วันสุดท้ายของชีวิต
วันสุดท้ายของชีวิต
ข้อคิดจากเรื่อง วันสุดท้าย

"ถ้าวันนี้คุณรู้ว่าวันสุดท้ายของชีวิตกำลังจะมาถึง วันนี้ก็คือวันเริ่มต้นของชีวิต"
ลองคิดทบทวนกับประโยคนี้ดีดีนะครับ ทำไมวันเริ่มต้นของชีวิตคือวันที่เรารู้ตัวว่าใกล้จะตาย

ผมเล่าเรื่องของคนคนนึงให้ฟังดีกว่า
เพื่อจะได้ไม่ต้องมานั่งอธิบายรูปประโยคกันให้เมื่อยตุ้ม
ที่ทำงานคุณมีการตรวจสุขภาพกันรึเปล่าครับ อือม์ตรวจร่างกายทั่วไปประจำปี
ตรวจโรคติดต่อ ใช่ที่สำคัญมีการตรวจเลือดด้วย
มีคนรู้จักคนนึงทุกวันนี้ก็ไม่รู้จะบอกว่าเค้าโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่
เป็นผู้ชายที่เข้าข่ายของกลุ่มเสี่ยงก็ว่าได้ เอาทุกอย่างยกเว้นการพนัน
คนนี้แหละครับที่ผลการตรวจเลือดประจำปีออกมาว่าเค้าเลือดบวก
แต่หมอยังไม่ยืนยัน แล้วก็นัดให้ไปตรวจใหม่อีกสามเดือน
เป็นอันว่าหลังวันตรวจเลือดและรู้ผล เค้าเชื่อว่าผลตรวจเลือดเป็นจริง
เท่านั้นแหละครับ ชีวิตดับทันที งานการไม่ไปทำ
หลบตัวอยู่กับบ้านประมาณอาทิตย์นึงได้ พอเพื่อนๆ เจอหน้าเค้าอีกที
คราวนี้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย เพื่อนชวนไปไหนก็ไม่ไป เลิกงานแล้วก็ไปหาแฟน
พาแฟนไปทานข้าวกับพ่อแม่ที่บ้าน เหล้าบุหรี่ก็ไม่แตะอีกเลย
แล้วก็ไม่พูดถึงเรื่องผลการตรวจเลือดอีก เค้ากลับมาทำทุกอย่าง เล่นกีฬา เที่ยวต่างจังหวัด
จนบางทีเราก็อดสงสัยกันไม่ได้ว่าชีวิตมันมี 48 ชั่วโมงหรือไง เพราะมันใช้เวลาทุกนาทีคุ้มมาก
จนกระทั่งคนทางบ้านและแฟนมันแปลกใจ
อดไม่ได้ที่จะแอบโทรมาถามเพื่อนว่าเค้าเป็นอะไรเหรอ
ทำไมทำตัวเหมือนคนซึ้งสัจธรรมเลย ตอนนั้นพวกเราก็อึ้งนะครับ
เพราะทุกคนรู้ดีว่าเพราะอะไร แต่ก็มีเพื่อนคนนึงพูดขึ้นมาว่า
นี่ถ้ามันเป็นคนดียังงี้แต่แรกมันก็ไม่ต้องตายแล้วหละ ใช่ครับ
ถ้ามันเป็นคนดียังงี้แต่แรกมันก็ไม่ต้องตาย
ทุกวันนี้มันฟื้นกลับมาเป็นคนอีกครั้ง
หลังจากนั้นสามเดือนให้หลัง ผลตรวจเลือดปรากฏว่ามันไม่มีเลือดบวก
ประโยคที่มันบอกกับพวกเรา
มันบอกว่ามันดีใจที่พระเจ้าส่งมันไปดัดสันดานในนรกมาสามเดือน
ทุกวันนี้มันรักครอบครัวรักแฟน แล้วพวกเราก็คิดว่ามันทำทุกอย่างได้ดีเท่าที่คนรักควรจะทำ
จนบางทีอดอิจฉาไม่ได้อยากให้ชีวิตเฉียดๆอะไรอย่างมันบ้าง
ชีวิตของเราเริ่มต้นเมื่อวันที่เรารู้ตัวว่ากำลังจะตาย หรือ จงใช้ชีวิตวันนี้ให้เหมือนว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต

