Bloggang.com : ICONbook

Ueno

สรุปนะคะ

=แลกเงินไป 96,000 เยน เหลือ กลับมา 37,000 เยน ไม่รวมเหรียญจ้า ส่วนใหญ่หมดไปกับการกินกับช็อปปิ้ง และ ค่ารถ+ไกด์วันอิสระอีก 12,000 เยน (คนละ 6,000 เยน)
= การไปกับทัวร์ ข้อดีคือ มีรถรับส่ง ข้อเสีย คือ ให้เวลาน้อย ได้เดินดูของแบบผ่านๆ เดินเข้าไปในร้านต่างๆไม่ได้ เพราะเวลาจำกัด
=วันอิสระ เนื่องจากที่พักไกลจากตัวเมืองมาก การเดินทางโดยรถสาธณะ ไม่สะดวก ทำให้ต้องไปกับไกด์ซึ่งต้องจ่ายค่ารถ+ค่าไกด์ เพิ่มอีกคนละ 6,000 เยน (2 คน โดนไป 12,000 เยน)

ต่อจาก part 1 แล้ว หลังจากเราได้เห็นฟูจิซัง จากหน้าต่างโรงแรมแล้ว ความคาดหวังว่าจะเห็น ฟูจิซังแบบชัดๆ ที่ลานสกี

ใช้เวลาเดินทางไม่นานก้อถึงลานสกี Fujiten Snow Resort

ด้านหน้าลานสกี คนเยอะไม่ใช้เล่นนะเนี้ย

เข้ามาด้านใน บริเวณนี้สามารถเดิน ถ่ายรูปเล่นได้ (ยังไม่ได้ใช้ตั๋วผ่านเข้าเล่น)

สิ่งที่เราสงสัย คือ ไหน "ฟูจิซัง "

เรา เลยถามพี่ไกด์ว่า ไหนค่ะ "ฟูจิซัง"
พี่ไกด์ตอบว่า ด้านหลังลานสกี จะเป็นภูเขาไฟฟูจิ แต่วันนี้ ฟูจิซัง ยังไม่ออกโชว์ตัว รอสายๆเผื่อจะเห็น
เรา "ว่าแล้วไง ไม่เจอ อีกแล้ว เศร้ามากมาย"

ได้ตั๋วเข้าเล่น ถาดเลือน

โชว์ตั๋ว แล้วเดินเข้ามาด้านใน ด้านล่าง จะเป็นลานเล่นถาดเลื่อนของเด็กค่ะ ลานของผู้ใหญ่ต้องเดินขั้น

สิ่งนี้ที่ดิฉันเรียกว่า "ถาดเลื่อน"

หยิบคนละ 1 อัน แล้วไปเล๋นกันเลย

เราไม่ต้องเดินขึ้นให้เสียเวลา เขามีทางเลื่อนๆ พาเราไปด้านบน

จะมีเจ้าหน้าที่คอยบอกให้เราขึ้นตอนไหน คงกระจายน้ำหนักให้ทางเลื่อนไม่รัยน้ำหนักมากเกินไป

รู้สึดตื่นเต้นเล็กน้อย แต่ไหนๆก้อได้มาแหละ ต้องเล่น

เขาจะให้เลื่อนลงมาครั้งละ 4 คน

ต้องระวังชนกัน วิธีเบรกง่ายแสนง่าย ก้อเอาเท้าลากไปกับพื้น มันก้อจะหยุด
:
พร้อมแล้วคะ

