..ถ้าจักตายก็ขอตายในหน้าที่ ถ้าจักพลีก็ขอพลีแด่เหนือหัว ถ้าจักอยู่ก็ขออยู่เพื่อครอบครัว ถ้าจักชั่วก็ขอชั่วแก่ไพรี..
Group Blog
 
All Blogs
 
*กรุงศรีอยุธยา พ.ศ.๒๓๐๙ - กรุงรัตนโกสินทร์ พ.ศ.๒๕๔๙*

*สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นพระมหากษัตริย์นักรบอีกพระองค์หนึ่งของชาติไทย ที่มีอัจฉริยะภาพทางการทหารอย่างหาผู้ใดเทียมมิได้ สิบห้าปีตลอดรัชกาลทรงตรากตรำทำศึกไม่เว้นแต่ละปี หัวเมืองใหญ่น้อยและอาณาจักรใกล้เคียงต่างครั่นคร้ามในพระบรมเดชานุภาพ กองทหารม้าอันเกรียงไกรของพระองค์นั้น เป็นต้นแบบในการรุกรบยุคต่อมา เป็นตัวอย่างอันดีของทหารในยุคปัจจุบันคือ ทหารต้องรู้จักคิด รู้จักพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพด้วยตนเอง ต้องเอาบ้านเมืองเป็นหลักเป็นที่ตั้ง ต่อให้มียศเป็นพระยานาหมื่นหากไม่มีบ้านเมืองเป็นหลักชัยแล้ว ยศศักดิ์นั้นไหนเลยจะมีค่า การศึกในหลายๆครั้งกับพม่านั้น พระองค์ก็อยู่ในสภาวะที่มิต่างอะไรจากสมเด็จพระนเรศวรฯ คือมีกำลังน้อยกว่าแทบจะทุกครั้ง แต่พระองค์ก็สามารถเอาชัยได้จากพระวิริยะอุตสาหะ และพระปรีชาสามารถทางการทหาร ทรงกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ล้าหลัง ที่ศัตรูรู้ ที่ใครๆก็รู้ ทรงกล้าที่จะปฎิวัติความเชื่อใหม่ๆที่ทหารควรจะใช้เพื่อให้เหมาะกับสถานณการณ์ที่คับขัน การคุมพลยกแหกวงล้อมพม่าจากค่ายวัดพิชัยนั้น ถือได้ว่าเป็นทหารหนีทัพที่คิดกบฎเป็นทุรยศต่อแผ่นดิน แต่พระองค์ก็มิได้ลังเลที่จะทรงกระทำเพื่อบ้านเมืองในวันข้างหน้า หากพระองค์ไม่คิดเอาบ้านเมืองเป็นหลักชัยแล้ว ไหนเลยจะย้อนกลับมาเพื่อกู้กรุงในอีกแปดเดือนถัดมา ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า ยศศักดิ์ต่างๆที่พระองค์มีในตำแหน่งพระยาวชิรปราการ ผู้รั้งเมืองกำแพงเพชรนั้น หาได้มีความสำคัญต่อพระองค์ไม่แม้แต่น้อย ทรงรู้ดีว่า เมื่อสิ้นชาติ ยศศักดิ์ใดๆก็ไม่มีความหมาย และในพระนครนั้นก็ไม่มีขุนทหารผู้ใหญ่คนใดที่จะมีน้ำใจและกล้าหาญที่พอจะรักษาชาติไว้ได้ พระองค์จึงกระทำการอันที่ยากที่ทหารคนใดผู้ใดจะกล้าทำ*

**ก่อนกรุงศรีอยุธยาแตกนั้น หัวเมืองใหญ่น้อยทั้งหลายที่อยู่ในอำนาจของอยุธยานั้น ต่างมิได้ทำการช่วยอยุธยารบพม่าแต่อย่างใด ต่างคนต่างตั้งตัวเป็นอิสระ นิ่งเฉยดูดายต่อชะตากรรมของพระนคร มีเพียงชาวบ้านบางระจันเท่านั้น ที่ช่วยอยุธยาต่อสู้กับพม่าในเส้นทางเดินทัพของเนเมียวสีหบดี แม่ทัพพม่าทัพที่สอง
ทัพที่หนึ่งของพม่านั้นมีมังมหานรธาเป็นแม่ทัพ ทำหน้าทียกไปล้อมอยุธยาทางทิศใต้ของพระนคร ตลอดหัวเมืองรายทางของทั้งสองทัพของพม่านั้น ต่างอ่อนน้อมต่อพม่าไม่ทำการต่อสู้ ขณะนั้นกษัตริย์พม่าคือ พระเจ้ามังระ ซึ่งเพิ่งขึ้นครองราชย์ใหม่ๆ เห็นอยุธยาอ่อนแอและมั่งคั่งยิ่งนัก จึงคิดจะปราบอยุธยาเพื่อให้อาณาจักรอื่นกลัวเกรงในอำนาจ จึงให้สองแม่ทัพยกพลไปตีอยุธยา เหตุที่พระเจ้ามังระทรงไม่คุมทัพมาเองเพราะรู้ดีว่าอยุธยาอ่อนแอและแตกแยก ทรงรู้ได้จากข่าวสารของไส้ศึกที่ส่งเข้าไปบ่อนทำลายและแทรกซึมในทุกวงการทุกชนชั้นของอยุธยา จึงให้เพียงแม่ทัพผู้ใหญ่ทั้งสองยกไปเองเท่านั้น ดูเอาเถิดเหตุการณ์เหมือนกรุงเทพ พ.ศ.๒๕๔๙มั้ย**