มันก็เหมือนกันความหมายเหมือนกันว่าคนเราไม่รู้จักคุณค่าของชีวิต
จนวันสุดท้ายของชีวิตมาถึง วันนั้นแหละที่เราจะรู้ว่าเราอยากทำอะไร
แล้วทำไมเราต้องรอจนกระทั่งวันสุดท้ายมาถึงก่อน จึงคิดจะทำอะไรที่ใจอยากทำ
แล้วถ้าสมมุติว่าพรุ่งนี้คุณกำลังจะจากคนที่คุณรักไปหละ วันนี้คุณจะทำอะไรให้เค้าก่อน

from FW MAIL



Create Date : 26 กรกฎาคม 2550
Last Update : 26 กรกฎาคม 2550 0:08:12 น.
Counter : 624 Pageviews.

0 comment
เรื่องน่าคิดของอายุ
เรื่องน่าคิดของอายุ
วันนี้เรามีเรื่องน่าคิดมาก จะมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง
(มันเป็นเรื่องทีเราได้ฟังมาอีกทีหนึ่ง)
เพื่อนๆ เคยสงสัย ไหมว่า ทำไมคนเราจึงมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 70 ปี ?
เรื่องเล่ามันมีอยู่ว่า ……….
ในอดีตกาลนานมาแล้ว ในช่วงที่พระเจ้ากำลังคิดจะสร้างโลกอยู่นั้นก็คิดที่จะสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมาก่อน 4 ชนิด ประกอบด้วย
1. กระบือ
โดยระบุว่า เจ้ากระบือ ข้าจะให้เจ้ามีอายุขัย 50 ปี
และเจ้าต้องมีหน้าที่คือ เจ้าจะต้องทำงานหนัก ด้วยความอดทน ไม่ว่าจะเป็นการไถ่นา ลากรถ โดยห้ามปริปากบ่น พอ เจ้ากระบือ ได้ฟังดังนั้น ถึงกลับร้องอุทานด้วยความตกใจแล้วกล่าวว่า
"อะไรกัน ให้ข้าทำงานหนักขนาดนี้ ยังจะให้ข้ามีอายุขัย ถึง 50 ปีอีกหรือ ข้าไม่ยอมหรอก ข้าขอมีอายุขัย แค่ 20 ปี ก็แล้วกัน" เมื่อพระเจ้าได้ฟังดังนั้นก็ยอมตามที่เจ้ากระบือขอ ดังนั้นกระบือในปัจจุบันจึงมีอายุขัย เพียง 20 ปี เช่นปัจจุบัน
2. สุนัข
โดยระบุว่า เจ้าสุนัข ข้าจะให้เจ้ามีอายุขัย 20 ปีและเจ้าต้องมีหน้าที่คือเจ้าจะต้องเห่าให้เสียงดัง
และต้องกัดคนแปลกหน้า หรือใครก็ได้ที่เจ้าเหม็นขี้หน้าและเมื่อเจอบรรยากาศน่าเบื่อ เจ้าจะต้องหอนให้เสียงดังที่สุดพอ เจ้าสุนัขได้ฟังดังนั้น ถึงกลับร้องอุทานด้วยความตกใจ แล้วกล่าวว่า
"อะไรกัน ให้ข้าทำงานน่าเกลียดขนาดนี้ ยังจะให้ข้ามีอายุขัย ถึง 20 ปีอีกหรือข้าไม่ยอมหรอกข้าขอมีอายุขัย แค่ 10 ปี ก็แล้วกัน" เมื่อพระเจ้าได้ฟังดังนั้น
ก็ยอมตามที่เจ้าสุนัขขอ ดังนั้นสุนัขในปัจจุบันจึงมีอายุขัย เพียง 10 ปี เช่นปัจจุบัน
3. ลิง
โดยระบุว่า เจ้าลิง ข้าจะให้เจ้ามีอายุขัย 30 ปี และเจ้าต้องมีหน้าที่คือ เจ้าจะต้องอยู่ไปวันๆ ด้วยการทำหน้าตาล้อเลียนชาวบ้าน และทำตัวอ่อนแอเพื่อให้คนสงสารพอ เจ้าลิงได้ฟังดังนั้นถึงกลับร้องอุทานด้วยความตกใจ แล้วกล่าวว่า "อะไรกัน ให้ข้าทำงานไร้สาระขนาดนี้
ยังจะให้ข้ามีอายุขัย ถึง 30 ปีอีกหรือ ข้าไม่ยอมหรอก ข้าขอมีอายุขัย แค่ 20 ปี ก็แล้วกัน" เมื่อพระเจ้าได้ฟังดังนั้น ก็ยอมตามที่เจ้าลิงขอ ดังนั้น ลิงในปัจจุบันจึงมีอายุขัย เพียง 20 ปี เช่นปัจจุบัน
