Pearlya Coconut Mood Toothpaste สัมผัสแห่งรอยยิ้มกับเช้าวันใหม่ที่สดใส ไร้กลิ่นปาก "โคโคนัท มูด"
    

วันนี้เราจะมารีวิว Pearlya Coconut Mood Toothpaste ซึ่งเป็นยาสีฟันสูตรน้ำมันมะพร้าวของแบรนด์เพิร์ลญ่า

    
 
หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินกันมาก่อน เราก็เช่นกันค่ะ ตอนแรกที่เห็นคือแบบสงสัยมากกว่ากลิ่นจะเป็นยังไง
พอเปิดฝายาสีฟันคือได้กลิ่นหอมละมุนของมะพร้าวอ่อนๆพร้อมกับความเย็นสดชื่นของน้ำมันยูคาลิปตัส
เรียกได้ว่าสดชื่นมากๆจนอยากแปรงฟันนานๆ ซึ่งข้อดีนอกจากจะมีกลิ่นหอมและเย็นสดชื่นแล้ว
ตัวน้ำมันมะพร้าวก็ยังช่วยยับยั้งแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก
น้ำมันยูคาลิปตัสก็ช่วยป้องกันการเกิดคราบพลัคด้วย แล้วก็ยังมีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ ที่ช่วยลดการอักเสบของเหงือกอีก
เรียกได้ว่าเป็นยาสีฟันที่ดูแลทุกส่วนในช่องปากจริงๆค่ะ





   
 
 
 เอาล่ะมาลองแปรงกันจริงๆจังๆ อย่างที่บอกไปว่าเราได้กลิ่นมะพร้าวหอมๆตั้งแต่เปิดฝา
พอเริ่มแปรงไป กลิ่นยูคาลิปตัสก็ตามมาแบบชัดเจนมาก มีความเย็นๆ ฟองมีความนุ่มนวลแล้วก็ฟองไม่เยอะมากนัก
ไม่มีรสชาติของยาสีฟันตอนแปรงเลย มีแค่กลิ่น
ตอนแปรงเสร็จรู้สึกปากสะอาดเย็นสดชื่นมากๆ กลิ่นยูคาลิปตัสกับมะพร้าวแอบตีกันเบาๆในปาก
ส่วนตัวเราว่ากลิ่นมันแอบตีกันจนมึนหัวอ่ะสำหรับการลองใช้ครั้งแรก อาจจะยังไม่ชินด้วย
แต่พอลองใช้ไปสักพักก็รู้สึกว่าไม่ได้แย่อะไรนะ เพราะปกติเราไม่คุ้นกับการที่เอายูคาลิปตัสมาใส่ในยาสีฟันอ่ะ
พอได้กลิ่นแล้วมันให้ความรู้สึกเหมือนพวกยาดมอะไรแบบนั้นมากกว่าเลยมึนๆ
อ่อเกือบลืมอีกอย่าง เวลาแปรงเสร็จแล้วนอน พอตื่นเช้ามาคือเราก็ยังรู้สึกว่าปากสะอาดอยู่
เหมือนน้ำลายมันลดลง 555555 อันนี้ไม่รู้คิดไปเองรึป่าวนะคะ

 
 

หลังจากแปรงฟันกันเสร็จแล้วก็พร้อมที่จะใช้ชีวิตทั้งวันได้แบบสดใสมั่นใจด้วยสัมผัสแห่งรอยยิ้มแล้วค่ะ เพราะเราเป็น Sales
วันๆ ก็ต้องออกไปเจอลูกค้ามากมาย ต้องการความมั่นใจขณะพูดคุยและยิ้มเพื่อสร้างความประทับใจให้กับคนอื่น
การมี Sense smile หรือสัมผัสแห่งรอยยิ้ม ก็ทำให้ทุกอย่างในแต่ละวันเป็นไปได้อย่างราบรื่น
 



 
เอาล่ะ ! ถึงเวลาให้คะแนนกันแล้ว
เราขอให้คะแนนความสะอาดสดชื่นไปที่ 10/10 104
คะแนนรสชาติขอ 9/10 พอ แงงง รู้สึกปากขมๆไปนิดนึง 104


 
ใครสนใจสามารถไปติดตามข้อมูลข่าวสารและหาซื้อกันได้ตามนี้เลยค่ะ 117
141   Websitewww.siamkoosuel.com
141   Facebook : Pearlya FB offiicial

141  ช่องทางจัดจำหน่าย : Lazada and Shopee

 



Create Date : 14 กันยายน 2563
Last Update : 14 กันยายน 2563 21:21:58 น.
Counter : 683 Pageviews.

