่ซับซ้อน
ใจอาสาได้รับความสนใจจากเพื่อนๆ ที่แวะเข้าชมจากวันละไม่กี่สิบคน ขยับขึ้นมาเป็นร้อย และค่อยๆ เพิ่มจำนวนมากขึ้น จากหลักแสนในเดือนมกราคม 2553 ครบ 1 ปี เมื่อมกราคมที่ผ่านมา มีผู้เข้ามาทักทาย พูดคุยและเป็นแฟนประจำมากกว่าห้าแสนครั้งแล้ว
ขอบคุณเพื่อนๆ และแฟนประจำทุกคนครับ
ทุกๆ จำนวนที่เพิ่มขึ้นคือแรงผลักดันให้ ใจอาสา ก้าวไปข้างหน้า
5 ธันวาคม 2554 ปีมหามงคลของชาวไทย ใจอาสาได้สานต่อโครงการ เรารักพ่อร่วมกับกลุ่มแม่บ้านสัมพันธ์ และชมรมผู้สูงอายุฯ จัดกิจกรรมสานสัมพันธ์ของคนสองวัย นำลูกๆ มาทำกิจกรรมในวันหยุด ใช้งานศิลปะและการทำสวนครัวพอเพียง มาบูรณาการให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ร่วมกัน
กลุ่มสองวัยใจอาสา คือเป้าหมายแทนความรักและสื่อสัมพันธ์จากผู้สูงอายุไปถึงเด็กๆ ที่เป็นลูกหลาน และตั้งใจจะขยายสู่กลุ่มเยาวชนอื่นๆ ในชุมชนฯ
เพราะการตอบรับของสังคม ใจอาสาจึงก้าวมาได้ถึงวันนี้
ขอขอบคุณทุกๆ ท่าน อีกครั้ง
pisuts@yahoo.com31 มกราคม 2555
สวัสดีตอนเย็นค่ะ