ลงมาเลย สนุกดี

อันที่จริงแล้วให้คุณสามีเล่นก่อน เรารอถ่ายรูปให้เธอกลัวไม่มีคนถ่ายรูปให้

รอบนี้โอ๊คชนะโอ

รอบที่ 2 ของ 2 หนุ่ม

โอชนะ แซวกันไม่เลิก

:
เล่นกันจนพอใจ ไปเดินถ่ายรูปแล้วไปหาของที่ระลึกกัน

หิมะขาวโพน ถ้าหลานชาย มาเห็น คือ จะดีใจหนักมาก

คนญี่ปุ่นมาเล่นเยอะมาก โดยเฉพาะเด็กๆ

ฝีมือการเล่นไม่ธรรมดากันทุกคน

ลานตรงโน้นที่เราไปเล่นกันเมื่อกี่

เห็นจอดอยู่ขอนั้งถ่ายรุปสักนิด

โบชั่วลานสกี มีภาษาไทยด้วยนะ+

แผนผังลานสกี Fufi Ten

เวลา 30 นาที ช่างน้อยนิดสำหรับที่นี้ เราต้องไปต่อแล้ว
:
ที่ที่เราเดินทางไปต่อคือ ร้านอาหาร สิ่งพิเศษของมื้อนี้คือ หมูย่างบนหินภูเขาไฟ บอกอย่งไม่อายว่า มันอร่อยกว่าหมูย่างธรรมดาไหม "ไม่รู้ เราแยกไม่ออกคะ"

เป็นร้านเล็กๆ ห้องด้านหน้ามีคนญี่ปุ่นนั้งทานอยู่

ส่วนเรานั้งได้ห้องด้านใน นั้งพื้นสไตล์ญี่ปุ่น แถมีแดดอ่อนๆ ได้ธรรยากาศมาก

เราจะได้หมูคนละจาน ดูเหมือนเยอะ แต่พอเอาไปย่างหดเหลือนิดเดี๋ยว แบบว่านู๋อ้วนไง

ออกจากร้านข้าวกดตู้ไอติมกินต่อ มีความสุขกับการกินมากมาย

ไอติมรสมินต์+ช๊อกแลตชิพ แท่งละ 200 Y อร่อย เราชอบ

หมดแบบรวดเร็ว

ไปต่อกันเลย คราวนี้ต้องนั้งรถยาวๆเข้าเมืองกันแล้ว นั้งรถออกมาไม่นานเจอ Fuji-Q HIGHLAND

แสดงว่า ลานสกี Fujiten อยู่ไม่ใกล้กับ Kawaguchiko

ใช้เวลานั้งรถประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เราก้อเดินทางมาถึง SHINJUKU

แผนที่แหลงช็อปปิ๊งย่าน SHINJUKU

ส่วนแผนที่นี้คือแผนที่ที่เราเดิน ได้แค่เดินผ่านๆ เพราะว่าเรามีเวลาเดินเพียง 3 ชั่วโมง

รถจอดให้เราลงใกล้ๆกับ Don Quijote (ดองกี้) ใกล้ๆกับตึกก็อตซิล่า

คุยกันว่ายังไม่เดินเข้า ดองกี้ ไว้เข้าใกล้ๆถึงเวลานัด จะได้ไม่ต้องถือของหนัด
:
ตั้งใจเดินไปร้าน Big camera เดินร้านสตอเบอร์รี่ลูกโต 2 แพ็ค 1200 เยน ถูกกว่าที่เราซื้อมาจากเกาหลีเยอะ จัดไปชิมคนละแพ๊ค
:
เดินต่อไปร้าน big camera หลายคนดูนาฬิกา แต่เราไม่ได้ดูเลยขอเดินต่อไป
:
เพื่อจะไปดูของน่ารักๆ ที่ MuJi แต่เดินไปเจอร้าน UnQuo ร้านใหญ่มาก Sale ด้วย เข้าไปดูด้านในกันเลย ยูนิโคล 6 ชั้น ชั้น 7 เป็น GU ขึ้นไปดู Gu ก่อน แล้วค่อยไล่ลงมาถ้ามีเวลา สุดท้ายไม่ได้ดูชั้นอื่นเพราะกลัวคนอื่นรอ

เดินออกจาก GU , uniqlo เดินไปทาง อิเซตัน (ไม่ได้เดินเข้าเลย เดินผ่านอย่างเดี๋ยว) นัดสาวๆ ไว้ที่ดองกี้ พอถึงดองกี้ก้อพากันเข้าดองกี้ แต่เรายังไม่ซื้อ แอบขี้เกียจ เลยออกมาหาอะไรกินรอ
:
ร้านนี้เลย

