BTR-4 APC รถหุ้มเกราะรุ่นใหม่ของ ยูเครน
BTR-4 APC บีทีอาร์-4 ป้อมGROM Modul BTR-4 เป็นรถลำเลียงพลหุ้มเกราะล้อยางรุ่นใหม่(ล่าสุด)ของประเทศยูเครน ผลิตออกมาทดแทนรถเกราะรุ่นเก่าอย่าง บีทีอาร์-3และ94 ที่ทั่วไปใช้แผนแบบเดียวกับรถหุ้มเกราะรุ่น บีทีอาร์-80 ของประเทศรัสเซีย รถต้นแบบเปิดตัวในงานอเวียชวิต2006 เดือนมิถุนายน ที่จัดขึ้นในยูเครน และพึ่งส่งมอบให้กองทัพบกยูเครนไปเมื่อปี2009นี้เอง เนื่องจากเป็นรุ่นใหม่มีความแตกต่างจากรถหุ้มเกราะที่ผลิตในกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออกหรือกลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียตหลักๆคือเข้าออกจากทางด้านข้างเท่านั้น บีทีอาร์-4 นั้นออกแบบเพื่อตอบสนองกลุ่มผู้ใช้และหลักนิยมทางประเทศนาโต้มากขึ้นและผสมกับความเป็นโซเวียตไว้บ้าง นอกจากนั้นยังเป็นรถหุ้มเกราะที่มีอำนาจการยิงสูงมากรุ่นนึงติดอาวุธได้หลากหลายตามความต้องการ เครื่องยนต์รองรับถึง3ชาติ3รุ่น สามารถลำเลียงทางอากาศหรือโดยเรือระบายพลในกรณียกพลขึ้นบกได้เนื่องจากสามารถเคลื่อนที่ผ่านลำน้ำได้เช่นกัน จุดต่างอย่างนึงของ รถหุ้มเกราะกลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียตหรือรัสเซียเองนั้น คือรถหุ้มเกราะจะติดตั้งอาวุธหลากหลายไม่ต่ำกว่า2ชนิด เพื่อสามารถใช้งานทำลายเป้าหมายได้ครอบคลุมมากที่สุด ซึ่งต่างจากกลุ่มนาโต้ที่จะติดตั้งอาวุธหลักเพียง1อย่าง และใช้การสนับสนุนจากอาวุธชนิดอื่นในรถรุ่นอื่น ฟุซส์ ของเยอรมัน ที่มีส่วนในการอออกแบบ บีทีอาร์-4 บีทีอาร์-4 เป็นรถหุ้มเกราะล้องยาง(เอพีซี) 8x8 สไตล์โซเวียต การออกแบบและพัฒนาโดยบริษัท คราครีฟ โมโรซอฟ แมชชิน ดีไซน์เบรารุส(เคเอ็มดีบี) ประเทศยูเครน คล้ายกับรถหุ้มเกราะล้อยาง6x6ล้อ ของเยอรมันรุ่น ทีพีแซด-ฟุซส์ ที่เอามาขยายตัวรถ สิ่งที่เปลี่ยนไปจากรถสายโซเวียตนอกจากเข้าออกทางด้านหลังแทนด้านข้างแล้วคือ เข้าออกทางด้านหลัง และหลังคาเปิดออกได้เพื่อทำการยิงอาวุธ มีกล้องมองจากในตัวรถสำหรับพลที่อยู่ในห้องหลังเพื่อทำการยิงจากตัวรถด้วยอาวุธปืนประจำกายได้ทำการรบใต้สภาวะสงครามนิวเคลียร์ เคมี ชีวะได้ สภาวะอากาศที่-40องศาถึง+55องศา ตัวเครื่องยนต์อยู่ตรงกลางลำตัวรถ ตัวรถทำด้วยเหล็กกล้าแล่นประสานทั้งคัน สามารถติดเกราะเสริมป้องกันอาวุธเพิ่มได้อีก เกราะเดิมนั้นป้องกันกระสุน7.62-20ม.