ย้ายบ้านไปเจอกันที่ facebook.com/why dachshund? นะคะ
Group Blog
 
All blogs
 
หมา กับ คน

สุนัขไม่ได้เข้าใจภาษาท่าทางของเราได้โดยสัญชาตญาณ แต่มันอาศัยจากการเรียนรู้ตั้งแต่ยังเล็ก การสบตาที่คนใช้แสดงความเป็นมิตรนั้น อาจทำให้สุนัขรู้สึกว่าถูกคุกคาม แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเข้าใจการมองโลกของสุนัข จึงทำให้เข้าใจมันผิดบ่อยครั้ง ที่น่าเศร้าก็คือ สุนัขมักเป็นฝ่ายผิดเสมอ ในเมื่อมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดกว่าสุนัขตั้งหลายเท่า การพยายามเพื่อจะเข้าใจสุนัข ก็น่าจะง่ายกว่าให้สุนัขเข้าใจเราเนอะ ว่าไหม?

* เธอเป็นเพื่อนของฉัน คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับกิริยาอาการของสุนัขเวลาที่มันทักทายเราเป็นอย่างดี ทั้งการอ้าปาก ‘ยิ้ม’ และการกระดิกหางที่เป็นสัญญาณบอกให้เราเข้าไปหามัน แล้วจะได้รับการต้อนรับอย่างเป็นมิตร สุนัขแต่ละตัวมีวิธีทักทายคนแบบต่างๆ กันไป ขึ้นอยู่กับว่ามันถูกเลี้ยงดูมาแบบไหน บางตัวพยายามกระโดดขึ้นมาเลียหน้า บางตัวชอบให้กอด ชอบให้ลูบหลังลูบไหล่ และบางตัวก็เพียงแค่อยากให้เห็นและเล่นกับมันเท่านั้น สุนัขพันธุ์เล็กๆ มักอยากให้เราอุ้ม และอาจกระโดดวนเวียนส่งเสียงดังไปมารอบๆ ขา จนกว่าเราจะอุ้มมันขึ้นมากอด ท่าทางทั้งหมดนี้มีความหมายอย่างเดียวกันคือ กำลังต้องการความสนใจจากเรานั่นเอง เช่นเดียวกับสุนัขตัวนี้ มันรู้จักคนในภาพเป็นอย่างดี และชอบเธอมากด้วย ท่าทางของมันแสดงให้เห็นว่า มันถูกคนกอดบ่อยๆ ตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข พอโตขึ้นมันจึงหวังจะให้คนมากอดเมื่อทักทายกัน สังเกตจากการอ้าปากยิ้ม ดวงตาผ่อนคลายและหูที่ลู่ไปด้านหลัง แสดงถึงความสบายใจ ลิ้นห้อยแสดงถึงความตื่นเต้น แต่หางของมันยังแสดงความไม่แน่ใจอยู่บ้าง ว่าเธอจะมาไม้ไหน

* ตื่นเต้นไปหน่อย หลังจากทักทาย มันก็ลุกขึ้นยืนแล้วหันหลังให้ โดยใช้ช่วงท้ายลำตัวพิงที่ตัวเธอแทน เพราะมันเริ่มรู้สึกว่าสถานการณ์ชักจะตึงเครียดเกินไป จนต้องรักษาระยะห่างระหว่างหัวของมันกับเธอไว้ซักหน่อย เมื่ออยู่ในท่านี้ ผู้หญิงในภาพก็ยังคงลูบหลังมันได้ แล้วมันเองก็สบายใจกว่าด้วย หางที่ม้วนอยู่แปลว่า มันพยายามอย่างมากที่จะระงับความตื่นเต้น ถ้าอยากจะสื่อสารกับเธออีกครั้ง มันก็แค่หันหน้าไปทางเธอเท่านั้น ส่วนหลังและหน้าอกเป็นบริเวณที่ ‘ปลอดภัย’ สำหรับสุนัข มันจะสบายใจมากกว่าถ้าเราสัมผัสมันบริเวณที่ว่านี้ โดยเฉพาะเมื่อเจอกันครั้งแรก