คนญี่ปุ่นนั้งกินเยอะดี สามีบอกว่ากินร้านนี้แหละ อยู่หน้าตึกก็อตซิล่าเลย

หน้าร้าน

เราสั่งกันคนละ เซต เพราะคิดว่า เดี๋ยวเพื่อนๆก้อคงช่วนกินมื้อเย็น
:
Salmon Family ของเรา

ส่วน Tuna set นี้ของคุณสามี

ได้มาแล้ว กิน กิน

กินเสร็จ เพื่อนๆ ช็อปเสร็จพอดีเลย
:
และอย่างที่กล่าวไว้ เพื่อนๆ ช่วนกินข้าว
เพื่อนที่ไปด้วยบอกว่า ไกด์บอกว่า ใต้ตึกก็อตซิล่า มีศูนย์อาหาร เข้าไปหาอะไรกินได้ที่นั้น ปะกันเลย

เดินตามป้ายจ้า

ไม่รู้จะกินอะไร เพื่อนเราเลือกร้านนี้

บรรยากาศบอกเลยว่า ถ้ามากัน 2 คน คงไม่เข้าร้านนี้ เพราะมีลูกค้า 2 คน

เป็นร้านอูดงคะ กิน อะไรกันดี
:
วิธีการสั้ง สั้งที่เคาเตอร์สั้งอาหาร จ่ายเงิน รับหมายเลขออเดอร์ แล้วก้อรอเรียกรับอาหาร

ชามนี้ของคุณสามี

ส่วนไก่ทอดจานนี้ของเรา เสียใจที่สุด ไก่ 2 ชิ้นเล็ก ราคา 400 เยน แพงมาก น้ำตาจะไหล ในรูปมันชิ้นใหญ่มาก

กินเสร็จถึงเวลานัด เดินทางไปโรงแรม

ใช้เวลาเดินทางไปโรงแรม 1 ชั่วโมงโดยประมาณ
:

NARITA EXCEL HOTEL TOKYO

NEXT PART 3 ------->

เตรียมพร้อมเดินทาง

บริษัททัวร์นัด 2 ทุ่ม พอถึงเวลานัด เจอกันที่เคาร์เตอร์แอร์เอเชีย บอกเลยว่าคนเยอะมาก
:
คนไทยหลงรักญี่ปุ่นเยอะมาก เราก้อเช่นกัน
:
บริษัททัวร์ปรินซ์ใบเช็คอินมาให้แล้ว แต่ดันเช็กอินให้เรากับสามีนั้งห่างกัน (นามสกุลเดี๋ยวกัน) ปกติไปกี่ครั้งไม่เคยได้แยกกัน คนเช็คอินไม่ยอมเช็ก วัยรุ่นแอบเซ็ง

แอร์เอเชีย แปะมากเรื่องน้ำหนักค่ะ
:
โดยส่วนตัวไม่มีปัญหาเรื่องน้ำหนัก ทางสายการบิน กำหนดเท่าให้ก้อทำตามนั้น
รอบนี้ โหลดกระเป๋าได้คนละ 20 กิโล เรากับสามี 2 คนใช้กระเป๋าใบเดี๋ยว 20 กิโล สบายๆ
แอบกลัว JAPAN จะไม่ให้เข้าประเทศ เอากระเป๋าไปน้อย 5555

เช็คอินเสร็จ ผ่านตม.เข้าไปนั้งรอใน GATE

ลำนี้คะที่จะพาเราไปท่องโลกในครั้งนี้

หน้าตาสมาชิกรอบนี้จ้า

ถึงเวลา ขึ้นเครื่อง หลับเลยคะ ทางสายการบินเขาจะเสริฟอาหารใกล้ๆถึงโตเกียว หลับพักผ่อนเอาแรกกันเลยคะ
:
ใกล้ถึงแล้ว อาหารที่เสริฟเป็น สปาเก็ตติ้หมู กับน้ำดื่ม 1 ขวด

อรุณสว้สดิ์ ท้องฟ้าสดใส ยามเช้า

นักบินประกาศว่า เราเดินทางมาถึง สนามบินนาริตะ ก่อนเวลา 1 ชัวโมง แอบงงว่า ขับยังไงถึงก่อนเวลาตั้ง 1 ชั่วโมง

