โลกนี้มีมาก่อนผู้คน แต่โลกจะทนอยู่ได้นานสักเท่าใด

ถ้าเงินหมื่นแสนล้านถูกผลาญไป ใช้สร้างอาวุธมายัดใส่มือคน
 
ความรู้ทั่วไปเ้กี่ยวกับอาวุธ เคมี-ชีวะ

ความรู้ทั่วไป เกี่ยวกับอาวุธ เคมี-ชีวะ



   อาวุธ เคมี-ชีวะ นั้นจัดเป็นหนึ่งในอาวุธทำลายล้างสูง สามารถสร้างความเสียหายได้เป็นวงกว้าง โดยเรียกได้ว่าเทียบเท่าอาวุธนิวเคลียร์ก็ได้ ขึ้นอยู่กับปริมาณที่จะใช้  โดยความแตกต่างของระบบอาวุธ เคมี-ชีวะ กับระเบิดแรงสูงทั่วไปนั้นแตกต่างกันที่ อำนาจการทำลายต่ออาคาร พื้นที่ เช่น แรงอัด แรงกระแทก นั้นเอง  โดยอำนาจการทำลายของ อาวุธ เคมี-ชีวะ มุ่งเน้นสังหารผู้คน ไม่ว่าจะทหาร หรือ พลเรือน โดยการสัมผัส หายใจเข้าไป ในจำนวนมากๆในการใช้ครั้งเดียวเรียกได้ว่าเป็น มินินิวเคลียร์ หรือ นิวเคลียร์คนจน ทำให้ คณะมนตรีความมั่นคงของ สหประชาชาติ มุ่งเน้น ควบคุมหรือทำลายในการมีไว้ครอบครองของประเทศมหาอำนาจต่างๆจนถึงเฝ้าระวังการมีไว้ของผู้ก่อการร้าย


......ความแตกต่างหลายๆอย่างที่ทำให้น่ากลัวกว่า อาวุธนิวเคลียร์คือ ขนาดที่เล็กกว่า ตรวจพบได้ยากและสามารถผลิตได้ง่าย สามารถพัฒนาได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีขั้นสูง แต่นำไปใช้ได้ผลที่มีประสิทธิภาพสูงมาก มีการตกคา้งของเคมีที่นานและรักษาได้ยากแพร่กระจ่ายจากคนถึงคนได้ง่าย(ติดเชื้อ) สามารถปล่อยตามลม ตามน้ำ ได้


...เดิมทีนั้นอาวุธ เคมี-ชีวะ ถูกนำมาใช้แรกๆในสงครามโลกครั้งที่1 โดยฝ่ายเยอรมัน ในการมุ่งเน้นสังหารทหารฝ่ายตรงข้ามที่อยู่ตาม สนามเพลาะ โดยการใช้ก๊าซคลอรีน ที่เมือง อีพร์ ประเทศ เบลเยี่ยม  เมื่อ พ.ศ.2458 ใช้ คลอรีนไปประมาณ6000 หลอด วันแรกการรุกที่ตั้งทหารฝรั่งเศส วันที่สองการรุกที่ตั้งทหารแคนาดา  สองวันที่ใช้นั้นทหารฝ่ายตรงข้ามตายไป 5000 คน บาดเจ็บไปอีกราวๆ 1หมื่น   หลังจากนั้นในปี พ.ศ.2459 ฝรั่งเศสเองก็พัฒนาอาวุธเคมี ขึ้นมาใช้บ้าง แต่หลักๆแล้วพัฒนาระบบส่งอาวุธเคมีถึงแนวหลัง โดยใช้กระสุนปืนใหญ่ แต่ก็นับว่ามีผลน้อยเนื่องจาก กระสุนปืนใหญ่พาสารเคมีไปได้น้อย แต่ก็นับว่าดีเพราะไม่ต้องพึ่งพา สภาพอากาศ


