จุดเริ่มต้นของชีวิตที่ตั้งใจเลือก...
Group Blog
 
All Blogs
 
สวนซาบัง





  อยู่ดีๆ จินกูก็เกิดบอกว่าอยากไปนอนเพนชั่นริมทะเลขึ้นมา มิหนำซ้ำ ยังจัดการจองที่พักมาเรียบร้อย เรียกว่างานนี้จัดกระเป๋าไปอย่างเดียวพอ

แต่แค่นั้นไม่พอ เพราะว่าโดยปกติแล้ว เพนชั่นที่เกาหลีนี่ จะให้เช็คอินเข้าห้องพักได้อย่างเร็วก็ 3 โมงเย็น อย่างช้าก็ไม่เกิน 5 โมงเย็น แต่ก็เรียกว่าเช็คกันสายพอตัว ดังนั้น เรียกว่าแทบจะหมดวันแล้วถึงจะได้เข้าที่พัก แต่ให้บังเอิญว่าเพนชั่นในวันนี้ อยู่ห่างจากบ้านไปเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น เพราะฉะนั้น เราก็เลยมานั่งหากันว่า แถวๆ นั้นมีอะไรให้เราไปเดินเล่นได้บ้างนะ 

ก็ได้พบว่า ที่เส้นทางหลวงหมายเลข 7 ฝั่งตรงข้ามกับเพนชั่น มีสวนอยู่แห่งหนึ่ง ชื่อว่า "สวนซาบัง" จริงๆ ที่นี่ เคยดูรีวิวของคนเกาหลีมาแล้ว มันก็ไม่เลวนะ ค่อนข้างวิชาการไปหน่อย แต่ก็โอเคอยู่ ก็เลยตกลงกันว่า เราจะไปเดินเล่นที่นี่แหละ เพราะมันเข้าฟรีด้วย อิอิ

เราก็เลยจัดแจงออกจากบ้านโดยไม่ลืมเตรียมหมูไปปิ้งกินกันที่เพนชั่น และมุ่งหน้าไปยังเพนชั่นทันที

ถึงเพนชั่นเกือบๆ 3 โมงเย็น แต่ลุงเจ้าของที่พักดั๊นใจดี ให้เช็คอินเข้าเร็วซะงั้น แต่ไม่ได้ เราแบกกล้องกันมาแล้ว ต้องไปตามแผน

เอากระเป๋าขึ้นมาเก็บบนห้อง พร้อมดูสภาพห้อง (เพราะจองมาจากในเน็ต เลยได้เห็นแค่รูปเท่านั้น) 

นี่คือภาพจากระเบียงห้องพัก 





จากนั้น เราก็มุ่งหน้าไปสวนซาบังกันเลย

สวนซาบังนั้น ถูกสร้างขึ้นในปี 2007 เพื่อรำลึกถึงการครบรอบ 100 ปี การเริ่มต้นปลูกต้นไม้เพื่อป้องกันการพังทลายของหน้าดินที่เกาหลีค่ะ ส่วนสาเหตุที่ต้องเจาะจงมาสร้าง ณ ที่แห่งนี้ ก็คือว่า ที่นี่ถือเป็นที่แรก ที่ประสบความสำเร็จในการปลูกป่าเพื่อป้องกันการพังทลายของหน้าดินค่ะ ที่นี่ แต่เดิมเป็นภูเขาหัวโล้นที่มีลักษณะเป็นดินเหนียว แต่เมื่อปี 1971 ประธานาธิบดีในขณะนั้น ก็คือ ประธานาธิบดีพัคจองฮี ได้เริ่มต้นให้มีการปลูกต้นไม้ขึ้นที่นี่ด้วยต้นไม้จำนวนถึง 2,400 ต้น ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในปี 1977 ค่ะ 

โดยที่ว่ากันว่า การปลูกป่าในตอนนั้น ไม่มีเทคโนโลยีอะไรช่วยเลย เป็นการใช้แรงงานคนกับจอบเสียม ขุดดินลง และค่อยๆ ปลูกต้นไม้ทีละต้นๆ จนกระทั่งครบทั้งหมด และเฝ้ารอคอยวันที่ต้นไม้จะเติบโตค่ะ 

ถึงแม้ว่าการรอคอยจะใช้เวลานานหลายปี ถึงแม้ว่าในวันนั้นจะต้องเหนื่อยสายตัวแทบขาด แต่เพื่อลูกหลานและประเทศในวันข้างหน้า จากภูเขาหัวโล้นที่สร้างแต่ความเสียหาย กลับกลายเป็นภูเขาแสนสวยที่เขียวขจีอย่างทุกวันนี้ค่ะ

นี่คือทางเข้าด้านหน้า



นี่คือตัวอาคารที่ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรื่องราวต่างๆ และความเป็นมมาของสถานที่แห่งนี้ค่ะ



จากนี้จะเป็นภาพภายในสวนทั่วๆ ไปค่ะ















นี่เป็นมุมหนึ่งที่มีการปั้นหุ่นขึ้นมาแสดงภาพจำลองการทำงานในสมัยนั้นค่ะ


















Create Date : 19 มิถุนายน 2559
Last Update : 19 มิถุนายน 2559 13:26:50 น. 0 comments
Counter : 1178 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

JinieLinie
Location :
โพฮัง Korea

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add JinieLinie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.