Group Blog
 
All blogs
 

20 คำถามกับความเป็นนักเขียน (เพิ่งเคยโดนน้องๆขอสัมภาษณ์ไปทำรายงาน)

MySelf





1.เรื่องแรกที่เขียน


จำได้ว่าตอนเขียนเรื่องแรกเลยก็รู้สึกจะเป็นบทละครตอนเข้าค่ายลูกเสือช่วงๆ ม.ต้น ตอนนั้นพัฒนาการทางการพิมพ์ดีกว่าเพื่อนในรุ่นเดียวกัน และก็ถอดมาจากเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน เอามาทำเป็นคำพูด แสดงเองด้วย กำกับเองอีก เอาหมดเลย


พอมาสักพักก็เริ่มมาเขียนเป็นเหมือนฟิคชั่น ยุคนั้นยังไม่มีนักร้องเกาหลีเหมือนตอนนี้ แต่ก็เขียนได้ เขียนให้กับวงดนตรีของไทยวงนึง ตอนนั้นกระแสเจร็อกมาแรงมากถึงขนาดว่าเรียนเอกญี่ปุ่นเพราะดนตรีเจร็อกเลย เขียนไม่จบนะ ตอนนี้ไปเอากลับมาอ่านใหม่ ก็ตลกดี แต่มันก็คือจุดเริ่มต้นของเรา นับรวมแล้วก็เกือบสิบปีเห็นจะได้


2.เพราะเหตุใดจึงรู้ว่ามีความสามารถในการเขียน


ก็คงเพราะชอบเขียนกลอน แล้วก็ได้รับคำชมจากเพื่อนๆและคนรอบข้างว่าเราสามารถใช้ภาษาเขียนได้ค่อนข้สวย อีกอย่างรู้สึกว่าการเขียนมันเหมือนการระบายความรู้สึก เมื่อก่อนอยู่โรงเรียนประจำไม่มีทีวีดู ก็ชอบนอนนึกเรื่องโน้นเรื่องนี้ไปเรื่อย เอาดารามาแสดงแล้วเราก็คิดเป็นเรื่องเป็นราวออกมา พอมีโอกาสได้เขียนก็ลองเขียนดู


3.รู้สึกยังไงเวลาเห็นนิยายตัวเองวางแผง


ตอนแรกเลยก็เห่อมาก ดีใจมากด้วย แต่ตอนนี้ก็คือรู้สึกดี ยิ้มได้เสมอเวลาที่เห็นหนังสือตัวเอง แต่บางครั้งไม่เห็นก็ดีนะ จะรู้สึกดีมากเวลาไปถามคนขายว่า “มีหนังสือของชญากานท์ไหมคะ” แล้วเค้าตอบเราว่า “หมดค่ะน้องต้องสั่งนะ” หนังสือตัวเองหมด เป็นอะไรที่เยี่ยมมาก ไม่รู้ว่าหมดหรือเขาสั่งมาน้อยกันนะ 


4.แรงบันดาลใจที่ขาดไม่ได้


Music is my Soul ต้องใช้คำนี้เลย ดนตรีคือจิตวิญญาณ เวลาจะเขียนนิยายสักเรื่องหรือสักตอนก็ต้องมีเพลงประจำแล้ว บางทีฟังไปแล้วพยายามคิดภาพของเรื่องไป ยิ่งเรื่องไหนเศร้าๆนะ น้ำตาไหลนองหน้าเป็นอะไรที่อินมาก เขียนไปร้องไห้ไป ใครไม่รู้ก็จะหาว่าเราเป็นอะไร แต่เวลาเขียนนิยายส่วนใหญ่จะอยู่คนเดียวในห้องเงียบๆ เปิดเพลงคลอไป ได้อารมณ์ที่สุดแล้ว