***พระเจ้าตากสินฯทรงเป็นกษัตริย์นักรบที่เริ่มทุกอย่างจากศูนย์ จากที่มีทหารเพียงแค่ห้าร้อยคน ทรงกระทำการจากเล็กๆเรื่อยไปจนถึงการใหญ่ซึ่งนั่นคือการ สถาปนากรุงธนบุรี ราชธานีใหม่ที่มีกองทัพกว่าสองแสนคน ไว้เป็นที่สร้างความเป็นปึกแผ่นให้กับคนไทย การเมืองการปกครองในกรุงธนบุรีในยุคเริ่มแรกนั้นร่มเย็นเป็นสุข เพราะกรุงธนบุรีมักจะเป็นฝ่ายรุกในเรื่องของการทหาร ไพร่ฟ้าประชาชนในเมืองจะปลอดภัยจากข้าศึก เพราะกองทัพของพระเจ้าตากสินฯจะยกพลไปรบในดินแดนข้าศึกเป็นส่วนใหญ่ พระเจ้าตากสินฯทรงมีนโยบายทางการทหารเป็นแนวเชิงรุก อาณาจักรใกล้เคียงต่างยอมอยู่ใต้เศวตฉัตร เพราะกรุงธนบุรีมีกองทัพที่เข้มแข็งและยุทธวิธีในการรบก็ไม่เหมือนใครเป็นแบบใหม่ที่ไม่อาจมีใครแก้ทางศึกได้ พระราชอาณาจักรจึงกว้างขวางยิ่งกว่าในสมัยราชธานีเดิม แม้แต่กษัตริย์มังระของพม่าก็ยังครั่นคร้ามในพระบรมเดชานุภาพ ถึงกับย้ายที่ตั้งมั่นจากเมืองตองอูสลับกลับเมืองแปร เมื่อใดที่ได้ข่าวกองทัพกรุงธนบุรียกมาใกล้ ก็จะย้ายไปอยู่เมืองแปร ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปอีกในดินแดนพม่า หากเหตุการณ์ปกติก็จะประทับอยู่ที่เมืองตองอู เพราะกษัตริย์มังระของพม่าพระองค์นี้ เป็นเชื้อสายราชวงศ์ตองอู จาการที่พระเจ้ามังระของพม่านั้นเป็นนักการทหารที่มีฝีมือองค์หนึ่งของพม่ามาก่อนนั้น พระองค์ทรงรู้ดีถึงแสนยานุภาพในทางการทหารของกรุงธนบุรีว่ากองทัพพม่าของพระองค์นั้นไม่สามารถรับมือได้เพราะกองทัพพม่าใช้ช้างเป็นหลัก การวางกำลังตามแบบเบญจเสนา5ทัพของพระนเรศวรนั้นยิ่งทวีประสิทธิภาพมากเป็นทวีคูณเมื่อพระเจ้าตากสินฯทรงใช้กองทัพทหารม้าเป็นหลัก สนับสนุนด้วยปืนใหญ่ และกองทหารปืนนกสับ การเคลื่อนกำลังพล การบำรุงรี้พลการใช้กองหนุนและหน่วยรบพิเศษบนหลังม้า เหล่านี้ล้วนแต่เป็นศาสตร์ทางทหารแบบใหม่ที่พระเจ้าตากสินฯทรงต่อยอดความรู้มาจากตำราพิชัยสงครามเบญจเสนาห้าทัพของพระนเรศวรฯทั้งสิ้น แม้แต่เวียดนาม อาณาจักรที่อยู่ห่างไกลกรุงธนบุรียิ่งนัก พระองค์ก็เสด็จยกทัพบกทัพเรือไปตีมาแล้ว แคว้นมลายู ปัตตานี ลานช้าง ลานนา เชียงตุง เชียงรุ้ง กองทัพกรุงธนบุรียาตราไปตีไปยึดมาแล้วทั้งสิ้น นี่คือตัวอย่างของอาณาจักรที่มีกองทัพเข้มแข็งเกรียงไกร ยาตราทัพไปทิศใดไพรีก็พินาศ***

****กรุงธนบุรีและพระเจ้าตากสินฯ เริ่มมีปัญหาในทางการปกครองจากการที่รับเอาขุนนางเก่าของอยุธยามารับราชการ ขุนนางพวกนี้รังเกียจพระองค์เรื่องสายเลือดและเชื้อชาติอยู่แล้วในใจ นานวันไปขุนนางพวกนี้มาเติบใหญ่ในทุกวงราชการ ทั้งทหารและพลเรือน เมื่อเริ่มมีอำนาจก็เข้าอีหรอบเดิมเหมือนเมื่อครั้งอยู่กรุงเก่า เริ่มแบ่งพรรคแย่งพวก เริ่มตั้งข้อเปิดประเด็นเรื่องคนจีนและขุนนางที่มีเชื้อสายจีน ทั้งๆที่คนเชื้อสายจีนอย่างพระองค์นี่แหล่ะที่ปลดแอกพม่าให้คนไทย ระบบศักดินาเก่าแบบอยุธยาเริ่มกลับมามีบทบาทแทนพ่อปกครองลูกแบบสุโขทัยที่พระเจ้าตากสินฯทรงนำมาใช้ ไม่นานความแตกแยกทางความคิดเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น และเริ่มลามเข้าสู่ในกองทัพ ทหารเชื้อสายจีนในกองทัพเริ่มไม่พอใจ ขุนนางทหารเริ่มแตกแยกกันเอง เริ่มหาผู้นำที่มีบารมีและยกให้เป็นหัวหน้ากลุ่ม ลางร้ายเริ่มปรากฎ กองทัพกรุงธนบุรีปราชัยเป็นครั้งแรกที่เมืองเขมร เพราะทหารแต่ละทัพระแวงกันเอง ไม่เร่งเดินทัพเพื่อสมทบทัพหลวงที่พระเจ้าตากสินฯทรงให้พระราชโอรสเป็นจอมทัพ ทัพต่างๆไม่บรรจบกันตามพิชัยสงครามดังที่เคยปฎิบัติ สุดท้ายเกิดกบฎที่เมืองหลวง นำโดยพระยาสรรค์ ขุนนางอยุธยาเก่าเชื้อสายไทยแท้ๆที่พระเจ้าตากสินทรงนำมาชุบเลี้ยง จนเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกต้องยกทัพกลับจากเขมรมาปราบปราม และปราบดาภิเศกเป็นปฐมราชวงศ์จักรี หมดสิ้นยุคกรุงธนบุรี ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา****

*****เห็นความสำคัญของกองทัพหรือยังท่านผู้อ่าน เห็นความสำคัญของความสามัคคีหรือยัง เห็นโทษของการแตกแยกแล้วหรือยัง สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาใหญ่และเป็นปัญหาหลักๆของคนไทยมาทุกยุคทุกสมัย เมื่อใดที่เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นในบ้านเมืองพร้อมๆกัน หากผู้มีอำนาจไม่รีบแก้ไข เราคงไม่แคล้วเสียเมืองเหมือนครั้งอดีตแน่นอน สมัยโบราณเรายังมีที่ให้ถอยร่นให้หนีไปตั้งเมืองใหม่ สมัยนี้เล่า เราคนไทยจะหนีไปไหน เราติดทะเลแล้ว นี่เป็นแผ่นดินผืนสุดท้ายของบรรพมหากษัตริยาธิราชของเราที่ทรงรักษาไว้ให้ลูกหลานได้เกิดได้หายใจ เราควรหันหน้าเข้าหากันแล้วร่วมกันรักษาชาติไว้ตามรอยบรรพชนได้แล้ว ไม่งั้นเราคงได้เป็นเหมือนดังประเทศเจ้าของธงข้างล่างนี้แน่ๆ*****











Create Date : 21 มีนาคม 2549
Last Update : 16 ธันวาคม 2552 15:52:39 น. 27 comments
Counter : 1186 Pageviews.

 
ค่ะ


โดย: http://chalam.exteen.com IP: 58.10.45.16 วันที่: 21 มีนาคม 2549 เวลา:9:16:53 น.  