0 comment
ท้าให้ลอง แป้งมูสช่วยเบลอรูขุมขนได้จริง!!!! คุมมันได้นานถึง 12 ชั่วโมง
อันยองงงง 120 หลังจากรีวิวที่แล้วที่ได้ลองลิปบาล์มจากยี่ห้อ Sasi กันไปแล้ว อย่างที่บอกกันไปว่าพอใส่หน้ากากอนามัย เราก็จะไม่อยากแต่งหน้าเยอะแยะจะลงแค่พวกกันแดด แป้งและลิปมันแต่บางครั้งการลงแป้งก็อาจจะไม่ได้ปกปิดมากนักผสมกับพอใส่หน้ากากตลอดเวลาเนี่ยก็ทำให้เหงื่อออก หน้ามันระหว่างวันได้ เราก็มาเจอผลิตภัณฑ์อีกตัวของแบรนด์ Sasi ที่น่าสนใจ นั่นก็คือ แป้ง 105 Sasi MOUSSE MELLOW FOUNDATION POWDER 105
 

  
 

วันนี้เราเลยจะมารีวิวแป้งพัฟศศิให้ดูกัน ต้องบอกก่อนว่าเราพึ่งเคยเห็นว่าแบรนด์นี้เค้าทำแป้งเบลอรูขุมขนออกมาด้วย ซึ่งเค้าเคลมว่าเป็นแป้งพัฟคุมมันที่เนื้อแป้งเนียนละเอียดสัมผัสนุ่ม อณูแป้งละเอียด ยึดเกาะผิวได้ดี ไม่จับตัวเป็นก้อน ไม่หลุดลอกระหว่างวัน เป็นแป้งเบลอผิวที่ทาตัวเดียวได้ถึงสองประสิทธิภาพเลยทั้งช่วยเบลอรูขุมขนและริ้วรอยต่างๆ ทำให้ผิวดูมีความเรียบเนียนด้วยเทคโนโลยีของ Magic Blur Powder และยังสามารถคุมความมันได้นานถึง 12 ชั่วโมง ด้วยเทคโนโลยี Oil Catcher และยังมีสารบำรุงจากวิตามิน E ทำให้หน้าไม่แห้ง แถมยังมีสารกันแดด SPF 30 PA+++ อีก ปังปุริเย่มากจ้าพส ตัวเดียวครบเหมาะกับชีวิตคนเร่งรีบแบบสาวๆในยุคนี้มากๆ ใครที่แพ้ง่าย แป้งตัวนี้เค้าปราศจากพาราเบนและแอลกอฮอล์กันด้วยน๊าาา


 
   


แป้ง sasi MOUSSE MELLOW ขนาด 8.5 กรัม ราคา 159 บาท เปิดตลับแป้งมาจะเจอกับแป้งและกระจก เปิดไปอีกชั้นนึงจะมีฟองน้ำซ่อนอยู่นะคะ ฟองน้ำนิ่มดีค่ะแต่จับลำบากนิดหน่อย ขนาดตลับแป้งกำลังพอดีมือเลยถือสะดวกมากๆ พกพาไปไหนก็สะดวก มีให้เลือก 3 เฉดสี
01 Vanilla วานิลลา สำหรับสาวผิวขาว​
02 Late ลาเต้ สำหรับสาวผิวสองสี ผิวกลาง​
03 Honey ฮันนี่ สำหรับสาวผิวเข้ม​
สามารถเลือกได้ตามสีผิวเลยนะคะ แบรนด์นี้เค้าทำสีมาได้เข้ากับโทนสีผิวของคนไทยอยู่แล้ว ไปลองเทสสีกันก่อนได้นะ