รีบทำเวลาคะ คนเยอะมาก คาดว่าคิว พบคุณตม.คงยาวมาก
:
ผ่าน ตม. แล้ว รับกระเป๋า พี่ไกด์ให้ไปเปลี่ยนชุด ล่างหน้า แปรงฟัน

พี่โอ "ไกด์ของเรา"

ที่แรกที่เราเดินทางมาคือ
วัดอาซากุซะ หรือวัดโคมแดง (Asakusa Kannon Temple) แต่คนญี่ปุ่น เรียกกันว่า เซนโซจิ (Sensouji : 浅草寺)
:

ดอกซากูระเริ่มเห็นเป็นดอก เราต้องหาโอกาศมาตอนซากูระบานบ้าง

รอบนี้เราโผล่มาด้านข้าง ศาลเจ้าด้านในเลย

ถ่ายรูปหมู่กันก่อน ตามสไตล์ไปกับทัวร์ ถ่ายรูปเสร็จ นัดแนะเวลาที่ต้องกลับมาเจอกัน

สาวๆ มัธยม สามีชอบ

ก่อนเข้าไปด้านในศาลเจ้า มักจะมีบ่อน้ำ ตั้งไว้ด้านหน้า สำรับให้ผู้คนที่จะเข้าวัดหรือศาลเจ้าได้ล้างชำระสิ่งสกปรกก่อนเขาไปในศาลเจ้า

วิธีการชำระตามธรรมเนียมของชาวญี่ปุ่น ใช้มือซ้ายจับ กระบวยตักน้ำที่ไหนจากมังกร (ไม่ตักจากบ่อนะจ๊ะ) เพื่อล้างมือขวา จากนั้นแปลี่ยนมาใช้มือขวาตักกระบวยเพื่อล้างมือซ้าย ใช้มือรองน้พที่เกลือจากกระบวยล้างปาก (อย่าเอาปากสัมผัสกระบวยนะจ๊ะ) ถือกระบวยตั้งขึ้นแล้วให้น้ำที่ยังเหลือไหลงลงมา เพื่อล้างด้ามจับเป็นอันเสร็จจ้า

เมื่อเดินต่อไปอีกนิด จะเห็นกระถางธูปขนาดใหญ่อยู่กลางแจ้ง เชื้อกันว่า "ถ้าได้รับควันจากกระถางธูปนี้ติดตัวมาจะมีความโชคดี " ถึงว่าเห็นคนไปยืนรอบกระถาง กวักเอาควันธูปเข้าตัวเต็มพื้นที่กระถางธูปเลย หนึ่งในนี้นก้อ คือคุณสามีดีฉันเอง

โคมแดงหน้าศาลเจ้า โดมแดงที่นี้มีด้วยกัน 2 อัน โคมแดงอันนี้ถือว่าใหญ่ที่สุด

คิวยาวมาก

ก่อนเข้าไปด้านใน ถ่ายภาพกันก่อน

เมื่อเข้ามาด้านใน ด้านซ้ายมือจะมีเครื่องรางของขลังจำหน่าย

ไม่รู้ความหมาย เลยไม่ได้ซื้อมา

ตรงกลาง จะมีเซียมซี่แบบญี่ปุ่นให้เราได้เสียงทาย ได้ใบความหมายดู เอากลับบ้านด้วยดีกว่า
:
ตรงที่เสียงเซียมซี่้ด้านใน เป็นที่ประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิม ไหว้/โยนเหรียญเสร็จแล้ว ออกไปด้านนอกกัน

ถ้าเสี่ยงเซียมซีแล้วได้ใบไม่ดี ก้อเอามาผูกไว้แบบนี้

เดินออกมาด้านนอก เราจะมองเห็น ซุ้มประตูใหญอีกซุ้ม(มีทั้งหมด 3 ซุ้มประตู) ซึ่งก้อมีโคมแดงอีกอันแขวนอยู่
:
นักท่องเที่ยวเยอะมาก

ด้านหลังที่เราเห็น จะมีรองเท้าเชือกสานแบบโบราณขนาดใหญ่แขวนอยู่เพื่อข่มขู้ส่งชั่วร้าย
ส่วน ด้านหน้าซ้าย-ขวา มีเทพทวารบาลคอยขับไล้สิ่งชั่วร้าย

