ข้าหลงรักรสเหล้าและเงาจันทร์

2007 ~ Sep : Home Away Vietnam



เกือบลืมทริปไกลบ้านทริปแรกของปี
ที่พี่สาวนกขมิ้นจำต้องหนีบน้องไปด้วย เพราะทนลูกอ้อนไม่ไหว
กลับมาน้ำหนักขึ้นทั้งพี่ทั้งน้อง สม!

ไปกลับด้วย Thai Air Asia แตะพื้นที่สนามบินนอยไบ เราก็เริ่มตะลอนทัวร์กันเลย
ทริปนี้ นอนไม่ซ้ำโรงแรม เราเรียกกันว่า ทัวร์กระเป๋า



แวะแรก วัดจอหงวน และวิหารวรรณกรรม มหาวิทยาลัยแห่งแรกของเวียตนาม
ที่นี่ มีเต่าหินรองป้ายประกาศเกียรติคุณของจอหงวนที่มีชื่อเสียงในอดีตมากมาย



ว่ากันว่า เด็ก ๆ มักจะมาอธิษฐานขอพรเพื่อความมีปัญญา
(ถ้าเป็นบ้านเรา ช่วงใกล้เอ็นฯ คงคนล้นหลาม)





จากนั้นไปวัดหงอกเซิน ดูทะเลสาปคืนดาบ
ฮานอย เป็นเมืองอกแตก เพราะมีแม่น้ำไหลผ่านกลางเมือง และมีทะเลสาปมากมาย เวียตนามเลยอุดมสมบูรณ์มาก ๆ ปลูกข้าวได้ถึง 3 หนต่อปี





มีตำนานย่อ ๆ ว่า จักรพรรดิ์เวียตนามเสด็จมาที่ทะเลสาปแห่งนี้ และได้รับดาบศักดิ์สิทธิ์เพื่อไปกอบกู้เอกราชจากจีน เมื่อกระทำการสำเร็จและบ้านเมืองเป็นปึกแผ่นแล้ว จึงเสด็จมาอีกครั้ง ในครั้งนั้น มีเต่าตัวหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากน้ำ แล้วรับดาบคืนไป ที่นี่จึงเป็น ทะเลสาปคืนดาบ เท่เนาะ...

แล้วเราก็ไปดูหุ่นกระบอกน้ำกัน เพลินดี เพลินจนหลับ



มีเครื่องดนตรีชิ้นหนึ่ง คล้าย ๆ จะเข้บ้านเรา แต่ให้ซาวนด์ที่โหยหวน และเศร้าสร้อยกว่ามาก
คุณไกด์เล็คเชอร์ว่า สมัยก่อน พ่อแม่ไม่นิยมให้ลูกสาวฝึกเครื่องดนตรีชนิดนี้ ด้วยกลัวว่าจะหลงใหลเสียงของมันจนไม่แต่งงานแต่งการ ขนาดนั้นเชียวละ
เป็นอันว่าผ่านวันแรกในฮานอยไปด้วยดี

วันที่สอง ไปวัดเจิ๋นก๊วก



เป็นวัดพุทธวัดเดียวในฮานอยที่มีพระสงฆ์อยู่
วัดอยู่กลางทะเลสาป วิวดีมาก ฝั่งตรงข้ามมีเรืออาหารลอยเท้งเต้ง



แต่ขอโทษ หน้าวัดตกปลาได้ มิใช่เขตอภัยทานแต่อย่างใด ฮ่า.....



แต่พระท่านคงติดกิจนิมนต์ (มั้ง) เงียบ สงบ และวังเวงจริง ๆ เลย









ผ่านไปอีกวัน พรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวฮาลอง เบย์ที่รอคอยกันแว้ววว.....



