ตอน สวัสดีฮานอย ยกสอง
Noi Bai International Airport เป็นสนามบินไม่ใหญ่มาก
และดู....เอิ่มมม ไม่ได้อลังการอะไร สายพานกระเป๋าก็ยังดูโบๆนิดนึง

อิฉันก็เดินดุ่มไป ตม. เลยทันทีเพราะไม่ต้องรออะไร อ้อ.....เข้าออกเมืองนี้ไม่ต้องกรอกฟอร์มอะไร เข้าไปโลด

ประทับตราปึ้ง!!! .... ถามในใจ ทำไมต้องปั๊มหน้าหลังสุดว้าาาาาา
เป็นธรรมเนียมหรือไงเนี่ย หน้าอื่นไม่ปั๊ม ปั๊มทำไมหน้าหลังสุด



พ้น ตม. มาได้ มองซ้ายมองขวาหาที่แลกเงิน เค้าบอกว่าแลกที่สนามบินเรตดี อ่ะ เชื่อ แลกเลย

ยื่นไป 100$ ได้กลับมา สองล้านกว่าด่อง อุต๊ะ!! มีเงินล้าน มือสั่น 555555555



ส่วนคนที่ติดเน็ตอย่างเรานั่น ไหนจะอัพทวิต ติดอินสตาแกรม เช็คอิน Foursquare
และ เล่น Facebook การมาที่นี่ซิมการ์ดจึงสำคัญมาก

ตาแรกว่าจะซื้อที่นี่เลย แต่เพื่อนบอกว่าแกๆมาซื้อในเมืองถูกกว่า ก็เลยเชื่อมัน

วันแรกจึงเปิดโรมมิ่งมาก่อน เอาไว้ให้โทรหาเพื่อนและบอกทางบ้านได้ว่า ถึงโดยสวัสดิภาพแล้วนะ

แลกเงินเสร็จก็ออกไปตามหารถเข้าเมือง อ่านมาบอกว่ามีแท็กซี่ (แพง ไม่เอา)
มี airport van 2$ (จ่ายเป็น 40,000 ด่องก็ได้)
และมีรถเมล์สาย 17 (ในราคา 5,000 ด่องเท่านั้น)

เลือกรถเมล์แบบไม่คิด
เพราะเราคิดว่าการนั่งขนส่งสาธารณะท้องถิ่นเป็นเสน่ห์ของการเดินทางอย่างหนึ่ง มันเหมือนไปสัมผัสวิถีชีวิตพื้นเมืองอ่ะ

และมันถูก ฮ่าาาาาาาาาาา

เดินออกสนามบิน เลี้ยวขวา เดินตรงไปเรื่อยๆ เจอสาย 17 แล้ว เย้ๆๆๆๆๆๆ

(คันนี้ไม่ใช่สาย 17 นะ ไปแอบถ่ายคันอื่นมา แต่ก็หน้าตาเหมือนกันแหละ)



มีคนรอละแวกๆนั้นพอประมาณ รถจอดเหมือนหลับ
เลยถามคุณคนนึงที่หน้าตาดูเป็นคนขับสุดๆว่า "Bound to Old Quarter?"
แต่เขาตอบไรมาไม่รู้ ฟังไม่ออก และโบกมือไล่ ไรแว้....

แต่เราก็ยังยืนๆแถวนั้นดูลาดเลา

แป๊บนึงได้ยินเสียงประตูรถเปิด และคนที่ยืนๆอยู่ไปกรูกัน ก็ไปเวียดนามมุงกับเขาด้วย

สรุปเขาคงรอให้คนมาพร้อมๆกันก่อนค่อยเปิดรถ อิฉันก็วิ่งขึ้นกับเข้าด้วย
หาที่นั่งได้เสร็จ ควักเงินมาหมื่นนึง (ดูรวยเนอะ) เตรียมจ่าย

กระเป๋ามาเก็บเงิน ทอนเงินและให้ตั๋ว ตอนนี้ค่ารถขึ้นเป็น 9,000 ด่องแล้ว



**วิธีคิดเงินนะ ตัดศูนย์ออกสามตัวไปเลย คูณ 1.75 ตามอัตราแลกเปลี่ยน
เท่ากับว่า ค่ารถ 15.75 บาทเท่านั้น**

แต่อิฉันตกเลขเป็นนิสัย คูณแบบนี้ยากไป เลยใช้ 2 คูณกลมๆ จะได้คิดง่ายหน่อย
ก็สรุปให้ตัวเองว่าค่ารถเข้าเมือง 18 บาท ต๊ายยยย ถูกดี ชอบๆๆๆ

