Blue Fluted Mega...เก่าสู่ใหม่
เมื่อวันก่อนเขียนเรื่องประวัติของ Royal Copenhagen แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกว่าไอ้ที่ฝรั่งเรียกว่า 'porcelain' นั้น ภาษาไทยเราใช้คำเรียกเช่นไร เขียนๆ ไปก็เลยตัดสินใจใช้คำว่า 'เครื่องกระเบื้องเคลือบ' แทนคำภาษาฝรั่ง แต่พอมาเริ่มเขียนเรื่องนี้กลับนึกถึงคำคำหนึ่งออกคือ 'เครื่องกระเบื้องลายคราม' ซึ่งน่าจะเป็นคำไทยที่เหมาะสมกว่า ตอนแรกที่ไม่ได้นึกคำคำนี้เลย อาจจะเป็นเพราะคำว่า 'ลายคราม' นั้นฟังดูเป็นของเก่าโบร่ำโบราณ เพราะที่บ้านผมเองก็มีโถลายครามใบโตที่แม่ได้รับเป็นมรดกชิ้นโตต่อมาจากยาย ค่อนข้างเก่ามาก จะหยิบจะจับเคลื่อนย้ายก็ต้องระวังมือ ถะนุถนอม เพราะว่าเริ่มแตกลายงาทั้งใบแล้ว ลวดลายก็ตามแบบฉบับเครื่องลายครามจีนหรือไทยโบราณไม่ทราบแน่ชัด แต่พินิจพิเคราะห์ดูแล้ว สมองผมทำงานผิดไปถนีดที่นึกเชื่อมโยงเครื่องลายครามกับความเก่าคร่ำครึ เพราะคำว่า 'ลายคราม' ก็บอกความหมายอยู่ในตัวอยู่แล้วว่าเป็นเครื่องกระเบื้องลายสีคราม ตรงตัว ไม่อ้อมค้อม กระนั้นถึงแม้ว่าเครื่องกระเบื้องลายครามของ Royal Copenhagen จะเริ่มผลิตมานานกว่าสองร้อยปีแล้ว แต่ลวดลายที่วาดอยู่บนเครื่องกระเบื้องเหล่านั้น ก็ได้ถูกปรับเปลี่ยนไปตามกาลสมัย แต่ยังคงสามารถดำรงเอกลักษณ์ของความเป็น Royal Copenhagen เอาไว้ได้อย่างดี ผ่านมือนักสร้างสรรค์รุ่นแล้วรุ่นเล่า
หนึ่งในกระบวนการเก่าสู่ใหม่นี้ทำให้เกิดผลงานชุดลายครามชุดหนึ่งขึ้นมา ชื่อชุดว่า Mussel Mega หรือ Blue Fluted Mega เกิดจากการสร้างสรรค์ของ Karen Kjædgård-Larsen นักออกแบบไฟแรงชาวเดนนิชวัยเพียง 26 ปี โดยที่เธอเดินเข้ามาที่ Royal Copenhagen และนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ของเธอให้ Royal Copenhagen การเจรจาจบลงด้วยการที่เธอได้รับหน้าที่ให้เป็นหัวหอกในงานสร้างสรรค์ชุด Blue Fluted Mega ซึ่งถือเป็นการปรับโฉมรับการเข้าสู่ปี 2000 เลยก็ว่าได้ Kjædgård-Larsen ได้บอกว่าเธอนั้นมีความผูกพันธ์และเติบโตมากับเครื่องกระเบื้องลายครามอย่าง 'Blue Fluted' มาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นเธอจึงหลงใหลในความเป็นเอกลักษณ์ในงานแต่ละชิ้น ซึ่งลวดลายที่ปรากฏอยู่บนชิ้นงาน ถูกวาดขึ้นมาด้วยมือของช่างทุกใบ ทำให้แต่ละใบมีเอกลักษณ์ของตัวมันเอง