อรุณสวัสดิ์ฮาลองเบย์ จากหน้าต่างโรงแรม





เรือแล่นเอื่อย ๆ ให้เราดูวิวอย่างสบายใจ แต่พลพรรคในเรือก็ก้มหน้าก้มตาจั่ว ๆ ๆ และจั่ว อย่างเมามัน
อ่าวฮาลองนี่กว้างมาก มีเกาะแก่งเป็นพันเกาะ น้ำนิ่ง เป็นสีเขียวใส ๆ
เห็นภาพอ่าวฮาลองครั้งแรก ในหนังเรื่อง Indochine นานมาแล้ว มันก็สวยสมเป็นมรดกโลกจริง ๆ





ฮาลอง มีสินค้าขึ้นชื่อคือมุกเลี้ยง ราคาไม่แพงเลย แต่ก็ไม่รู้จะซื้อมาทำอะไรเหมือนกัน ไปเดิน Halong night market ได้ของฝากกันคนละนิดละหน่อย ที่ติดตาคือเธคกลางแจ้งของเค้านี่แหละ แต่ก็ไม่มีใครกล้าพอจะลุยเข้าไปสั่งเบียร์มาชิมซักขวดเลย ให้ตาย





วันสุดท้าย คำนับสุสานลุงโฮ



ข้างในห้ามบันทึกภาพทุกชนิด พวกเราเดินชักแถวอย่างสำรวมเข้าไปในสุสานหินอ่อนที่เย็นเยือก เพื่อคารวะมหาบุรุษที่อุทิศทั้งชีวิตเพื่อชาติ และประชาชน

บ้านพักหลังเล็ก แสนสมถะ ท่ามกลางสวนส้มโอ และดงต้นวิลโล่ว์ที่อ่อนน้อม ลู่ลม







ถ้ามีใครได้อ่านประวัติของลุงโฮมาบ้าง คงซาบซึ้งถึงความนัยของดอกซ่อนกลิ่นเป็นอย่างดี





เจดีย์เสาเดียว ภายในประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม คนเวียตนามมักมาอธิษฐานขอลูกไว้สืบสกุล สวยแบบพอเพียง จุ๋มจิ๋ม อยู่กลางบึงบัว ถ้าออกดอกพร้อมกันหมดคงน่าชมทีเดียวเชียว



ย้ายมุมไปเรื่อย ถ่ายตรง ๆ ไม่ได้เลย คนเยอะมากกกก
เพิ่งเห็นว่าด้านหลังเหรียญ 5000 ด่องที่เอากลับมามีรูปเจดีย์นี้เหมือนกัน



สาว ๆ ในชุดอ๋าวญาย ที่เราประทับใจพวกเธอ กับการเป็นมากกว่า "เจ้าบ้าน"

ขอบคุณน้ำใจดี ๆ และรอยยิ้ม

คงได้กลับไปอีกครั้ง เพราะเรายังไม่ได้เก็บ เว้ ดานัง และฮอยอันกันเลย






 

Create Date : 16 ธันวาคม 2550   
Last Update : 21 ธันวาคม 2550 0:12:34 น.   
Counter : 1210 Pageviews.  

2007 ~ Oct : ก่อนส่งท้ายวสันตฤดู



หาที่ซ้อมมือกับกล้องใหม่ ไม่รู้จะไปไหนดี
เอาเป็นว่า ไปเรื่อยเปื่อยก่อนก็แล้วกัน

คิดถึงที่แห่งหนึ่ง
เมื่อนานมาแล้ว ใครคนนึงเคยบอกกันว่า ชีวิตนี้ ถ้าจะขอใครซักคนแต่งงาน
ขอมีแค่ผืนฟ้าและท้องทะเลเป็นพยาน
เธอคนนั้น
ก็ควรได้สวมแหวนที่นี่



ฉันนึกค้านอยู่ในใจ แม้จะรักทะเลสุดฤทธิ์
แต่ที่สวย ๆ ดี ๆ ก็มีอีกตั้งแยะ
หรือต่อให้ สถานที่ ๆ ธรรมดาที่สุด
ป้ายรถเมล์ ร้านข้าว ออฟฟิศ
ที่ไหนก็ได้ ถ้ากาลเทศะ สอดคล้องกับจังหวะหัวใจ
เพื่ออะไรหรือที่ต้องพยายาม ขับรถไปถึง 3-4 ชั่วโมง
ไปที่นั่น....