เห็นสภาพรถแบบนี้อยากบอกว่ารถแอร์นะคะ เม้าท์ไป 555



นั่งรถไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ มองสองข้างทางบรรยากาศเหมือนชนบทเราดี
ทั้งทุ่งนา ทั้งลักษณะที่อยู่อาศัย ทั้งการแต่งกาย เหมือนๆ ต่างแค่ภาษาที่อ่านไม่ออก

ราวๆชั่วโมงผ่านไปก็ถึงตัวเมืองฮานอย

อ่านมา(อีกล่ะ)ว่าถ้าเห็นกำแพงโมเสก ให้เตรียมลง
นั่งจนเมื่อยตรูด นั่งจนตระหนกว่าหลงหรือป่าว กำแพงก็ปรากฎแก่สายตา

พอรถสาย 17 จอดที่ท่าใหญ่ๆปุ๊บก็มีคนมารุมล้อมประหนึ่งไอดอลมาแฟนมีตติ้งปั๊บ
หนุ่มๆงี้มารุมเพียบบบบบบ

คนขับแท็กซี่ทั้งนั้นจ๊ะ

มาชิงตัว

ได้แต่ส่ายหน้าไม่เป็นไร จะเดินไปเอง ทะนงมากจ๊ะ

ถามได้ ชวนได้ แต่มาแตะตัวดึงแขน อันนี้อิฉันก็ไม่ปลื้มนะจ๊ะ

ที่พักอยู่ย่าน Old Quarter ย่านฮิตที่เค้าบอกว่าเดินถึง แต่....เราเดินไม่ถึง

บอกเลยว่างงมาก ถนนอะไรไม่รู้อ่านไม่ออก ไปทางไหนต่อก็ไม่รู้ ไม่มีแผนที่จะไปได้ไง
เปิด Google Map กู๋มันก็ทำงง หลงกว่าเดิม แงๆๆๆๆ อะไรกันนี่

ร้อนด้วย ร้อนมากกกกกกก อบอ้าวสุดๆ เดินจนเหงื่อไหลเต็มแผ่นหลังไปหมด ทรมานสุดๆ

เลยโบกแท็กซี่มาคันนึงจนได้ แล้วเมื่อกี้หยิ่งทำไมอ่ะ....แท็กซี่ที่นี่ทรงน่ารักเนอะ 555



นั่งไม่ถึง 5 นาทีถึงโรงแรมจ๊ะ ห่ะ?!

ค่ารถสองหมื่น ยื่นให้ คนขับรับแล้วนั่งนิ่ง แล้วกระแอมถามว่าไหนเงินทอนจ๊ะ เขาก็เลยยอมล้วง 2,000 ด่องทอนมาให้

อารมณ์คล้ายๆบ้านเราอ่ะ นั่งแท็กซี่ 37 บาทให้ไป 40 บาท อีกสามบาทไม่ทอน แบบนั้นเลยยยย

บ้านเรานี่ บางทีก็ให้ไป บางทีก็ทวง แต่พออยู่เวียดนามด้วยความที่เลขศูนย์มันเยอะ เลยทวงน่าดูเลย 5555

ถึงโรงแรม 18.00 น. พอดีเป๊ะเลย เพื่อนลงมารับพร้อมคำชม เออ เอ็งเก่ง นั่งรถเมล์มั่วมาจนถึงได้

ปรบมือ!!!!

ค่ำนี้ หิวมาก เลยชวนเพื่อนไปเดินหาอะไรกินที่ย่าน Old Quarter เพื่อนพาเราไปได้ มันไม่ไกลจริงๆ เดินพอไหว

ปัญหาของที่นี่ที่ขึ้นชื่อลือชาสุดๆคือ "สาวน้อยข้ามถนนกับนายหน้ามนซิ่งมอเตอร์ไซค์"

คือการที่เราอยากข้ามถนนและหวาดกลัวกับการมีอยู่ของมอเตอร์ไซค์
ที่อลังการมากกกกกกกกกกกกกกกกก ที่สุดในสามโลก

คนที่นี่ใช้มอเตอร์ไซค์เป็นยานพาหนะหลักและมีจำนวนเยอะมาก บีบแตรปี๊นๆๆๆๆๆกันทั้งวี่ทั้งวัน

เสียงแตรชวนปวดหัวและการข้ามถนนชวนหวาดเสียว

แต่เดี๋ยวก่อน นั่นไม่ใช่ปัญหาหลักของอิ่มเอมจ๊ะ!!