4. มนุษย์
โดยระบุว่า เจ้ามนุษย์ ข้าจะให้เจ้ามีอายุขัย 20 ปีและเจ้าต้องมีหน้าที่คือเจ้าจะได้อยู่อย่างสบาย ไม่ต้องทำงานอะไรทั้งสิ้นเพราะจะมีคนคอยช่วยเหลือเจ้าอยู่ตลอดเวลาไม่ต้องมีเรื่องให้ต้องคิดมาก พอมนุษย์ ได้ฟังดังนั้น จึงกลับร้องอุทานด้วยความตกใจ แล้วกล่าวว่า "อะไรกันพระเจ้าข้าได้มีชีวิตที่สะดวกสบายขนาดนี้ทำไมให้ข้ามีอายุขัยแค่ 20 ปีเองหล่ะ ข้าไม่ยอมหรอก ข้าขอมีอายุขัย เป็น 70 ปี ก็แล้วกัน" เมื่อพระเจ้าได้ฟังดังนั้น ก็ยอมตามที่มนุษย์ขอโดยนำอายุขัยของกระบือที่เหลือ 30 ปี อายุขัยของสุนัขที่เหลือ 10 ปี อายุขัยของลิงที่เหลืออีก 10 ปีมาให้แก่มนุษย์ ดังนั้น มนุษย์ในปัจจุบันจึงมีอายุขัย ถึง 70 ปี เช่นปัจจุบัน เรื่องมันน่าจะจบลงด้วยความลงตัวของสัตว์ทั้ง 4 แต่เหตุการณ์กลับไม่ได้เป็นดังนั้น เพราะเวลาที่มนุษย์ต้องการกลับไม่ใช่สิ่งที่
มนุษย์คิดเพราะความสะดวกสบายที่มนุษย์ได้รับมันมีเพียงแค่ช่วงเวลาสั้น 20 ปีแรกของชีวิตเท่านั้น พวกเราคงมองภาพออกนะ ว่า 20 ปีแรกของพวกเราสุขสบายขนาดไหน ตั้งแต่เกิดมา พ่อ แม่ เราคอยดูแลช่วยเหลือเรามาตลอด แล้ว 50 ปีที่เหลือหล่ะ
เป็นยังไงบ้าง คำตอบก็คือ
ช่วงชีวิตปีที่ 21-50 ปี พวกเราต้องทำงานหนักอย่างเป็นบ้าเป็นหลังถึงแม้ว่าเราจะไม่ต้องทำนาเหมือนกระบือต้องทุ่มเทเวลาเกือบทั้งชีวิตให้กลับเจ้านายของเรา บางคนต้องทำงานหนักไปจนตาย แต่กลับได้ผลตอบแทนไม่ได้คุ้มค่าอะไรเลยไม่ผิดอะไรกลับชีวิตของกระบือ
ช่วงชีวิตปีที่ 51-60 ปี พวกเรากลับเริ่มมีพฤติกรรมแปลกๆ พอไม่ชอบพอใครก็พยายามกลั่นแกล้งให้ออกจากเส้นทางชีวิตของตน มีปากก็คอยแต่จะว่า จะกัดหรือพูดจาแดกดันชาวบ้านไปเรื่อยไม่ผิดอะไรกลับชีวิตของสุนัข
ช่วงชีวิตปีที่ 61-70 ปี พวกเรากลับมีพฤติกรรมที่ยิ่งแปลกประหลาดเข้าไปกันใหญ่ เพราะมันเป็นช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่เกษียณอายุ และอยู่บ้านคอยเลี้ยงหลานๆ
วันๆ ก็มักจะทำท่าทางและหน้าตาตลกๆ เพื่อเอาใจหลานๆ ความคิดความอ่านเริ่มแย่ลงและเริ่มทำตัวน่าสงสารและน่าเห็นใจอยู่บ่อยๆ ไม่ผิดอะไรกลับชีวิตของลิงเลย
สิ่งที่เราอยากจะสื่อให้เพื่อนๆ ทุกคน
ได้จากเรื่องเล่านี้ก็คือว่าพวกเราลองมานึกดูสิว่า ตอนนี้
พวกเราอยู่ในช่วงชีวิตไหนและอยากจะมีชีวิตเป็นไปตามที่พระเจ้าลิขิตไว้หรือเปล่า เรายังอยากมีชีวิตเหมือนกระบืออยู่หรือ หรือว่าบั้นปลายของชีวิตเราอยากจะจบลงเช่นเดียวกับสุนัข และลิงอย่างงั้น
หรือลองคิดดูเอานะว่า เรายังอยากจะ "ทำงานแบบเหนื่อยแทบตาย หรือจะทำงานแบบเหนื่อยไปจนตาย" สองประโยคนี้มันไม่เหมือนกันนะโปรดพิจารณาด้วยความมีสติของพวกเราทุกคนเอง