* อย่าจ้องสิ สุนัขข่มขู่กันด้วยการจ้องตา และถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น พวกมันก็จะหาทางหลบเลี่ยง เพื่อไม่ให้ต้องต่อสู้กันด้วยความรุนแรง แต่คนมักจะจ้องมองสัตว์เลี้ยงของตนด้วยความรัก สุนัขจึงต้องเรียนรู้ว่า การจ้องมองของคนไม่ใช่สิ่งที่เป็นอันตราย อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่สุนัขทุกตัวที่จะเข้าใจเรื่องนี้ และมันมักแสดงอาการต่างๆ ออกมา เพื่อบอกเราว่ามันไม่สบายใจเวลาที่ถูกจ้องมองอย่างนั้น

เธอมาดีหรือเปล่า? ในภาพทั้งคู่เพิ่งจะพบกันเป็นครั้งแรก โชคดีที่สุนัขตัวนี้อยู่กับคนจนนานพอที่จะรู้ว่า การสบตาแบบนี้ไม่ได้เป็นอันตรายเสมอไป ที่จริงการโน้มตัวมาข้างหน้าแล้วจ้องสุนัขเขม็งเช่นนี้ อาจทำให้สุนัขหลายตัวรับไม่ได้ ถ้าเขายังทำท่านี้ต่อไปนานๆ เจ้าสุนัขก็อาจแสดงความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ

* เป็นอะไรไปหรือ? การก้มตัวลงมาจนใบหน้าและดวงตาอยู่ในระดับเดียวกับสุนัข และยื่นมือเข้าหามันแบบนี้ ถ้าไม่ใช่สุนัขที่คุ้นเคยกับคนพอสมควร จะถือว่าเป็นการข่มขู่อย่างรุนแรง สุนัขในภาพไม่ได้ชอบการทักทายด้วยท่าทางประหลาดอย่างนี้ แต่มันก็ยังอยากจะทำความรู้จักกับชายผู้นี้อยู่พอสมควร เห็นได้จากหูที่ตั้งตรงและจมูกที่กำลังสูดดมกลิ่น เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขาให้มากขึ้น หางของมันอยู่ในลักษณะกลางๆ แสดงว่ายังไม่ตื่นเต้นหรือเป็นกังวลเท่าไรนัก


รู้หรือเปล่า?
• สุนัขใช้จมูกและปากเป็นหลักในการสำรวจความเป็นไปรอบตัว ในขณะที่มนุษย์ใช้ดวงตาและมือ ดังนั้น เราควรลดการใช้สายตาและมือลงให้เหลือน้อยที่สุด เมื่อเข้าไปทักทายสุนัข จะได้ช่วยผ่อนคลายความหวาดกลัวของมัน และทำให้มันเป็นมิตรกับเราได้ง่ายขึ้น
• คนส่วนใหญ่ถูกสุนัขกัดที่มือ มากกว่าส่วนอื่นของร่างกาย


* เธอจะทำร้ายฉันหรือเปล่า? นี่เป็นตัวอย่างการทักทายสุนัขที่แย่ที่สุด แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากทักทายสุนัขที่เพิ่งรู้จักด้วยท่าทางแบบนี้ เจ้าสุนัขเป็นกังวลและพยายามหดหัวหนี หูของมันลู่ไปด้านหลัง ดวงตาเบิกกว้าง หางจุกอยู่ระหว่างขาหลัง มันทำท่าเหมือนกำลังตัดสินใจว่าจะถอยออกมา แล้ววิ่งหนีไปเลยดีหรือเปล่า

มือที่น่ากลัว สุนัขบางตัวไม่ได้มีประสบการณ์ที่ดีกับมือมนุษย์มากนัก จึงมองว่ามือของคนเป็นสิ่งที่ใช้ตีมัน หรือทำให้มันไม่สบายตัว นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สุนัขมักกัดมือคนเป็นอันดับแรก เราจึงควรระมัดระวังการใช้มือ และพยายามเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ จนกว่าสุนัขจะเข้าใจว่ามือของเราปลอดภัยสำหรับมัน