นอกจากนี้เธอยังกล่าวถึงงานของเธอครั้งนี้ว่า การปรับแค่เพียงเล็กน้อย ก็สามารถทำให้มันดูเห็นเด่นชัดได้ และผู้คนสามารถรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงได้ เพราะความเป็นเอกลักษณ์ของ Royal Copenhagen ที่ติดตรึงอยู่ในหัวของคนเหล่านั้นมานานแสนนาน ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงงานที่มีความเป็นเดนนิช งานที่มีคุณภาพสูง งานที่มีความเก่าและราคาสูงอย่าง เครื่องกระเบื้องลายครามชุด 'Blue Fluted' ต้องควรที่จะคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ที่ตราตึงอยู่ในใจผู้คนเสมอมาตลอดสองร้อยกว่าปี
ลายของ Blue Fluted Mega นั้นเกิดจากการที่เธอเอาลายเก่าบนเครื่องลายครามที่ผลิตขึ้นมาตั้งแต่ก่อตั้งกิจการอย่าง Blue Fluted ซึ่งเป็นลายที่มีความละเอียดอ่อนหวาน จำเอาบางส่วนของลายมาขยายใหญ่แล้วปรับลายให้ดูเป็นแบบ graphic มากขึ้นตามสมัย ลายที่เธอขยายแล้วนำมาจับวางลงบนเครื่องกระเบี้องชิ้นต่างๆ ออกมาได้อย่างเหมาะเจาะลงตัว ดูทันสมัย แต่ยังคงเป็นความเป็น Blue Fluted ของ Royal Copenhagen ไว้ได้อย่างดีทีเดียว งานชุดนี้น่าจะเอาชนะใจชาวเดนนิชวัยหนุ่มสาวได้ไม่มากก็น้อย (อันนี้ความจริงเป็นอย่างไร ผมไม่รู้นะครับ แต่ผมว่าใครๆ ก็น่าจะอยากได้ไว้ในครอบครองครบชุด ถ้าราคามันไม่บาดใจบาดกระเป๋าสตางค์ขนาดนั้น) เพราะมันไม่ใช่เป็นเพียงแต่จาน ชามที่มีลวดลายโบร่ำโบราณ เคร่งขรึมในแบบฉบับของเครื่องโต๊ะอาหารสไตล์คลาสสิคอีกต่อไป ส่วนตัวผมว่าความใหม่ใน design ทำให้มันดูเข้ากับรูปแบบการตกแต่งบ้านแบบ minimalism หรือแบบ clean & simple ของชาวสแกนดิเนเวียนได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว อีกทั้งราคาที่ถูกลง เมื่อเทียบกับชุด Blue Flutedเพราะลวดลายปั้นของเนื้อกระเบี้องเองไม่ละเอียดเท่า แต่เป็นลักษณะแบบเรียบง่าย อีกทั้งตัวลวดลายเองที่ถูกจับมาขยายใหญ่ก็ทำให้ง่ายต่อการเขียนมากกว่าลายเล็กๆ ของ Blue Fluted แบบดั้งเดิม ซึ่งคงใช้เวลาทำงานมากกว่าอยู่พอสมควร
แต่ถึงกระนั้น ราคาต่อชิ้นสำหรับเราคนไทยก็ยังถือว่าแพงอยู่ดีละครับ อย่างจานก้นตื้นขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 27 เซนติเมตร ก็ตกที่ราคาประมาณ 600 เดนนิชโครน เป็นเงินไทยก็คงประมาณ 3500 บาท ทานข้าวในจานใบละเท่านั้นนี่ไม่รู้่ว่าอาหารจะอร่อยล้ำขนาดไหนนะครับ แต่เรื่องแบบนี้เป็นความชอบส่วนบุคคลแหละครับ ของแบบนี้มองอีกทางก็เป็นการลงทุนระยะยาวนะครับ ในอีกหลายสิบปีของพวกนี้ก็เพิ่มมูลค่าขึ้น ทั้งทางใจและทางตัวเลข ของพวกนี้อยู่ได้นานวัน ไม่เน่าไม่เสีย (นอกเสียจากใครจะทำตกแตกเสียก่อน)