 
ถ้าผมมีท่านผบ.กรมเป็นผู้บัญชาการในการรบ ผมเชื่อมั่นว่าถึงแม้ในมือผมจะมีแค่ตะหลิวและทัพพี(แต่ถ้ายัดM4Comกับพาราออดแนนซ์กริซลี่คันชีพให้ด้วยจะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ) ด้วยมันสมอง,วิสัยทัศน์และยุทธวิธีของท่านสามารถทำให้ชีวิตผมที่จะต้องพลีในสนามรบเป็นการตายอย่างสมศักดิ์ศรีคนไทยที่เทิดทูน3สถาบันไว้เหนือเกล้าและหนึ่งชีวิตของผมจะต้องไม่เสมอหรือขาดทุนต่อชีวิตอริราชศัตรูอย่างแน่นอน วันทยาหัตถ์


โดย: เด็กโรงเลี้ยง IP: 222.154.187.40 วันที่: 22 มีนาคม 2549 เวลา:11:36:23 น.  

 
ประวัติของพระเจ้าตากสินมหาราชนั้นน่าสนในมากครับ พระราชวังของพระองค์ที่ทางกรมศิลป์บูรณะขึ้นมาใหม่ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนในไม่แพ้กันเลยทีเดียว


โดย: arthas วันที่: 5 เมษายน 2549 เวลา:11:21:39 น.  

 
เข้ามาอ่านครับ
ลายตาจัง อ่านไม่ค่อยแจ่มเลยครับ


โดย: NickyNick วันที่: 6 กรกฎาคม 2549 เวลา:15:36:22 น.  

 
ไชโย ปฏิวัตแล้ว


โดย: amuro IP: 58.147.35.48 วันที่: 20 กันยายน 2549 เวลา:9:32:14 น.  

 
อยากได้เกี่ยวกับกรุงศรีอยุธยาให้มากกว่านี้


โดย: เด็กเรียน IP: 203.148.249.91 วันที่: 24 ตุลาคม 2549 เวลา:21:40:16 น.  

 
หาไม่เจอช่วยตอบทีคับการสถาปนา กรุงสุโขทัยกับ กรุงรัตนโกสินทร์ จาก น.ร.ดาราสมุทรภูเก็ต ขอบคุณคับ จาก ชุติวัฒน์


โดย: เด็ก5/6 YO Yo IP: 203.114.103.232 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:44:57 น.  

 
รู้หรือเปล่าว่า.....แกชุติวัฒน์ (นาย)


โดย: เพื่อนแก 5/6 ล ท45 IP: 203.113.71.105 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:13:07 น.  

 
อยากทราบ บุคคลสำคัญของกรุงรัตนโกสินทร์


โดย: เด็ก IP: 124.157.152.15 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:11:56:43 น.  

 
ท่าน ผบ.กรมฯที่รักคะ

ข้าน้อยมารบกวนของ CODE เพลง พระเจ้าตาก หน่อยจะได้หรือไม่คะท่าน

พี่น้องสมาชิกที่เรือน เรียกร้องว่า อยากจะให้เพลงที่หน้าเรือนของข้าน้อย เป็นเพลง "ปลุกใจ"

และถ้าท่านมีเพลง มาร์ชราชวัลลภด้วย จักเป็นพระคุณอย่างสูงเลยทีเดียวค่ะ

ขอบพระคุณล่วงหน้าเจ้าค่ะ



โดย: คุณน้ำอบ IP: 202.182.31.250 วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:1:15:54 น.  