* เธอดูน่ากลัวจัง จำไว้ว่ามือของคนแปลกหน้าที่ยื่นตรงมาที่หัวแบบนี้ เป็นสิ่งที่ดูน่ากลัวมากสำหรับสุนัข เจ้าสุนัขตัวนี้ไม่แน่ใจว่า จุดประสงค์ของชายในภาพคืออะไรกันแน่ เพื่อผ่อนคลายสถานการณ์ มันจึงหันหน้าหนีไปเสียจะได้ไม่ต้องเผชิญหน้ากับเขา เพราะมันไม่อยากมีเรื่องน่ะสิ


รู้หรือเปล่า?
• ดวงตาของเด็กๆ ดูน่ากลัวมากกว่าสำหรับสุนัข เนื่องจากตาของเด็กจะมีสัดส่วนที่ใหญ่กว่าดวงตาของผู้ใหญ่ และเด็กมักชอบจ้องมองสิ่งต่างๆ แถมดวงตาของเด็กๆ ก็ยังอยู่ในระดับเดียวกับตาของสุนัขด้วย


* แบบนี้ทำให้ฉันไม่สบายใจนะ อย่าลืมว่าสุนัขจะข่มขู่กันด้วยการจ้องตา การถูกจ้องเป็นเวลานานๆ จึงทำให้เจ้าบอกเซอร์ตัวนี้ไม่สบายใจ มันจึงนั่งลงโดยหันไปทางอื่นเสีย แต่ผู้หญิงในภาพก็ยังจ้องมันอย่างไม่ลดละ มันจึงต้องผ่อนคลายความกดดันของตัวเอง ด้วยการอ้าปาก หอบเล็กน้อย ทำหูลู่ไปข้างหลังและพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่มองมาทางเธอ แต่เธอกลับยิ่งโน้มตัวเข้าหามัน จนดวงตาอยู่ในระดับเดียวกัน อย่างนี้ก็อึดอัดแย่นะสิ

* เครียดจังเลย การหาวเป็นสัญญาณที่บอกว่าสุนัขของคุณกำลังเริ่มอึดอัดกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น มันอาจกำลังขัดแย้งในตัวเอง เช่นตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเดินหนีไปดีหรือเปล่า หรือมันอาจกำลังบอกคุณว่ามันเริ่มไม่สบายใจแล้ว สุนัขมักจะหาวเมื่อมีคนเรียกชื่อในขณะที่จ้องตามันไปด้วย การหาวไม่ได้แปลว่ามันง่วงนอนหรอกนะ สุนัขอาจส่งสัญญาณเหล่านี้ให้เราอยู่บ่อยครั้ง แต่เรามักไม่ค่อยได้สนใจและไม่ช่วยแก้ไขสถานการณ์ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือเข้าใจผิดกันไปเลย สุนัขที่ก้าวร้าวมักเกิดจากความเครียดที่มันต้องเผชิญและไม่มีทางออก


* อย่าจับน่า ลองนึกดูว่า ถ้าอยู่ๆ มีคนแปลกหน้าเดินเข้ามาหา พูดกับคุณด้วยภาษาที่คุณไม่เข้าใจ แล้วจู่ๆ ก็เข้ามาจับตัวคุณ คุณจะรู้สึกอย่างไร สุนัขเองก็เช่นกัน มันต้องเผชิญเรื่องอย่างนี้บ่อยครั้ง หลายตัวอาจทำใจให้สนุกไปกับเหตุการณ์ทำนองนี้ได้ ซึ่งน่าชมเชยเป็นอย่างมาก แต่เราสามารถช่วยให้สุนัขรับมือกับสถานการณ์ได้ดีขึ้น โดยศึกษาจุดเปราะบางบนตัวมัน แล้วหลีกเลี่ยงไม่ไปสัมผัสกับบริเวณนั้น