ม. ตัวรถนั้น(มาตราฐาน)มีช่องบนหลังคา6ช่องสำหรับเปิดขึ้นเพื่อยิงอาวุธประทับบ่าจำพวก อาวุธปล่อยประทับบ่าเช่น อิ๊กล่าและอาร์พีจี ช่องยิงปืนจากในตัวรถสำหรับพลทหารมีข้างล่ะ5ช่องพร้อมกล้องมองจากภายใน ที่นั้งหันหน้าเข้าหากันแถวล่ะ5นาย ลำเลียงพลในห้องโดยสารได้ที่7-9นาย พลประจำรถ3นาย พลขับอยู่ทางด้านซ้ายของตัวรถช่องเชื่อมต่อระหว่างห้องโดยสารกับส่วนพลขับอยู่ทางด้านขวา ภายในตัวรถ บีทีอาร์-4จะเห็นที่นั้งของพลทหาร กล้องมองภายนอกและฝาเหนือที่นั้ง นอกจากนั้นยังมีแกนป้อมในส่วนกลางและช่องติดต่อทางด้านขวาบริเวณห้องโดยสารและด้านหน้า ระบบขับเคลื่อนใช้โช๊ครับน้ำหนักแบบ คู่จำนวน4ชุด แบบเดี่ยว4ชุด อิสระออกจากกันทั้ง8ล้อ เครื่องยนต์เลือกติดตั้งได้3รุ่นจาก3บริษัทคือ จากยูเครน เยอรมันและอิตาลีบริษัท แอลวีโค แต่ในมาตราฐานรองรับเครื่องยนต์จากเยอรมันคือ เครื่องดีเซล ดุซ์ท-อีบีพีโอIII 4จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำกำลังเครื่องสูงสุดที่598แรงม้า ส่วนเครื่องดีเซลของยูเครน รุ่น 3ทีดี-2จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ กำลังเครื่องสูงสุดที่5-600แรงม้า เกียร์เดินหน้า5เกียร์ถอยหลัง1เกียร์ ขับเคลื่อนอิสระทั้ง8ล้อ แรงขับต่อน้ำหนักหากติดป้อมปืนที่20แรงม้าต่อตัน ไม่ติดป้อมปืน28.5แรงม้าต่อตัน ความเร็วบนถนนที่110ก.ม./ช.ม. ในน้ำด้วยเครื่องยนต์วอเตอร์เจ็ทที่10ก.ม./ช.ม. ระยะปฏิบัติการที่690ก.ม. ไต่ทางชันทำมุม60องศา เอียงข้างมุม40องศา ข้ามสิ่งกีดขวางสูง60ซ.ม. ข้ามคูกว้าง2เมตรได้ น้ำหนักรถที่17.5ตัน หากเพิ่มเกราะเสริมก็อยู่ที่19.3ตัน หรือหากติดตั้งป้อมปืนอยู่ที่ไม่เกิน25ตัน รุ่นต่างๆของ บีทีอาร์-4 มีดังนี้ บีทีอาร์-4เอพีซี รถลำเลียงพลมาตราฐาน ติดตั้งปืนกล7.62ม.ม.1กระบอก หนัก17.5ตัน ลำเลียงพลได้9นาย พลประจำรถ3นาย บีทีอาร์-4เคเอสเอช รถบังคับการ ติดตั้งปืนกลหนัก ทีเคบี-01 ขนาด12.7ม.ม.1กระบอก อุปกรณ์สื่อสารเช่นวิทยุและแผนทีดาวเทียม บีอาร์เอ็ม-4เค รถลำเลียงพลลาดตระเวณติดอาวุธ พร้อมพลทหาร7นาย ติดตั้งป้อมปืนกลหนักอัตโนมัติ เคบีเอ-2/แซดทีเอ็ม-1 30ม.ม.(รุ่นเดียวกับ 2เอ72-30ม.ม.รัสเซีย) 1กระบอก พร้อมกระสุน360นัด อัตราการยิง330นัด/นาที ระยะยิงหวังผล(เจาะเกราะ)1.2ก.ม.เป้าหมายในอากาศ4ก.ม. ปืนกลรองร่วมแกน เคที7.62 ม.ม.1กระบอก พร้อมกระสุน2000นัด อัตราการยิง7-800นัด/นาที พร้อมชุดเครื่องยิงระเบิดควันขนาด81ม.