แผนที่วัดอาซากุซะ

มาเดินหาของกิน ถนน นากามิเสะ(Nakamise: 仲見世 ถนนที่มีของกินและของที่ระลึกเยอะมาก)
:
โมจิทอกสอดไส้ ร้าน Kokonoe คนต่อคิวยาวมาก มันคือ ขนมมันจูทอด สอดไส้ต่างๆ เราเลือก ออริจินอล คือไส้ถั่วแดง

ด้านใน อร่อย

เดินวนไป วนมา ถ่ายรูป ถนน Nakamise: 仲見世

ของที่ระลึกเยอะมาก

มี toilets information map บอกด้วย

เจดีย์ 5 ชั้น ปิดปรับปรุงพอดี

ถึงเวลานัด ไปกินอาหารกลางวันกัน ร้านอาหารอยู่ใกล้ๆวัด ค่ะ เดินผ่านเจดีย์ 5 ชั้น ออกนอกวัดเดินไปตรงดองกิ้

มื้อแรกที่นี้ เป็นปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น

มีให้เลือกหลายอย่างเลย

กินแล้วนะคะ

การวิ่งเที่ยวที่แรก

เมื่ออิ่มแล้วเตรียมเดินทางไปต่อ ที่ ใขเวลาเดินทางประมาณชั่วโมงกว่าๆ

โอ๊ค&ลูกนก ชวนท่องโลก ฉบับเดือนแห่งความรัก กุมภาพันธ์ 2017 ที่ที่เราจะเดินทางไปในครั้งนี้คือ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

แต่ครั้งนี้เป็นการไปเที่ยวโตเกียวแบบไม่ได้ตั้งใจไป เหตุผลเพราะว่าจริงๆแล้วเราตั้งใจไป Hokkaido ไปตามรอยภาพยนต์เรื่อง FAN DAY ช่วงวันที่19-23 Feb 2017 แต่ปรากฏเกิดความผิดพลาดของบริษัททัวร์ สายการบินยกเลิกไฟท์ เพื่อนที่ไปด้วยกันเลยเปลี่ยนโปรแกรมให้ไปโตเกียว 23-27 Feb 2017 แทน
:
เราไปเที่ยวญี่ปุ่นมาแล้ว 2 ทริป และ 2 ทริปก่อนหน้านี้ที่เรามาที่ญี่ปุ่นเป็นการเดินทางมาด้วยตัวเอง ซึ่งเราคิดเสมอว่า ญุี่ปุ่นเราสามารถมาเที่ยวเองได้โดยไม่ง้อทัวร์ ครั้งนี้ก้อเลยรู้สึกแปลกว่าทำไม่เราต้องไปกับทัวร์ แต่ก้อไม่เป็รไรคะ เพราะเรา2 คนหลงรักประเทศญี่ปุ่น ยังไงเราก้อไปคะ
ครั้งนี้เลยถือเป็นทริบตกกระไดพลอยโจร ต้องมาเที่ยวญี่ปุ่นแบบมากับทัวร์
มาดูโปรแกรมที่บริษัททัวร์จัดมาให้กัน

สรุปโปรแกรมคร่าวๆ กัน
================================================

23 Feb 2017 (DAy1)

Don Mueang Airport----Narita Airport
Flight JX600 by AIR ASIA X
20.00 อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่าประเทศ ชั้น 3 เคาน์เตอร์สายการบิน AIR ASIA X
23.45 ออกเดินทางสู่ Tokyo JAPAN

24 Feb 2017 (Day2)

8.00 เดินทางถึง NaRita Airport
:
วัดอาซากุซะ
:
ภายภาพกับ หอคอย Tokyo Sky Tree
:
12.00 รับประทานอาหารกลางวัน บุฟเฟต์ปิ่งย่าง
:
หุบเขาโอวาคุดานิ
:
ค่ำ เช็คอินที่โรงแรม FUJI AREA
:
Dinner manu crab buffet at The HOtel Restaurant
:
onsen

