นาน นาน ที บล๊อก - ยินดีที่ผ่านมาพบนะ ปล.ช่วงนี้ หนี้เยอะ งดเที่ยว พักหนังสือ มารับจ้างทำงานก่อนนนนน
space
space
space
space

หาดเจ้าหลาว-อ่าวคุ้งกระเบนพักใจไปจัน(ทบุรี):1~ป่าไม้ชายเลนของพ่อหลวง

เดินเล่นยามเช้า: ที่อ่าวคุ้งกระเบน


แม้เส้นทางเพียงสองเลนส์รถวิ่งสวนกันแต่ถนนกว้างขวางมีเลนส์จักรยานเป็นสัดส่วน ทำให้ถนนเส้นนี้ดูเป็นอิสระ ไม่แน่นขนัดเบียดเสียดด้วยร้านค้าที่ตั้งบนถนนหรือทางเท้า ระยะทางขับรถเพลิน ๆ ไม่เกินสิบนาที ค่อย ๆ ทิ้งหาดเจ้าหลาวไว้ที่เดิม ขณะที่เรามุ่งไกลออกไป ของที่อยู่ใกล้ คงง่ายเกินไปที่จะเชยชม ข้าพเจ้ากับอีกหลายคนก็ดั้นด้นค้นหาสิ่งที่อยู่ห่างไกล


เมื่อมาถึงป้ายอ่าวคุ้งกระเบน ยังมองไม่เห็นอ่าว เห็นเพียงท้องทะเลสงบไกลที่มีจุดสิ้นสุดที่ขอบฟ้า ทางซ้ายของถนนเป็นรั้วลวดหนามเล็ก ๆ คล้ายจะมีเป้าหมายแค่บอกขอบเขตแต่ไม่ได้กางกั้นการลุกล้ำจากภายนอก ภายในมีอาคารส่วนใหญ่เป็นชั้นเดียว เป็นสัดส่วนไม่หนาทึบ ส่วนด้านขวาเห็นป้ายว่า ศูนย์ศึกษาธรรมชาติอ่าวคุ้งกระเบน เรายังไม่แน่ใจยังคงขับรถต่อไปด้วยมุ่งหวังว่ามันจะถึงอ่าวคุ้งกระเบนที่เป็นอ่าวจริง ๆ แต่สุดท้าย...ถนนสิ้นสุดลงและวกลับเลียบชายหาด..ที่นี่ห่างเพียงราวห้าร้อยเมตร เส้นทางกลับกลายเป็น...หาดเสด็จ



เราจึงวกกลับไป เข้าสู่สถานศึกษาธรรมชาติอ่าวคุ้งกระเบน อากาศยามเช้ากำลังดี ลมเย็น ๆ ของทะเลไม่ถึงกับเย็นมาก มีเหล่าหมู่ไม้ปะทะความแรงไว้ ดูจากจำนวนรถที่จอดอยู่ราวสิบคัน กำลังดีไม่คันมาก ไม่ต้องเกาเยอะ ส่วนในความคิดของข้าพเจ้ายังคงมีภาพตามเส้นทางที่ผ่านมาก่อนจะถึงหาดเจ้าหลาว วงเวียนปลาพะยูนปูนที่ว่ายไปมา กับวงเวียนปลาโลมาจูบกัน หรือว่าที่นี่มันจะมี...ทั้งที่เรียกกันว่าปลาแต่ไม่ใช่ปลา และปลาที่หน้าตาเหมือนหมูกับนางเงือก


ทางเดินทำจากไม้ลากเรื่อยเข้าไปในไม้ป่าชายเลนระยะทาง ๑,๖๐๐ เมตร พอเดินได้เพลินดี ให้เราได้เริ่มเรียนรู้ และเรียนรู้ได้ตลอดทาง ทั้งจากธรรมชาติและจากพระเจ้าอยู่หัวของพวกเรา ผู้ทรงพระปรีชาและมีพระเมตตาต่อลูกหลานของท่าน ที่แห่งนี้คือตัวอย่างที่พระองค์ได้ทรงงานให้ประชาชนได้เห็นจริง เรียนรู้ได้ง่าย ใช้ประโยชน์ได้จริง กับแผ่นดินที่เคยเสื่อมโทรม และวิถีชีวิตที่อิงเศรษฐกิจกับธรรมชาติเกิดขึ้นได้จริง ดั่งแนวพระราชดำริของพระองค์ท่าน ที่นี่ “ศูนย์ศึกษาพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ”


 