 



ภาพสวอชสี 02 Late ลาเต้
 

สีที่เราเลือกมาคือสี 02 หรือสีลาเต้นั่นเอง เพราะเหมาะกับสีผิวสองสี ซึ่งเราผิวขาวเหลือง ตอนแรกที่ดูสีแป้งจากตลับก็แอบกลัวว่าสีจะเข้มกว่าหน้า แต่พอลองลงบนหน้าจริงๆ สีพอดีกับผิวมาก กลืนไปกับผิวเลย

 
BEFORE

    


AFTER


    

 
เราลงแค่สกินแคร์และครีมกันแดดก่อนหน้านะคะ ไม่ได้ใช้ concealer หรือรองพื้นอะไรเลย โดยเราลงแป้งแบบกดตรงบริเวณกลางหน้าแล้วลากออกตรงกรอบหน้านะคะ จุดไหนที่อยากปกปิดมากหน่อยก็จะกดย้ำลงไปเพิ่มขึ้นเลย จะเห็นได้ว่าตอนแรกหน้าจะมีความมันวาว มีจุดด่างดำ และรอยสิวต่างๆ พอลงแป้งแล้วผิวจะมีความเรียบเนียนมากขึ้น แมทขึ้น รูขุมขนบริเวณจมูกและหน้าแก้มคือเบลอหายไปเลย อันนี้ค่อนข้างประทับใจมาก เพราะมันไม่หนักหน้าและไม่ตกร่องเลย แต่เรื่องของรอยสิวต่างๆถ้ามันเห็นชัดมาก เราว่ามันยังไม่ได้ปกปิดดีขนาดนั้นนะ แต่จุดด่างดำจางๆนี่พอปกปิดได้อยู่ เรียกว่าถ้าอยากได้ความสบายผิว ไม่หนักหน้า เบลอรูขุมขน มีความเป็นธรรมชาติ ไม่ได้อยากปกปิดอะไรมาก แป้งตัวนี้คือตอบโจทย์มากๆ

    


 
Finish look ก็มีทาตาเพิ่ม ปัดแก้มนิดหน่อย ทาปากเบาๆ พร้อมออกจากบ้านแล้ว รวดเร็วสุดๆ


  

วันนี้เราแต่งหน้าตั้งแต่ 6 โมงเช้า แล้วก็ขับรถออกมาทำงาน มีเดินไปซื้อของกินตอนเช้ากับเดินไปกินข้าวเที่ยงประมาณ 1 กิโลจากออฟฟิศ พอช่วงบ่ายแก่ๆก็ไปล่าป้าย MRT ต่างๆอีกทั้งเดินจาก MRT สุขุมวิทไป MRT เพชรบุรี แล้วก็เดินกลับมาจาก MRT เพชรบุรี มายัง MRT สุขุมวิท แค่คิดก็เหนื่อย เสร็จแล้วก็กลับมาบ้านประมาณช่วง 6 โมงเย็น ผ่านไป 12 ชั่วโมงเต็มๆกับการใช้ชีวิตอยู่ข้างนอก

 
สภาพผิวหน้าหลังผ่านไป 12 ชั่วโมง

    



และนี่คือสภาพผิวหน้าหลังจากจบกิจกรรม 12 ชั่วโมงของเรา จะสังเกตุเห็นว่าบริเวณที่เหงื่อออกและอยู่ในหน้ากากอนามัยก็คือจะมีคราบเล็กน้อย มีแป้งที่หลุดไปบ้างส่วนช้างจมูกและที่ถูไปมากับหน้ากาก ควบคุมความมันได้ประมาณนึง สิ่งที่เราชอบมากๆและรู้สึกว่าเหมือนที่เค้าเคลมไว้คือแป้งเบลอรูขุมขนได้ดีจริง สีไม่ดรอประหว่างวัน ปกปิดทั่วไปสำหรับคนที่ไม่มีปัญหามากนักหรือมีแค่จุดเล็กๆจางๆก็สามารถปกปิดได้ แต่ถ้าใครที่ต้องการการปกปิดที่มากขึ้น เราแนะนำว่าให้ลงคอนซีลเลอร์เป็นจุดๆไปก่อนลงแป้งตัวนี้ก็เริ่ดแล้วนะ ธรรมชาติสุดๆสบายผิวด้วย ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่หนักหน้า ไม่ตกร่อง ทำให้ผิวเรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอ


ใครที่สนใจอยากไปลองใช้แป้งเบลอผิวที่ขนาดกะทัดรัด ราคาไม่แพง ก็ไปหาซื้อตามกันได้ที่ข้างล่างนี้เลยจ้าาา

128ช่องทางติดตามข่าวสาร
Website : https://www.sasicosmetics.com/th
Facebook : https://www.facebook.com/sasidiary/

128ช่องทางจัดจำหน่าย
EVEANDBOY, Watsons, Beautrium และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ
หรือช้อปออนไลน์ได้ที่ https://www.sasicosmetics.com/th


 



Create Date : 27 สิงหาคม 2563
Last Update : 3 กันยายน 2563 20:45:47 น.
Counter : 469 Pageviews.

0 comment
รีวิว sasi Fruity POP Lip Balm
สวัสดีค่ะทุกคน กลับมาเจอกันอีกแล้ว หลายๆคนตั้งแต่มีโควิดระบาดแล้วต้องใส่ mask เลยขี้เกียจแต่งหน้า หรืออาจจะแต่งหน้าแค่เบาๆ ทากันแดด แป้งและลิปมัน แต่บางครั้งพอเปิดหน้ากากออกมาเวลากินข้าวหน้าอาจจะซีดเซียวโทรมได้เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำลิปบาล์ม sasi หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินชื่อแบรนด์นี้หรือเคยเห็นผ่านตากันมาบ้าง ตอนนี้เค้าออกลิปบาล์มมีสีมาแล้วจ้าทุกคน ตอบโจทย์ให้ชีวิตดูมีสีสันสดใสมากขึ้น ต้องบอกก่อนว่าช่วงนี้คือปากเราแห้งมาก บางทีก็ถึงขนาดที่เป็นขุยหลุดออกมาเป็นแผ่นๆ แม้จะโบกมาส์กปากตอนนอนหนักแค่ไหนตื่นมาก็แห้งอยู่ดี ถ้าทาแต่ลิปมันคือปากเราค่อนข้างคล้ำ มันก็จะทำให้หน้าเราดูหมองโทรมเหมือนคนไม่สบาย เราเลยมาเจอกับลิปบาล์มตัวนี้ ชื่อเต็มๆของมันก็คือ sasi Fruity POP Lip Balm ขนาด 1.5 กรัมพกพาสะดวก


 
ซึ่งตัว​บาล์มจะให้ความชุ่มชื้นและความโกลว์ ทำให้ปากของเราดูสุขภาพดีสวยเป็นธรรมชาติเหมือนดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว นอนเต็มอิ่ม เพราะเค้ามีสารสกัดจากโซเดียม ไฮยาลูรอเนต ที่จะช่วยบำรุงให้ริมฝีปากของเรานุ่ม แลดูอวบอิ่ม ชุ่มชื้นยาวนานและป้องกันการแห้งแตก อีกทั้งยังมี Argan Oil, Vitamin E และมี SPF30 ช่วยปกป้องแสงแดดและรังสี UV ด้วย เท่านั้นยังไม่พอเค้ายังมีสารสกัดจาก Acai Berry ที่ช่วยไม่ให้ริมฝีปากหมองคล้ำด้วย มาพร้อมกลิ่นหอมหวานของผลไม้​ที่มีให้เลือกกันถึง 3 กลิ่น ไม่ว่าจะเป็น orange, strawberry และ cherry แต่วันนี้เราเอามาลองแค่ 2 สีก่อน
 


ถ่ายภาพการสวอชสีของผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 กลิ่น

  

สี Cherry

  