       กลางเดือนตุลาคม พ.ศ.2561 อังกฤษโจมตีที่ตั้งทหารเยอรมันใน หมู่บ้านเวอร์ริค ในเบลเยี่ยมทำให้ทหารเยอรมันได้รับบาดเจ็บ รวมถึงทหารเยอรมันที่ชื่อ สิบโทอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ด้วย ทำให้เขามีการอาการบาดเจ็บคือแสบตา ตามัวมองไม่เห็น แผลไหม้  ซึ่ีงตรงนี้อาจจะเป็นไปได้ว่า ฮิตเลอร์ รู้จักความน่ากลัวถึงอาวุธเคมี-ชีวะ และขีดความสามารถในการทำสงครามอาวุธ เคมี ของ พันธมิตร ดีเขาจึงไม่กล้านำมาใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่หลังจากนั้นก็ยังมีใช้ในอิรัก สงครามเวียดนาม อีก


 


ประเภทสารเคมีหลักๆที่ใช้ในทางทหาร


1.สารสำลัก  กล่าวโดยรวมๆเป็นสารเคมีทางการเกษตร  เป็นของเหลวสีข้น แต่มักไม่มีความคงทนในระยะเวลานาน ระเหยง่าย สารกลุ่มที่สำคัญ คลอรีน ฟอสจีน ไดฟอสจี  คลอโรพิครีน และ เอธิลไดคลอโรอาซีน  จัดเป็นสารเคมี แรกรเิ่มที่นำมาใช้ในสงครามโลกครั้งแีรก โดยยังเป็นที่นิยมของผู้ก่อการร้าย ในการใช้ทำลาย สังหารผู้คน ส่งผลอย่างมากได้รับบาดเจ็บสาหัส อาจจะถึงตายหากไม่ได้ีรับการรักษา โดยขึ้นอยู่กับการผสมเคมี ซึ่งหาได้ง่ายเพราะเป็นเคมีอุตสาหกรรม


ผลที่เกิดจากการรับได้รับ สารสำลัก


 มีอาการไอ ปวดหัว  อาเจียน เกิดอาการเจ็บหน้าอก  ไอรุนแรง สำลักและตายในที่สุดในระยะ 2-6 ช.ม.


2.สารโลหิต  เรียกได้อีกอย่างว่า ไซยาไนต์ มีพิษร้ายแรงมาก โดยมีการใช้ในจำนวนมากในโลหะกรรม ชุบเคลือบ หากเป็นสารที่ใช้ในการทหารจะมีลักษณะเป็นของเหลวระเหยง่าย ไอเบากว่าอากาศ หากสูดดมเข้าร่างกายจะแพร่ได้รวดเร็ว ร่างกายไม่สามารถรับอ๊อกซิเจนได้จนร่างการขาดอากาศจนตาย  โดยสารที่นำมาใช้เป็นอาวุธเคมี เรียกว่า  ไฮโดรเจนไซยาไนด์ ( เอซี) ไซยาโนเจนคลอไรด์ ( ซีเค)เป็นของเหลว ซึ่งมีข้อเสียคือระเหยเร็ว ทางทหารจึงไม่นิยมใช้ในการสังหารเป้าหมายจำนวนมาก เน้นเป้าหมายบุคคล


ผลที่ได้รับ สารโลหิต


มีความรู้สึกร้อนไปทั่วตัว ไม่มีแรง คลื่นไส้ ปวดหัวมึนงง หายใจติดขัด หมดสติและชัก จนตายในที่สุด ซึ่งมาจากการขาดอ๊อกซิเจน


 


 





Create Date : 23 กรกฎาคม 2551
Last Update : 23 กรกฎาคม 2551 14:33:33 น. 0 comments
Counter : 991 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

ลิงน้อยเอ็นจอยเขียน
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]






" ผมไม่ได้บ้าฝรั่ง แต่ผมชอบในความมีอารยะของเขา แต่ฝรั่งเลวๆผมก็เกลียดเป็นเท่าตัวเหมือนกัน "



New Comments
[Add ลิงน้อยเอ็นจอยเขียน's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com