 
ร่วมกัน ปลุกกระแส“พระเจ้าตาก “
สิ้นพระชนม์เมืองนคร ฯ จริงหรือ ?
ฤาษีต้อง ( นายอรรถสิทธิ์ ลักษณะปิยะ ) กล่าวถึงชื่อถนนที่พาดผ่านหน้าอาศรมของเขาที่มีชื่อว่า “ตากสินอนุสรณ์ “ ก็คือเป็นสัญลักษณ์ในการสื่อความหมายถึงความผูกพันและความเชื่อของชาวบ้านว่า “พระเจ้าตากสิน สิ้นพระชนม์ที่วัดเขาขุนพนม อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช
โดยเฉพาะแรงจูงใจ ล่าสุดเกิดจาก เมื่อต้นปี 2550 ตนได้รับภาพลายเส้นที่มีการแกะภาพจากฝาพระพุทธบาทจำลองด้วยหมึกจีน ซึ่งเดิมติดอยู่บริเวณฝาผนังถ้ำวัดเขาขุนพนมมาช้านานแล้ว ต่อมา ชาวบ้านเกรงว่าจะถูกขบวนการค้าวัตถุโบราณขโมยจึงนำมาเก็บรักษาไว้ที่พิพิทธภัณฑ์ของวัด
ปริศนาจากภาพรอยพระพุทธบาทจำลอง
“ โดยภาพลายเส้นดังกล่าว มี ลักษณะพิเศษที่เป็นลายเส้นที่เป็นสื่อสัญลักษณ์ที่ไม่ใช่เรื่องราวที่เกี่ยวข้องพุทธประวัติ หรือ ภาพมงคล 108 เหมือนกับพระพุทธบาทที่พบเห็นโดยทั่วไป
ผู้รู้ทางด้านศิลปกรรมหลายคน ให้ความเห็นร่วมกันว่าเป็นศิลปกรรมลายเส้นแบบจีน ไม่ใช่เป็นการสร้างสรรค์ของช่างไทย หรือ ช่างท้องถิ่น”
“ ภาพดังกล่าวเป็นเหมือนกับสื่อสัญลักษณ์ที่สอดคล้องกับตำนานพระเจ้าตากสินกับวัดเขาขุนพนม ตราตรีจักร หมายถึงกองทหาร ของ้าวเป็นอาวุธของคนชั้นสูง ช้างสามเศียร เป็นพาหนะของพระอินทร์ “ ฤาษีต้อง กล่าว
“ ภาพเรือสำเภาแบบจีนซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเดินทางทะเล การเดินทัพทางบกน่าจะหมายถึงการเดินทางลี้ภัยของพระเจ้าตากสินออกจากกรุงธนบุรีรอนแรมมายังเมืองนครศรีธรรมราช
“ มีภาพถ้ำ และ สัตว์ป่าน่าจะหมายถึงขุนเขาพนม ภาพ มังกรเป็นสัตว์ชั้นสูงตามคตินิยมของจีนน่าจะหมายถึงพระเจ้าตากสิน ภาพสัตว์ที่เป็นปีจันทรคติหมายถึงสิ่งบ่งบอกห้วงเวลาในการเดินทางจากกรุงธนบุรีที่เป็นการลี้ภัยมายังเขาขุนพนม “ ฤาษีต้อง กล่าว
ใคร ? คือผู้เขียนภาพปริศนา
ฤาษีต้อง กล่าวว่า หลังจากนั้น มีการตีความเพิ่มเติมว่า ใคร ? เป็นผู้สร้างสรรค์ศิลปกรรมแบบจีนขึ้นมาเมื่อศึกษาลึกในลงไปในรายละเอียดทางประวัติศาสตร์ก็มีการสันนิษฐานว่าเป็นทหารเสือของพระเจ้าตากที่เป็นทหารเชื้อสายจีน 500 คน
“ ก็คือกำลังหลักในการตีฝ่าวงล้อมพม่าก่อนกรุงศรีอยุธยาจะตกเป็นของพม่าครั้งที่ 2 มีประสบการณ์ในการเดินเรือในท้องทะเลลึกเป็นที่มาของการกำหนดยุทธศาสตร์การเข้าตีเมืองจันทบุรีเป็นฐานที่มั่น “ ฤาษีต้อง กล่าว
ฤาษีต้องกล่าวว่า จุดที่เกี่ยวโยงระหว่างทหารเสือของพระเจ้าตาก กับภาพสัญลักษณ์ปริศนาจากลายแทงพระพุทธบาทก็คือ คาดว่าทหารเชื้อสายจีนก็คือองค์รักษ์ที่คุ้มครองพระเจ้าตากในการลี้ภัยจากกรุงธนบุรีมายังเขาขุนพนมจนถึงช่วงสุดท้ายของชีวิตซึ่งนัยสำคัญทางประวัติศาสตร์ของความขัดแย้งนำมาสู่ความอ่อนแอ และ สูญเสียอำนาจในทหารที่สุด
“ ผมสันนิษฐานว่า ทหารจีนกลุ่มนี้คือ ผู้เขียนภาพลายเส้นที่เป็นศิลปกรรมแบบจีนต้องการสื่อความหมายหรือแรงบันดาลใจที่เป็นการเกี่ยวข้องกับการสูญเสียอำนาจของพระองค์ท่าน “ ฤาษีต้องกล่าว
หลักฐานเก่ามีน้ำหนักมากขึ้น
ฤาษีต้องกล่าวว่า เป็นพยานในการตอกย้ำพยานหลักฐานที่มีอยู่แล้วให้เกิดความกระจ่างชัดมากขึ้น ว่า ศิลปกรรมที่ปรากฏอยู่ในรูปโบราณวัตถุถ้วยชามลายครามที่เป็นศิลปะแบบจีนโดยผู้รู้ทางด้านศิลปกรรมของจีนยืนยันว่าเป็นเครื่องสายครามของราชวงค์หมิง และ ราชวงค์ชิง
“ พระพุทธรูปสมัยอยุธยาตอนปลายที่เป็นพระพุทธรูปทองคำซึ่งทุกคนคิดว่าเป็นเครื่องใช้ของบุคคลผู้สูงศักดิ์มิใช่สามัญชนอย่างแน่นอน พระเจ้าตากสิน สิ้นพระชนม์ตามตำนานหรือไม่เป็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่จะต้องค้นคว้ากันต่อไป “ ฤาษีต้อง กล่าว
ฤาษีต้อง กล่าวว่าตนเชื่อว่าตำนานเขาขุนพนม มีความเกี่ยวข้องกับพระเจ้าตากสินอย่างแน่นอน รวมถึงประวัติศาสตร์บอกเล่า เพลงร้องเรือกล่อมเด็ก เรื่อง “ตาแปะหนวดยาวนอนอยู่ในโลงดีบุก “ที่มีขบวนแห่ศพที่มีธงหรือ ฉัตรซึ่งเป็นพระศพของบุคคลชั้นสูง หมายถึงพระเจ้าตากสิน
ก่อตั้งพิพิทธภัณ์ภาพ
ฤาษีต้อง กล่าวว่า จะมีการจัดกิจกรรมประกวดภาพเขียนสีน้ำมันโดยนักศึกษาทางด้านศิลปกรรมของจังหวัดนครศรีธรรมราชโดยใช้ข้อเขียนของภิกษุณีวรมัย กบิลสิงค์ “ ใคร ? ฆ่าพระเจ้าตากสินเป็นพล็อตเรื่องโดยใช้ความสามารถแปรตัวหนังสือออกมาเป็นภาพในเชิงจินตนาการ จะนำภาพทั้งหมดมาจัดตั้งพิพิทธภัณท์ภาพ
“ เพื่อการเผยแพร่ประวัติศาสตร์พระเจ้าตากกับเมืองนคร ฯ ถือว่าเป็นกิจกรรมแรกที่ดำเนินการควบคู่ไปกับการจัดตั้งมูลนิธิเพื่อให้มีกลไกในการขับเคลื่อนกิจกรรมตามวัตถุประสงค์ของกองทุนทางปัญญา “ ฤาษีต้อง กล่าว
แจกหนังสือ “ภิกษุณีวรมัย “ 3 จังหวัดชายแดนใต้
“ ผมต้องการสานต่อเจตนารมณ์ของภิกษุณี วรมัย กบิลสิงห์ ผู้เขียนหนังสือ “ใครฆ่าพระเจ้าตาก “ โดยการนำหนังสือชื่อ “ดุซงยอ 2491 ถึงตากใบวิปโยค “แจกจ่ายหัวหน้าส่วนราชการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อกระตุ้นให้มีการนำแนวคิดในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบ ฯ “ ฤาษีต้อง กล่าว และ ว่า
“ ผมเห็นว่าแนวคิดยังมีความทันสมัยเป็นข้อเขียนจากการสัมผัสเหตุการณ์จริงเมื่อ 56 ปีมาแล้ว “ ฤาษีต้อง กล่าว



โดย: ฤาษีต้อง IP: 203.113.76.11 วันที่: 27 พฤษภาคม 2550 เวลา:20:54:53 น.  