แผ่นดินที่เรายืนอยู่ใช้เวลาสร้างหลายร้อยล้านปี ผ่านกระบวนการทางธรรมชาติเร็วบ้างช้าบ้าง
จนบัดนี้ แผ่นหิน กระแสน้ำ สัตว์ทะเล และพืชพันธุ์ที่ปรับตัวก็กลายเป็นป่าชายเลนที่ให้ประโยชน์คณานับกับมนุษย์และสัตว์ที่ยังเด็ก อ่อนวัย


ทางเดินปูด้วยไม้ทอดยาวออกไป เป็นแบบเดินทางเดียวไม่มีสวนกัน แล้วกลับมาบรรจบตรงทางออกที่อยู่ใกล้ ๆ กับทางเข้ามีแดดบ้าง มีร่มเงาบ้างคละกันไป บางครั้งเส้นทางอาจดูตรงและมั่นคงดี บางครั้งมันก็วก วน และ มีทางแยกให้เลือกเดิน แต่เราก็ยังเดินกันต่อไปตราบใดที่ยังมีหนทาง ทางเลือกทางแยกและอุปสรรคกว้างกั้นมีไว้เพียงชะลอเท้าที่รุดหน้าเกินกว่าใจและสายตา ให้เราเดิน...ช้าลงเพื่อเชยชมสิ่งรอบตัว มิใช่เพียงเพื่อฉุดรั้งไม่ให้ถึงที่หมาย



บางครั้งเส้นทางอาจมีอุปสรรค จนต้องก้าวข้ามไป สะพานที่ใช้อาจมีทั้งที่อ่อน และ ไหว มีทั้งตั้งตรงแข็งแกร่ง
การก้าวย่างก็ต่างกัน


บางเวลาอุปสรรคอาจคอยอยู่ข้างหน้า และไม่มีสะพานใดให้ก้าวข้าม
เราก็เพียงแต่เดินผ่านอย่างระวัง โดยไม่ต้องห้ำหั่นอุปสรรคนั้นออกจากทางเดิน
บางทีแล้วอุปสรรคในทางเดินหนึ่งอาจมีประโยชน์มากในหนทางอื่น...



พืชพันธุ์ที่นี่ถูกน้ำท่วมบ้าง น้ำแห้งบ้าง ชั่วนาตาปี แต่พวกมันก็ยืนหยัดและหยัดยืน แต่กว่าที่พวกมันจะเรียนรู้และปรับตัว ปรับใบ ปรับระบบรากก็ใช้เวลานานโข กระแสน้ำก็ช่วยพวกมันเช่นกัน กระแสน้ำที่พัดมา จากไป ในระยะเวลายาวนานและสม่ำเสมอ อย่างค่อยเป็นค่อยไป ต้นไม้น้อยใหญ่จึงปรับตัว ไม่เหมือนต้นไม้ที่หน้าบ้านเรายามถูกน้ำท่วมใหญ่ที่เพิ่งจะเคยหลากมาเป็นครั้งแรก แต่เราก็ภาวนาอย่าได้หลากมาจนเป็นนิสัยจนทำให้ต้นไม้ที่หน้าบ้านกางรากออก กลายเป็นโกงกางกันไปหมด...



เวลาที่เราผ่านไปจังหวัดชายทะเลต่าง ๆ ทิวไม้ไกล ๆ ที่เราเห็น เดิมทีเราเคยเรียกเหมารวมว่าต้นไม้ป่าชายเลน ด้วยความคล้ายความเหมือนไม่แตกต่าง ด้วยว่าเราไม่เคยเพ่งมองในระยะใกล้ หรือใส่ใจกับมันนัก บางเวลาเราก็ดูมันทีละต้นแต่ใกล้เกินไป จึงไม่แลเห็นข้อต่าง ที่บางทีต้องมองจากที่ไกลในหมู่มากความต่างจึงจะแตกแยกออกมา แต่ที่นี่ เขาติดป้ายให้เห็นชัดว่า ต้นไหนเป็นต้นไหน ดูผ่านๆ อาจไม่เห็นความงามและความต่าง แต่ธรรมชาติก็ให้แตกต่างที่งดงามแม้เผ่าพันธุ์เดียวกันก็ยังต่างกัน...ฉะนั้นแล้วความต่างไม่ใช่สิ่งน่าอับอาย ตราบเท่าที่ยังทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น




แสมทะเล ใบมันจะเล็ก มันจะคล้ายลำพูทะเลมาก




โกงกางใบใหญ่ ใบมันจะใหญ่กว่าแสม มีขาโก่งออกมาค้ำจุ้น
มีความเหมือนมากกับโกงกางใบเล็ก
ที่ใบมันจะเล็กกว่า