อย่างนี้พอได้ เจ้าสุนัขในภาพนี้ไม่คุ้นเคยกับการสัมผัสเท่าไรนัก เนื่องจากมันเป็นหมาแข่งและอยู่แต่ในสนามแข่งขัน แต่มันก็ยอมรับการทักทายของชายคนนี้ เนื่องจากเขาไม่มีท่าทีคุกคาม ผู้ชายในภาพนั่งลงและหันข้างให้โดยไม่ไปจ้องตามัน แต่หูที่ลู่ไปด้านหลังของสุนัขแสดงว่ายังไม่มั่นใจนัก

* มือที่เป็นมิตร เจ้าคอลลีในภาพยอมให้ผู้หญิงคนนี้ลูบตัว และยอมรับการสื่อสารจากเธอด้วย เนื่องจากจุดที่เธอสัมผัสมันอยู่นั้นเป็นจุดที่ปลอดภัย มือของเธอไม่ได้ไปปิดกั้นประสาทสัมผัสส่วนใดของมัน และอยู่ต่ำจนไม่น่าจะตีหรือกะชากมันได้ นอกจากนั้น การอยู่ร่วมกับคนมานานคงจะช่วยให้มันยอมรับการจ้องตาเช่นนี้ได้ดีกว่าปกติ เพราะหากการจ้องตาเกิดขึ้นระหว่างสุนัขด้วยกันล่ะก็ คงไม่มีใครชอบใจแน่ พวกมันจะพยายามจ้องอีกฝ่ายอย่างไม่ลดละ จนกว่าจะมีใครยอมแพ้นั่นแหละ แต่ถ้าทั้งสองตัวกลับมาเจอกันอีกครั้ง พวกมันจะจำได้แม่นยำว่าใครแพ้ใครชนะ โดยไม่ต้องเสียเวลามายืนจ้องกันอีก

* ตรงนี้ฉันไม่ชอบนะ สุนัขในภาพถูกลูบใต้หน้าอกบริเวณท้อง ขณะที่มันกำลังนั่งอยู่ การเข้าหาในลักษณะที่มันไม่คุ้นเคยเช่นนี้ ทำให้รู้สึกอึดอัด สีหน้าของมันเคร่งเครียดทีเดียว ใบหูรั้งไปทางด้านหลัง เนื่องจากคิ้วของมันเป็นสีน้ำตาลอ่อน เราเลยอ่านสีหน้าของมันได้ง่ายมาก มันกำลังถูกจับต้องในจุดที่เปราะบาง และถึงแม้ว่าการสัมผัสนั้นจะนุ่มนวลอ่อนโยนแค่ไหน มันก็ยังไม่ชอบและไม่อยากให้ใครมาจับบริเวณนั้นอยู่ดี

* อย่างนี้ก็ไม่ชอบ ถึงสุนัขตัวนี้จะคุ้นเคยกับการถูกสัมผัส แต่จู่ๆ มีคนแปลกหน้าเข้ามากอดอย่างนี้ มันออกจะมากไปอยู่ซักหน่อย ยังดีที่การกอดเป็นไปอย่างช้าๆ และคนที่กอดก็ไม่ได้โน้มตัวมาคร่อมมัน ก็เลยพอจะรับได้นิดหน่อย (แต่ดูหน้าดิ) หางของมันลู่ลง หูหลุบไปด้านหลังเล็กน้อย ถึงจะมีคนคอยพูดปลอบโยนมันอยู่ แต่ก็ใช่ว่าจะทำใจให้สบายได้ง่ายๆ นี่นา

* จุดจั๊กจี้ บริเวณหน้าอกและใต้ปลอกคอเป็นจุดปลอดภัยสำหรับสุนัข และมันชอบให้เกามากที่สุด บางครั้งถึงกับยกขาหลังขึ้นมา เพื่อช่วยให้เกาในจุดที่มันต้องการมากที่สุด