สี Orange


 
หลังจากที่ลองใช้ลิปบาล์มครั้งแรกแล้วปากชุ่มชื้นดี ไม่หลุดลอกเป็นขุย สบายปากไม่เหนียวเหนอะ ทำให้ริมฝีปากมีสีระเรื่อที่ดูเป็นธรรมชาติดูสุขภาพดี ถ้าอยากได้สีที่ชัดขึ้นแนะนำว่าควรลงหลายๆรอบหน่อย ทั้งสองสีพอลงบนปากแล้วมีความใกล้เคียงกันมากแทบไม่ต่างเลย ส่วนเรื่องของกลิ่นเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ กลิ่นส้มจะได้กลิ่นชัดกว่าเชอร์รี่และสดชื่นมากๆค่ะ แต่เราแอบชอบสีของเชอร์รี่เพราะจะดูแดงนิดๆเห็นสีชัดกว่าสีส้ม แล้วก็เค้ามีแค่กลิ่นนะไม่มีรสชาติ เพราะลองชิมแล้วไม่มีรสอะไรออกมาเลย 555555
 


Finish Look สไตล์ "สวยฉ่ำวาว สดใสดูเป็นธรรมชาติ" โดยใช้ลิปบาล์มสีเชอร์รี่ ปากสีแดงระเรื่อดูเป็นธรรมชาติ พร้อมออกจากบ้านแล้วจ้าาา

 

ใครสนใจก็สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง 105
Website : https://www.sasicosmetics.com/th
Facebook : https://www.facebook.com/sasidiary/
และไปตำกันได้ที่ EVEANDBOY, Watsons, Beautrium และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ
หรือจะช้อปออนไลน์เก๋ๆไม่ต้องไปเดินให้เมื่อยก็ได้นะคะซิส ไปที่เว็บไซต์นี้ได้เลย https://www.sasicosmetics.com/th


 




Create Date : 26 สิงหาคม 2563
Last Update : 27 สิงหาคม 2563 8:57:37 น.
Counter : 1231 Pageviews.

0 comment
รีวิว Cool Shaping ที่ Dimension Clinic รีวิวสลายไขมันไดเมนชั่นคลินิก
128 สวัสดีค่ะทุกคน กลับมาเจอกันอีกครั้งพร้อมกับการลองทำอะไรใหม่ๆ เป็นการเริ่มต้นอายุ 25 ปี
เป็นวัยที่เริ่มเข้าใกล้เลข 3 มากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มสนใจสุขภาพตัวเองมากขึ้น
เคยเป็นกันมั้ย ? ที่ออกกำลังกายแล้วบางส่วนมันไม่ยอมลดแบบที่ใจเราต้องการ อยากทำศัลยกรรมผ่าตัดแต่ก็กลัวเจ็บ
เราก็เป็นหนึ่งคนในนั้น .. ส่วนที่ลดยากมากๆของเราคือบริเวณปีกข้าง
คือไม่ว่าจะออกกำลังกายด้วยกี่วิธี ส่วนนี้ก็ยังเห็นไขมันได้อย่างชัดเจน

วันนี้เราเลยจะแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกับ Cool Shaping หรือการลดไขมันด้วยความเย็น ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ของเกาหลี
ด้านการสลายไขมันหรือกำจัดไขมันเฉพาะจุด ด้วยความเย็นถึง -10 องศา ซึ่งเพื่อนๆสามารถเลือกจุดที่ต้องการจะลดได้เลย
โดยเราได้มีโอกาสมาลองทำ Cool shaping ที่ Dimension Clinic เลยจะมารีวิว Cool Shaping กัน

    

เราเลือกทำที่ Dimension Clinic เพราะอยู่ใกล้บ้าน สะดวกในการเดินทาง ความน่าเชื่อถือของคลินิกที่ปลอดภัยได้มาตรฐานการรองรับทั้ง KFDA และ อย.ไทย เครื่องมือต่างๆ มีความทันสมัย มีการให้ข้อมูลรายละเอียดค่อนข้างดี พอเราเข้ามาก็จะมีการกรอกประวัติ แล้วก็เข้าไปรอในห้องได้เลย

                      
                           บรรยากาศภายในร้านคือสบายผ่อนคลายสะอาดดีมากๆ


                          
  นี่คือหน้าตาของเครื่องที่เราจะทำกันค่ะ                      เราก็จะเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อรอทำ Cool shaping กันเลย เย้ !