 
ร่วมกัน ปลุกกระแส“พระเจ้าตาก “
สิ้นพระชนม์เมืองนคร ฯ จริงหรือ ?
ฤาษีต้อง ( นายอรรถสิทธิ์ ลักษณะปิยะ ) กล่าวถึงชื่อถนนที่พาดผ่านหน้าอาศรมของเขาที่มีชื่อว่า “ตากสินอนุสรณ์ “ ก็คือเป็นสัญลักษณ์ในการสื่อความหมายถึงความผูกพันและความเชื่อของชาวบ้านว่า “พระเจ้าตากสิน สิ้นพระชนม์ที่วัดเขาขุนพนม อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช
โดยเฉพาะแรงจูงใจ ล่าสุดเกิดจาก เมื่อต้นปี 2550 ตนได้รับภาพลายเส้นที่มีการแกะภาพจากฝาพระพุทธบาทจำลองด้วยหมึกจีน ซึ่งเดิมติดอยู่บริเวณฝาผนังถ้ำวัดเขาขุนพนมมาช้านานแล้ว ต่อมา ชาวบ้านเกรงว่าจะถูกขบวนการค้าวัตถุโบราณขโมยจึงนำมาเก็บรักษาไว้ที่พิพิทธภัณฑ์ของวัด
ปริศนาจากภาพรอยพระพุทธบาทจำลอง
“ โดยภาพลายเส้นดังกล่าว มี ลักษณะพิเศษที่เป็นลายเส้นที่เป็นสื่อสัญลักษณ์ที่ไม่ใช่เรื่องราวที่เกี่ยวข้องพุทธประวัติ หรือ ภาพมงคล 108 เหมือนกับพระพุทธบาทที่พบเห็นโดยทั่วไป
ผู้รู้ทางด้านศิลปกรรมหลายคน ให้ความเห็นร่วมกันว่าเป็นศิลปกรรมลายเส้นแบบจีน ไม่ใช่เป็นการสร้างสรรค์ของช่างไทย หรือ ช่างท้องถิ่น”
“ ภาพดังกล่าวเป็นเหมือนกับสื่อสัญลักษณ์ที่สอดคล้องกับตำนานพระเจ้าตากสินกับวัดเขาขุนพนม ตราตรีจักร หมายถึงกองทหาร ของ้าวเป็นอาวุธของคนชั้นสูง ช้างสามเศียร เป็นพาหนะของพระอินทร์ “ ฤาษีต้อง กล่าว
“ ภาพเรือสำเภาแบบจีนซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเดินทางทะเล การเดินทัพทางบกน่าจะหมายถึงการเดินทางลี้ภัยของพระเจ้าตากสินออกจากกรุงธนบุรีรอนแรมมายังเมืองนครศรีธรรมราช
“ มีภาพถ้ำ และ สัตว์ป่าน่าจะหมายถึงขุนเขาพนม ภาพ มังกรเป็นสัตว์ชั้นสูงตามคตินิยมของจีนน่าจะหมายถึงพระเจ้าตากสิน ภาพสัตว์ที่เป็นปีจันทรคติหมายถึงสิ่งบ่งบอกห้วงเวลาในการเดินทางจากกรุงธนบุรีที่เป็นการลี้ภัยมายังเขาขุนพนม “ ฤาษีต้อง กล่าว
ใคร ? คือผู้เขียนภาพปริศนา
ฤาษีต้อง กล่าวว่า หลังจากนั้น มีการตีความเพิ่มเติมว่า ใคร ? เป็นผู้สร้างสรรค์ศิลปกรรมแบบจีนขึ้นมาเมื่อศึกษาลึกในลงไปในรายละเอียดทางประวัติศาสตร์ก็มีการสันนิษฐานว่าเป็นทหารเสือของพระเจ้าตากที่เป็นทหารเชื้อสายจีน 500 คน
“ ก็คือกำลังหลักในการตีฝ่าวงล้อมพม่าก่อนกรุงศรีอยุธยาจะตกเป็นของพม่าครั้งที่ 2 มีประสบการณ์ในการเดินเรือในท้องทะเลลึกเป็นที่มาของการกำหนดยุทธศาสตร์การเข้าตีเมืองจันทบุรีเป็นฐานที่มั่น “ ฤาษีต้อง กล่าว
ฤาษีต้องกล่าวว่า จุดที่เกี่ยวโยงระหว่างทหารเสือของพระเจ้าตาก กับภาพสัญลักษณ์ปริศนาจากลายแทงพระพุทธบาทก็คือ คาดว่าทหารเชื้อสายจีนก็คือองค์รักษ์ที่คุ้มครองพระเจ้าตากในการลี้ภัยจากกรุงธนบุรีมายังเขาขุนพนมจนถึงช่วงสุดท้ายของชีวิตซึ่งนัยสำคัญทางประวัติศาสตร์ของความขัดแย้งนำมาสู่ความอ่อนแอ และ สูญเสียอำนาจในทหารที่สุด
“ ผมสันนิษฐานว่า ทหารจีนกลุ่มนี้คือ ผู้เขียนภาพลายเส้นที่เป็นศิลปกรรมแบบจีนต้องการสื่อความหมายหรือแรงบันดาลใจที่เป็นการเกี่ยวข้องกับการสูญเสียอำนาจของพระองค์ท่าน “ ฤาษีต้องกล่าว
หลักฐานเก่ามีน้ำหนักมากขึ้น
ฤาษีต้องกล่าวว่า เป็นพยานในการตอกย้ำพยานหลักฐานที่มีอยู่แล้วให้เกิดความกระจ่างชัดมากขึ้น ว่า ศิลปกรรมที่ปรากฏอยู่ในรูปโบราณวัตถุถ้วยชามลายครามที่เป็นศิลปะแบบจีนโดยผู้รู้ทางด้านศิลปกรรมของจีนยืนยันว่าเป็นเครื่องสายครามของราชวงค์หมิง และ ราชวงค์ชิง
“ พระพุทธรูปสมัยอยุธยาตอนปลายที่เป็นพระพุทธรูปทองคำซึ่งทุกคนคิดว่าเป็นเครื่องใช้ของบุคคลผู้สูงศักดิ์มิใช่สามัญชนอย่างแน่นอน พระเจ้าตากสิน สิ้นพระชนม์ตามตำนานหรือไม่เป็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่จะต้องค้นคว้ากันต่อไป “ ฤาษีต้อง กล่าว
ฤาษีต้อง กล่าวว่าตนเชื่อว่าตำนานเขาขุนพนม มีความเกี่ยวข้องกับพระเจ้าตากสินอย่างแน่นอน รวมถึงประวัติศาสตร์บอกเล่า เพลงร้องเรือกล่อมเด็ก เรื่อง “ตาแปะหนวดยาวนอนอยู่ในโลงดีบุก “ที่มีขบวนแห่ศพที่มีธงหรือ ฉัตรซึ่งเป็นพระศพของบุคคลชั้นสูง หมายถึงพระเจ้าตากสิน
ก่อตั้งพิพิทธภัณ์ภาพ
ฤาษีต้อง กล่าวว่า จะมีการจัดกิจกรรมประกวดภาพเขียนสีน้ำมันโดยนักศึกษาทางด้านศิลปกรรมของจังหวัดนครศรีธรรมราชโดยใช้ข้อเขียนของภิกษุณีวรมัย กบิลสิงค์ “ ใคร ? ฆ่าพระเจ้าตากสินเป็นพล็อตเรื่องโดยใช้ความสามารถแปรตัวหนังสือออกมาเป็นภาพในเชิงจินตนาการ จะนำภาพทั้งหมดมาจัดตั้งพิพิทธภัณท์ภาพ
“ เพื่อการเผยแพร่ประวัติศาสตร์พระเจ้าตากกับเมืองนคร ฯ ถือว่าเป็นกิจกรรมแรกที่ดำเนินการควบคู่ไปกับการจัดตั้งมูลนิธิเพื่อให้มีกลไกในการขับเคลื่อนกิจกรรมตามวัตถุประสงค์ของกองทุนทางปัญญา “ ฤาษีต้อง กล่าว
แจกหนังสือ “ภิกษุณีวรมัย “ 3 จังหวัดชายแดนใต้
“ ผมต้องการสานต่อเจตนารมณ์ของภิกษุณี วรมัย กบิลสิงห์ ผู้เขียนหนังสือ “ใครฆ่าพระเจ้าตาก “ โดยการนำหนังสือชื่อ “ดุซงยอ 2491 ถึงตากใบวิปโยค “แจกจ่ายหัวหน้าส่วนราชการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อกระตุ้นให้มีการนำแนวคิดในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบ ฯ “ ฤาษีต้อง กล่าว และ ว่า
“ ผมเห็นว่าแนวคิดยังมีความทันสมัยเป็นข้อเขียนจากการสัมผัสเหตุการณ์จริงเมื่อ 56 ปีมาแล้ว “ ฤาษีต้อง กล่าว



โดย: ฤาษีต้อง IP: 203.113.76.11 วันที่: 27 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:03:39 น.  