Create Date : 26 กรกฎาคม 2550
Last Update : 26 กรกฎาคม 2550 0:07:22 น.
Counter : 800 Pageviews.

0 comment
ความรัก กับ ความเป็นเพื่อน
ความรัก กับ ความเป็นเพื่อน
.... กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเกาะแห่งหนึ่งซึ่งรวบรวมความรู้สึก
ทั้งหมดอาศัยอยู่ด้วยกัน ความสุข ความเศร้า ความรู้ และอื่นๆอีกมาก
วันหนึ่ง มีประกาศไปยังความรู้สึกทั้งหมดว่าเกาะกำลังจะจมน้ำ
ดังนั้น ความรู้สึกฯ ทั้งหมดจึงได้เตรียมเรือเพื่อที่จะหนีออกจากเกาะ
ความรักเท่านั้นที่ตัดสินใจอยู่บนเกาะความรักต้องการที่จะอยู่จน
กระทั่งวินาทีสุดท้าย เมื่อเกาะเกือบจะจมแล้วความรักจึงตัดสินใจ
ขอความช่วยเหลือ ......

ความรวยแล่นเรือผ่านมา และตอบว่า " ไม่ได้หรอก ฉันรับเธอไม่ได้
เพราะเรือฉันน่ะเต็มไปด้วยทองและเงินแล้ว มันไม่มีที่ให้คุณ "

ความรักตัดสินใจจะถามความเห็นแก่ตัวซึ่งผ่านมาเหมือนกันด้วย
" เรือลำงาม ความเห็นแก่ตัว ช่วยฉันด้วย "
" ฉันช่วยคุณไม่ได้หรอก ความรัก คุณน่ะทั้งเปียกอาจจะทำให้
เรือฉันเปียกด้วย "

ความเศร้าได้พายเรือใกล้เข้ามา ความรักก็ได้เอ่ยขอความช่วยเหลืออีก
" ความเศร้าอนุญาตให้ฉันขึ้นเรือคุณนะ "
" โอ้ความรัก ฉันกำลังเศร้ามากเลยฉันต้องการอยู่คนเดียว ขอโทษนะ "

ความสุขได้ผ่านความรักไปแล้วเหมือนกัน แต่เขาไม่ได้ยินแม้
เสียงร้องเรียกขอความช่วยเหลือของความรักเพราะมัวแต่กำลังสุข

ทันใดนั้น มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา " มานี่ความรัก ฉันจะรับคุณไปเอง "
ความรักรู้สึกขอบคุณและดีใจเป็นอย่างมาก จนลืมถามชื่อว่า
ใครคือผู้ใจดีผู้นั้น เมื่อพวกเขามาถึงแผ่นดินที่แห้ง
ก็จากไปตามทางของแต่ละคน ความรักนึกขึ้นมาได้ว่า
ลืมถามชื่อผู้ที่ช่วยเหลือเขา ความรักจึงถามความรู้
" ใครเหรอที่เป็นคนช่วยฉัน " ความรู้ตอบอย่างภาคภูมิใจ
ในความรอบรู้ของตนเองว่า " เวลา " ความรักถามต่อว่า
" แต่ ทำไมเวลาถึงช่วยฉันละ " ความรู้ยิ้มในความรอบรู้ของตัวเอง
แล้วตอบความรักว่า " ก็เพราะว่า เพียงเวลาเท่านั้น ที่เข้าใจว่า..
...ความรักยิ่งใหญ่แค่ไหน...