 

พี่พนักงานก็จะให้เรานอนคว่ำเพราะส่วนที่เราทำคือ ปีกข้างซ้ายขวา ซึ่งอยู่ด้านหลัง แล้วก็จะนำมาส์กเย็นๆมาวางลงบนหลังเราเพื่อกำหนดจุดที่เครื่องจะดู ตอนนี้คือใจเต้นตึกตักมากค่ะเพราะกลัวเจ็บแต่มันจะแค่แบบเย็นๆ แล้วเค้าก็จะเอาเครื่องมาวางทับลงมาส์กและเปิดเครื่องให้มันดูด 122 จังหวะนี้แหละค่ะที่เจ็บ เจ็บจริงไม่จ้อจี้แต่เป็นเจ็บแบบตุ้บๆๆ แล้วก็เอาเหมือนอะไรสักอย่างมาหนีบเนื้อเราบริเวณบน-ล่างของเครื่องซึ่งก็คือปีกข้างทั้ง 4 จุดนั่นเอง พนักงานก็จะคอยถามว่าพลังงานระดับนี้เจ็บไหมไหวรึป่าว เราก็แบบด้วยความอยากผอมตอบไปเต็มเสียงว่า ไหวค่ะได้อยู่ พี่เค้าก็เปิดเพลงคลอให้ค่ะ เค้าก็ให้ลองไป 5 นาทีก่อน ระหว่างนั้นพี่เค้าก็เดินออกจากห้องไป พอสัก 2-3 นาทีแรกก็จะเริ่มไม่ค่อยเจ็บแล้วค่ะ กลายเป็นความชาๆเย็นๆสบายๆ ฟีลเหมือนเอาน้ำแข็งมาวางบนหลัง พอครบ 5 นาที เค้าก็จะเข้ามาถามว่าประมาณนี้ไหวมั้ยหรือแรงกว่านี้ นี่ก็แบบประมาณนี้โอเคแล้ว

      

เค้าก็ให้เราพักคือเครื่องมันก็จะทำงานไปเรื่อยๆประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ ช่วงนี้คือเราก็พักผ่อนเต็มที่คือเกือบหลับอยู่
พอครบเวลาเครื่องมันจะค่อยๆดูดน้อยลงแล้วพี่พนักงานก็จะมาเอาที่หนีบไว้ตอนแรกกับเครื่องออก
แล้วก็เอาเหมือนสำลีหรือเจลเย็นๆมาทาบนหลังเราแล้วก็นวดบริเวณที่ทำไป นี่แหละค่ะคือช่วงเวลาที่เจ็บที่สุดของวันนี้ !!! 124
เพราะตรงบริเวณที่เครื่องดูดมันจะมีความช้ำระบมอยู่เป็นสีแดงเหมือนเวลาห้อเลือดค่ะ ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติของการทำ
เค้าบอกว่ามันจะหายไปเองขึ้นอยู่กับร่างกายแต่ละคน จากที่เราเคยหาข้อมูลก่อนไปทำคือที่เค้าต้องรีบๆนวดบริเวณที่เราทำทันทีหลังจากเอาเครื่องออกก็เพื่อให้ไขมันที่มันแข็งตัวสามารถสลายออกไปได้ตามหลักการกลไกในร่างกายนะ

เทียบ BEFORE & AFTER ให้เห็นกันชัดๆ นี่คือทันทีหลังจากทำเสร็จและกลับมาบ้านเลยนะคะ

                                                          127 BEFORE 127

                                                             
      

                                                        117 AFTER 117

      