อิฉันเป็นผู้มีความสุขกับการข้ามถนนที่นี่มากถึงมากที่สุดคนนึงเลยทีเดียว

ถ้าเทียบกับกรุงเทพฯที่มีทางม้าลาย มีสัญญาณข้ามถนนที่กดแล้ว....
รถไม่จอดให้ข้าม หรือจอดแต่เดินช้า คนบนรถมันก็บีบแต่ด่าเอาเสียอีก
(ไฟข้ามยังเขียวนะเว้ย เร่งทำไมฟะ เดี๋ยวเดินสะดุดหมด)

การข้ามถนนที่ฮานอยถือว่าดีกว่าอีก อยากข้าม ข้ามเลย

รถจะระวังเราเอง หลบเราเอง เราแค่มองบ้าง ระวังตัวบ้าง แล้วเดินเชิ้บๆไปเลย ก็เสร็จเรียบร้อย

ง่ายกว่ากรุงเทพฯเย้อออออออออออออออ

แต่ถ้าคุณเป็นคนขี้ระแวง เดินยึกยัก จะข้ามไม่ข้าม
มันจะอันตรายกับตัวคุณเองและรถที่วิ่งมา ยิ่งถ้าเจอบีบแตรใส่แล้วตกใจ ผงะไป
โอ๊ยยยย ยิ่งอันตรายไปกันใหญ่

เพราะฉะนั้นข้ามถนนที่เวียดนามไม่อยากเลย แค่ "เดินดื้อๆ"

เดินไปซื้อซิมพร้อมบัตรเติมเงินมา วิธีเติมเงินไม่ยาก ได้บัตรนี่มาขูดๆด้านหลังออก

รหัสจะมาให้เติม สนุกดี เหมือนสมัยเด็กๆเลย



มื้อเย็นวันนี้ไม่ใช่อาหารท้องถิ่น เป็นร้านอาหารจานเดียว
หน้าตาคล้ายๆไทย ข้าวกับปลาทอดซอสพริกสูตรเวียดนาม กินไปเพลินๆ

หนีบน้ำปลาขวดน้อยขึ้นเครื่องมาด้วยล่ะ 55555 เพราะเพื่อนบอกอาหารที่นี่จืด เหยาะลงไป อาหารชาติไหนก็อร่อยทั้งนั้น

อิ่มหมีพีมัน เราก็เดิน Night Market กัน ปิดถนนยาวมากๆ เดินกันเป็นกิโลๆไปถึงตลาด Dong Xuan นั่นแน่ะ



ก็....เหมือนตลาดนัดบ้านเรา ขายเสื้อผ้า อุปกรณ์มือถือ ของเล่น ของฝาก อะไรพวกนั้นแหละ เดินดูบ้านเมืองดี

"ซิโคล่” (Cyclo) รถสามล้อรับจ้างของที่นี่



ร้านอาหารซีฟู๊ดและสไตล์โต๊ะรับรองลูกค้า เก้าอี้เตี้ยๆ





ร้านน้ำชา มีตลอดทาง ขายแบบนี้ มีเก้าอี้เตี้ยๆแบบนี้รอบริการเสมอ



หน้ากากแบบท้องถิ่น น่ารักดี เหมือนเกาหลี (เอ๊ะ??)



การ์ด pop-up น่ารักอ่ะ ชอบอันนี้ๆๆๆ



ตุ๊กตาทั่วไป



ขนมข้างทาง



บาร์เเกต (ถ่ายเสร็จ โดนแม่ค้าแว้ดใส่ ห้ามถ่ายเหรอ? แต่ถ่ายติดแล้วนะ)



และหวานเย็นริมถนน ไปนั่งกินมาเอาบรรยากาศ ก็สนุกดีนะ แก้วล่ะ 20,000 ด่อง





ผลไม้....ขาย 50,000 และ 80,000 แพงมากเลย เลือกชนิดเดียวก็ได้หรือผสมกันก็ได้



อย่ากิน แนะนำ นอกจากแพงแล้วกลิ่นมันเหมือนเน่าๆด้วย 555 ฉันพลาดล่ะ

บังเอิญมี Live Performance พอดี แวะถ่าย แต่ไม่ได้ดู คนเยอะมากเลย มุงไม่ไหว



เดินไปไกลเป็นชั่วโมงๆ ก็กลับบ้าน เหนื่อย ร้อน อากาศอ้าวมากๆ เหงื่อไหลเป็นทางเลย

กลับไปอาบน้ำตากแอร์ดีกว่า




Create Date : 15 พฤษภาคม 2557
Last Update : 15 พฤษภาคม 2557 10:28:07 น.
Counter : 884 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ณ เงา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]



New Comments