ผมเองก็ตกหลุมรักกับลายใหม่นี้เข้าให้อย่างจัง ใบแรกมีคนซื้อให้เป็นของขวัญ พอมีใบแรก ก็มีใบที่สอง สามตามมา ครับ ยอมรับว่าแพง ไร้สาระ แต่เห็นทีไรแล้วใจมันสั่น มือมันล้วงกระเป๋าโดยอัตโนมัติ ผมกะว่าจะสะสมไปเรื่อยๆ เริ่มจากจานก่อน แค่จานในขนาดเดียวกันมันก็มีอยู่ 8 ลายในหนึ่งชุดแล้วครับ เป็นการจัดวางลายต่างๆ กันออกไป กว่าจะเก็บได้ครบทั้งชุดคงได้เห็นผมขาวๆ บนหัวตัวเองก่อนเป็นแน่นอน แต่เพื่อความสุขครับ สะสมไปเรื่อยๆ เผื่อเอาออกมาจัดโต๊ะเลี้ยงแขกได้ (ใครทำแตก มีสงคราม) หรืออาจจะยกให้ลูกให้หลานในอนาคตก็เป็นได้ แต่ถึงจะเปลืองก็ต้องเปลืองอย่างฉลาดครับ เพราะ Royal Copenhagen เขามีของเกรดรองขายที่ Outlet ของเขาในเขต Frederiksberg ซึ่งจะเป็นพวกของมีตำหนินิดๆ หน่อยๆ บางทีอยู่ที่ใต้ก้นจาน เรื่องอะไรจะไปซื้อของเกรดหนึ่งเล่าครับ ของเกรดรองราคาถูกกว่าตั้ง 100 กว่าโครน เวลาซื้อจานหรือถ้วยลาย Blue Fluted Mega ถ้าจำลายไม่ได้ว่ามีลายไหนแล้ว ที่ใต้จานจะเขียนเลขลายกำกับเอาไว้ตั้งแต่ลายที่ 1 ถึงลายที่ 8 บอกให้รู้จะได้ไม่ซื้อซ้ำ แต่ถ้าซื้อผิดก็สามารถเอาไปเปลี่ยนได้ครับ
เครื่องครัวชุดนี้เป็นชุดที่เจ้าฟ้าชาย Frederik และเจ้าฟ้าหญิง Mary ทรงมีไว้ในครอบครองและทรงเครื่องประจำวันด้วยจานชามชุดนี้อีกด้วยนะครับ นอกจากจะมีจาน ชาม ถ้วยขนาดต่างๆ พร้อมถาดอบอาหาร ชุดกา ถ้วยชา กาแฟ เหยือกขนาดต่างๆ แล้ว เขายังนำลายไปทำสินค้าชนิดอื่นตั้งแต่เชิงเทียน ของตกแต่งตามเทศกาลอย่าง ของตกแต่งเทศกาลคริสมาสต์ กระดาษทิชชู่ ผ้ากันเปื้อน ร่ม ผ้าเช็ดมือในครัว และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีลายเดียวกันแต่เป็นสีดำด้วยนะครับ สำหรับเอาใจสาวกขาว-ดำ เป็นผลิตภัณฑ์เดียวกันแค่เปลี่ยนสี แต่ส่วนตัวแล้วผมชอบสีครามนี้แหละให้ความรู้สึกร่วมสมัยและ classic ในเวลาเดียวกันดีทีเดียว
All photos are from www.royalcopenhagen.com
Create Date : 27 กรกฎาคม 2551 | | |
Last Update : 28 กรกฎาคม 2551 5:57:56 น. |
Counter : 3066 Pageviews. |
| |
|
|
|