บรรยากาศอึมครึม เงียบเหงา ฝนเพิ่งซาไปเมื่อครู่นี้
ที่นี่
ไม่มีใครเลย



เงาที่เห็นไกล ๆ ยืนนิ่งมาก อย่างกับอนุสาวรีย์
หรือว่าโยนหัวจิตหัวใจ ลงน้ำให้ปลากินไปแล้ว



คลื่นลูกอ้วน ๆ ถาโถมซัดฝั่งครืน ๆ ไม่มีขาดระยะเหมือนรถเมล์ปากซอย
พระอาทิตย์ขี้อาย ยังหลบหน้าอยู่ในก้อนเมฆ
คงรอจังหวะเหมาะ ให้เราเผลอ แล้วรีบหย่อนตุ๋มลงทะเลไป





ตากล้องหนุ่ม
กับ 400D ของเขา
ขอบคุณที่ผ่านมาพบกัน และแบ่งปันมุมมอง



พระอาทิตย์คงเปลี่ยนใจ
ให้เราเอ่ยร่ำลาเพียงชั่วครู่ ก่อนหายหน้าไปอีกครั้ง







ลมแรงขึ้นเรื่อย ๆ ฝนคงจะเทลงมาอีกในไม่ช้า
อากาศเริ่มเย็นลง
เราหันหลังกลับมา
ให้ทุกสิ่งทุกอย่างได้ดำเนินต่อไป
คลื่นลม คงซัดและพัดสู่ฝั่ง
ดวงตะวันจะตื่นจากหลับใหล



หวังไว้ว่า
ถ้าปาฏิหาริย์มีจริง
ฉันจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง
เพื่อ say yes กับคนบนย่อหน้าแรก

ถ้าปาฏิหาริย์มีจริง......




 

Create Date : 21 พฤศจิกายน 2550   
Last Update : 4 ธันวาคม 2550 11:59:25 น.   
Counter : 482 Pageviews.  

2007 ~ Sep : เขาใหญ่,,,,,ในหมอกฝน



Trip รี ๆ ขวาง ๆ
ที่คุณบอสขามามาดใหม่ จะประชุมงานทั้งที
เปลี่ยนบรรยากาศกันหน่อยเหอะ
ว่าแล้วก็เอา voucher สักภูเดือนมาล่อน้อง ๆ
มีบ้านฟรี 3 หลัง คงตีแปลงกันสบายพุงแน่ ๆ
จริง ๆ โรงแรมเค้าอยู่แค่หัวแม่เท้าของเขาใหญ่เองแหละ
แต่วิวสวยมาก สงบเงียบและส่วนตัวดี



แวะเที่ยวไร่ไร้นาม องุ่นกำลังผลิใบอ่อนแสนสวย ที่เจ้าของใจดีมาก ๆ
ปล่อยพวกเราโหวกเหวก ทำลิงทำค่างตามสบาย ไม่รู้กลับมาองุ่นเค้าเฉาตายหมดรึป่าว







จับน้อง ๆ มาพอตเทรต แต่ละคน Super Model เจง ๆ
นี่ขนาดออกตัวว่าไม่ช้อบ ไม่ชอบถ่ายรูปเลยค่ะเจ๊



น้ำตกเจ็ดสาวน้อย เป็นน้ำ (เก๊กฮวย) ตกแน่นอน เพราะน้ำเหลืองอ๋อย
น้ำเยอะพอดี ๆ มีคนเล่นอยู่ประปราย ว่าแล้ว 5 นาทีถัดมา แดดก็หุบ ฝนเทลงมาเร็วจนน่าตกใจ มิน่า เวลาน้ำหลาก คนเที่ยวน้ำตกหนีไม่ค่อยจะทันกัน



แวะอุโมงค์ต้นไม้ เนินพิศวง แล้วกลับเข้ารีสอร์ท
คุณบอสขาจะตามมาสมทบตอนข้าวเย็น
หลับรอไปเลยยยย



ประชุมเสร็จก็ดึกดื่น คืนนี้ทุกคนได้คุยกันแบบเปิดหมวก
เจ้านายที่เห็นทุกวัน ขรึม ๆ
วันนี้เป็นรุ่นพี่ที่คอยตักกับข้าวและเติมน้ำแข็ง
สั่งอาหาร และ ปัดยุง
น่ารักกว่านี้ มีอีกไหม?