รู้หรือเปล่า?
• ลูกสุนัขควรต้องเรียนรู้ว่ามือของมนุษย์ที่ยื่นมา เพื่อจะลูบตัวมันหรือเอาขนมอร่อยๆ มาให้กิน มากกว่าจะเข้ามาเพื่อทำร้ายหรือลงโทษ


* ฉันไม่ค่อยสบายใจ สุนัขจะกระดกลิ้นออกมานอกปาก เมื่อมันรู้สึกอึดอัดใจหรือไม่มั่นใจ มันจะเลียจมูกตัวเองหรือไม่ก็ตวัดลิ้นเข้าออกอย่างรวดเร็วหลายครั้ง สุนัขตัวนี้แลบลิ้นออกมาเลียจมูก เพื่อส่งสัญญาณให้รู้ว่ามันไม่ได้ผ่อนคลายสบายใจ อย่างที่เราเห็นมันนอนหงายโชว์ท้องในท่าที่ดูสบาย การเลียจมูกแสดงว่ามันยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้าง


Create Date : 13 กันยายน 2548
Last Update : 14 กันยายน 2548 3:21:49 น. 12 comments
Counter : 466 Pageviews.

 
ขอบคุณแม่มะแต้มมะตูมคร๊า
ที่เอาสาระดีๆๆมาให้อ่าน


โดย: ปลาทูน่าในบ่อปลาพยูน วันที่: 13 กันยายน 2548 เวลา:21:37:44 น.  

 
555 เด็ก ๆ ที่บ้านก็มีจุดจั๊กจี้กันทุกคนเลย ทั้งบัดดี้ เชลโล่ อยู๋ที่เดียวกีนคือตรงหน้าอก แบบว่าพอไปเกาให้เค้า เค้าจะเกาขาหลังยิก ๆ ตามไปด้วย 555 พวกเด็ก โดนแกล้งประจำนะ เรื่องจี้นี่


โดย: แม่บัดดี้ (อ้วนดำปื๊ดปื๊อ ) วันที่: 14 กันยายน 2548 เวลา:2:19:12 น.  

 
แม่บัดดี้ :อยากเห็นหน้าบัดดี้ ตอนจั๊กจี๊ จัง 5555 แต้มตูมไม่มีจุดจั๊กจี้ค่ะ เกาให้ทีไร มันทำหน้างงๆ ทู๊กที

ปลาทูน่าฯ : อ่านแล้วงงมั่งป่าวคะ เพราะเมื่อตอนสามทุ่มที่อัพบลอกอะ พิมพ์ผิดเพียบเลย แต่ตอนนี้ edit ใหม่แล้วค่ะ


โดย: มะแต้มมะตูม วันที่: 14 กันยายน 2548 เวลา:3:03:42 น.  

 
ขอบคุณครับ ได้ความรู้มากๆเลย

หมาๆที่บ้านบ้าจี้ทุกตัวเลยครับ เวลาเกา จะทำปากเบ้หน้าตาเหยเกไปหมดเลย ขำดีครับ


โดย: พ่อน้องโจ วันที่: 14 กันยายน 2548 เวลา:10:35:29 น.  

 
เฮ้อ.. แต้ม ..ตูม ทำไมคนอื่นๆ เค้าไม่ขยันศึกษานิสัยพวกเราเหมือนแม่เรากะแม่นายนะ สงสารโอเลี้ยงที่เป็นข่าวจังอ่านทู้ไปน้ำตาท่วมคอม


โดย: อ้วนดำปื๊ดปื๊อ วันที่: 14 กันยายน 2548 เวลา:20:18:39 น.  

 
^
ไปอ่านมาเหมือนกันค่ะ เซ็งสุดๆ เลย


โดย: มะแต้มมะตูม วันที่: 14 กันยายน 2548 เวลา:20:50:22 น.  