5.เรื่องที่กำลังเขียนอยู่ตอนนี้


มีสองเรื่องที่กำลังเขียนอยู่เรื่องแรกชื่อ Forever Love ชั่วนิรันดรก็ไม่อาจหยุดรักเธอ เป็นเรื่องของหนุ่มเกาหลีกับสาวเหนือ คืออยากนำเสมอมุมมองของความรักในหลายรูปแบบ ทั้งรักสามเศร้า ความรักของแฟนคลับที่มีต่อศิลปิน ว่าการที่เราชื่นชอบนักร้องเกาหลีบางครั้งก็ไม่ได้ไร้สาระเสมอไป เหมือนกับทุกวันนี้ที่ได้เป็นนักเขียนก็เพราะว่าชอบดงบังชินกิ ก็เลยอยากนำเสนอมุมมองตรงนั้น ส่วนรักสามเศร้า ดูเหมือนจะตามกระแสแต่มันก็มีขึ้นทุกช่วงเวลา และคิดว่าหลายๆคนก็คงเป็นเหมือนกัน ส่วนอีกเรื่องชื่อ เพลงนี้...เพื่อเธอ เรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องแรกที่เขียนเป็นจริงเป็นจัง แต่พอเอาไปส่งสำนักพิมพ์หลายๆที่แล้วไม่ผ่านก็เลยเอามาเขียนใหม่ เนื้อเรื่องก็จะเป็นว่า พระเอกเป็นเจ้าของค่ายเพลงและเป็นอดีตซุปเปอร์สตาร์ชื่อดัง ส่วนนางเอกก็เป็นนักเรียนนอก มาทำงานเป็นเลขาส่วนตัวของพระเอก โดยที่ไม่รู้เลยว่าพระเอกของเราคือผู้ชายคนที่คอยส่งของขวัญให้นางเอกของเราตลอดเวลา เรื่องราวจะเป็นความรักบนชั่นเชิงทางธุรกิจกับอดีตที่ฝังใจ ทั้งสองเรื่องนี้เขียนได้เยอะแล้วคาดว่าอีกไม่นานคงอยู่บนแผงหนังสือ




6.รู้สึกยังไงเวลาแฟนๆมาขอลายเซ็นต์


แรกๆก็จะเอ๋อๆนิดหน่อยว่าจะเซ็นอะไรดีไม่เคยแจกใครด้วย แต่มันก็คือความภูมิใจ เมื่อก่อนเราไปงานสัปดาห์หนังสือและเห็นคนอื่นเค้ามาแจกลายเซ็นกัน เลยคิดว่าสักวันก็จะได้ทำแบบนั้นบ้าง และวันนี้ก็ได้ทำจริงๆ


7.อะไรที่ทำให้เขินสุดๆ


อันนี้ตอบยากเพราะเป็นคนไม่ค่อยเขิน นอกจากว่าจะโดนจี้จุดบอดของหัวใจ หรือไม่ก็มีใครสักคนมาอ่านนิยายตรงหน้าแล้วพูดถึงนิยายเรา โดยที่ไม่รู้ว่าเราแอบฟังอยู่ ถ้าเค้าติก็ดีถ้าเค้าชมก็เขิน แต่พยายามเนียนให้มากที่สุดเพื่อการพัฒนาฝีมือของเรา


8.อะไรที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต


ไม่มีนะ เพราะไม่รู้ว่าอะไรคือเลวร้าย คิดเสมอว่าไม่มีอะไรที่เลวร้ายที่สุด และก็ไม่มีอะไรที่ดีที่สุดด้วยเหมือนกัน


9.อะไรที่ดีที่สุดในชีวิต


ก็ไม่มีอีกเช่นกัน เพราะทุกอย่างจะไม่มีคำว่าดีที่สุดแต่จะมีแต่คำว่าดีขึ้นไปเรื่อยๆ


10.กำลังใจที่สำคัญคือ


แฟนคลับและคนอ่านนิยาย คือในวัย 22 ปีตอนนี้กับสิ่งที่ได้รับมาจากแฟนคลับเป็นอะไรที่เยี่ยมที่สุดแล้ว เราไม่เคยคิดว่าจะคนขวนขวายที่จะได้คุยกับเรา ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะมีคนอ่านสิ่งที่เราเขียนไป และก็ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะกลายเป็นที่รู้จักของคนมากมาย


11.คิดว่าตัวเองมีนิสัยอย่างไร


            จริงๆเป็นคนโรแมนติกนะ ถ้าอยู่กับเพื่อนก็จะเป็นอีกแบบปากไว โวยวายชอบพูดเสียงดัง ไม่ยอมใคร ใจร้อนถึงขั้นความอดทนติดลบ แต่ถ้าสวมวิญญาณนักเขียนเมื่อไหร่ตอนนั้นจะกลายเป็นคนเงียบไปโดยถนัดตา เหมือนกับว่าเป็นคนหลายอารมณ์ แต่รู้สึกส่วนใหญ่มักจะบอกว่าเป็นพวกอารมณ์ศิลปิน