ตามทางเดินในครึ่งทางแรก เราจะได้พบกับ ทางเดินอ้อมเป็นวงกลมล้อมต้นไม้ยักษ์ไว้ต้นหนึ่ง มีอายุมายาวนาน เป็นปู่ของปู่ของปู่ ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่มาก่อน แต่จากไปทีหลัง ทำหน้าที่ให้...มาเนิ่นนาน จนลูกหลานมนุษย์ต่างหลงลืม เพราะว่ามันนานเกินไปจนไม่น่าจดใจ และความดีเหล่านั้นก็กลายเป็นเรื่องธรรมดา ดาษดื่น แต่ศูนย์การเรียนรู้นี้ไม่หลงลืม พิทักษ์ไว้ให้เราได้ตระหนักและระลึกถึงคุณงามความดีที่ยังทำอยู่...แม้ไม่มีใครชื่นชม



ที่ปลายแผ่นดินของป่าไม้ เราจะได้พบพะยูนหินตัวหนึ่ง.....โดดเดี่ยว และเฝ้าหวังว่าจะไม่เดียวดาย ตามป้ายประวัติบอกให้ทราบความเป็นมาที่เมื่อกาลก่อนมันถูกเรียกว่า “หมูดุด” หมูดุดฉุกชุมในสมัยก่อนที่หญ้าทะเลมีมาก แต่เมื่อมีการเลี้ยงกุ้งกุลาดำกันอย่างแพร่หลายได้ราคาดี ปริมาณการเลี้ยงก็เพิ่มขึ้น การตัดไม้ ลุกล้ำป่าก็ตามมา น้ำทิ้งจากบ่อกุ้งปริมาณมาก เหมือนน้ำจากบ่อเกรอะที่ถูกน้ำท่วมไหลเข้าบ้านเรา หญ้าทะเลตายจาก หมูดุดไม่มีหญ้าจะกินและถูกล่า...อันเป็นวิถี และวิบากกรรม หมูดุดตัวสุดท้ายจากไปในปี ๒๕๓๓ เหลือไว้เพียงเจ้าตัวนี้



แล้วศูนย์การศึกษาพัฒนาการเรียนรู้อ่าวคุ้งกระเบนก็เกิดขึ้นจากพระราชดำริของพระเจ้าอยู่หัวในปี ๒๕๒๕ ซึ่งเป็น ๑ ใน ๖ ของศูนย์การเรียนรู้จาก ๔ ภาคทั่วประเทศ สำหรับที่นี่เพื่อแก้ปัญหาด้านป่าชายเลน และทรัพยากรอื่นที่เกี่ยวข้อง พวกกุ้งหอยปูปลา หญ้าทะเล และเจ้าหมูดุด ในท้ายที่สุดแล้วจากแนวพระราชดำริที่ทรงประทาน การคิดค้นและความเหนื่อยยากของพระองค์ ก่อให้เกิดผลงานการทดลอง การวิจัยและร่วมแรงร่วมใจกันของเจ้าหน้าที่ ประชาชน และอาสาสมัคร ก็ทำให้ได้พื้นที่ป่าชายเลน หญ้าทะเลกลับคืนมา หลังจากนั้นความอุดมสมบูรณ์จะค่อยๆ หวนกลับสู่แผ่นดินแผ่นน้ำนี้ตามครรลองของธรรมชาติ ได้พบเจ้าหมูดุดอีกครั้งในปี ๒๕๔๙ ประชาชนได้พื้นที่เสื่อมโทรมเพื่อประกอบอาชีพเลี้ยงกุลาดำ มีการเลี้ยงกุ้งแบบปิด เพื่อรักษาระบบนิเวศน์ชายฝั่งและประหยัดน้ำ จากเดิมที่เป็นแบบระบบเปิด หมุนเวียนน้ำออกสู่ทะเลกัน ให้เกษตรกรได้เลี้ยงหอยนางรมแบบแขวนจากพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่ดี เป็นต้น และที่นี่ ที่เรายืนอ่านป้าย ดูรูป ดูต้นไม้อยู่นี้ ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทั้งวิถีชีวิตของธรรมชาติ และชีวิตของเราเอง...