หลังจากทำคือเรากลับบ้านมาลองวัดสัดส่วนตรงปีกข้าง คือ มันลดลงไปทันทีประมาณ 1 นิ้ว ซึ่งแบบสังเกตุได้ว่ามันจะลดลงไปทันทีที่ทำ เค้าบอกว่ามันจะค่อยๆลดลงไปโดยจะเห็นผลชัดที่สุดตอนประมาณ 1-3 เดือน ก็ต้องรอดูว่าจนกว่าจะถึงตอนนั้นมันจะลดลงไปกว่านี้มั้ย แต่ส่วนที่เราทำมันอาจจะลำบากนิดหน่อยเพราะเวลากลับมาคือนอนแทบไม่ได้เลยเพราะมันช้ำ แต่หลังจากผ่านมา 1 วัน รอยช้ำมันค่อยๆจางลงนะแต่ยังไม่ได้หายไปขนาดนั้น คือมันใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันทีหลังจากทำเสร็จเลยนะ แต่แค่ไม่ไปโดนบริเวณที่มันช้ำ

ถ้าใครที่สนใจอยากจะลองสลายไขมันแบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลทันทีที่ทำ เราว่า Cool Shaping ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับทุกคน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Dimension Clinic ตามช่องทางข้างล่างนี้ได้เลย 106
website
www.dimensionclinic.com

Facebook : https://www.facebook.com/dimensionclinic/
Instagram : dimension clinic
Line : @dimensionclinic
call center : 092-636-1166

141 เค้ามีถึง 2 สาขา ทั้งสาขาตึกเอท ทองหล่อ ชั้น 1 โทร. 02-392-6800
และสาขาเดอะพรอมานาด รามอินทรา ชั้น 4 โทร. 02-010-4088
ใครสะดวกสาขาไหนก็ไปลองกันได้เลยจ้า พนักงานดูแลดี น่ารักทุกคนเลย
แอบกระซิบว่าโปรโมชั่นเค้ามาแบบรัวๆไปเลยจ้าเตง 310

#dimensionclinic  #สลายไขมันด้วยความเย็น #สลายไขมันdimension



Create Date : 05 สิงหาคม 2563
Last Update : 18 สิงหาคม 2563 20:29:32 น.
Counter : 1014 Pageviews.

0 comment
รีวิวครีมสำหรับดวงตา SANA NAMERAKAHONPO WRINKLE EYE CREAM N
117 สวัสดีค่ะเพื่อนๆ กลับมาพบกันอีกแล้วในเดือนมิถุนายน ผ่านกันมาครึ่งปีแล้วเนอะ วันนี้เราก็จะมารีวิวผลิตภัณฑ์เหมือนเดิม ซึ่งก็คือตัวนี้นี่เอง

     


ต้องขอเกริ่นก่อนว่าตั้งแต่สมัยเรียนคือเรานอนดึกมาก แบบ ตี 2-3 แทบทุกคืน แล้วก็ตื่นตั้งแต่ตี 5 คือพักผ่อนน้อยมากๆ ผสมกับใช้สายตาเยอะ
ทั้งอ่านหนังสือ เล่นโทรศัพท์ เล่นคอมนานๆ ดูทีวี หนัง ซีรีส์ต่างๆก็เยอะ จนใต้ตาก็คือกลายเป็นหมีแพนด้าเลยจ้าาา 555555
ริ้วรอยรอบดวงตาก็คือมีตรงใต้ตานะ แต่ตีนกาอะไรงี้ยังไม่มา ร่องแก้มก็มีบ้างเวลายิ้มเยอะๆ
จนตอนนี้คือพยายามนอนให้เร็วขึ้นแล้วแต่พวกความหมองคล้ำรอบดวงตามันก็ยังไม่หายไป
จนเราได้มาโอกาสมาลองตัวซาน่าอายครีม ซึ่งเป็น Must Have Item ที่ลดเลือนริ้วรอยรอบดวงตา หน้าผาก ร่องแก้ม ยกกระชับผิวให้เต่งตึง
แลดูอ่อนเยาว์ บอกลาตีนกาและเนื้อครีมมีความเข้นข้นมาก ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้รอบดวงตาได้เป็นอย่างดีตลอดทั้งวัน





   