 
พระเจ้าตากเป็นมหาวีรกษัตริย์ยอดนักรบผู้ทรงพระปรีชาสามารถในการรบทั้งทางบกและทางทะเล

ทรงเป็นจอมทัพที่เกรียงไกรยากที่จะหาใครมาเทียบได้


โดย: พฤกษชาติ IP: 195.93.60.72 วันที่: 1 มิถุนายน 2550 เวลา:4:32:05 น.  

 
ไขปริศนาพระเจ้าตาก
สิ้นพระชนม์ที่เมืองนคร ฯ

ฤาษีต้อง ( นายอรรถสิทธิ์ ลักษณะปิยะ ) ชาวบ้านในชุมชนเขาขุนพนม ตำบลบ้านเกาะ อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้สร้างวัตถุมงคลจาตุคาม “รุ่นกูให้มีงรวย “ ซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนเขาขุนพนม ต. บ้านเกาะ อ. พรหมคีรี จ. นครศรีธรรมราช อันเป็นสถานที่ที่มีความเกี่ยวข้องกับตำนานการสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าตากสิน มหาราช ที่เมืองนคร ฯ
“ ประเด็นดังกล่าว เป็นปริศนาทางด้านประวัติศาสตร์ของชาติไทยมาช้านานแล้ว ผม
ต้องการนำรายได้จากการเช่าวัตถุมงคลมาเป็นกองทุนในการศึกษาเรื่องราวจากประวัติศาสตร์บอกเล่า “ตำนานพระเจ้าตากสิน กับ เขาขุนพนม “ ฤาษีต้อง กล่าว
ฤาษีต้อง กล่าวว่า ก้าวต่อไปก็คือการจัดกิจกรรมในการประกวดวาดภาพเชิงจินตนาการโดยนำข้อเขียนของภิหษุณี วรมัย กบิลสิงค์จากหนังสือ ใคร ? ฆ่าพระเจ้าตากสิน เป็นพล็อตเรื่อง และ นำภาพเขียนมารวบรวมเพื่อจัดตั้งพิพิทธภัณฑ์เพื่อเป็นศูนย์กลางในการเรียนรู้ของท้องถิ่น และ เตรียมการในการขอความเห็นในเชิงประชามติจากชุมชนที่มีอนุสรณ์สถานของพระเจ้าตากสินตั้งอยู่ทั้งประเทศ
“ ขอให้กำหนดวันที่ 28 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันสำคัญของชาติไม่จำเป็นต้องเป็นวันหยุดราชการให้ถือว่าเป็นการเทิดทูนในเชิงสัญลักษณ์ และ ส่งเสริมการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์โดยกรอบความคิดใหม่ “ ฤาษีต้อง กล่าว
ทุกอย่างมีความลงตัว
ฤาษีต้อง กล่าวว่า การกำหนดที่มาของมวลสาร และ กิจกรรมเจตนาดีของตนในการสร้างพระเครื่องสายจาตุคามในครั้งนี้จึงถูกกำหนดการนำมวลสารจากเขตพระราชฐานของพระเจ้าตากก็คือ การนำรายได้จากการเช่าวัตถุมงคลมาจัดตั้งเป็นกองทุนทางปัญญาเพื่อสืบสานการศึกษาประวัติศาสตร์บอกเล่า ตำนานพระเจ้าตากสิน กับ วัดเขาขุนพนม
“ โดยมีจุดเริ่มต้น การตรวจสอบหลักฐานทางด้านศิลปกรรมของแหล่งศิลปกรรมเขาขุนพนม เหตุใด? แหล่งศิลปกรรมอยุทธยาตอนปลาย และ ศิลปกรรมแบบจีนบนภูเขาขุนพนม จึงมาอยู่รวมกัน “ ฤาษีต้อง กล่าว
ใคร ? เป็นผู้สร้างสรร

ฤาษีต้อง กล่าวว่า ตนเชื่อว่า ทหารเสือของพระเจ้าตากที่เป็นทหารเชื้อสายจีนมีส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์ และ เป็นผู้นำพามาซึ่ง ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่เป็นการชี้ว่าทหารเชื้อสายจีนเป็นเป้าหมายในการทำลายล้างของอำนาจใหม่ โดยมีลางสังหรณ์มาตั้งแต่ก็คือ การพ่ายแพ้ในการไปตีกัมพูชาเมื่อตรวจสอบจากพงศาวดารของเวียดนาม
“ ความขัดแย้งในกองทัพระหว่างกลุ่มขุนนางเก่า กับ ทหารเสือพระเจ้าตากสินที่เป็นทหารเชื้อสายจีน นำมาสู่การโค่นล้มอำนาจในเวลาต่อมา จากกลุ่มขุนนางเก่าที่ตกทอดมาจากราชวงค์บ้านพลูหลวง “ ฤาษีต้อง กล่าว
ฤาษีต้อง กล่าวว่า การวางกลไกการรักษาอำนาจโดยยึดรูปแบบ พันธมิตรร่วมรบ และ ใช้ความสัมพันธ์กับเจ้าชุมนุมเป็นมูลเหตุสำคัญในการสูญเสียอำนาจของพระองค์ท่านอย่างรวดเร็ว ข้อเท็จจริงดังกล่าวปรากฏชัดเจนมากที่สุดก็คือ ความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างพระเจ้าตากกับเจ้าเมืองนคร ฯ เป็นฐานที่มั่นที่ไว้ใจได้ที่สุดในการลี้ภัย
“ โดยเฉพาะชัยภูมิของ เขาขุนพนม เป็นสถานที่พึ่งพิง และ รองรับในการลี้ภัยของบุคคลทีเป็นพระญาติใกล้ชิดของพระเจ้าตากสิน “ ในยามคับขัน กลุ่มทหารเชื้อสายจีน เป็นกลุ่มที่มีความเป็นได้มากที่สุดในการคุ้มครองอารักขาพระเจ้าตากหรือไม่ก็บุคคลสำคัญของราชวงค์หลบหนีมายังเขาขุนพนม “ ฤาษีต้อง กล่าว
ฤาษีต้อง กล่าวว่า เส้นทางในการหลบหนีของพระองค์ โดยทางเรือที่ทหารเชื้อสายจีน มีความชำนาญในการเดินเรือสำเภาในท้องทะเลลึก และ มีความปลอดภัยสูงกว่าการหลบหนีทางบก และ คิดว่าเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการสร้างสรรค์ศิลปกรรมที่วัดเขาขุนพนม รูปแบบทางด้านศิลปกรรมแบบจีน
“ เช่น รูปปั้นพระราหูอมจันทร์ที่เขาขุนพนมซึ่งผมถือว่าเป็นการนำศิลปกรรมแบบจีนมาผสมผสานกับความเชื่อในเรื่องการบูชาพระราหูของไทย และ เป็นสัญลักษณ์หนึ่งของพระเครื่องสายจาตุคาม และ รูปปูนปั้น ตุ๊กตาจีนถูกประดับด้วย เศษ ถ้วยชามลายครามจีน “ ฤาษีต้อง กล่าว
ตาแปะหนวดยาว