25 Feb 2017 (DAy3)

eat breakfast at Hotel
:
เดินทางสู่ Fujiten Snow Resort
:
รับประทานอาหารกลางวัน หมูย่างหินภูเขาไฟ
:
ช็อปปิงย่านชินจุกุ
:
มื้อค่ำอิสระ
:
check in at Narita excel hotel หรือ SML

26 Feb 2017 (DAy4)

eat breakfast at Hotel
:
อิสระ 1 วัน
:
come back at Narita excel hotel หรือ SML

27 Feb 2017 (DAy5)

eat breakfast at Hotel
:
09.15 go to Narita airport by AirAsia X Flight XJ601
:
13.50 come back to Thailand, Don Mueang Airport
:
16.30 come back to KhonKaen

================================================

จากโปรแกรมที่ได้จากทัวร์ หลายที่เราไปมาแล้ว (คงไม่ตื่นเต้นนัก) ,มีวันอิสระ 1 วัน ซึ่งเราไม่รู้ว่าเพื่อนๆ ตั้งใจไปเที่ยวที่ไหนกัน
:
ถ้าเพื่อนๆ ไม่มี โปรแกรม หรือ ถ้าเราสามารถแยกไปได้ เราจะไปดูซากูระบานที่ Miurakaigan, Kanagawa ซึ่ง ช่วงเวลาที่เราโตเกียว เป็นช่วงที่ที่นั้นจักงานมัตสึริ ซากุระของมิอุระคัยกังปี ตั้งแต่ 13/02/2016-13/03/2016 พอดี และดูจากการเดินทางก้อไม่ยาก เพราะอยู่ใกล้ Miurakaigan Station เดินทางสถานี Miurakaigan ประมาณ 10 นาที่ บอกเลยว่าเรายากไปที่นี่มา แต่เราจะได้ไป-ไม่ได้ไปยังไง ติดตามกันดูจ้า

ภาพสวยๆและข้อมูลดีๆจาก //www.marumura.com

ถึงแม้รอบนี้จะเป็นรอบเที่ยวแบบงง งง แต่นี้ก้อคือญี่ปุ่น ประเทศที่เราหลงรัก ไปลองแบบไปกับทัวร์ดูว่าจะเป็นยังไง ค่อยติดตามกันนะคะ

เมื่อเราได้โปรแกรมทัวร์แล้ว เราก้อมาเริ่มเตรียมตัวกันเลยจ้า

สิ่งแรกที่เราดูก่อนเลยคือ อุณหภูมิค่ะ

Heattech

ดูจากอุณหภูมิแล้วน่าคบ อยู่ในช่วง 9-14 องศา สาเหตุที่บอกว่าน่าคบเพราะว่าเมื่อเดือนมกราคม 2017 ที่ผ่านมาไปเที่ยวเกาหลีมาเจอ อุณหภูมิ -16 องศา ถึงกับเข็ด บอกเลยว่าหนาวเกิน
ดูแล้ว อุณภูมิไม่ติดลบ เราก้อโอเค เสื้อขนเป็ด+คอเต๋า หรือ คอเต๋า+Heattech ก้อน่าจะเอาอยู่นะ

เมื่อรู้อากาศคร่าวๆแล้วก้อจัดกระเป๋าได้คร้า

ไปสอยถุงมือแบบที่มีทัชสกรีนได้ ป้ายแดงของยูนิโคลมา ราคาแสนถูก จากประสบการ -16 องศาที่เกาหลี ต้องถอดถุงมือเพื่อถ่ายรูปบอกได้เลยว่าหนาวจนมือแข็ง ครั้งที่เลยไม่พลาดที่จะหาถุงมือแบบที่สามารถทัชสกรีนได้

แยกเสื้อผ้าเรา

กับเสื้อคุณสามี จะได้หาง่ายๆ

แยกชุดข้างในของเรา

กับของคุณสามี

แยก HEATTECH ของทั้ง 2 คน ใส่อีกกระเป๋านึง

อุปกรณสำหรับอาบน้ำ ปกติที่โรงแรมก้อจะมีเตรียวไว้ให้ แต่เอาไปเผื่อเพื่อความอุ่นใจ

อันนี้ของคุณสามี แยกชุดสำหรับวันแรก สำหรับไปเปลี่ยนที่สนามบินนาริตะตอนถึงที่ญี่ปุ่น เป็นเสื้อ+กางเกง Heattech ใส่ขึ้นเครื่องเน้นใส่สบายๆ แต่ถ้าลงจากเครื่องคงจะหนาวน่าดู