แม้แผ่นดินและท้องน้ำแห่งนี้จะเคยทรุดโทรม ถูกทำลายด้วยน้ำเสียปริมาณมากและต่อเนื่อง ต้นไม้เสียหาย ชีวิตสูญสิ้นแต่ด้วยแรงใจ แรงกาย ของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหลายที่มีประทีปส่องนำทางอันเป็นธงชัยที่จะถวายงานตามพระราชดำริ เวลาเพียงไม่กี่สิบปีเมื่อเทียบกับเวลาแห่งการทำลาย แผ่นดินและท้องน้ำก็กลับสู่ความอุดมดังเดิม



การปลูกป่าชายเลนนั้นไม่ควรจะปลูกให้ชิดกันเกินไปเพราะแสงอาทิตย์จะไม่ลงมาถึงพื้น... พระองค์บอกไว้เช่นนั้น


ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่ถูกน้ำท่วมทั้งกายและใจ ปัญหาความวุ่นวายทางความคิดของสังคมและการเมือง ทั้งน้ำจริงและน้ำลาย ที่ได้ผ่านพบ การได้เข้ามาพักผ่อนอิงแอบกระไอทะเลที่นี่ ไม่ได้แค่เพียงสบายกาย หรือความสุขใจ จากสถานที่เงียบสงบ ที่มีลมโกรกเบา ๆ ลำแสงอ่อน ๆ เพียงเท่านั้น ขณะที่เราเหนื่อยยาก และลำบากจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา อาจทำให้เราหลงลืม...ว่ายังมีอีกพระองค์หนึ่งที่จะทรงเป็นห่วงประชาชนของพระองค์ และยังคงทรงงานเพื่อประชาชนของพระองค์ต่อไปแม้ว่าจะทรงพระประชวร การได้มาที่นี่ ได้ทำให้ข้าพเจ้าได้สำนึกและระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระเจ้าอยู่หัวให้ใส่เกล้าใส่กระหม่อม และไม่มีสิ่งใดจะมาลบล้างพระเจ้าอยู่หัวทรงเหนื่อยและลำบากกว่าเรา และทรงงานมากกว่าเราหลายล้านคนรวมกันเสียอีก พระองค์ทรงงานเพื่อประชาชนไม่ว่าประชาชนของพระองค์จะอยู่ที่ไหนในโลกนี้ก็ตาม...เราจะรักพระเจ้าอยู่หัวตลอดไป....


***************************************************************************************************************************ตอน:เย็นก่อนพระอาทิตย์ตกที่หาดเจ้าหลาว://www.bloggang.com/viewblog.php?id=inthetime&date=26-12-2011&group=17&gblog=14
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก :


ศูนย์ศึกษาพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ศูนย์ศึกษาพัฒนาเนื่องมาจากพระราชดำริ
สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ



Free TextEditor


Create Date : 27 ธันวาคม 2554
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2559 16:21:40 น. 2 comments
Counter : 775 Pageviews.

 



โดย: Kavanich96 วันที่: 28 ธันวาคม 2554 เวลา:7:51:06 น.  

 
สวัสดียามค่ำคืนค่ะคุณเพลิน
มีเวลาเหลืออยู่นิดหน่อย ... เลยมาดูลาดเลาที่
หาดเจ้าหลาว อ่าวคุ้งกระเบน กำลังหย่อนใจมาได้เรื่อยๆ กับถ้อยคำที่มีสเน่ห์ของคุณเพลิน มาสะดุดใจเอากับเรื่องราวของ หมูดุด เข้า ... อ่านแล้วทดท้อจริงๆ
มนุษย์เราช่าง เห็นแก่ตัวจริงๆ อยากจะครอบครอง ฉกฉวยสิ่งดีงามจากธรรมชาติไปหมด ... เศร้าอ่ะ

มีใครบางคนเรียกมาจากข้างบน ต้องไปแล้ว อย่าลืมแวะไปคุยกันนะคะ บายจร้า


โดย: PhueJa วันที่: 25 มกราคม 2555 เวลา:22:48:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

normalization
Location :
นนทบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




"ขอทุกท่านจง ปกติสุข ในทุกวัน"
วันแรกสร้าง : 25 กุมภา.54

เป็นเพียงการบอกกล่าว เล่าเรื่อง ตามที่ข้าพเจ้าเข้าใจ
หากว่ามีประโยชน์บ้างแม้เพียงเล็กน้อย ข้าพเจ้าก็ยินดียิ่ง
หากว่าส่วนใดผิดพลาด ฝากข้อความไว้ได้เสมอ
@comeback 18/1/18

free counters สำหรับธงขอขอบคุณ blog paradijs
space
space
space
space
[Add normalization's blog to your web]
space
space
space
space
space