เกาหลีในสายตาผมกับ blog บ้าน ๆ

1st Step in South Korea Part I

เหมือนโชคชะตาจะถูกกลั่่นแกล้ง ให้ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ 1 ปีแบบไม่ทันตั้งตัว เพราะอยู่ดี ๆ หัวหน้าก็เรียกเข้าไปคุย ว่าจะส่งไปอยู่เกาหลีใต้ 1 ปีสนใจมั้ยไอ้เราก็ตอบแบบไม่ต้อง ผ่านสมองเลย ไปครับ โอกาสดี ๆ แบบนี้ไม่คาบไว้ก็เสียดายแย่เลยดิ

ถ้าถามว่าหวั่นใจมั้ยกับการต้องไปอยู่เกาหลี 1 ปี ไม่เลยทั้งที่เป็น ครั้งแรกในชีวิตที่ต้องจากบ้านมานานและไกลขนาดนี้ ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะในสายตาของใครหลาย ๆ คนรวมทั้งตัวเราเอง เกาหลีใต้ เป็นประเทศที่เจริญกว่าเมืองไทยเอามาก ๆ ระบบสาธารณูปโภค พร้อมสรรพ อินเตอร์เนตก็เร็วกว่าบ้านเราหลายเท่าตัว เผลอ ๆ คนที่นี่อาจจะพูดอังกฤษได้ทั้งประเทศเลยก็ได้น่า จะมีชีวิตรอดได้อย่าง ไม่ยากเย็น เฮอะ เฮอะ


เครื่องบินกระแทกรันเวย์พร้อมกับใจลีบ ๆ ดวงเดียวที่เตรียมพร้อมมาผจญชะตากรรมอย่างเต็มที่ ด่านแรกก่อนที่จะเข้าประเทศเค้าได้มันก็ต้องเป็นตม. ที่ร่ำลือกันนักหนาว่าโหดมากมีคนไทยถูก ส่งกลับมาตุภูมิมาแล้วนับไม่ถ้วนระทึก แฮะจะรอดมั้ยเนี่ยตูหน้าตาก็หล่อ แหวกแนว ซะขนาดนี้ ถึงคิวเราแล้วก็ ตุบ ตุบ ตุบ....อ้าวไหงมันผ่านง่ายจัง หรือเพราะเราทำ visa มาแล้วมันก็เลยผ่านไปอย่างง่ายดาย ดีแล้วหล่ะขี้เกียจเข้าห้องเย็นอยู่ แต่ขอโทษในขณะที่เดินออกจากคอก ด้วยสายตาอันเฉียบคม ออกแนวสอดรู้สอดเห็น สอดเป็นสอดตาย เล็กน้อยแค่เพียงหางตาเราก็รู้ได้ว่า มีคนไทยถูกเชิญเข้าไปห้องเย็นอ่ะ น่าสงสารจังไม่รู้จะ ถูกส่งกลับภูมิลำเนาหรือป่าว อยากช่วยนะแต่พอดี สงสารตัวเองมากกว่าอ่ะ แล้วพี่แกหน้าตาก็นะ เฮ้อ วันหลังก็ทำหน้าตาให้มัน ดูดีมีคลาสอย่างผมสิ ผ่านฉลุย ฮิ ฮิ ฮิ

เอาหละออกจาก gate ซะที ไหนดูซิเค้าจะส่งใครมารับเราหว่า นั่นไงเป็นสาวหน้าตาเรียบร้อยแต่ทำไมดูโก๊ะ โก๊ะ พิกลแฮะช่างเถอะรีบขึ้นรถดีกว่าเพราะว่าอากาศหนาวมาก ๆ แค่ 6 องศาเอง อูยหนาวสะใจจริง ๆ หลังจากที่นั่งประจำที่กันแล้ว เราก็ต้องทำการแนะนำตัวกับกลุ่มคนไทยที่มาด้วยกันซะหน่อยเอาแบบพอหอมปากหอมคอ คุยมากไม่ได้เพราะเราเป็นบริษัทคู่แข่งกัน จากนั้นก็นั่งโม้กันอย่างหนุกหนาน และเมามันพร้อมกับวิจารณ์บ้านเมืองเค้าอย่างสนุกปาก (ช่วงที่ผมมาเป็นช่วงที่หิมะเลิกตก ไปแล้วหลาย ๆ คนบอกโชคดีมาก แต่ผมไม่เห็นด้วยเลยเพราะว่าใจผมอยากเห็นหิมะแบบตัวเป็น ๆ เอามาก ๆ แล้วก็ไม่ใช่แบบ ในดรีมเวิลด์นะ ต้องแบบกำลังตกเลยมันถึงจะได้อารมณ์สุด ๆ เฮ้อเซ็งก็เพราะบริษัทข้าง ๆ เนี่ยแหล่ะดันสะเหร่อแค่ส่ง เอกสารทำวีซ่าก็ยังส่งไม่ครบ เลยโดนตีกลับยกล็อตเลย ชิ)โดยที่ไม่ได้นึกเอ๊ะใจอะไรสักนิดกับสิ่งที่จะเกิดต่อจากนี้