 
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมบล็อกนะคะ ตอนนี้เลยคาดว่าจะมาอัพกลางคืนเหมือนกันค่ะ แถมกรุ๊ปบล็อกตัวเองก็หายด้วย ระวังการเปลี่ยนกลุ่มบล็อกในช่วงนี้ด้วยนะคะ กำลังรอการติดต่อเจ้าหน้าที่อีกครั้งค่ะ

โดยส่วนตัวเลี้ยงน้องหมาเหมือนกันค่ะ อ้วนกลม พันธุ์ดัชชุนใช่พันธุ์ใส้กรอก ขุนดีๆแล้วอ้วนกลมรึเปล่าคะ ชอบน้องหมาค่ะ แถมบล็อกนี้ ยังให้ประโยชน์มากมายจริงๆ ขออนุญาตแอดนะคะ ขอบคุณค่ะ


โดย: Fruit_tea IP: 58.8.20.89 วันที่: 14 กันยายน 2548 เวลา:22:38:54 น.  

 
add เลยค่า ยินดีอยู่แล้น
ดัชชุน = ไส้กรอก อ้วนๆ กลมๆ ถูกต้องคร้าบบบ


โดย: มะแต้มมะตูม วันที่: 15 กันยายน 2548 เวลา:1:57:19 น.  

 
ขอบคุณนะคะ
ทำให้เข้าใจน้องหมามากขึ้นเยอะเลยค่ะ


โดย: prncess วันที่: 15 กันยายน 2548 เวลา:9:29:05 น.  

 
มาเรียนรู้นิสัยหมาด้วยคน ได้รู้หลายอย่างที่ไม่เคยรู้เลย


โดย: Together In 80s Dream วันที่: 15 กันยายน 2548 เวลา:12:01:48 น.  

 
ไม่ทราบว่ามี บอร์ด เกี่ยวกับดัชชุน อีกรึเปล่า ทำไม บอร์ดดัชชุนหายากจัง


โดย: ดาว IP: 122.167.84.255 วันที่: 23 ตุลาคม 2550 เวลา:13:42:37 น.  

 
บล็อกดัชชุนที่รู้จักก็มี เจ้าเตี้ย -Dachsie- แล้วก็ dump&timsam ค่ะ (ดูตรง friend's blog)


โดย: มะแต้มมะตูม วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:22:39:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มะแต้มมะตูม
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ยินดีต้อนรับสู่ ’พื้นที่ของคนรักดัชชุนด์’ เรียก ดัชชุนด์ อาจฟังไม่คุ้นหู ถ้าเรียกว่า หมาไส้กรอก คงนึกออกกันทุกคน นึกออกตั้งแต่รูปร่างไปจนถึงบุคลิกฮาๆ เลยทีเดียว

เนื่องจากได้รับความนิยมมานานนับร้อยปี ผ่านมาแล้วทั้งจุดสูงสุดและต่ำสุดของความนิยม เจ้าหมาไส้กรอกก็เลยมีเรื่องน่าสนใจอยู่มาก บางเรื่องก็ขำ บางเรื่องก็เศร้า

คลิกที่เมนู group blog ด้านซ้ายมือ เพื่อไปยังหัวข้อต่างๆ เกี่ยวกับดัชชุนด์และมะแต้มมะตูมได้เลยค่ะ

คลิกเพื่อฟังเพลงมาร์ชของดัชชุนด์

"I can assure you that there's no dog like this dog. No companion as comical, as loving or as adaptable. His goal in life is to love you, protect you, and be your very best friend." ~Ann Carey~

"Observation... Walk a Poodle, Husky, German Shepard, Collie or whatever other kind of dog and few people take notice. Walk a Dachshund and everybody takes notice."

"If you've never owned dachshunds, no explanation is possible. If you have owned dachshunds, no explanation is necessary." ~Benny Archuleta~

Dachshunds range in size from 6 pounds to 32 pounds. But it doesn't matter what size they are, they're great!

"A mans best friend is a dog. Outside a dog, a mans best friend is a book. Inside a dog it's to dark to read." ~Groucho Marx~

"A dog is the only thing on earth that loves you more than you love yourself." ~Josh Billings~

Friends' blogs
[Add มะแต้มมะตูม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.