ม.6ท่อยิง2ชุด น้ำหนักรถที่20.2ตัน ติดตั้งวิทยุและแผนที่ ระบบส่งข้อมูลดาวเทียมได้ทั้งของนาโต้และรัสเซียเช่น แผนที่ดาวเทียมเอสเอ็น-3003บาซอล และ ทีไอยูเอส-เอ็นเอ็ม บีอาร์อีเอ็ม-4เค รถกู้ซ้อม ติดตั้งเครนและชุดกำเหนิดไฟฟ้า2ดีที-เอวี พลประจำรถ4นาย น้ำหนักรถที่19ตัน บีเอสดีเอ็ม-4เค รถพยาบาลสนาม พลประจำ3นายรวมแพทย์สนาม1นาย น้ำหนัก18.6ตัน เอ็มพีโอ-4เค ติดตั้งป้อมปืนใหญ่ต่อสู้รถถัง 120ม.ม.1กระบอก กระสุน40นัด และปืนกล12.7ม.ม.1กระบอก หนัก21.3ตัน ซึ่งยังเป็นเพียงต้นแบบ กำลังพัฒนา บีทีอาร์-4บีเอยู ติดตั้งป้อมปืนกลหนัก 23ม.ม.แท่นคู่ รุ่น2เอ7เอ็ม อัตราการยิง 850นัด/กระบอก กระสุนกระบอกล่ะ200นัด มุมเงย55องศา มุมกด-4องศา หมุนได้รอบตัว360องศา ใช้ไฟฟ้าควบคุม24โวล์ท นอกจากนั้นยังมีรุ่นติดตั้งป้อมปืนอีก2แบบคือ ป้อม กอร์ม-โมดูล ซึ่งมีอำนาจการยิงสูงสุด ติดตั้งปืนกลหนัก แซดทีเอ็ม-2 ขนาด30ม.ม.1กระบอก อัตราการยิง550นัด/นาที กระสุน360นัด(กระสุน2ชนิดคือ เจาะเกราะ แตกอากาศ ปืนกลร่วมแกน เคที-7.62ม.ม. เครื่องยิงลูกระเบิดอัตโนมัติ เอจี-17 ขนาด30ม.ม. กระสุน150นัด อาวุธปล่อยต่อสู้ยานเกราะแบบ 9พี-135 คอนครัส ระยะยิงไกลสุด4ก.ม. นำวิถีด้วยเส้นลวด จำนวน4นัด พร้อมกล้องมองแบบ พีเอ็นเค-4/5 ป้อม แซ็ควาว-โมดูล ป้อม SHKVAL ติดตั้งปืนกลหนัก 3ทีเอ็ม-1 30ม.ม.1กระบอก กับ จรวดคอนครัส อีก2-4นัด ปืนกลร่วมแกน7.62ม.ม. หากติดตั้งเครื่องยิงลูกระเบิดจะเลือกติดตั้งจรวด2นัดพร้อมเครื่องยิงลูกระเบิดก็ได้เช่นกัน ป้อมปืน กอร์ม นั้นมีข้อดีคือมุมความสูงที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งในการยิงสนับสนุนในบริเวณที่มีสิ่งกีดขวางบังตัวรถ เช่นแนวถนน แต่ก็มีข้อเสียตรงที่แกนป้อมอาจจะโดนยิงเสียหายจากหรือโดนระเบิดก็เสียหายได้เช่นกันผิดกับรุ่นอื่นๆที่ป้อมปืนปิดแนบตัวรถ โดยทั่วไปนั้น บีทีอาร์-4 เป็นรถหุ้มเกราะลำเลียงพลรุ่นใหม่ของยูเครนที่น่าจับตามองเพราะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับ รถหุ้มเกราะจากรัสเซีย โดยทั่วไปนั้นยังเป็นรถหุ้มเกราะใหม่ต้องใช้เวลาในการทดสอบและติดตั้งอาวุธรุ่นใหม่ๆเข้าไป ซึ่งต้องมาดูกันในอนาคตครับ แต่โดยทั่วไปแล้วเป็นรถหุ้มเกราะล้อยางที่น่าสนใจมากรุ่นนึง เนื่องจากสามารถเลือกติดตั้งอาวุธได้หลากหลายและราคาไม่แพง บีทีอาร์-4 นั้นรถรบมาตฐานไม่มีป้อมปืนอยู่ที่ 1.5-2ล้านเหรียญต่อคัน ถ้าหากในอนาคตมีการสร้างเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกับ บีทีอาร์-3 ที่มีใช้ในหลายชาติในปัจจุบัน
Create Date : 16 ธันวาคม 2552 |
Last Update : 16 ธันวาคม 2552 21:32:28 น. |
|
3 comments
|
Counter : 11086 Pageviews. |
|
|
|