ถึงแล้วครับ semi-furnished apartment ตามที่เค้าโม้มา โอ้โฮเฮ้ยทำไมมันใหญ่โตจังดูจากข้างนอกแล้วน่า จะหรูไม่เช่นทีเดียว รีบขนของลงจากรถดีกว่าชักอยากจะเห็นซะแล้วสิว่าสภาพห้องมันจะเป็นไงบ้างตื่นเต้นจริง ๆ เล้ยยยย เอาละแยกย้ายกันเข้าห้องใครห้องมันเลย โอ้โห พระเจ้าช่วยแค่เห็นประตูลมก็แทบจับแถวบ้านตูยังไม่มีแบบนี้เลย ทำไมน่ะเหรอก็ที่ ล็อคประตูอ่ะดิสุดยอดมันเป็นแบบ electronicครับโอ้..........เวลาจะเข้าออกก็สุดแสนไฮโซเดี๋ยวชายจะอธิบายให้ท่านทั้งหลาย ที่ไม่เคยมีประตูแบบนี้ฟังกันนะ จะได้ไม่ไปทำตัวสะเหร่อ ๆ ให้อายชาวบ้านเค้า

1. เลื่อนฝาครอบบริเวณที่เปิดประตูขึ้นด้านบนจนสุดนะ

2. รอไฟกระพริบเป็นสีฟ้า

3. กดรหัสที่เค้าตั้งเอาไว้

4. เลื่อนฝาครอบลงจนสุดเช่นกัน

เท่านี้เราก็จะได้ยินเสียงกลไกของประตูทำการปลดล็อค แล้วเราก็เปิดประตูเข้าไปชื่นชมความงามของห้องกันเลย พระเจ้าช่วย (อีกสักรอบ) มันมีเครื่องซักผ้าให้ด้วยแถมเป็นแบบ Built in อีกต่างหากเอาหล่ะเดินต่อไป เพื่อชื่นชมกับสิ่งอำนวย ความสะดวกที่เค้าจัดมาให้.......................................เอ่อเตียงอ่ะเตียงหายไปไหนอ่ะ แล้วที่นอนล่ะ หมอนอ่ะ ผ้าห่มล่ะเฟ้ย หายหัวไปไหนกันหมดมัน เล่นซ่อนแอบกันอยู่หรือไงวะ ทำไมห้องมันโล่งเช่นนี้โอ้แม่เจ้าไม่มีไรให้เลยโอเคไม่เป็นไรมองหาทีวีดีกว่า เอ่อ.....มันก็ไม่มี ให้เหมือนกันว่ะ โทรศัพท์ล่ะ ม่ายมีอินเตอร์เน็ตล่ะ ยิ่งไม่ต้องคิดเลย ฮือ ฮือ ฮือ แล้วคืนนี้ตูจะอยู่ยังไงเนี่ยความซวยเริ่มครอบงำซะแล้วดิ ถึงว่าทำไมคุณพี่ท่านให้เงินค่าที่นอนหมอนมุ้งมาตั้ง 2 ล้านวอน โอ้มารู้ก็วันนี้นี่เอง