ส่วนอันนี้ของเรา/ชุดของคุณสามีเตรียมไว้เปลี่ยนที่สนามบินดอนเมือง
เนื่องจากกว่าเราขึ้นเครื่องจากขอนแก่นแต่เช้า เกือบจะได้เดินทางจริงคุณสามีเลยขอชุดไปเปลี่ยนที่สนามบินด้วยเผื่อเหนี่ยวตัว

เมื่อแยกสัดส่วนเรียบร้อยแล้วก้อมาจัดใส่กระเป๋าเดินทาง
รอบนี้เอากระเป๋าเดินทางไป 1 ใบ เลือกใบใหญ่ เพราะเราต้องนั้งแอร์เอเชีย ขาไปจากขอนแก่นเราซื้อน้ำหนักเดินทางไว้ 20 กิโล เลยตัดสินใจเอาแปล่ยัดใส่กระเป๋าเดินทาง เผื่อขากลับจะได้มีกระเป๋าใส่ของช็อบปิ้งกลับมา สรุป 2 คน กระเป๋าเดียว ชิล ชิล

เมื่อจัดกระเป๋าเสร็จแล้ว เหลือ อินเตอร์เน็ต ซึ่งครั้งนี้ก้อยังใช้ SIM 2 FLY เหมือนเดิม เราว่าง่ายและสะดวกดีจ้า

และก้อไปแลกเงินกันต่อเลย เรด 0.311 ดีกว่าทุกครั้ง

ครั้งที่แล้ว ตอนไปโอซาก้า เหลือกับมาน้อยนิด เลยแลกเท่านี้

เก็บกระเป๋า เตรียมของเรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้ (23-02-2017) พร้อมเดินทางกัน
เดินทางจากขอนแก่นด้วยสายการบิน แอร์เอเชีย รอบ 11.40

พร้อมเดินทางมากๆคะ

ก่อนหน้านี้คงสามีเคยบ่นว่า "ไม่เคยได้นั้งริมหน้าต่างกับเขาเลย ถ้าได้นั้งจะถ่ายรูปงั้นงี้" รอบนี้เลยจัดให้ ปรากฎว่าสามีก้อหลัยเหมือนเดิม ไม่มีประโยชน์

ถึงสนามบินดอนเมือง เที่ยว แน่นอนค่ะต้องไปหาอะไรกินกัน หาที่รับฝากกระเป๋ากันก่อน
:
จุดรับฝากกระเป๋าอยู่ใกล้ๆประตู 3 ราคาค่าฝาก 70 บาท/วัน ถูกกว่าที่สุวรรณภูมิ ที่สุวรรณภูมิ ใบละ 100 บาท/วัน

ฝากเสร็จก้อไปกินข้าวกันที่เซลทรัลพระราม 9 เจอค่าเทคซี่ไป 200 บาท

ท้องอิ๋มเดินทางกลับมาสนามบินดอนเมือง รอเวลานัดของบริษัททัวร์

กินข้าวเย็นเสร็จก้อกลับโรงแรมกัน คืนนี้เราจะกลับไปนอนที่โรงแรมที่เรานอนคืนแรก

เช้า ไกด์นัดเวลาเดิม 6-7-8
ตั้งใจลงมากินข้าวเช้าเสร็จ แล้วแวะไปซื้อขนม จะได้เอาขนมแพคใสากระเป๋าเดินทาง

ที่แรกที่เราไปคือ ร้านเครืองประดับ เดินขึ้นแล้วก้อเดินลงมากันเลย ไกด์บอกว่า ขนมอร่อยต้องลอง
ลืมถ่ายรูปขนม น่าตาคล้ายๆขนมไข่ เทใส่พิมพ์รูปถั่ว รสชาติเหมื่อนขนมไข่ เราคิดว่ามันธรรมดาเกินไป

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14