แต่ว่า...มีสิ่งหนึ่งที่เราอาจลืมเลือนไป ถ้าหากจะไม่กล่าวถึงเสียเลย
ขณะที่ความรักกำลังมองหาคนช่วยออกจากเกาะ ความรักคงยุ่ง
อยู่กับการมองหาผู้อื่น..จนลืมมองมาที่ความเป็นเพื่อน...ซึ่งเลือก
ที่จะอยู่เคียงข้างความรักตั้งแต่แรกแล้ว เพราะความเคยชิน
จึงทำให้ความรักมองไม่เห็นความสำคัญของความเป็นเพื่อน....

ในขณะที่ความรักจากไปพร้อมกับเวลา ความเป็นเพื่อนรู้สึกดีใจมาก
ที่ความรักปลอดภัย และแม้จะต้องห่างกัน แต่ความเป็นเพื่อน
กลับรู้สึกเป็นสุข เพราะความเป็นเพื่อนรู้ดีว่า.....
ถึงแม้เกาะนี้จะจมลงไปชั่วนิรันดร์ ....แต่...ความเป็นเพื่อน
จะยังเป็นอมตะในใจของความรักตลอดไป แม้จะไม่ยิ่งใหญ่
แต่จะคงอยู่เคียงข้างความรักเสมอ

ความเป็นเพื่อนรู้ดีว่าตน... ไม่จากไปเหมือนกาลเวลา
ความเป็นเพื่อนรู้ดีว่าตน... ไม่รังเกียจกันเหมือนความเห็นแก่ตัว
ความเป็นเพื่อนรู้ดีว่าตน... ไม่แบ่งชั้นกันเหมือนความรวย
ความเป็นเพื่อนรู้ดีว่าตน... ไม่อ้างว้างเหมือนความเศร้า
และความเป็นเพื่อนรู้ดีว่าตน... ไม่เปลี่ยนแปลงเหมือนความสุข
ทั้งนี้ก็เพราะ... " ความเป็นเพื่อนจะอยู่ในใจตลอดไป "




Create Date : 26 กรกฎาคม 2550
Last Update : 26 กรกฎาคม 2550 0:06:47 น.
Counter : 691 Pageviews.

0 comment
กำลังใจแด่คนกำลังท้อแท้
กำลังใจแด่คนกำลังท้อแท้
ผมเคยได้ดู UBC ตอนนึงที่คุณสุเมธ ตันติเวชกุล
เล่าประสบการณ์ดีดี ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงรับสั่งให้กำลังใจ
ซึ่งเป็นประโยคที่ดีมาก...อยากเล่าต่อๆ ตั้งนานแล้ว จนเกือบลืมเลยครับ
...คงได้ประโยชน์ กับบางคนที่กำลังเจอมรสุมกับงาน จะได้รู้สึกดีผมจำมาถูกบ้างผิดบ้าง
เนื้อหาประมาณนี้ครับ...

องคมนตรีท่านบอกว่า... "ตอนนั้นผมกำลังทำงานอยู่ในสภาพจิตใจที่แย่มาก
มันไม่มีกำลังใจจะทำอะไร ท้อแท้กับงานมากไม่มีใครเข้าใจ เหมือนทำดีแตไม่ได้ดี
ในหลวงท่านทรงเสด็จมาพอดี และท่านได้เห็นสีหน้าผมไม่สู้จะดี
ท่านได้สอบถามจนได้ความว่าผมกำลังท้อแท้กับงาน ท่านจึงตั้งคำถาม+รับสั่งว่า...
ท่านสุเมธเคยขายเศษเหล็กไหม? เศษเหล็กเหล่านั้น
เวลาขาย คุณค่ามันต่ำมากใช่ไหม คงได้เงินมาไม่กี่บาทใช่ไหม?
แล้วถ้าเราเอาเศษเหล็กเหล่านั้นมาหลอมรวมกันเป็นแท่ง
เวลาหลอมนี่ เหล็กมันคงรู้สึกร้อนมากใช่ไหม? พอหลอมเสร็จเรา
นำมาทำเป็นดาบ คงต้องนำมาตีให้แบนอีกใช่ไหม? เวลาตีก็ต้องคอยเอาไปเผาไปด้วย
ต้องตีไป เผาไป อยู่หลายรอบกว่าเป็นรูปเป็นร่างดาบอย่างที่เราต้องการ
ต้องผ่านความเจ็บปวดร้อนอยู่นาน แถมเมื่อเสร็จแล้วถ้าจะให้สวยงามดังใจ
ก็ต้องนำไปแกะลวดลายอีกใช่ไหม? เวลาที่แกะลวดลายก็คงต้องใช้ของแข็งมีคมมาตี
ให้เป็นลวดลายอีก แต่เมื่อเสร็จเป็นดาบที่งดงามก็จะมีคุณค่าที่สูงมาก