เซ็งสำรวจห้องดีกว่า เฮ้ยมีตู้เย็นแบบ built in ให้ด้วยเตาแก๊สก็มีมาให้ อ่างล้างจาน แถมมีห้องกิน ข้าวให้ด้วยแล้ว ตูจะกินยังง๊ายยยยโต๊ะกินข้าวก็ไม่ให้มา เฮ้อน้ำตาแทบเล็ดแต่ไม่เป็นไรคาดว่าเค้าคงพาเราไปซื้อที่นอนหมอนมุ้งแหล่ะ เอาล่ะได้ เวลานัดแล้ว เพราะว่าเค้าจะพาเราไปกินข้าวเที่ยงกัน ตื่นเต้นจริง ๆ เลยอาหารเกาหลีมื้อแรกของเราหน้าตาจะเป็นยังไงหว่า โอ้โฮเฮ้ย พี่แกเล่นพามากินในห้างเลยเหรอ ไม่ต้องเป็นภัตตาคารหรูหราก็ได้เราเกรงใจ๊ เกรงใจแบบสุด ๆ แต่ขอเป็นอาหาร จักรพรรดิแล้ว กัน.................................. อ้าว เอ๊ะ อ๊ะ ทำไมพี่เล่นพาเรามากินที่ food court ล่ะ อันนี้มันแบบว่านะ เอ่อ ยังไงดีล่ะ เอ่อ บรรยายไม่ถูกเหมือนกันแฮะเรา สงสัยพี่แกจะรู้ว่าเกรงใจก็เลยจัดให้ซะแบบชาวบ้านเชียว(เซ็ง) เอาเหอะยังไงเค้าก็เลี้ยง อะไรก็อร่อยไปหมดเมื่อมันเป็นของฟรี เอ้ากินเข้าไปซะจะได้ให้เค้าพาไปซื้อเครื่องนอน

อิ่มแล้ว ไปซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีพในคืนแรกก่อนดีกว่า นำไปเลยครับไปซื้อที่ไหนดีล่ะ ห้างนี้เหรอ แต่ดูมันจะแพงไปหน่อยนะ ไม่มีร้านแบบชาวบ้าน ๆ บ้างเหรอพอดีว่ามาที่เกาหลีแล้ว ก็อยากจะถือโอกาสทำตัวติดดินแบบ ที่สามัญชนก็เป็นกันบ้างอ่ะ เค้าก็แนะนำว่าเนี่ยเวลาจะมาซื้ออะไรก็มาที่ห้างนี้ได้นะมีให้ทุกอย่างแล้วก็พาเดินออกไป อ้าว...... ไม่ไปซื้อกันเหรอแล้วจะพาตูไปไหนเนี่ย อ๋อพาไปดูว่าเวลาเดินทางไปทำงานที่บริษัทเนี่ยต้องไปขึ้นรถสถานีไหน อันนี้เค้าดีมากเลยนะ อุตส่าห์แนะนำวิธีการซื้อบัตรรถไฟ วิธีการใช้เครื่องสแกนบัตร มันต้องทำอย่างนี้นะโอ้โหอธิบายเป็นฉาก ๆ เลย เห็นเราเป็นกะเหรี่ยง เข้ากรุงเหรอไงเฮอะ ไอ้แบบเนี้ยะที่บ้านตูก็มี ไฮเทคกว่าของเอ็งด้วย ชิ หนอย อารมณ์เสีย เมื่ออธิบายขั้นตอนการใช้รถไฟใต้ดิน แล้วเค้าก็ขอตัวกลับบ้านอย่างทันท่วงทีเพราะหมดหน้าที่ของเค้าแล้ว อ้าว อ้าว อ้าว แล้วเครื่องนอนตูล่ะจะให้ไปซื้อที่ไหนอ่ะ ไอ้ห้างเมื้อกี๊นี้เหรอแล้วแบบว่าไม่คิดจะไปช่วยเจรจากันคนขายอะไรหน่อยเหรอ หรือแนะนำอะไรซักนิดก็ยังดี อืม ดีจิง ๆ คนประเทศนี้ take care ตูดีมากกกกกกก น้ำตาแทบปลิ้น
ชีวิตของเรา ก็ต้องยืนด้วยลำแข้งตัวเอง


Create Date : 13 สิงหาคม 2551
Last Update : 13 สิงหาคม 2551 20:16:54 น. 2 comments
Counter : 397 Pageviews.  

 
ตลกดีค่ะ ยังไงก็มาอัพบ่อยๆ ด้วยนะคะชอบ


โดย: Vi IP: 60.40.249.171 วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:22:43:50 น.  

 
ฮ่ะๆๆๆๆ อ่านไปอ่านชัก งง ๆ สรุป เค้ามีน้ำใจหรือไม่มีเนี้ย แล้วได้นอนหรือยังค่ะ ฮ่ะๆๆๆๆๆ


โดย: wayoflife วันที่: 31 สิงหาคม 2551 เวลา:21:39:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เด็กปูน
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add เด็กปูน's blog to your web]