12.อุปสรรคในการเขียนนิยาย


            เวลากับความขี้เกียจ อย่างช่วงเปิดเทอมก็จะมีเรียนเราก็ต้องนอนแต่หัววัน หรือบางวันก็ไม่ได้นอนเพราะเขียนงาน และความขี้เกียจก็จะบังเกิดขึ้นทุกครั้งที่มีอะไรมาจูงใจให้นอกเรื่อง แต่สุดท้ายก็จะใช้เสียงเพลงบังคับให้เรากลับมา




13.อุปสรรคในการวางตัว


            ไม่มีนะ เพราะว่าเป็นมาอย่างไรก็ต้องเป็นแบบนั้น เมื่อก่อนเราเคยเป็นอย่างไรก็เป็นแบบนั้น ไม่ได้หมายความว่าเมื่อเราดังแล้วเราต้องเปลี่ยนแปลงอะไร เพราะทุกวันนี้ก็ยังไม่ดังเท่าไหร่ อยากให้คนเค้าชื่นชอบที่เราเป็นเรามากกว่า




14.คิดยังไงกับคำว่า บังเอิญ


            ไม่มีความบังเอิญบนโลกใบนี้ ทุกอย่างคือสิ่งที่เราเป็นคนกำหนดขึ้นมาเอง




15.คติเตือนใจ


Nothing is impossible ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้





16.เพลงที่ทำให้นิยายลื่นไหล


เพลงที่ตัวเองเขียนขึ้นเอง เพื่อประกอบนิยายเรื่องนั้น อย่าง Forever Love ชั่วนิรันดรก็ไม่อาจหยุดรักเธอ ก็จะเป็นเพลง Cassiopeia และ เพลงนี้...เพื่อเธอ ก็จะเป็นเพลง เพลงนี้...เพื่อเธอ เลย โดยมีเพื่อนเป็นคนแต่งทำนองและร้องให้




17.ถ้าย้อนเวลาไปได้พี่เหมี่ยวจะ


ไม่อยากย้อนนะ อยากอยู่แบบนี้ เพราะทุกวันนี้ก็ดีแล้ว มีความสุขดี ถ้าย้อนกลับไปก็ไม่รู้จะทำอะไร อยู่กับวันนี้ดีกว่า




18.คิดยังไงที่มีคนเอาพี่เหมี่ยวมาเขียนรายงาน


ดีใจซิ อย่างน้อยๆก็มีคนให้ความสนใจกับตัวเรา ขนาดบางครั้งก็ยังมองข้ามตัวเองไปเลย แต่ถ้ามีคนมาสนใจก็ทำให้คิดว่า เราก็ต้องรู้จักสนใจตัวเองบ้างแล้ว 




19.ความรู้สึกที่มีต่อแฟนๆ


แฟนๆก็คือเพื่อน พี่ น้อง เป็นญาติ เป็นคนสนิท เป็นกำลังใจ เป็นหลายๆอย่าง เพราะแฟนๆคือคนที่ทำให้ “ชญากานท์” มีทุกวันนี้ อยากจะขอบคุณนะ แต่ก็คงหาคำไหนมาเปรียบไม่ได้ เอาเป็นว่า รักพวกเค้าก็พอ




20.ความฝันสูงสุดคือ


อยากเที่ยวรอบโลก แบบว่าเดินทางไปไหนก็มีแต่คนรู้จัก เอาสถานที่ของแต่ละประเทศมาเขียนเป็นนิยาย ให้คนได้อ่านกัน ตอนนี้ก็มีความคิดเหมือนกันนะว่าอยากจะเขียนนิยายเป็นภาษาอังกฤษ แต่ว่ายังไม่มีเวลาเลย เอาแค่ภาษาไทยก็โดนเร่งแล้ว แต่คิดว่าอีกไม่นาน “ชญากานท์” อาจจะดังกว่าคนเขียนแฮร์รี่ พอตเตอร์ก็ได้





 

Create Date : 05 กันยายน 2551    
Last Update : 5 กันยายน 2551 23:52:02 น.
Counter : 280 Pageviews.  


กานท์ชญา
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add กานท์ชญา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.