บอกลาสักภูเดือนหลังเบรกฟาสต์ (ฟัด)
ขับตามกันขึ้นเขาใหญ่ วัดใจน้องดีที่แหม็ก
สบาย ๆ วิวสวย และเขียวสด
เสียดายไม่ได้เป็นผู้โดยสาร เราจึงผ่านวิวว้าว ๆ หลายอันโดยไม่ได้จอดแวะ



น้ำตกเหวสุวัต น้ำเยอะ แรง เย็นเฉียบ น่าเอาเบียร์ลงไปจุ่มซักโหลสองโหล
ดูเหมือน 2 ใน 4 ของนายแบบจะรู้ตัวว่าโดนปาปารัซซี่ เหอ ๆ



ปาปารัซซี่อีกรูป คุณบอสขา และ คุณบอส'ส wife



แวะสนาม ATV ที่ไม่ได้เล่น
แล้วก็ซื้อของฝากกลับบ้าน
จากนั้นก็ตัวครายตัวมันละ
ขอบคุณคุณบอสขามา ณ ที่นี้นะค้า




 

Create Date : 19 ตุลาคม 2550   
Last Update : 19 ตุลาคม 2550 15:25:40 น.   
Counter : 604 Pageviews.  

2007 ~ Sep : Ayuthaya เที่ยวใกล้ ๆ ไปเรื่อย ๆ



เที่ยวใกล้ ๆ ไปเรื่อย ๆ
ในวันตื่นสาย
ตามไปสมทบพี่น้องเมรีที่บางบัวทอง กระโดดขึ้นแจซซี่ดีของพี่ใหญ่ วันนี้เราจะไปตะลุยกรุงเก่าของเราแต่ก่อน ชะเอิงเงย.....



แวะที่แรก วัดนิเวศธรรมประวัติ ด้วยลิฟท์ชักรอก หวิวพอประมาณ ข้างล่างเป็นน้ำ ข้างบนเป็นฟ้า

วัดพุทธ สไตล์โกธิค กระจกสีสวยมลังเมลือง



ดอกชมพูพวง สวยเหมือนดวงดาวน้อย ๆ



ข้ามกลับมา พระราชวังบางปะอิน
ครั้งสุดท้ายที่นี่ เกือบสองปีเห็นจะได้ กับการลองใจตัวเอง



สถาปัตยกรรมที่งดงาม เหนือกาลเวลา เปี่ยมล้นด้วยความเป็นไทย
ผสมผสานตะวันออก ตะวันตก ไว้อย่างกลมกลืน



เพลิดเพลินอยู่เนิ่นนาน การเช่ารถกอล์ฟขับกันเองนี่ไม่เลวเลย
แถมเรายังทั้งบังคับ ขู่เข็ญ และขอร้องให้พี่สาวบ้านนกกางเขนทำหน้าที่สารถีจำเป็น เพื่อหัดรถไปในตัวได้อีก สนุกกันใหญ่ และเราก็พากันวนซะอีกรอบจนครบคน



ลายกระเบื้องอาร์ตนูโว (รึป่ะ) สวยโบ ๆ ชอบจัง



เล็บมือนางย้อนแสง ดอกเดียวที่ยอมเป็นแบบนิ่ง ๆ



บานบุรีที่อยู่ในกรง ช้านจะช่วยเทอยังงัยยย...



หัวใจทอดยอด กับเก๋งจีน



ท้องฟ้า หมู่เมฆ ไม่เคยหนีกล้องพ้นเลย



กระต่าย (หมายจันทร์) ไม่รู้ว่าพวกมันอยู่ตรงนี้มาเป็นร้อยปีจริง ๆ ไม๊
คงเหงาพิลึก





ไปตลาดโก้งโค้งกันต่อ
แดดบ่ายร้อนแรง ตลาดใกล้วาย



แอบถ่ายลีลาวดี



ข้าวเย็นริมน้ำ "ครัวย่าบัว" recommend โดยเฮียแก่ กรุงเก่า หนุ่มฮ็อตห้อง BP
ไม่ผิดหวังเลย กับข้าวอร่อยมาก ๆ จ้า





ดูกุ้ง.....
มันล็อบสเตอร์ชัด ๆ !!!!!!!!!!!!!!!