ฤาษีต้อง กล่าวว่า ทำไม ? ตระกูล ณ.นคร ผู้สืบเชื้อสายจากพระเจ้าตากสิน จึง มีความผูกพันกับสถานที่แห่งนี้มายาวนานว่าเป็นสถานที่ที่ความเกี่ยวข้องกับพระเจ้าตาก เมื่อนำมารวมกับ เพลงกล่อมเด็ก เรื่อง “ ตาแปะหนวดยาวนอนในโลงศพดีบุก บทร้องเรือกล่อมเด็กเรื่องนี้ถูกตีความว่าหมายถึงขบวนแห่บรมศพของพระเจ้าตกสินทำให้น่าเชื่อว่าเขาขุนพนมเป็นเขตพระราชฐานของพระเจ้าตากสิน “ ฤาษีต้อง กล่าว
ฤาษีต้อง กล่าวเมื่อนำ เรื่องราวดังกล่าวยังปรากฎ ปรากฏตาม เอกสารเพลงยาวพยากรณ์ 10 รัชกาล ตนไม่มีข้อมูลว่า เอกสารดังกล่าว เขียนในสมัยใด ? ใคร ? เป็นคนเขียน เมื่อนำข้อเท็จจริงทั้งหมดมาประมวลการเขียนในรูปแบบนิยายอิงประวัติศาสตร์ หรือ ตำนานบอกเล่า เช่น “ ใคร ? ฆ่าพระเจ้าตากสิน ของหลวงวิจิตรวาทการ อดีตอธิบดีกรมศิลปากร และ ผู้อยู่เหนือเงื่อนไข ของอาจารย์ สุภา ศิริมานนท์ “
สอดคล้องกับข้อเขียนของต่างประเทศ
ฤาษีต้อง กล่าวว่า ข้อเขียนของฤาษีลิงดำ และ ข้อเขียนของภิกษุณีวรมัย กบิลสิงห์ เป็นข้อเขียนที่สอดคล้องกับ เอกสารต่างประเทศระบุว่า พระเจ้าตากสิน สิ้นพระชนม์ที่เมืองนคร ฯโดยนักเขียนของมหาวิทยาลัยออกฟอร์ด ซึ่งระบุว่า พระอัฎฐิ์ อยู่รวมกับเจ้าพระยานคร ฯ (น้อย ) ในสถูปของพระเจดีย์ต้นหว้าหกต้นในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
เชื่อว่ามีการลี้ภัยหลายระลอก
“ แต่มีข้อมูลกล่าวพาดพิงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้ใกล้ชิดกับพระเจ้าตากสินโดนการถูกประหารชีวิตอย่างขนานใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 1 “ มีความต่อเนื่องมาถึงรัชกาลที่ 2 กรณีขบถเจ้าฟ้าเหม็นซึ่งเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าตากสิน รวมถึงผู้ใกล้ชิดถูกสั่งประหารชีวิต “ ฤาษีต้อง กล่าว
ฤาษีต้อง กล่าวว่า ทำให้เชื่อได้ว่า อาจจะมีการลี้ภัยทางด้านการเมืองของกลุ่มทหารเสือพระเจ้าตากมายังเมืองนคร ฯ อีกหลายระลอก เพราะว่ามีร่องรอยการก่อตั้งชุมชนขนาดใหญ่ เช่น มีการพบเตาเผาโบราณ และ ซากกำแพงโบราณ คาดว่าจะมีกองกำลังอารักขามีชุมชนเฝ้าระวังภัยที่แน่นหนา ถ้วยลายครามที่เป็นสมัยราชวงค์หมิงร่วมสมัยกับอยุทธยาตอนปลาย และ ราชวงค์ชิง ชิงร่วมสมัยกับรัชกาลที่ 4
“ พระเครื่องกรุเขาขุนพนมมีพระพุทธรูปทองคำเป็นศิลปกรรมอยุทธยาตอนปลาย เป็นเครื่องแสดงว่าถิ่นพำนักของกลุ่มผู้สูงศักดิ์ “ ฤาษีต้อง กล่าว
ภาพปริศนารอยพระบาท
ฤาษีต้อง กล่าวว่า พยานหลักฐานล่าสุดก็คือ ภาพลายเส้นสลักรอยพระพุทธบาทจำลองวัดเขาขุนพนม ผม ได้นำไปปรึกษาผู้รู้ต่างก็ยืนยันว่าเป็นภาพศิลปกรรมแบบจีน ” ลักษณะพิเศษของรอยพระพุทธบาทจำลองเขาขุนพนม ไม่ใช่เป็นลายมงคล 108 หรือ ภาพพุทธประวัติทั่วไป ในแต่ละช่องของภาพลายเส้นที่มีการบุด้วยเงินยวงดีบุกผสมตะกั่ว
“ ปรากฏภาพปริศนาให้มีการตีความ ภาพลายเส้นในแต่ช่อง ปรากฏภาพตรีจักร ช้างสามเศียร ภาพเรือสำเภา ภาพสัตว์ปีจันทรคติ รูปปราสาท น่าจะเป็นกุฎแจไขปริศนาทางประวัติศาสตร์อีกดอกหนึ่ง “ ฤาษีต้อง กล่าว






โดย: ฤาษีต้อง IP: 203.113.76.8 วันที่: 7 มิถุนายน 2550 เวลา:16:09:24 น.  

 
จากข้อเขียนของภิกษุณีวรมัย กบิลสิงห์ เรื่อง "ใคร ? ฆ่าพระเจ้าตาก" นั้นเท่าที่อ่านแล้วเป็นการติดต่อทางฌาณจะหาหลักฐานอ้างอิงทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษา หรือคลำทางต่อดังที่ท่านฤาษีต้อง กล่าวมาก็มีส่วนที่สอดคล้องกัน เชื่อว่าลูกหลานไทยต้องการผู้ที่จะไขกุญแจปริศนานี้เพื่อพิสูจน์ ความเป็นนักรบของพระองค์ท่านผู้มีความสละอันใหญ่หลวงต่อผืนดินแม่ นั่นหมายรวมถึงนักรบไทยเชื้อสายไทย-จีน และนายมั่นผู้จงรักภักดี ผมจักขอเทอดทูนคุณงามความดีของพระองค์ท่านพร้อมผู้จงรักภักดีทั้งหลาย แม้นว่าประวัติศาสตร์บางส่วนยังคงมืดสลัวรอผู้นำแสงสว่างทำให้ความจริงปรากฏขึ้นแก่ลูกหลานไทย พระองค์คือสุดยอดของนักรบในยุครัตนโกสินทร์


โดย: old_soldier IP: 61.7.174.249 วันที่: 22 มิถุนายน 2550 เวลา:13:11:17 น.  