เทียบกับเศษเหล็กคงจะต่างกันลิบลับ...จะเห็นว่ากว่าที่เศษเหล็กไม่มีคุณค่ามากนัก
จะกลายเป็นดาบอันงดงาม นั้นต้องผ่านอุปสรรคมามากมาย ทั้งความเจ็บปวดต่างๆ
กว่าจะประสบความสำเร็จ ดังนั้นขอให้จำไว้อย่างหนึ่งว่า ...
"ใครไม่เคยถูกตีถูกทุบ เจอเรื่องเลวร้ายในชีวิตมาเลยนั้น จงอย่าได้คิดทำการใหญ่"

ที่มา FW mail



Create Date : 26 กรกฎาคม 2550
Last Update : 26 กรกฎาคม 2550 0:06:12 น.
Counter : 659 Pageviews.

0 comment
คุณมีคนๆ นี้หรือยัง
คุณมีคนๆ นี้หรือยัง
รู้จักคน ๆ นี้มั้ย

เพื่อนคนที่เก็บ lecture ให้คุณยามคุณขาดเรียนโดยไม่ต้องบอกล่วงหน้า
เพื่อนคนที่เราไม่ต้องพูดอะไรเพื่อเอาใจเขา
เพื่อนคนที่เราเจอกันตอนเช้าแล้วคุณอยากเล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนคุณฝันถึงอะไร
เพื่อนคนที่เราเอ่ยชื่อทุกครั้ง เวลาพ่อแม่ถามว่าอยู่คุยกับใคร ไปกินข้าวกับใครมา
เพื่อนคนที่เราเคยยืมเงินมากเกินหลักพัน
เพื่อนคนที่คุณอยู่ด้วยกันท่ามกลางความเงียบแล้วไม่อึดอัด
เพื่อนคนที่รู้ว่าเดือน ๆ หนึ่งเราอ่านหนังสืออะไรบ้าง ซื้อเทปใครบ้าง
เพื่อนคนที่รู้ว่าร้านไหนเป็นร้านโปรดของเรา
เพื่อนคนที่คนที่เราคิดว่า ถ้างานนั้นไม่มีเขาเราคงกร่อย
เพื่อนคนที่เรารู้ว่าเขาชอบใคร แล้วตอนนี้สถานการณ์ถึงไหน
เพื่อนคนที่โทรหาเราเพราะต้องการคำปรึกษา ไม่ใช่แค่เล่าให้ฟัง
เพื่อนคนที่คนอื่นเขาเวลาเจอเรา ต้องถามหาเขา
เพื่อนคนที่เราไม่เจอกันไปสามเดือน แล้วไม่ต้องกังวลว่าอะไร ๆ จะไม่เป็นเหมือนเดิม
เพื่อนคนที่เรา.... (อื่น ๆ อีกมากมาย)

อ่านจบแล้วคุณคิดคิดถึงใคร ... คน ๆ นั้น คือ “เพื่อนสนิท” ของคุณ
เอาง่าย ๆ เวลาคุณเจอคนอื่น เขาถามถึงเพื่อนคนไหนของคุณมีมั้ย
ถ้ายัง หาซะนะ พยายามคิดถึงเรื่อง
“การคบเพื่อนเชิงคุณภาพ” ...ไม่ใช่ปริมาณ เคยมั้ย “เหงาท่ามกลางคนมากมาย” ...

อีกอย่างเพื่อนไม่ใช่แฟนนะ ..เพราะกับเพื่อนเราจะทะเลาะกันเรื่องใหญ่ ๆ
ไม่ใส่ใจเรื่องเล็ก ๆ แต่กะแฟนเรามักจะทะเลาะกันเรื่องเล็ก ๆ จริงมั้ย ??!?




Create Date : 26 กรกฎาคม 2550
Last Update : 26 กรกฎาคม 2550 0:05:33 น.
Counter : 852 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  

iamZEON
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 111 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านนะครับ ^^/

ข่าวสารการ์ตูนญี่ปุ่น
กับเกี่ยวข้องอย่างภาพยนตร์-เพลง
รายชื่อการ์ตูนออกใหม่-งานหนังสือ
เรื่องทั่วๆไปทั้งในและนอกประเทศก็มีบ้าง
New Comments
Group Blog
All Blog
MY VIP Friend