128 ข้อมูลรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ 128

ตัวเนื้อครีมมีสีขาวขุ่น เนื้อสัมผัสจะหยุ่นๆหน่อย มีความเข้มข้น แต่ไม่หนักผิว ทารอบดวงตาวนๆไปจนมันซึม
ไม่เหนียวเหนอะหนะ จะให้เป็นลักษณะของความชุ่มชื้นมากกว่า
ตัวบรรจุภัณฑ์จะเป็นหลอดเล็กๆ พกพาง่าย ใช้สะดวก เราจะบีบแค่ประมาณ 1 เซนติเมตร นะคะ
แล้วก็ใช้ได้กับรอบดวงตาทั้งสองข้างเลย ใช้ได้นานมากๆ





ตัวนี้เค้ามีส่วนผสมของสารสกัด Isoflavon จากน้ำนมถั่วเหลืองและเรตินอลบริสุทธิ์ด้วย ซึ่งจะทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น ยืดหยุ่นสูง
ถ้าใครที่กลัวแพ้ ก็สบายใจได้เลยเพราะครีมตัวนี้เค้าปราศจากสารเติมแต่งทั้งกลิ่น สี และ mineral oil รับรองได้ว่าอ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว


   
                                                          เทียบรูปก่อนใช้ และ หลังใช้ ให้เห็นกันชัดๆไปเลย


หลังจากเราได้ทดลองใช้มาเป็นเวลา 1 เดือน ต้องบอกเลยว่ารอยคล้ำใต้ตาดูเหมือนจะลดลง
แล้วก็พวกริ้วรอยรอบดวงตาก็คือดีขึ้น อาจจะแบบไม่ได้หายไปจนหมด แต่ก็ดีขึ้นกว่าตอนแรกเยอะเลย
เราแอบเอาครีมที่เหลือจากที่ทารอบดวงตามาลงบริเวณร่องแก้มด้วย ซึ่งก็รู้สึกว่าร่องแก้มมันดูตื้นขึ้น
แต่จริงๆที่เห็นชัดมากๆน่าจะเป็นบริเวณรอบดวงตาอย่างที่บอกไป
ใครที่กำลังมีปัญหาริ้วรอย รอบดวงตา ตีนกา ร่องแก้ม หน้าผากย่น เพราะติดละคร นอนน้อย ชอบส่อง จ้องมือถือ อยู่หน้าคอม
มาทดลองใช้ SANA NAMERAKAHONPO WRINKLE EYE CREAM N กันได้
ตัวนี้เค้ามาในปริมาณ 20 G. ในราคา 499 บาทเท่านั้น




141 ช่องทางติดตามข้อมูลข่าวสาร จะเป็นช่องทางออนไลน์ตามนี้เลย 141

Tsuruha Online 130 https://www.tsuruha.co.th/70-yuskin-a-cream-70-g.html

Tokyobuzz 130 https://www.facebook.com/TokyoBuzz/

หรือแอดไลน์ @tokyobuzzonline 130 https://nav.cx/2AzabCu



ส่วนช่องทางการสั่งซื้อสินค้า ก็ไปตำกันได้ที่ Matsumoto Kiyoshi, Tokyo Buzz เลยจ้า 310

สะดวกสุดๆไปเลยเนอะ ใครลองใช้แล้วเป็นยังไงก็มาเล่าให้ฟังกันบ้างนะคะ ไว้เจอกันใหม่ครั้งหน้า บ๊ายบายยยย 130

 

#sana #sanaeyecream #namerakahonpo #sananamerakahonpowrinkleeyecreamn #ตีนกา #ถุงใต้ตา #ขอบตาดำ #รอยคล้ำใต้ตา #ชุ่มชื้น
#ครีมบำรุงใต้ตา #aging #wrinkle #antiaging #antiwrinkle #moisturizer #eye #eyecream #musthave #ของมันต้องมี #มาใหม่
#starizethailand #starize #review #รีวิว #bestseller #อินฟลูเอนเซอร์ #บล็อกเกอร์ #influencer #blogger #madeinjapan #japan #ญี่ปุ่น

 



Create Date : 02 มิถุนายน 2563
Last Update : 2 มิถุนายน 2563 20:52:26 น.
Counter : 1256 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  

สมาชิกหมายเลข 889922
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Group Blog
All Blog