กลับกอทอมอ อย่างอิ่มท้อง และปลาบปลื้มใจได้ทำบุญร่วมกันอีก
สังหรณ์ว่าจะต้องมาล้างตากันเร็ว ๆ นี้
ที่พลาดร้านกุ๊กแก่ และตามล่าหินพระจันทร์ปราสาทนครหลวง
จบอีกหนึ่งวัน
กับการเที่ยวใกล้ ๆ
ได้อาร์ซีกลับบ้านเพียบเลย




 

Create Date : 06 กันยายน 2550   
Last Update : 18 ตุลาคม 2550 2:50:12 น.   
Counter : 1428 Pageviews.  

2007 ~ Aug : HuaHin พาหัวใจไปพักร้อน



ถ้าคุยกับหัวใจตัวเองได้เหมือนเพื่อนสนิทกัน
วันนี้ถามว่า "อยากไปไหน?"
หัวใจดวงเดิม ก็คงตอบ (เหมือนเดิม) "อยากไปทะเล"



เรานัดกันแล้ว นัดกันอีก
แผนแบบไม่มีแผน
กรุงเทพฯ ~ หัวหิน
ตลาดโต้รุ่ง
ร้านเค้กในตำนาน
ซีฟู้ดในตำนาน
ตะโก้ในตำนาน
พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
ประทับ Passport ทุกอุทยาน ถ้าจะมีให้ผ่านระหว่างทาง

ทุกอย่างถูกบรรจุอยู่ในโปรแกรมตะลอนทัวร์
จนนึกภาพไม่ออกเลยว่า เราจะทำมันทั้งหมดยังไง
น้องรักเรียกภารกิจนี้ว่า
มัน "ทรมานบันเทิง" ชัด ชัด



ฝ่าสายฝนออกจากกรุงเทพฯ ถึงหัวหินก็เป็นวันใหม่



อาหารเช้า ยามสาย ที่ชายทะเล
ไอเค็ม ๆ อุ่น ๆ ล่องลอย เล็มผิวอยู่ไม่วาย
ฉันไม่อยากรู้รสของที่กินเลยซักนิด
คิดถึงเธอ



ฤดูร้อนผ่านไปนานแล้ว
ฝนก็ตกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ผ่านไปจนใกล้สิ้นปี

เธอได้มาเยี่ยมทะเลบ้างหรือเปล่า??





เกือบจะนึกถึงเนื้อเพลง 'Barefoot On The Beach'
แล้วสมมติว่าเบื้องหน้าคือ มหาสมุทรแปซิฟิคของ Michael Frank ซะแล้วสิ
แต่เนื้อหามันก็เซ็กซี่เกินไป
ถึงฟ้าจะไม่ฟ้าอย่างที่หวัง
และน้ำไม่ใส เป็นสีเทอร์คว้อยซ์อย่างที่ชอบ
ก็ยังจะรักหัวหิน
รักไอแดดที่นี่
และได้ส่งความห่วงใยไปให้เธอ
จากส่วนที่ลึกสุดหัวใจ



ได้คิดถึงเธอ
ไม่ว่าอยู่ที่ไหน
ก็มองดาวสวย
ท้องฟ้า กว้างเท่าที่ใจเอื้อมถึง
ผืนดิน อบอุ่นเท่าที่ย่างเท้าทอดเหยียบ
ทุกสิ่งทุกอย่าง ช่างมีชีวิตชีวา

คิดถึงเธอครั้งใด
ไม่เคยเหงาเลย









ไม่เคยนึกสงสัยเลย
ทำไมรู้สึกตัวตลอดเวลาว่า "คลั่ง" รัก
ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต
ผูกพันเอาไว้กับใครคนหนึ่ง
ไม่เคยเปลี่ยนแปร
ไม่เคยน้อยลง
และมันจะคงอยู่
ตราบเท่าที่ใจนี้รู้แล้วอย่างลึกซึ้ง
ถึงเหตุผลที่พระเจ้าสร้างพระจันทร์ และหมู่ดาว
และสร้าง "เธอ" มาให้ฉันรัก



ในวันที่เห็นเธอด้วยใจ
.....มากกว่าสายตา




 

Create Date : 31 สิงหาคม 2550   
Last Update : 31 สิงหาคม 2550 18:36:56 น.   
Counter : 384 Pageviews.  

1  2  3  4  

i_lllive
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add i_lllive's blog to your web]