 
อยากทราบุคคลสำคัญในรัตนโกสินทร์


โดย: ธเนศ คามบุตร IP: 203.172.199.254 วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:14:16:13 น.  

 
อยากทราบว่า ดาบ ราคา เท่าไร


โดย: pond IP: 202.143.149.130 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2550 เวลา:9:42:51 น.  

 


โดย: นายเขียนดีมาก IP: 222.123.226.232 วันที่: 18 ธันวาคม 2550 เวลา:7:20:59 น.  

 
ประวัติน่าอ่านดีมากเนื้อเรื่องดีค่ะ

นู๋ชอบมากประวัติของไทย


โดย: เด็กดีของชาติ IP: 203.113.61.73 วันที่: 16 มกราคม 2551 เวลา:11:55:04 น.  

 
น่ารู้น่าศึกษา






















































โดย: ไอซ์ IP: 125.27.105.96 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:01:49 น.  

 


โดย: ไอซ์ IP: 125.27.105.96 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:03:29 น.  

 
ท่านชั่งอดทนมากท่านยอมเสียสละเพื่อประเทศของเรา
นี่คือประวัติศาสตร์ของไทยค่ะ


โดย: โบว์ IP: 124.120.75.145 วันที่: 29 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:55:38 น.  

 
เปลี่ยนสีตัวอักษรเถอะครับ
อ่านยากมาก


โดย: รุ่งฤทธิ์ IP: 58.8.173.35 วันที่: 28 มิถุนายน 2551 เวลา:15:19:42 น.  

 
ไม่ใช่อยากนั้น เข้าใจผิดแล้วนะค่ะ


โดย: กุ๊งกิ๊ง IP: 117.47.205.175 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2551 เวลา:9:37:43 น.  

 
ไม่ใช่อยากนั้น เข้าใจผิดแล้วนะค่ะ


โดย: กุ๊งกิ๊ง IP: 117.47.205.175 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2551 เวลา:9:37:51 น.  

 
อยากได้สาระที่สั้นๆกว่านี้


แต่เนื้อหาก็ใช้ได้นะ


โดย: ม่ายบอก IP: 114.128.57.200 วันที่: 12 มกราคม 2552 เวลา:16:36:33 น.  

 
เขาบอกกันมาว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินเสด็จสวรรคตที่ถ่ำพรมโลก


โดย: สอน IP: 125.24.234.114 วันที่: 24 มีนาคม 2552 เวลา:10:05:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Westpoint
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




* ทหารต้องมีวินัย วินัยเป็นเครื่องมือที่ใช้ควบคุมกองทัพ ทหารในกองทัพคือผู้ถืออาวุธของแผ่นดิน คำสั่ง สำหรับทหารนั้นคือสิ่งสำคัญที่เราไม่อาจละเลยได้ หากทหารทุกคนในทัพเอาความคิดของตนเป็นที่ตั้ง โดยไม่นำพาต่อวินัยในการเป็นผู้ถืออาวุธของชาติ ไม่ว่าตัวเล็กตัวน้อย อาวุธเล็กอาวุธน้อย กองทัพจะเป็นกองโจร ในการมีการใช้ในการถือครองอาวุธของแผ่นดินด้วยหน้าที่นั้น วินัยล้วนเป็นหลักทั้งสิ้น ในสังคมทหาร ในกรมกองทหาร ไม่มีคำว่าประชาธิปไตย ไม่มีการออกสิทธิออกเสียง ไม่มีโหวต ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับคำสั่งของผู้บังคับบัญชา การวางปืนแล้วหันหลังออกจากแนวไป ไม่สนใจไม่ปฎิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชามิว่าด้วยเหตุผลใดไม่ว่าในสนามรบหรือในที่ตั้ง นั่นคือการหนีทัพ ในสนามรบนั้นหากทำอย่างนี้ ถูกยิงเป้าทันที หากทำนอกสนามรบ นั่นคือการละทิ้งหน้าที่ มีโทษไม่น้อยเหมือนกัน มีทหารอีกมากมายนักในกองทัพที่ไม่ได้เห็นด้วยกับผู้บังคับบัญชาไปทุกเรื่อง แต่ทำได้แค่คิดเท่านั้น เราไม่มีสิทธิโต้แย้งใดๆในคำสั่ง สิ่งเดียวที่ทำได้สำหรับระดับปฎิบัติคือ เมื่อเราเห็นว่าเป็นคำสั่งที่ผิด เป็นคำสั่งที่ผิดศีลธรรมจรรยาของทหารแห่งชาติที่ดี ไม่ว่าด้วยแง่มุมใดๆ เรายังคงต้องปฎิบัติไปตามคำสั่งนั้น เราอาจทำให้ไม่สำเร็จ ทำได้แค่นี้เท่านั้น เราทำแล้ว แต่ทำไม่สำเร็จ นี่เป็นทางออกเดียวเท่านั้นของระดับผู้ปฎิบัติหรือระดับสั่งการในสนามเล็กๆ รูปการณ์อย่างนี้มิใช่ว่ามิเคยมี ตัวอย่างมีให้ดูมาแล้วจากในอดีต เรามิได้ผิดวินัย แต่เราทำตามความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในเบื้องลึกในจิตใจเท่านั้น นี่เป็นคำตอบที่ว่า ทำไมทหารค่อนกองทัพ ถึงต้องทำอย่างที่ประชาชนทุกคนเห็นตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ในรร.ทหารในระดับเริ่มต้น ก้าวย่างแรกของการเป็นทหาร ทุกคนในกองทัพจะต้องถูกหล่อหลอมเรื่องวินัยอย่างสุดขั้ว รร.ทหารที่ไหนๆในโลกก็ทำอย่างนี้กันทั้งนั้น เพราะทุกคนในโลกรู้กันดีว่า ผู้ที่จะจบออกไป จะเป็นผู้ที่ต้องถืออาวุธของชาติ และจะต้องใช้อาวุธในมือไปตามหน้าที่ และวินัยที่ รร.ทหารเฝ้าหลอมให้ทหารทุกคนนั่นก็คือ วินัยในการมีหน้าที่ ส่วนการจะถือจะใช้อาวุธในมือของตนตามหน้าที่และคำสั่งนั้น มันขึ้นอยู่กับจิตสำนึกเฉพาะตนในความเป็นชาติ และความเป็นคนไทยเท่านั้น *นี่เป็นสิ่งเดียวที่จะมีอำนาจเหนือกว่า หน้าที่ในทางเป็นจริงของทหาร *
Friends' blogs
[Add Westpoint's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.